x close

20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล เติมความมุ้งมิ้งแบบไทยเอาใจสายหวาน


     ความอยากบังเกิดพอเห็นหน้าตาขนมไทยสีพาสเทล สูตรขนมไทยสีหวานฟรุ้งฟริ้ง ทำกินเองก็เลิศ ทำแจกเพื่อนฝูงก็ดีงาม ลองทำดูสิกินเพลินจนลืมอ้วนไปเลย

20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ขนมสีพาสเทล สวย ๆ ใคร ๆ ก็ชอบ แต่ส่วนใหญ่จะเห็นแต่ขนมแนวฝรั่งสีหวานตามร้านดัง เช่น เค้กพาสเทล คุกกี้พาสเทล คงจะดีถ้ามีขนมไทยพาสเทลบ้างเนอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำขนมไทยสีพาสเทล เช่น ขนมเปี๊ยะสายรุ้ง ขนมชั้นดอกกุหลาบ ทับทิมกรอบพาสเทล ใครอยากกินมาเข้าครัวกันเลยจ้า

1. ทับทิมกรอบพาสเทล


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     แอบตื่นเต้นนิด ๆ ที่จะได้ทำขนมไทยสีพาสเทลแด่คนพิเศษนั่นคือ เมนูทับทิมกรอบพาสเทล สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือ จับแห้วผสมสีหวาน ๆ หน่อย จะทำสีเดียวหรือหลากสีก็ตามสะดวก สุดท้ายราดน้ำกะทิ

ส่วนผสม ทับทิมกรอบ

      • แห้ว 1 กระป๋อง (แห้วสดหรือต้มก็ได้)
      • สีผสมอาหาร 3 สี ได้แก่ สีม่วง สีเขียว และสีชมพู
      • แป้งมัน 200 กรัม
      • กะทิ 500 กรัม
      • น้ำตาลปี๊บ 350 กรัม
      • เกลือนิดหน่อย
      • ใบเตย 2 ใบ

วิธีทำทับทิมกรอบ

     1. หั่นแห้วให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และผสมสีที่ต้องการกับน้ำแล้วนำแห้วไปแช่ทิ้งไว้
     2. ทำน้ำกะทิ โดยใส่กะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ และใบเตยลงในหม้อ ต้มจนน้ำตาลละลาย เตรียมไว้
     3. ตักแห้วขึ้นให้สะเด็ดน้ำแล้วคลุกเคล้ากับแป้งมันให้ทั่ว เคาะเอาแป้งส่วนเกินออกก่อนแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุกลอยขึ้น ตักขึ้นไปผ่านน้ำเย็น
     4. ตักน้ำกะทิที่เตรียมไว้ใส่ถ้วย ใส่ทับทิมกรอบ จัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ทับทิมกรอบพาสเทล สูตรขนมหวานไทยสีหวานเว่อร์

+++++++++++++

2. ขนมชั้นอัญชัน


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ขนมชั้นอัญชันสีออกม่วง ๆ ก็ว่าสวยแล้ว ยิ่งถ้าม้วนเป็นรูปดอกกุหลาบยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก เอาล่ะ… ไปคั้นน้ำดอกอัญชันรอผสมกับแป้งขนมชั้นเลยค่ะ

ส่วนผสม ขนมชั้นอัญชัน

      • หัวกะทิ 2 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
      • แป้งเท้ายายม่อม 1/8 ถ้วย
      • แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
      • แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
      • น้ำดอกอัญชันคั้นเข้มข้น
      • กลิ่นมะลิ เล็กน้อย
      • น้ำมันพืช (สำหรับทาถาด)

วิธีทำขนมชั้น

     1. ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากันจนละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็น ตักเอาหัวกะทิที่อยู่ด้านบนใส่ภาชนะเก็บไว้
     2. ผสมแป้งเท้ายายม่อม แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้าในอ่างผสม ค่อย ๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปทีละน้อยสลับกับใช้มือนวดแป้ง พอนวดจนแป้งเป็นก้อนแล้วนวดต่ออีก ประมาณ 15 นาที เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไป ตามด้วยกลิ่นมะลิ คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำไปกรองด้วยกระชอน
     3. เติมน้ำดอกอัญชันคั้นเข้มข้นลงไป คนผสมสีให้เข้ากัน
     4. ทาน้ำมันพืชลงบนถาดสำหรับนึ่งขนมชั้นให้ทั่ว

     เคล็ดลับ : การทาน้ำมันพืชลงบนถาดจะช่วยทำให้แกะขนมชั้นออกจากพิมพ์ได้ง่ายขึ้น

     5. นำชุดนึ่งขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือดพล่าน จากนั้นวางถาดสำหรับนึ่งขนมลงไปแล้วตักส่วนผสมแป้งสีม่วงใส่ลงไปในพิมพ์ทำเป็นชั้นที่ 1 ปิดฝานึ่งประมาณ 5-7 นาที
     6. พอชั้นที่ 1 สุกแล้วให้เปิดฝาแล้วตักส่วนผสมสีม่วงใส่ลงไป ปิดฝานึ่งต่อ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งหมดและเต็มพิมพ์

     เคล็ดลับ : เวลานึ่งขนมชั้นต้องรอให้น้ำเดือด เพราะหน้าขนมชั้นจะได้ไม่เป็นคลื่น

     7. เมื่อนึ่งเสร็จแล้วนำขนมชั้นออกมาจากชุดนึ่ง พักไว้ให้เย็นลง นำออกจากพิมพ์ ผ่าแบ่งครึ่งขนมชั้นตามยาวแล้วลอกขนมแต่ละชั้นออกมาเป็นแผ่น ม้วนเป็นรูปดอกกุหลาบ โดยม้วนแผ่นขนมชั้นเข้ามา 1 ทบ พับกลีบแรกไปข้างหลัง 45 องศา แล้วจึงพับตลบขึ้นมา ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมด พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นอัญชัน เนรมิตขนมหวานไทยให้น่ากินยิ่งขึ้น

