x close

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว สดใสหวานละมุนอร่อยไม่ต้องเบรก

     เจอสัญญาณไฟเขียวผ่านตลอด แต่ถ้าเจอขนมไทยสีเขียวต้องหยุดแวะชิม ทั้งสีสวยสดใสมาพร้อมความอร่อยหลากหลาย พลาดไปเสียดายแน่



     เอ่ยถึงขนมไทยที่มีสีสันสบายตา หลายคนต้องนึกถึงขนมไทยสีเขียวแน่นอน วันหยุดนี้ลองเลือกสักสูตรแล้วมาทำกินกับครอบครัวกัน กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำขนมไทยสีเขียว ยกตัวอย่างเช่น ขนมชั้นใบเตย มะพร้าวแก้วใบเตย ขนมครกใบเตย และสูตรขนมไทยสีเขียวอื่น ๆ อีกเพียบ รับรองทำไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

1. ขนมชั้นใบเตย

     ขนมไทยสีเขียวสุดคลาสสิกที่อยากให้ลองทำคือ ขนมชั้นใบเตย สูตรจาก คุณ RinS Cook Book (#Rinscookcook) เนื้อเหนียวนุ่ม ปรับลดความหวานได้ตามชอบ เวลากินจะดึงแต่ละชั้นออกมากินก็ได้นะคะ   

ส่วนผสม ขนมชั้น

     • น้ำตาลทราย 2+1/2 ถ้วย
     • น้ำกะทิ 4 ถ้วย
     • แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
     • แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
     • แป้งท้าวยายม่อม 1+1/2 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
     • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
     • น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
     • ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)

วิธีทำขนมชั้น

     1. ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
     2. นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้
     3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง
     4. แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
     5. ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง)
     6. นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นใบเตย ขนมไทยสีสันสดใส เนื้อเหนียวนุ่ม

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

2. ลอดช่องน้ำกะทิ


     ยามบ่ายมาเพิ่มความสดชื่นจากขนมไทยสีเขียวนามว่าลอดช่องน้ำกะทิ สูตรจาก คุณ RinS Cook Book (#Rinscookcook) มาพร้อมวิธีทำลอดช่องให้เหนียวนุ่มและน้ำกะทิหอมหวาน ใส่น้ำแข็งสักหน่อย เย็นชื่นใจจริง ๆ

ส่วนผสม ลอดช่อง

     • ใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ปอนด์ (ประมาณ 450 กรัม)
     • น้ำปูนใส 9+1/2 -10 ถ้วย
     • แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
     • แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
     • แป้งถั่วเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำเย็นจัด
     • น้ำแข็งทุบ

ส่วนผสม น้ำกะทิ

     • น้ำตาลปี๊บ 3+1/2 -4 ถ้วย
     • เกลือป่น 1 ช้อนชา
     • กะทิ 5 ถ้วย

วิธีทำลอดช่องน้ำกะทิ

     1. ทำน้ำกะทิ โดยใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และกะทิลงในอ่างผสม ใช้มือขยำส่วนผสมเข้าด้วยกันจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดี กรองด้วยตะแกรง
     2. นำส่วนผสมน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนน้ำกะทิใกล้เดือด (ให้ส่วนผสมเดือดเฉพาะตรงกลาง ไม่เดือดพล่าน เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน) ประมาณ 10-15 นาที ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้ (สามารถทำไว้ล่วงหน้าหรือทำทิ้งไว้ข้ามคืนได้)
     3. ใส่ใบเตยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำปูนใส 6-7 ถ้วย ปั่นจนละเอียด จากนั้นคั้นเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
     4. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งถั่วเขียวลงไปในน้ำใบเตย โดยปล่อยให้แป้งค่อย ๆ จมลงไปในน้ำจนหมด (เทคนิค : ปล่อยให้แป้งจมลงไปในน้ำเอง รอประมาณ 1 นาที โดยไม่ต้องคน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า แป้งจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน และละลายเข้ากับน้ำทั้งหมด) พอแป้งจมลงหมดแล้ว ค่อย ๆ คนผสมจนเข้ากันดี จากนั้นกรองด้วยตะแกรง เตรียมไว้
     5. ใส่ส่วนผสมลงในกระทะก้นลึกขนาดใหญ่ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง กวนผสมตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง พอแป้งเริ่มเหนียว ค่อย ๆ เทน้ำปูนใสที่เหลือลงไปจนหมด กวนจนส่วนผสมเหนียว และมีสีใส
     6. ตักส่วนผสมแป้งใส่เครื่องกดลอดช่อง กดแป้งเป็นเส้น ๆ ลงในน้ำเย็นจัด จากนั้นตักส่วนผสมขึ้น ใส่ลงในถ้วย ตามด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ และน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ

     หมายเหตุ : สูตรนี้ใส่แป้งถั่วเขียว เพื่อทำให้ลอดช่องมีเนื้อเหนียว นุ่ม และสีสวยมากขึ้น เก็บไว้กินนาน ๆ จะไม่คืนตัวและเป็นน้ำ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลอดช่องน้ำกะทิ สูตรขนมไทยดับร้อนสีสันสดใส

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

3. มะพร้าวแก้วใบเตย 

     มะพร้าวแก้วหวาน ๆ แห้ง ๆ กินแล้วไม่ค่อยลื่นคอเท่าไร ลองเปลี่ยนแนวมาทำมะพร้าวแก้วนิ่ม ๆ กันดีไหม ขอนำเสนอมะพร้าวแก้วใบเตย  สูตรจาก คุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรหวานน้อย เคี้ยวนุ่มทุกคำ ชวนเพื่อนพ้องมากินด้วยกันเร็ว

ส่วนผสม มะพร้าวแก้วใบเตย (ทำครั้งละน้อย ๆ)

     • มะพร้าวทึนทึก (ขูดเป็นเส้น) 200 กรัม
     • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
     • น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
     • เกลือ 1/4 ช้อนชา (หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)

วิธีทำมะพร้าวแก้วใบเตย 

     1. ขูดมะพร้าวทึนทึกเป็นเส้น ๆ (พยายามขูดไม่ต้องถึงกะลา เอาแต่เนื้อสีขาว ๆ)
     2. เตรียมน้ำใบเตยเข้มข้น (ได้มาจากใบเตยปั่นกับน้ำเปล่า)
     3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และเกลือลงในกระทะ เปิดไฟกลาง ๆ หมั่นคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำงวดแล้วปิดไฟ
     4. ใช้ช้อนกับส้อมตักมะพร้าวแก้วมาพอดีคำ วางลงในภาชนะแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง หรืออบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส หรือจนแห้ง ถ้าลดน้ำตาลลงจะได้แบบไม่หวานและนิ่ม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะพร้าวแก้วใบเตย ขนมไทยหวานละมุน เคี้ยวเพลิน ๆ

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

4. ขนมครกใบเตย 

     นึกอยากทำขนมครกใบเตย หรือขนมครกสิงคโปร์มอบให้คนพิเศษกันไหม บอกเลยว่าทำไม่ยาก สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน ขนมไทยสีเขียวพอดีคำ หน้าตาสวยงามตามพิมพ์ กินเป็นขนมล้างปากก็เหมาะ

ส่วนผสม ขนมครกใบเตย (สำหรับ 18-20 ชิ้น)

     • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
     • แป้งมัน 1/4 ถ้วย
     • ผงฟู 1ช้อนชา
     • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
     • เกลือ 1/4 ช้อนชา
     • ไข่ไก่ 1 ฟอง
     • กะทิ 1/4 ถ้วย
     • น้ำใบเตยคั้นแบบเข้มข้น 1/3 ถ้วย
     • น้ำมันพืชสำหรับทาพิมพ์

อุปกรณ์

     • เตาขนมครกสิงคโปร์ (หรือใช้พิมพ์รูปอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปดอกไม้)
     • ผ้าสำหรับชุบน้ำมันทาเตา