+++++++++++++

3. ขนมชั้นดอกกุหลาบ


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ใช่เลย ! ขนมชั้นดอกกุหลาบสูตรนี้เหมาะสำหรับวันแห่งความรักที่สุด ดอกกุหลาบสีชมพูหวานแหววพับจากแป้งขนมชั้น แป้งนุ่มรสหวานน้อย ใครจะทำให้คนพิเศษมาฝึกฝีมือกันเลยจ้า

ส่วนผสม ขนมชั้นดอกกุหลาบ

      • หัวกะทิ 2 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
      • แป้งเท้ายายม่อม 1/8 ถ้วย
      • แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
      • แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
      • สีผสมอาหารสีแดง
      • กลิ่นมะลิ เล็กน้อย
      • น้ำมันพืช (สำหรับทาถาด)

วิธีทำขนมชั้น

     1. ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้ม ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนละลาย ปิดไฟแล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น
     2. พอส่วนผสมกะทิเย็นแล้วให้ตักช้อนเอาหัวกะทิที่อยู่ด้านบนใส่ภาชนะเก็บไว้
     3. ผสมแป้งเท้ายายม่อม แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกันในอ่างผสม ค่อย ๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปทีละน้อยสลับกับใช้มือนวดแป้ง นวดจนแป้งรวมตัวกันเป็นก้อนแล้วนวดต่ออีก ประมาณ 15 นาที

     เคล็ดลับ : นวดแป้งไปทางเดียวกันจะช่วยให้แป้งเหนียวนุ่มขึ้น

     4. เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไป ตามด้วยกลิ่นมะลิ คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำส่วนผสมไปกรองด้วยกระชอน เตรียมไว้
     5. แบ่งส่วนผสมแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไป 1 ส่วน คนผสมสีให้เข้ากัน
     6. ทาน้ำมันพืชลงบนถาดสำหรับนึ่งขนมชั้นให้ทั่ว
เคล็ดลับ : การทาน้ำมันพืชลงบนถาดจะช่วยทำให้แกะขนมชั้นออกจากพิมพ์ได้ง่ายขึ้น
     7. นำชุดนึ่งขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือดพล่าน จากนั้นวางถาดสำหรับนึ่งขนมลงไปแล้วตักส่วนผสมแป้งสีชมพูใส่ลงไปในพิมพ์ทำเป็นชั้นที่ 1 ปิดฝานึ่งประมาณ 5-7 นาที
     8. พอชั้นที่ 1 สุกแล้วให้เปิดฝาแล้วตักส่วนผสมสีขาวใส่ลงไป ปิดฝานึ่งต่อ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งหมดและเต็มพิมพ์

     เคล็ดลับ : เวลานึ่งขนมชั้นต้องรอให้น้ำเดือด เพราะหน้าขนมชั้นจะได้ไม่เป็นคลื่น

     9. เมื่อนึ่งเสร็จแล้วนำขนมชั้นออกมาจากชุดนึ่ง พักไว้ให้เย็นลง นำขนมชั้นออกจากพิมพ์ ผ่าแบ่งครึ่งขนมชั้นตามยาวแล้วลอกขนมแต่ละชั้นออกมาเป็นแผ่น
     10. วิธีม้วนดอกกุหลาบ คือ ให้ม้วนแผ่นขนมชั้นเข้ามา 1 ทบ พับกลีบแรกไปข้างหลัง 45 องศา แล้วจึงพับตลบขึ้นมา ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมด พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นดอกกุหลาบ ขนมไทยใส่ไอเดีย เมนูล้ำค่าหนึ่งเดียวในปฐพี

+++++++++++++


4. ขนมน้ำดอกไม้


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     นานมาแล้วที่ไม่ได้กินขนมน้ำดอกไม้สีพาสเทล วันหยุดนี้มีเวลาว่างเลยขอจัดสักสิบชิ้น สูตรนี้ใส่น้ำลอยดอกมะลิกับสีผสมอาหาร หยอดแป้งใส่ถ้วยตะไลให้เรียบร้อย พอสุกก็แคะกินได้เลยจ้า

ส่วนผสม ขนมน้ำดอกไม้

      • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
      • แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำลอยดอกมะลิ 2+1/2 ถ้วยตวง (ถ้าไม่มีให้ใช้น้ำ 2+1/2 ถ้วยตวงผสมน้ำหอมกลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา)
      • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
      • สีผสมอาหารตามชอบ
      • ถ้วยตะไล

วิธีทำขนมน้ำดอกไม้

     1. ร่อนแป้งข้าวเจ้า และแป้งเท้ายายม่อม เข้าด้วยกัน เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำลอยดอกมะลิ และน้ำตาลทรายไปลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ คนจนเข้ากันดี และน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อม ยกลง พักทิ้งไว้จนเย็น
     3. ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำเชื่อมลงในส่วนผสมแป้งทีละน้อย คนจนข้ากันดี แบ่งส่วนผสมสำหรับผสมสีต่าง ๆ จากนั้นค่อย ๆ เติมสีผสมอาหารลงไปให้มีสีอ่อน เตรียมไว้
     4. ใส่ถ้วยตะไลลงนึ่งประมาณ 10 นาที จากนั้นหยอดส่วนผสมแป้งลงในพิมพ์ ประมาณ 1/2 ของพิมพ์ นำไปนึ่งประมาณ 15 นาทีจนแป้งสุก นำขึ้นจากชุดนึ่งใส่ลงในถาดที่ใส่น้ำเอาไว้ จากนั้นพักขนมทิ้งไว้ให้เย็น แกะออกจากพิมพ์ จัดใส่จานให้สวยงาม พร้อมรับประทาน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมน้ำดอกไม้ ขนมไทยถ้วยจิ๋วหลากสีกินเพลิน ๆ

+++++++++++++

5. บัวลอยกุหลาบ 5 สี


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ใครทำให้นะรักตายเลย พบกับเมนูบัวลอยกุหลาบ 5 สี สูตรจาก คุณ MedIEviL สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งบัวลอยทำเป็นรูปกุหลาบ ทำดอกเล็กหรือดอกใหญ่ได้หมด ใครจะใส่เครื่องต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด มะพร้าวอ่อน หรือเผือกเพิ่มก็ตามชอบเลยค่ะ