วิธีทำขนมครกใบเตย 

     1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน และผงฟูเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่ไข่ลงไปตีผสมให้เข้ากัน
     2. เทกะทิลงไปตีผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำใบเตยคนผสมให้เข้ากันอีกครั้งจนเนื้อเนียนละเอียด พักไว้ 10 นาที
     3. นำพิมพ์วางบนเตาแก๊ส (ใช้พิมพ์รูปอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปดอกไม้) เปิดไฟอ่อนสุด เอาผ้าชุบน้ำมันทาเบ้าบาง ๆ จากนั้นตักแป้งหยอดลงไปไม่ต้องเต็ม (เพราะเดี๋ยวขนมจะฟูขึ้นมาเอง) ปิดฝา (เพื่อให้ขนมสุกไวขึ้น) รอจนขนมสุก
     4. เมื่อขนมสุกแล้วใช้ไม้ปลายแหลมหรือไม้จิ้มฟันแซะขึ้นมา จัดใส่จาน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมครกใบเตย เหนียว ๆ นุ่ม ๆ สีสันสดใส ใคร ๆ ก็ชอบกิน

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

5. ขนมเปียกปูน


     ทำไมบนท้องตลาดมีแต่ขนมเปียกปูนสีดำ การตามหาขนมเปียกปูนสีเขียวยากยิ่งกว่างมเข็ม ลองหาเวลาว่าง ๆ มาทำเองก็ได้เนอะ ส่วนผสมไม่เยอะมีแค่แป้งกับใบเตย อาจต้องใช้แรงกวนเนื้อขนมจนแห้งเหนียว แต่เชื่อเถอะว่าถ้าทำเสร็จภูมิใจแน่นอน

ส่วนผสม ขนมเปียกปูน

     • แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
     • แป้งท้าวยายม่อม (หรือแป้งมัน) 150 กรัม
     • น้ำปูนใส
     • น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 กิโลกรัม (ปรับเพิ่ม-ลดความหวานได้ตามชอบ)
     • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น
     • มะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้น สำหรับโรยหน้า

วิธีทำขนมเปียกปูน

     1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม และน้ำปูนใสเล็กน้อยพอให้เหลว ๆ คนให้ละลายเข้าด้วยกัน
     2. ใส่น้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ คนให้ละลาย จากนั้นนำไปกรองผ่านกระชอน
     3. เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง หรือกระทะเทฟลอน นำขึ้นตั้งไฟแรงกวนจนส่วนผสมงวดและแห้งเหนียว
     4. ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ พักทิ้งไว้จนเซตตัว ตัดเป็นชิ้น ๆ โรยมะพร้าวขูด พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมเปียกปูน สูตรขนมไทยเหนียวนุ่ม เห็นชัด ๆ ทุกขั้นตอน

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

6. ขนมเปียกปูนกะทิสด

     แค่เห็นภาพขนมเปียกปูนกะทิสดบอกเลยว่าเกิดมายังไม่เคยลอง ใครสนใจอยากกินพร้อมกันจัดไป สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้เป็นขนมไทยโบราณ เนื้อนุ่มเหนียว ราดกะทิรสเค็ม โรยงาขาวคั่ว

ส่วนผสม ขนมเปียกปูนกะทิสด

     • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
     • แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
     • น้ำปูนใส 1 ถ้วยตวง
     • น้ำใบเตย 2 ถ้วยตวง
     • เกลือเล็กน้อย
     • น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
     • น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม

ส่วนผสม กะทิราดหน้าขนม

     • กะทิ 500 กรัม
     • เกลือแค่หยิบมือ
     • แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ำกะทิข้น)
     • งาขาวคั่ว

วิธีทำกะทิราดหน้าขนม

     • ใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ ใส่แป้งข้าวเจ้า คนผสมจนเดือด

วิธีทำขนมเปียกปูนกะทิสด

     1. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำปูนใส และน้ำใบเตยผสมกันและนวดจนเข้ากันดี
     2. ใส่เกลือ น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี กรองส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ
     3. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการเอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้ว
     4. ตักขนมเปียกปูนใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย ตักกะทิราดหน้าขนมเปียกปูน โรยงาขาวคั่ว

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมเปียกปูนกะทิสด ขนมไทยโบราณเนื้อหนึบหอมเข้มกลิ่นใบเตย

+++++++++++++++++++


15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

7. ตะโก้สาคู

     จากที่เคยกินตะโก้สาคูใส่กระทงใบเตย ลองเปลี่ยนมาใส่ถ้วยง่าย ๆ กันดีกว่า ไม่ต้องพับกระทงให้เสียเวลา สูตรจาก คุณ RinS Cook Book (#Rinscookcook) สูตรนี้ใส่ใบเตยเพิ่มความหอมและสีสัน พร้อมทั้งใส่เม็ดข้าวโพดลงไปด้วย ตบท้ายด้วยราดกะทิ