ส่วนผสม แป้งบัวลอย (สำหรับ 8-10 ที่)

      • แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
      • แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วยตวง
      • กะทิอุ่น ๆ 1 ถ้วยตวง (นำไปเข้าไมโครเวฟก็ได้)
      • สีผสมอาหารตามชอบ 5 สี เช่น สีชมพู สีฟ้า สีม่วง สีส้ม และสีเขียว
      • แป้งนวล (ใช้แป้งมันสำปะหลัง) โรยถาดเล็กน้อย

ส่วนผสม น้ำกะทิราดบัวลอย

      • กะทิ 3 ถ้วยตวง
      • น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลโตนด 2 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น 1-2 ช้อนชา
      • ใบเตยสด (มัดเป็นกำ) 5-6 ใบ

วิธีทำบัวลอยกุหลาบ

     1. ทำแป้งบัวลอย โดยใส่แป้งข้าวเหนียว และแป้งมันลงในอ่างผสม ค่อย ๆ ใส่น้ำกะทิอุ่นลงไปทีละน้อย ใช้มือนวดผสมแป้งและน้ำกะทิให้เข้ากัน นวดจนแป้งจับตัวเป็นก้อนและปั้นได้ แบ่งแป้งเป็น 5 ก้อนเท่า ๆ กันแล้วใส่สีผสมอาหารตามชอบ
     2. เริ่มทำกุหลาบ โดยปั้นแป้งเป็นลูกกลมขนาด 1.5-2 เซนติเมตร จากนั้นใช้แหนบ (สำหรับหนีบช่อม่วง) จุ่มปลายด้วยแป้งนวลเล็กน้อย แล้วนำมาหนีบทำกลีบกุหลาบ เริ่มจากกลีบล่าง 5 กลีบไล่ขึ้นไป ให้กลีบแต่ละชั้นสับหว่างกัน วางไว้บนถาดที่โรยแป้งนวลเพื่อไม่ให้แป้งติด ทำจนหมดครบทุกสี พักไว้
     3. ต้มบัวลอย โดยตั้งน้ำด้วยไฟกลางจนน้ำเดือด ใส่บัวลอยลงไปต้มจนสุก (สังเกตเมื่อบัวลอยสุกจะลอยขึ้นมา) รอให้บัวลอยลอยขึ้นมาสักพักเพื่อให้สุกถึงข้างในจึงตักขึ้น แล้วแช่ในอ่างน้ำเย็น จากนั้นพักไว้ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ
     4. ทำน้ำกะทิราดบัวลอย โดยใส่กะทิ น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือลงในหม้อต้ม ยกขึ้นตั้งไฟกลาง คนจนส่วนผสมละลายเข้ากัน ใส่ใบเตย จากนั้นหมั่นคนตลอดเวลาระหว่างต้ม เพื่อไม่ให้กะทิจับกันเป็นก้อนหรือแตกมัน เมื่อกะทิเริ่มเดือด (แค่พอเดือดปุด ๆ ไม่ต้องเดือดพล่าน) ยกลงได้เลย
     5. จัดบัวลอยลงในชาม ราดด้วยน้ำกะทิ แล้วจัดเสิร์ฟร้อน ๆ จ้า

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยกุหลาบ 5 สี ขนมไทยประยุกต์สุดน่ารัก เพิ่มมูลค่าน่ากินกว่าเดิม

+++++++++++++

6. สาคูเปียกอัญชัน


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     สาคูเปียกใบเตยก็ทำบ่อยแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนมาทำสาคูเปียกอัญชันสักหม้อ ขนมไทยสีพาสเทลด้วยนี้ใส่มะพร้าวอ่อนกับแปะก๊วยเพิ่มความฟิน
 
ส่วนผสม สาคูเปียกอัญชัน

      • สาคูเม็ดเล็ก 1/2 ถ้วย
      • น้ำอัญชัน 2 ถ้วย
      • มะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น ๆ
      • เม็ดแปะก๊วยต้มสุก
      • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
      • กะทิสำเร็จรูป 1/2 ถ้วย
      • เกลือป่น (เล็กน้อย)
      • แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ
 
วิธีทำสาคูเปียกอัญชัน

     1. ล้างสาคูผ่านน้ำให้สะอาด เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำอัญชันลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เม็ดสาคูลงต้มไป เติมน้ำตาลทราย จนเป็นตากบ ปิดไฟ เตรียมไว้
     3. ทำกะทิสำหรับราดหน้าขนม ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เติมเกลือป่นเล็กน้อยและแป้งข้าวเจ้า ต้มจนเดือดข้น
     4. ตักสาคูอัญชันใส่ในถ้วย จากนั้นตักกะทิหยอดหน้าสาคูเปียกที่เตรียมไว้ โรยมะพร้าวอ่อนขูดกับแปะก๊วยต้มสุก พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สาคูเปียกอัญชัน เติมสีสันขนมไทยให้ดูเก๋ไม่น่าเบื่อ

+++++++++++++

7. อาลัวกุหลาบ


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล
 
     อาลัวเป็นอีกหนึ่งขนมไทยสีพาสเทลที่หากินยาก แต่ถ้าใครจะทำกินเองอยากให้เพิ่มความเก๋หน่อย พบกับเมนูอาลัวกุหลาบ สูตรจาก นิตยสาร @Kitchen จุดเด่นคือ บีบแป้งเป็นรูปดอกกุหลาบ จะเอาไปตากแดดจนแห้งหรือเอาไปอบก็ตามสะดวกค่ะ ใครจะอบควันเทียนเพิ่มความหอมก็ดีงาม

ส่วนผสม อาลัว

      • แป้งเค้ก 150 กรัม
      • กะทิ 500 กรัม
      • น้ำตาลทราย 500 กรัม
      • กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา
      • สีผสมอาหารตามชอบ       

วิธีทำอาลัว

     1. ร่อนแป้งเค้กพักไว้ และละลายน้ำตาลทรายกับกะทิ คนให้เข้ากัน แล้วใส่แป้งเค้กลงไป คนให้เข้ากัน
     2. กรองส่วนผสมแป้งลงในกระทะทองเหลือง ใส่กลิ่นมะลิลงไป นำไปตั้งไฟอ่อน จากนั้นกวนจนส่วนผสมข้น
     3. นำส่วนผสมมาพักให้คลายร้อน ผสมสีตามชอบ บีบเป็นทรงดอกกุหลาบวางบนกระดาษไข
     4. นำไปตากแดด 2-3 แดดจนแห้ง หรือนำไปอบไฟอ่อนให้แห้ง

เคล็ดลับ

     1. เวลากวนส่วนผสมพยายามดูอย่าให้แป้งข้นจนเกินไป เพราะเวลาบีบด้วยหัวบีบเบอร์เล็ก ๆ จะยาก
     2. ถ้าใช้วิธีอบขนมในเตาอบให้ปรับอุณหภูมิไม่เกิน 70-80 องศาเซลเซียส หรือตามความเหมาะสม


     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อาลัวกุหลาบ สูตรขนมไทยโบราณสีหวานอร่อยกินเพลิน

+++++++++++++

8. ข้าวเหนียวแก้วนมสด


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ข้าวเหนียวซื้อตุนไว้เยอะแยะลองแบ่งออกมาทำเมนูข้าวเหนียวแก้วนมสด สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่นมสดเคี่ยวกับข้าวเหนียว เติมสีสันจากน้ำใบเตย โรยงาแต่งหน้าสวยงาม

ส่วนผสม ข้าวเหนียวแก้ว

      • ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง (แช่น้ำอย่างน้อย 4 ชั่วโมง)
      • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
      • วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
      • เกลือ 1/2 ช้อนชา
      • น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำใบเตย 1/4 ถ้วยตวง
      • งาขาวกับงาดำ

วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว

     1. เทน้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม เกลือ น้ำปูนใส และน้ำใบเตยลงในกระทะ คนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายหมดแล้วก็เคี่ยวต่ออีกสักครู่
     2. ใส่ข้าวเหนียวลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ตอนนี้ข้าวเหนียวเริ่มดูดซับน้ำ คนเรื่อย ๆ จนน้ำเริ่มแห้งและข้าวเหนียวเริ่มจับตัวกันเป็นก้อน ปิดไฟ โรยหน้าด้วยงาขาวกับงาดำคั่ว

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเหนียวแก้วนมสด ขนมไทยประยุกต์หวานนุ่มหอมอร่อย

+++++++++++++

9. ขนมเปี๊ยะสายรุ้ง


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ขอบายขนมเปี๊ยะสีจืดชืด เพราะตอนนี้อยากลองทำเมนูขนมเปี๊ยะสายรุ้ง สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรใส่น้ำมันทั้งแป้งนอกและแป้งในมาพร้อมวิธีทำไส้มันม่วงสีสวย

ส่วนผสม ไส้มันม่วง

      • มันม่วงสุก 150 กรัม
      • กะทิ 150 มิลลิลิตร
      • น้ำตาลทราย 100-150 กรัม

ส่วนผสม แป้งชั้นนอก

      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
      • น้ำมัน 4 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือ 1/8 ช้อนชา
      • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำ 5 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม แป้งชั้นใน

      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
      • น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ
      • สีผสมอาหาร ได้แก่ สีเขียวแอปเปิล สีชมพู และสีฟ้า

วิธีทำไส้มันม่วง

     1. นำมันม่วงมาบดให้ละเอียด
     2. ตั้งไฟอ่อนใส่มันม่วงลงไปกวนกับกะทิ กวนพองวดแล้วทยอยใส่น้ำตาลทราย ชิมรสหวานตามชอบ กวนต่อไปจนไส้แห้งไม่ติดพายและกระทะ

วิธีทำแป้งขนมเปี๊ยะ

     1. ทำแป้งชั้นนอก โดยผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำมัน นวดให้เข้ากัน
     2. ค่อย ๆ เติมน้ำแล้วนวดต่อ นวดจนแป้งไม่ติดมือถือว่าใช้ได้แล้ว แล้วพักแป้งไว้ 10-15 นาที ในอ่างแล้วคลุมผ้าไว้
     3. ทำแป้งชั้นใน โดยผสมแป้งกับน้ำมัน นวดให้เข้ากันดีจนแป้งไม่ติดมือ แบ่งแป้งชั้นในเป็นส่วนตามจำนวนสีที่ต้องทำ แล้วใส่สีผสมอาหาร แนะนำให้ใส่ทีละหยดแล้วค่อย ๆ นวด ถ้าสีไม่เข้มพอค่อยหยดเพิ่ม นวดแป้งกับสีจนเนื้อเนียน
     4. นำไส้มันม่วงที่เย็นแล้วมาแบ่งปั้นก้อนกลมเตรียมไว้

ประกอบแป้งชั้นในและแป้งชั้นนอก

     1. คลึงแป้งชั้นในแต่ละสีให้เป็นเส้นยาว
     2. คลึงแป้งชั้นนอกเป็นแผ่นแบนโดยให้ความกว้างของแป้งชั้นนอกยาวเท่ากับด้านยาวของแป้งชั้นใน
     3. นำแป้งชั้นในแต่ละสีเรียงใส่บนแผ่นแป้งชั้นนอก แล้วทำการห่อแป้งสีด้วยแป้งนอกให้เรียบร้อย คลึงแป้งที่ได้ตามแนวยาวของแป้งสี (แป้งชั้นใน) แล้วจึงเริ่มม้วนแป้งรอบที่ 1 ตามแนวยาวของแป้งสี
     4. ต่อมาสลับด้านโดยวางแป้งให้อยู่ตามขวางของแป้งสี แล้วนวดแป้งตามแนวขวางของแป้งสี (ยิ่งคลึงแป้งได้ยาวลายขนมจะยิ่งเยอะ)
     5. ม้วนรอบที่ 2 ตามแนวขวางของแป้งสี หั่นแป้งที่ได้ ตอนนี้จะเห็นลายแป้งของขนมเปี๊ยะแล้วนะ คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบาง โดยเฉพาะตรงขอบให้บางมากที่สุด
     6. ใส่ไส้มันม่วงลงไป ห่อแล้วม้วนเก็บด้านล่างให้เรียบร้อย จัดทรงขนมให้น่ากินค่ะ ตรงไหนแตกก็เอามือบีบเก็บ ไม่งั้นเวลาอบจะปลิ้นออกมา
     7. เอาไปอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที แล้วแต่ขนาดลูก ในสูตรลูกใหญ่หน่อยก็อบ 20 นาที