ส่วนผสม ตะโก้สาคู

     • น้ำ 3+3/4 ถ้วย
     • ใบเตยสด 3-4 ใบ (หรือน้ำหอมกลิ่นใบเตย 1 ช้อนชา)
     • สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
     • เม็ดข้าวโพดต้มสุก 1 ถ้วย

ส่วนผสม หน้ากะทิ

     • กะทิ 4 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
     • แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
     • เกลือป่น 1+1/2 ช้อนชา

วิธีทำตะโก้สาคู

     1. ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย นำขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด
     2. ระหว่างรอน้ำใบเตยเดือด ใส่กะทิ น้ำตาลทราย แป้งข้าวเจ้า และเกลือป่นลงในหม้ออีกใบ เตรียมไว้
     3. พอน้ำใบเตยเดือด ใส่เม็ดสาคูลงไปต้ม ใช้ไฟกลางอ่อน ต้มนานประมาณ 15 นาที จนเม็ดสาคูเริ่มพองออก จากนั้นนำใบเตยออก แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้เข้ากันจนเม็ดสาคูสุก
     4. สุดท้ายใส่เม็ดข้าวโพดต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ยกลงจากเตา วางพักทิ้งไว้จนเย็นลง
     5. นำส่วนผสมหน้ากะทิขึ้นตั้งไฟอ่อน หมั่นคนผสมตลอดเวลา (เพื่อป้องกันไม่ให้ไหม้) นานประมาณ 15 นาที จนส่วนผสมข้น ปิดไฟ ยกลงจากเตา เตรียมไว้สำหรับราดหน้า
     6. ตักสาคูใส่ถ้วย ราดด้วยหน้ากะทิ แต่งด้วยเม็ดข้าวโพด พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ตะโก้สาคู ขนมไทยหวานหอม ทำง่ายนิดเดียว

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

8. ขนมอินทนิล


     เอ่ยถึงขนมอินทนิล หลาย ๆ คนอาจไม่รู้จักเพราะเป็นขนมโบราณหากินยาก ถ้าอยากลองสักครั้งก็เข้าครัวกัน สูตรจาก คุณ lennon forever จับแป้งผสมน้ำใบเตย พอกวนจนเหนียวก็ปั้นเป็นก้อน ราดน้ำกะทิอบควันเทียน โปะน้ำแข็ง

ส่วนผสม น้ำกะทิ

     • น้ำกะทิ 4 ถ้วย (หัวกะทิ 1 ถ้วย+หางกะทิ 3 ถ้วย) ในสูตรใช้กะทิกระป๋อง 4 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วยตวง
     • เกลือป่น 1 ช้อนชา
     • เทียนอบขนม

ส่วนผสม ตัวขนม

     • แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
     • น้ำใบเตย 4 ถ้วย

วิธีทำขนมอินทนิล

     1. ทำน้ำกะทิอบควันเทียน โดยเทน้ำกะทิใส่ลงอ่าง จุดเทียนอบขนมให้ไฟลามถึงตรงขี้ผึ้งแล้วดับเทียน ใส่เทียนลงในถ้วยเล็ก ๆ แล้วเอาใส่อ่างน้ำกะทิ ปิดฝา อบน้ำกะทิไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจุดเทียนอบซ้ำอีก 1-2 ครั้ง ถ้ามีดอกกระดังงาก็เอาไปอบพร้อมเทียนเลย
     2. นำกะทิที่อบควันเทียนแล้วขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนผสมให้ละลาย รอจนเดือดแล้วยกลง
     3. ทำตัวขนม โดยผสมแป้งกับน้ำใบเตย คนให้แป้งละลายเข้ากับน้ำใบเตย นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใช้พายกวนตลอด ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ กวนจนขนมสุก ตัวแป้งจะเหนียวและใส พอแป้งสุกทั่วกัน เอาหม้อลงแช่ในอ่างน้ำแข็งเพื่อลดอุณหภูมิตัวขนมไม่ให้ร้อนเกินไป เดี๋ยวจะจับเป็นตัวไม่ได้
     4. เตรียมถ้วยใส่น้ำไว้คอยจุ่ม ป้องกันขนมติดมือ ใช้นิ้วเปียก ๆ หยิบขนมปั้น ให้กลมขนาดพอดีคำ แล้วหย่อนลงน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ทำจนแป้งหมด ตัวขนมอินทนิลที่ดี ต้องไม่แข็งเป็นไตตรงกลาง เอาขนมใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็งทุบ พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมอินทนิล ขนมไทยโบราณหากินยาก