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมเปี๊ยะสายรุ้งไส้มันม่วง ของขวัญปีใหม่เติมความหวานฟรุ้งฟริ้ง

+++++++++++++

10. ขนมช่อผกากรองไส้มันหวาน


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ใครอยากทำขนมไทยสีพาสเทลสวย ๆ เป็นของขวัญของฝากญาติผู้ใหญ่ ขอนำเสนอขนมช่อผกากรอง หรือ ขนมช่อแก้ว สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ขนมแป้งนุ่มสีหวานพร้อมสอดไส้มันหวานเนื้อละเอียด เอาล่ะ... เตรียมกล่องสวย ๆ มาใส่ขนมลงไปเลยจ้า

ส่วนผสม แป้งขนมช่อผกากรอง

      • แป้งเค้ก 1+1/2 ถ้วย
      • กะทิ 250 มิลลิลิตร
      • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
      • สีผสมอาหารตามชอบ

ส่วนผสม ไส้มันหวาน

      • มันหวานญี่ปุ่น 180 กรัม
      • กะทิ 150 มิลลิลิตร
      • น้ำตาลทราย 40 กรัม

วิธีทำขนมช่อผกากรอง

     1. ทำแป้ง โดยผสมแป้งเค้ก กะทิ และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน เอาขึ้นตั้งไฟ กวนแป้งด้วยไฟอ่อนจนมีลักษณะเหนียวข้น ไม่ติดไม้พายและไม่ติดกระทะก็เป็นอันใช้ได้ พักไว้ให้แป้งเย็น
     2. ทำไส้มันหวาน โดยบดมันหวานให้ละเอียด นำไปกวนด้วยไฟอ่อนกับกะทิ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายแล้วกวนจนไส้ไม่ติดพายก็ใช้ได้ พักไว้ให้เย็น
     3. นำแป้งมานวดให้เนียนอีกครั้ง แล้วแบ่งส่วนตามจำนวนสีที่ต้องการทำ ใส่สีผสมอาหารแล้วนวดให้เนียน
     4. นำไส้มันหวานที่พักจนเย็นแล้ว มาปั้นเป็นทรงกลม
     5. นำแป้งมาคลึงและกดให้แบนเป็นแผ่น แล้วนำไส้มันหวานมาห่อให้เรียบร้อย แล้วคลึงจัดทรงของขนมให้สวยงาม
     6. ใช้แหนบช่อม่วง จะเป็นแบบปลายใบไม้ หรือเป็นแบบปลายพัดก็ได้ ค่อย ๆ จับจีบกลีบขนมเบา ๆ ระวังกลีบขาด ทำจนครบรอบ แล้วขึ้นแถวใหม่ โดยให้จีบกลีบสับระหว่างกลีบของแถวแรก จะได้สวยงาม ทำไปประมาณ 3-4 ชั้น ให้ครบทั้งดอก

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมช่อผกากรองไส้มันหวาน สูตรขนมหวานงามล้ำอย่างไทย

+++++++++++++


11. ครองแครงกะทิสดสีม่วง


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     เอาใจเด็กน้อยด้วยการทำขนมไทยสีพาสเทลดีไหม ขอนำเสนอเมนูครองแครงกะทิสดสีม่วง สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งครอบแครงใส่น้ำสีม่วงจากแครอทม่วง ปั้นเป็นตัวครองแครงแล้วเอาไปต้มจนสุก สุดท้ายราดกะทิใส่ใบเตย

ส่วนผสม ครองแครงกะทิสดสีม่วง

      • แครอทม่วง
      • แป้งมัน 100 กรัม
      • กะทิ 200 กรัม
      • ใบเตย
      • น้ำตาลทราย 50 กรัม
      • เกลือหยิบมือ
      • งาขาวคั่ว

วิธีทำครองแครงกะทิสดสีม่วง

     1. ปอกเปลือกแครอทม่วง หั่นเป็นชิ้น เตรียมไว้
     2. ต้มแครอทในน้ำเดือด จะได้น้ำสีม่วง ยิ่งต้มนานสียิ่งเข้มขึ้น
     3. ทำตัวครองแครง โดยร่อนแป้งมัน แบ่งส่วนหนึ่งใส่น้ำแครอทม่วงต้มเดือด (ต้องเป็นน้ำเดือด) ใช้ช้อนนวดแป้งกับน้ำให้จับตัวเป็นก้อน จากนั้นก็ใช้มือนวดต่อจนแป้งเนียนเข้ากันดี ส่วนตัวครองแครงสีขาวก็นวดแป้งมันส่วนที่เหลือกับน้ำต้มเดือด ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม ใช้แป้งนวลโรยบนพิมพ์ จากนั้นกดแป้งลงบนพิมพ์ ค่อย ๆ ม้วนแป้งก็จะได้ตัวครองแครง
     4. ต้มกะทิ ใส่ใบเตยเพิ่มกลิ่นหอม น้ำตาลทราย และเกลือ ต้มให้เดือด คนจนน้ำตาลละลายดี
     5. ต้มครองแครงในน้ำเดือด พอสุกตัวครองแครงจะลอยขึ้น ต้องเช็กดูด้วยว่าตัวครองแครงใสหรือยัง ตักขึ้นน็อกน้ำเย็นและตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วนำไปใส่กับกะทิที่เตรียมไว้ ก่อนเสิร์ฟโรยงาขาวคั่ว

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ครองแครงกะทิสดสีม่วง ขนมไทยเนื้อหนึบสีสันสดใสน่าอร่อย

+++++++++++++

12. สาคูบัวลอย


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     จากที่เคยทำบัวลอยนวดแป้งจนเมื่อยมือ ลองเปลี่ยนเอาสาคูทำเป็นบัวลอยดูสิ ขอนำเสนอเมนูสาคูบัวลอย สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือ สาคูบัวลอยใส่สีพาสเทลตามชอบ ปั้นเป็นก้อนกลม ใส่ลิ้นจี่กับมะพร้าวอ่อน สุดท้ายราดกะทิ

ส่วนผสม สาคูบัวลอย

      • สาคูเม็ดเล็ก 200 กรัม
      • สีผสมอาหารตามชอบ
      • มะพร้าวอ่อน
      • ลิ้นจี่แกะเม็ด

ส่วนผสม น้ำกะทิ

      • กะทิ 500 กรัม
      • น้ำตาลโตนด 300 กรัม
      • น้ำตาลทราย 80 กรัม
      • เกลือนิดหน่อย
      • ใบเตย

วิธีทำสาคูบัวลอย

     1. นำเม็ดสาคูแช่สีผสมอาหารที่ต้องการ ประมาณ 20 นาที พอครบเวลาเทใส่กระชอนกรองเอาแต่สาคู ปั้นเป็นก้อนกลมจนหมด
     2. ต้มบัวลอยสาคูในน้ำเดือด เมื่อสุกบัวลอยสาคูจะลอยขึ้นมา ก็ตักขึ้นมาผ่านน้ำเย็น
     3. ขูดมะพร้าวอ่อน และเตรียมลิ้นจี่ไว้
     4. ต้มน้ำกะทิใส่ลิ้นจี่ มะพร้าวอ่อน และสาคูบัวลอยพอเดือด ตักใส่ถ้วย

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สาคูบัวลอย ใส่ลิ้นจี่กับมะพร้าวอ่อน ขนมไทยหวานหอมเพิ่มพลังหลังเที่ยง

+++++++++++++

13. ขนมฟักทอง สูตรเฮลธ์ตี้


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     เอาใจคนอยากกินขนมไทยแบบคลีน ๆ พบกับเมนูขนมฟักทอง สูตรจาก คุณ @sseeri_sirirattana สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่นมสดแทนกะทิผสมกับฟักทองบดและแป้งเล็กน้อย เติมน้ำตาลทรายนิดหน่อย เทใส่พิมพ์ตามชอบ

ส่วนผสม ขนมฟักทอง

      • ฟักทองนึ่งสุก (ไม่ต้องเละมาก) 2 ถ้วยตวง
      • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
      • แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วยตวง
      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
      • นมสดแบบพาสเจอร์ไรส์ 3/4 ถ้วยตวง
      • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมฟักทอง

     1. ตวงส่วนผสมทุกอย่างตามสูตร
     2. บดฟักทองให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่ไม่ต้องละเอียดมาก ในสูตรใช้ส้อมกด ๆ ให้แหลก
     3. เทแป้งทั้ง 2 ชนิด และเกลือใส่ในชามผสม ตามด้วยนมสดประมาณครึ่งหนึ่งก่อน นวดเป็นเนื้อเดียวกัน ประมาณ 2 นาที (นวดเพื่อให้แป้งเหนียวนุ่มขึ้น ไม่นวดก็ได้)
     4.  ละลายแป้งโดยการเติมนมส่วนที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้ำตาลทราย ใส่ฟักทองที่บดแล้ว คนให้เข้ากับแป้ง
     5. ตักใส่พิมพ์ เอาไปนึ่งไฟแรงจนสุก ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที แล้วแต่ว่าใครใช้พิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่ โรยมะพร้าวอ่อนก่อนนึ่งได้

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมฟักทอง สูตรเฮลธ์ตี้หวานน้อยแคลอรีต่ำทำไม่ยาก

+++++++++++++

14. ครองแครงอัญชันกะทิสด


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล
 
     ใครปลูกดอกอัญชันลองเด็ดมาทำเมนูครองแครงอัญชันกะทิสด สูตรจาก คุณ Fifa-girl สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งผสมกับน้ำดอกอัญชัน เสร็จแล้วเอาไปต้มกับน้ำเปล่าจนสุก สุดท้ายราดกะทิและโรยงาคั่ว

ส่วนผสม ขนมครองแครง

      • แป้งมัน 4 ถ้วย
      • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
      • ดอกอัญชัน 20 ดอก
      • กะทิ 2 กล่อง
      • เกลือ 1 ช้อนชา
      • น้ำตาลทรายขาว
      • ใบเตย
      • งาขาวคั่ว

วิธีทำขนมครองแครง

     1. ในสูตรทำ 2 สี คือสีน้ำเงินและสีฟ้า แบ่งครึ่งแป้งทั้ง 2 ชนิด นำแป้งมันผสมกับแป้งข้าวเจ้าแบ่งใส่กะละมังไว้ 2 ใบ ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ดอกอัญชันลงไป รอจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้วจึงตักดอกอัญชันออก
     2. แบ่งน้ำดอกอัญชันที่ต้มเดือดแล้วค่อย ๆ เทลงไปในกะละมังแป้งใบแรก รีบคนจนเข้ากัน เพราะถ้าคนช้าแป้งจะสุกเกินไป คนเสร็จก็ใช้มือนวดต่อ แบ่งเป็นก้อนเล็ก ๆ และนำน้ำดอกอัญชันที่เหลือมาเติมน้ำเปล่าแล้วตั้งไฟให้เดือดอีกรอบ เทใส่แป้งที่แบ่งไว้อีกครึ่งหนึ่ง นวดจนเข้ากันและแบ่งเป็นก้อนเล็ก ๆ
     3. นำก้อนแป้งที่เตรียมไว้มาคลึงให้เป็นเส้นยาว ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางไม่ควรเกิน 1 เซนติเมตร เพราะครองแครงจะตัวใหญ่เกินไป พอคลึงแล้วก็ตัด เสร็จแล้วก็เอามากดลงบนพิมพ์กดทำครองแครง เอานิ้วมือถูแป้งไปด้านหน้า แป้งก็จะม้วนตามนิ้ว ทำจนแป้งหมด
     4. นำหม้อมาใส่น้ำแล้วตั้งไฟกลางไปทางแรง อาจจะใส่ใบเตยไปด้วย พอเดือดใส่ตัวครองแครงลงไปต้ม ประมาณ 30 วินาทีหรือจนสุก พอตักขึ้นมาแล้วก็ไปล้างน้ำ พักไว้
     5. ตั้งหม้อใช้ไฟอ่อน เติมกะทิ เกลือ น้ำตาลทราย และใบเตย พอกะทิเดือดใส่ครองแครงลงไป รอเดือดอีกรอบปิดไฟ โรยงาคั่ว ตักใส่ถ้วย