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

9. ขนมหยกมณี


     ใครมีสาคูล้างน้ำรอเลยค่ะ วันนี้อยากให้ลองทำขนมหยกมณี สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) จับสาคูเม็ดเล็กกวนกับน้ำ น้ำตาลทราย และน้ำใบเตย กินกับมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย

ส่วนผสม ขนมหยกมณี

     • สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวง
     • ใบเตยหั่น 5-6 ใบ
     • น้ำเปล่า หรือน้ำลอยดอกมะลิ (สำหรับปั่นน้ำใบเตย) 2 ถ้วยตวง
     • น้ำเปล่า (สำหรับต้มสาคู) 1+1/2 ถ้วยตวง
     • น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
     • มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
     • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำขนมหยกมณี

     1. ล้างสาคู โดยเทสาคูลงไปบนตะแกรง ใส่น้ำเปล่าลงไป ใช้มือคนเล็กน้อย เทน้ำทิ้ง ทำซ้ำ 2 รอบ พักสาคูไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำประมาณ 15-20 นาที
     2. คั้นน้ำใบเตย โดยหั่นใบเตยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่โถปั่น ใส่น้ำเปล่า หรือน้ำลอยดอกมะลิลงไป ปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง หรือถุงกาแฟ เตรียมไว้
     3. พอพักสาคูไว้จนครบ 15 นาทีแล้ว เทน้ำเปล่าใส่กระทะ หรือหม้อ เปิดไฟแรง พอน้ำเดือดพล่านให้ปรับเป็นไฟกลาง จากนั้นใส่สาคูลงไปคนอย่างเร็ว (เพราะสาคูจะจับเป็นก้อน) คนจนสาคูเริ่มจับตัวเป็นก้อน มีลักษณะเป็นตากบคือ มีสีขุ่นตรงกลางและภายนอกสีใส
     4. ใส่น้ำใบเตยลงไปคนให้เข้ากัน กวนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ ถ้าชอบสาคูเป็นแบบตากบก็ใส่น้ำตาลทรายลงไปได้เลย หรือถ้าชอบสาคูสุกมากก็กวนจนน้ำแห้งแล้วค่อยใส่น้ำตาลทรายลงไป (ชอบแบบไหนก็ใส่น้ำตาลลงไปตอนนั้น)
     5. พอใส่น้ำตาลทรายเสร็จแล้วก็กวนส่วนผสมต่อไปอีกประมาณ 5 นาที หรือจนขนมค่อนข้างหนืดตัวและข้นแต่ไม่แห้ง
     6. เทขนมใส่ถาด เกลี่ยให้เท่า ๆ กัน (ห้ามจุ่มมือลงไปเพราะขนมร้อนมาก ๆ) ผึ่งขนมไว้จนเย็น
     7. ระหว่างรอขนมเย็นให้นึ่งมะพร้าวขูดในชุดนึ่งใช้ไฟแรงประมาณ 15 นาที จากนั้นนำมะพร้าวใส่จาน โรยเกลือป่น คลุกเคล้าให้ทั่ว
     8. นำช้อนกินข้าวไปจุ่มน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาตักขนมหยกมณีเป็นคำ ๆ
     9. วางขนมหยกมณีลงบนมะพร้าว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมหยกมณี ขนมไทยโบราณเนื้อนุ่มเหนียวหอมกลิ่นใบเตย

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

10. ข้าวเหนียวแก้ว

     ข้าวเหนียวดิบเก็บไว้นานมอดขึ้นแน่ ถ้าเบื่อเอาไปนึ่งกินกับเมนูปิ้งย่างก็จับมาทำขนมไทยสีเขียวกันเถอะ ขอแนะนำข้าวเหนียวแก้ว สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) จับข้าวเหนียวนึ่งใส่น้ำใบเตยกับกะทิ กวนจนขึ้นเงาสวย ปั้นเป็นก้อนพอดีคำ โรยงาคั่วหอม ๆ