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมครองแครงน้ำกะทิ ขนมไทยสีสวยนุ่มหนึบหวานละมุน

+++++++++++++


15. วุ้นแมงลัก


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     วุ้นแมงลักกะทิกินบ่อยก็เบื่อ ลองเติมสีพาสเทลเป็นเมนูวุ้นแมงลัก สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่วุ้นผสมแมงลักหลากสีสันสลับชั้นแบบเก๋ ๆ พอเซตตัวก็ตักกินให้ตัวแตกกันเลยจ้า

ส่วนผสม วุ้นแมงลักสายรุ้ง

      • เม็ดแมงลัก 1 ช้อนชา (ต่อน้ำ 1 แก้ว)
      • น้ำ 500 กรัม
      • ผงวุ้น 1 ช้อนชา
      • น้ำตาลทราย 50 กรัม
      • สีผสมอาหารตามชอบ จำนวน 4 สี

วิธีทำวุ้นแมงลักสายรุ้ง

     1. แช่เม็ดแมงลักในน้ำ เม็ดแมงลัก 1 ช้อนชา ต่อ น้ำ 1 แก้ว เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำลงในหม้อ เทผงวุ้นลงไป ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลละลาย และน้ำวุ้นเดือด เทวุ้นใส่ในแก้ว 4 ใบ แล้วใส่สีผสมอาหารตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน
     3. ใส่เม็ดแมงลักลงในวุ้นแต่ละสี คนผสมจนเข้ากัน
     4. เทวุ้นสีม่วงลงไปในแก้ว พักไว้ประมาณ 10-15 นาที หรือนำแช่เย็นจนวุ้นเซตตัวก่อน จึงเทวุ้นสีเขียวลงไป รอให้เซตตัวแล้วก็ค่อย ๆ เทวุ้นสีเหลือง และสีชมพูตามลงไป

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นแมงลัก วิธีการทำวุ้นสีใส่แมงลักหวานน้อยอร่อยใส่ใจสุขภาพ

+++++++++++++

16. สังขยาใบเตย 


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     มาต่อกันที่สูตรสังขยาใบเตยสำหรับจิ้มขนมปังหรือเอาไปทำไส้ขนมปังก็ยังได้ สูตรนี้ใส่น้ำใบเตยกับกะทิ เติมไข่ไก่กับน้ำตาลทราย สุดท้ายใส่นมข้นจืดเพิ่มความหอมมัน

ส่วนผสม สังขยาใบเตย

      • ไข่ไก่ 2 ฟอง
      • กะทิ 1 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
      • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนชา
      • น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • นมข้นจืด 1/4 ถ้วย

วิธีทำสังขยาใบเตย

     1. ตีผสมไข่ไก่กับกะทิ น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และน้ำหอมกลิ่นวานิลลาพอเข้ากันดี กรองส่วนผสมผ่านตะแกรง
     2. ใส่ส่วนผสมลงในหม้อสำหรับตุ๋น กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและข้น ค่อย ๆ เทนมข้นจืด กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียว และข้นอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่ ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทานคู่กับขนมปังตามชอบ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาใบเตย จิ้มขนมปังร้อน ๆ อิ่มอร่อยยามท้องหิว

+++++++++++++

17. ขนมบัวลอยรูปแตงโม


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ใครอยากทำขนมไทยพาสเทลสุดแนว ขอนำเสนอเมนูขนมบัวลอยรูปแตงโม สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งปั้นเป็นรูปแตงโมแล้วแปะงาลงไปให้ดูคล้ายเม็ดแตงโม เสิร์ฟในชามแคนตาลูปน่ารัก

ส่วนผสม ขนมบัวลอย

      • แป้งข้าวเหนียว
      • สีเขียว (น้ำใบเตย)
      • สีเหลือง (เนื้อฟักทอง)
      • สีม่วง (น้ำอัญชัน)
      • สีชมพู (กลิ่นกุหลาบ)
      • งาขาว
      • งาดำ
      • กะทิสด
      • ใบเตย
      • เกลือ
      • น้ำตาลทราย

วิธีทำขนมบัวลอยรูปแตงโม

     1. ผสมแป้งข้าวเหนียวกับสีที่ต้องการ วันนี้ใช้สีจากธรรมชาติ ได้แก่ สีเขียวจากน้ำใบเตย สีเหลืองจากเนื้อฟักทอง สีม่วงจากน้ำอัญชัน และสีชมพูจากกลิ่นกุหลาบ (สีชมพูจะเข้มขึ้น เพราะว่าใส่น้ำหวานกลิ่นสละเฮลซ์บลูบอยเพิ่มให้สีสวยขึ้น) นวดแป้งให้เข้ากัน จะได้ 4 สี
     2. ปั้นให้เป็นรูปแตงโม โดยปั้นแป้งสีเหลือง แป้งสีชมพู และแป้งสีม่วงให้กลม พักไว้ จากนั้นปั้นแป้งสีเขียวให้กลมแล้วรีดให้เป็นแผ่นแบน นำไปห่อแป้งสีเหลือง แป้งสีชมพู และแป้งสีม่วงจนหมด ปั้นเป็นก้อนกลม
     3. ผ่าครึ่งแป้งแตงโมแต่ละก้อนแล้วแบ่งเป็นเสี้ยวตามต้องการ แปะงาขาวหรืองาดำที่เนื้อแตงโมให้สวยงาม
     4. ต้มน้ำให้เดือด ใส่แป้งบัวลอยรูปแตงโมลงไปต้มจนสุก (หากสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้น) ตักใส่น้ำเย็นพักไว้
     5. ต้มกะทิใส่ใบเตย เกลือเล็กน้อย และน้ำตาลทราย พอน้ำตาลละลายใส่แป้งบัวลอยรูปแตงโมลงไป ปิดไฟ จะกินแบบเย็นหรือร้อนก็ได้ รอให้เย็น ตักใส่ในลูกแคนตาลูปจัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยแตงโม ฉีกกรอบขนมไทยเติมความน่ารัก