ส่วนผสม ข้าวเหนียวแก้วใบเตย

     • ข้าวเหนียวนึ่งสุกและยังร้อนอยู่ [คลิกดู วิธีการนึ่งข้าวเหนียว]
     • กะทิ 3/4 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
     • เกลือป่น 1/4 ถ้วย
     • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
     • น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ [คลิกดู วิธีทำน้ำปูนใส]
     • งาดำคั่ว หรืองาขาวคั่ว (หรือทั้ง 2 ชนิด)

วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว

     1. ใส่ข้าวเหนียวร้อน ๆ กะทิ เกลือป่น น้ำปูนใส และน้ำใบเตยลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (หรือจาน) อย่าให้ลมเข้า พักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้ข้าวเหนียวดูดซึมส่วนผสมทุกอย่างเข้าไป
     2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้เข้ากัน เทส่วนผสมใส่กระทะใช้ไฟกลางอ่อน กวนข้าวเหนียวไปเรื่อย ๆ โดยค่อย ๆ กวนเพื่อให้ข้าวเหนียวเรียงสวยและไม่หักกลาง
     3. หลังจากกวนมาประมาณ 5 นาทีจนน้ำตาลทรายเริ่มละลาย ให้กวนต่ออีก 10-15 นาที จนข้าวเหนียวชักเงาและจับตัวเป็นก้อน
     4. พอข้าวเหนียวเริ่มเป็นเงาและจับตัวเป็นก้อนดีแล้ว ปิดไฟและพักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือรอจนเย็นตัว
     5. ตักข้าวเหนียวแก้วใส่พิมพ์ โรยงาดำ หรืองาขาว พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเหนียวแก้ว ขนมไทยสีสดใสหวานหอม ทำไม่ยาก

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

11. สังขยาใบเตย

     สังขยาใบเตยตามร้านรสชาติหวานแสบคอ ถ้าอยากทำเองไปซื้อใบเตยรอเลยค่ะ รสชาติหอมหวานเข้มข้น กินกับขนมปังนึ่งร้อน ๆ เข้ากันสุด ๆ

ส่วนผสม สังขยาใบเตย

     • ไข่ไก่ 2 ฟอง
     • นมสด 1 ถ้วย (หรือกะทิ)
     • น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
     • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนชา
     • น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
     • นมข้นจืด 1/4 ถ้วย (และเตรียมไว้สำหรับราดด้านบนก่อนเสิร์ฟด้วย)

วิธีทำสังขยาใบเตย

     1. ตีผสมไข่ไก่กับนมสด น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และน้ำหอมกลิ่นวานิลลาพอเข้ากันดี นำไปกรองผ่านตะแกรง
     2. ใส่ส่วนผสมไข่ลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อน ๆ กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและข้น ค่อย ๆ เทนมข้นจืดลงไป กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและข้นอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่ก่อนเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 วิธีทำสังขยา จิ้มขนมปังสูตรใช้นมสด หวานหอมอร่อย

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

12. วุ้นกะทิใบเตย

     วุ้นกะทิสีขาวดูเบสิก ลองเพิ่มใบเตยสีเขียวลงไปสลับชั้นหน่อยดีกว่า กลายเป็นวุ้นกะทิใบเตย อร่อยคูณสองได้กินทั้งวุ้นกะทิกับวุ้นใบเตย กินอร่อยได้ทั้งบ้านเลยล่ะ

ส่วนผสม วุ้นใบเตย

     • น้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้าต้องการความหอมให้ผสมกลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา)
     • ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
     • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย ถึง 1 ถ้วย

ส่วนผสม วุ้นกะทิ

     • กะทิ 2+1/2 ถ้วย
     • ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
     • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
     • เกลือป่น ปลายช้อนชา

วิธีทำวุ้นกะทิใบเตย

     1. ใส่น้ำและผงวุ้นลงในหม้อ คนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ และไม่เป็นก้อน พักทิ้งไว้สักครู่
     2. นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน คนผสมเรื่อย ๆ จนเริ่มเดือดและผงวุ้นละลายหมด จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลาย
     3. ใส่น้ำใบเตยคั้นลงไปคนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วนำส่วนผสมไปกรอง
     4. เทส่วนผสมวุ้นใบเตยใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณครึ่งพิมพ์ นำไปแช่เย็นจนเซตตัว เตรียมไว้
     5. ใส่กะทิลงในหม้อ ตามด้วยผงวุ้น จากนั้นคนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ นำขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน คนจนผงวุ้นละลาย และกะทิเริ่มเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลทรายละลาย ปิดไฟ ยกลงจากเตา
     6. ตักส่วนผสมวุ้นกะทิหยอดลงในพิมพ์ทับวุ้นใบเตยจนเต็มพิมพ์ (ต้องแน่ใจว่าวุ้นใบเตยด้านล่างเซตตัวดีแล้ว)
     7. นำวุ้นไปแช่เย็นจนเซตตัว นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 เมนูวุ้นกะทิ ขนมไทยหวานหอมกรุบกรอบรับร้อนสุดฟิน

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

13. ขนมฝักบัวใบเตย

     จำได้เมื่อตอนเด็กชอบกินขนมฝักบัวใบเตย แต่พอโตมาอยากจะกินก็หาซื้อไม่ได้เลย มาย้อนวันวานครั้งวัยเยาว์ด้วยการทำกินเองกันเถอะ นอกจากได้กินขนมไทยโบราณแล้วยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมอีกด้วย

ส่วนผสม ขนมฝักบัว

     • แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
     • แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
     • น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
     • กล้วยหอมสุก 1 ลูก (บดละเอียด)
     • ใบเตย 20 ใบ
     • สีผสมอาหารสีเขียว 1 ช้อนชา
     • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)

วิธีทำขนมฝักบัว

     1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วม ปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองและคั้นเอาแต่น้ำ เตรียมไว้
     2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และกล้วยหอม ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยลงไปนวดให้เข้ากัน ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไป
     3. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปนวดกับแป้งให้ละลายจนมีลักษณะข้นเหนียว (เหมือนนมข้นหวาน) พักแป้งทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
     4. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะขนาดเล็กสูงประมาณ 1/2 ของกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำมันร้อน กวนแป้งให้เข้ากันแล้วตักหยอดลงตรงกลางกระทะ (ระวังอย่าให้แป้งใต้กระบวยหยดลงในกระทะ) ขนมจะค่อย ๆ พองจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในจนปิดสนิท รอจนขนมเหลืองและลอยขึ้นจากน้ำมันแล้วพลิกกลับด้าน จากนั้นตักน้ำมันราดตรงกลางของขนมเพื่อให้ตรงกลางขนมปูดขึ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมฝักบัวใบเตย ขนมไทยโบราณเหนียวนุ่มหวานกรอบ

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

14. ขนมโคน้ำกะทิ

     ถ้าเบื่อขนมโคคลุกมะพร้าว ขนมไทยโบราณกันแล้วก็ลองเปลี่ยนมาทำขนมโคน้ำกะทิ สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน จับแป้งใส่สีตามชอบ ห่อไส้มะพร้าวเอาไปต้มจนสุก กินกับกะทิใส่งา

ส่วนผสม ไส้ขนม

     • น้ำตาลมะพร้าว
     • น้ำเปล่า
     • มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย

ส่วนผสม น้ำกะทิ

     • กะทิอบควันเทียนสำเร็จรูปแบบกล่อง
     • น้ำตาลทราย
     • แป้งข้าวเจ้า เล็กน้อย
     • เกลือป่น
     • งาขาวคั่ว (เพื่อเพิ่มความหอมด้วย)