+++++++++++++

18. สังขยาฟักทอง


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ขอไปซื้อฟักทองขนาดย่อมเพื่อมาทำเมนูสังขยาฟักทอง สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับหัวกะทิผสมกับน้ำตาลปี๊บและไข่ เติมความหอมจากใบเตย เสร็จแล้วเทใส่ฟักทองแล้วเอาไปนึ่งจนสุก

ส่วนผสม สังขยาฟักทอง

      • ฟักทอง (พันธุ์ศรีเมือง) ลูกเล็กไม่เกิน 1 กิโลกรัม จำนวน 2 ลูก
      • หัวกะทิ 250 กรัม
      • น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลโตนด) 500 กรัม
      • ไข่ไก่ 3 ฟอง
      • ไข่เป็ด 3 ฟอง
      • ใบเตย 5 ใบ
      • เกลือ (เล็กน้อย)

วิธีทำสังขยาฟักทอง

     1. ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ ใช้ช้อนขูดเอาเมล็ดและไส้ฟักทองออก แล้วนำไปล้างให้สะอาดผึ่งให้แห้ง เตรียมไว้
     2. เทหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ ตอกไข่ และใส่เกลือลงในอ่างผสม ใช้ใบเตยขยำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน กรองด้วยกระชอนแล้วเทใส่ในลูกฟักทอง (ส่วนผสมสังขยาสูตรนี้จะทำได้กับฟักทอง 2 ลูก)
     3. นำไปนึ่งในน้ำเดือด จากนั้นก็ลดเป็นไฟอ่อน ใช้เวลานึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง (หมั่นเปิดฝาดูทุก ๆ 20 นาที) พักสังขยาฟักทองให้เย็น แล้วจึงนำมาผ่าครึ่ง แบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาฟักทอง ขนมไทยหวานหอมทำง่ายไส้เนียนนุ่ม

+++++++++++++

19. วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     แค่ชิ้นเดียวก็ฟินแล้ว พบกับเมนูวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน สูตรจาก คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ ความพิเศษคือ วุ้นรูปดอกกุหลาบสีหวานแหวว เคี้ยวไปเจอเนื้อมะพร้าวอ่อนนุ่มลิ้น ยิ่งกินตอนเย็น ๆ สุดฟิน

ส่วนผสม วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

      • ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมะพร้าว 400 มิลลิลิตร
      • กะทิ 400 มิลลิลิตร
      • น้ำตาลทราย 240 กรัม
      • เกลือป่น 1 มิลลิลิตร
      • เนื้อมะพร้าวอ่อน 2 ลูก
      • สีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

     1. ใส่ผงวุ้นลงในน้ำมะพร้าว คนผสมให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 10-15 นาที
     2. ใส่น้ำวุ้นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนให้ผงวุ้นละลายแล้วจึงใส่กะทิคนผสมให้เข้ากัน
     3. ใส่น้ำตาลทรายกับเกลือป่นลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที
     4. ตักแบ่งน้ำวุ้นผสมสีตามชอบ และหยอดลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ พักไว้จนวุ้นเซตตัว นำออกจากพิมพ์ไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อนดอกกุหลาบ ขนมไทยกรุบกรอบทำง่าย ๆ

+++++++++++++

20. บัวลอยสาคูอัญชันแปะก๊วย


20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล

     ขอเอาใจคุณพ่อคุณแม่ด้วยเมนูบัวลอยสาคูแปะก๊วย สูตรจาก คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ ใส่น้ำดอกอัญชันลงในสาคูแล้วปั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เติมความหวานมันจากกะทิ หรือใครจะใช้นมสดแทนก็ได้ สุดท้ายใส่แปะก๊วยเพิ่มคุณค่า

ส่วนผสม บัวลอยสาคู (ทำได้ประมาณ 20 ถ้วย)

      • สาคูเม็ดเล็ก 500 กรัม
      • น้ำร้อนจัด 1+1/4 ถ้วย
      • แป้งมัน 1/2 ถ้วย
      • น้ำดอกอัญชัน (หรือสีผสมอาหารสีม่วงเล็กน้อย)
      • หัวกะทิ 7 ถ้วย
      • หางกะทิ 3 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
      • เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
      • แปะก๊วยต้มสุก

วิธีทำบัวลอยสาคู

     1. ใส่สาคูลงในอ่างผสม ค่อย ๆ ใส่น้ำร้อน แล้วนวดให้เข้ากันและน้ำหมด ใส่สีผสมอาหารสีม่วงเล็กน้อย ใส่แป้งมัน นวดให้เข้ากันดี
     2. นำแป้งมาคลึงเป็นแผ่น แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร เคล้าแป้งมันให้ทั่วเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน
     3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่สาคูลงต้มจนสุกลอย ตักขึ้นล้างน้ำเย็น
     4. ใส่หัวกะทิและหางกะทิในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง หมั่นคนจนเดือด จากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือสมุทร หมั่นคนอยู่เสมอ พอเดือดอีกครั้งชิมรสให้หวานนำและเค็มปะแล่ม แล้วปิดไฟ ใส่สาคูต้มและแปะก๊วยต้มสุกใส่ลงไป ตักใส่ถ้วย

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยสาคูแปะก๊วย ขนมไทยร้อน ๆ ไอเดียใหม่

     ใครจะไปเชื่อว่าเมนูขนมไทยสีพาสเทลจะมีเป็นยี่สิบอย่าง ขอนั่งลิสต์เมนูที่อยากทำก่อน-หลังสักครู่นะคะ นั่นแน่… ใครท้องร้องสารภาพมาซะดีดี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
20 สูตรขนมไทยสีพาสเทล เติมความมุ้งมิ้งแบบไทยเอาใจสายหวาน อัปเดตล่าสุด 11 พฤษภาคม 2564 เวลา 13:47:00 49,282 อ่าน
TOP