ส่วนผสม แป้งขนม

     • แป้งข้าวเหนียว
     • น้ำเปล่า
     • น้ำใบเตยสีเขียว
     • น้ำอัญชันสีม่วง

วิธีทำขนมโคน้ำกะทิ

     1. ทำไส้ขนม โดยผสมน้ำตาลมะพร้าวกับน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลายแล้วใส่มะพร้าว กวนให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน กวนประมาณ 5 นาที รอจนกว่าไส้ขนมจะแห้ง ปิดไฟ พักไว้จนอุ่นแล้วปั้นเป็นกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร จะนำอบควันเทียน ก่อนก็ได้ค่ะ
     2. ทำน้ำกะทิ โดยผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และเกลือป่นในหม้อ คนผสมให้แป้งละลาย นำขึ้นตั้งไฟอ่อนสุด คนไปเรื่อย ๆ จนเดือดเล็กน้อย ยกลงจากเตา พักไว้
     3. ทำแป้งขนมโค โดยนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่า หรือน้ำใบเตยหรือน้ำดอกอัญชัน นวดให้นุ่มและสามารถปั้นได้ จากนั้นแผ่แป้งเป็นแผ่นบาง ๆ วางส่วนผสมไส้ลงไปตรงกลาง ห่อแป้งหุ้มไส้ให้มิด คลึงเป็นก้อนกลม ๆ เตรียมไว้
     4. ต้มน้ำให้เดือด นำขนมที่ใส่ไส้แล้วลงต้มให้สุกและลอยขึ้น จากนั้นตักขึ้นผ่านน้ำเย็น (เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งติดกัน)
     5. ตักแป้งขนมโคใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ และโรยหน้าด้วยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 20 สูตรอาหารง่าย ๆ ทั้งคาวหวาน ละลานตาน่ากินสุด ๆ

+++++++++++++++++++

15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว

15. มรกตกรอบ

     ถ้าเคยกินทับทิมกรอบสีแดงจนหน่ายแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นมรกตกรอบ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ขนมไทยสีเขียวเคี้ยวกรอบ ๆ ราดน้ำกะทิอบควันเทียนหอม ๆ ใส่น้ำแข็งบดสักหน่อยชื่นใจ

ส่วนผสม มรกตกรอบ

     • น้ำลอยดอกมะลิ
     • กะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง
     • เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
     • ใบเตยมัดเป็นปม
     • เทียนสำหรับอบขนม
     • แห้ว     
     • สีผสมอาหารสีเขียวผสมน้ำ
     • แป้งมัน
     • น้ำตาลทราย (ไม่ขัดสี)
     • น้ำแข็งบด

วิธีทำมรกตกรอบ

     1. ผสมน้ำกะทิกับเกลือ ใส่ใบเตยมัดเป็นปมลงไป นำขึ้นตั้งไฟ ต้มแค่พอร้อน
     2. จุดเทียนสำหรับอบขนมแล้วเป่าให้ดับ ใส่ลงในถ้วยเล็ก ๆ นำไปลอยในน้ำกะทิ ปิดฝาหม้อ อบทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำเทียนขึ้นมาจุดใหม่แล้วใส่ลงไปอบซ้ำหลาย ๆ ครั้ง (ยิ่งนานยิ่งดี) เตรียมไว้
     3. หั่นแห้วเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปคลุกในสีผสมอาหารสีเขียว เสร็จแล้วตักลงไปคลุกในแป้งมัน แล้วร่อนแป้งส่วนเกินออก นำไปลวกในน้ำเดือดจนลอยขึ้นมา ตักใส่ลงในน้ำเย็น พักไว้
     4. ทำน้ำเชื่อม โดยต้มน้ำลอยดอกมะลิกับน้ำตาลทรายไม่ขัดสี และใบเตย เคี่ยวให้เหนียวเล็กน้อย
     5. ตักมรกตกรอบใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำเชื่อม กะทิ และน้ำแข็งบด พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ทับทิมกรอบ มรกตกรอบ อัญมณีแห่งขนมไทย สีแสบเว่อร์

     ส่วนตัวชอบกินขนมไทยอยู่แล้ว ยิ่งถ้าหากเห็นขนมไทยสีเขียวก็รู้สึกเตะตาอยากกินกว่าสีอื่น ๆ ว่าแต่วันหยุดนี้จะทำเมนูไหนดี ขอลอกเพื่อน ๆ หน่อยได้ไหมคะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 สูตรทำขนมไทยสีเขียว สดใสหวานละมุนอร่อยไม่ต้องเบรก อัปเดตล่าสุด 22 ตุลาคม 2561 เวลา 14:25:41 101,689 อ่าน
TOP