10 เมนูหมูต้ม เมนูกับข้าวหลากสไตล์อร่อยนุ่มจนคำสุดท้าย

     กินหมูทอดหรือหมูผัดก็กลัวอ้วน ลองมาทำเมนูหมูต้มกันบ้างดีไหม สูตรอาหารไทยเนื้อเปื่อยนุ่มอิ่มท้อง จะกินกับข้าวสวยหรือข้าวต้มก็อร่อยเลิศ


1. หมูต้มเค็ม

     ใครไม่มีผงพะโล้เห็นทีต้องทำเมนูหมูต้มเค็ม เอาเนื้อหมูหมักกับเครื่องโขลกและปรุงรสให้ออกเค็มหวาน จากนั้นเอาไปต้มจนสุกกับไข่ต้ม ใครจะใส่เต้าหู้พวงหรือเต้าหู้แข็งก็ตามชอบนะคะ

ส่วนผสม หมูต้มเค็ม

      • รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
      • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
      • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
      • ไข่เป็ดต้มปอกเปลือก 5 ฟอง
      • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
      • เกลือป่น 1 ช้อนชา
      • น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วดำ 1/4 ถ้วย
      • บรั่นดี 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำสต๊อกไก่ 2 ถ้วย
      • เนื้อหมูสันนอก (หั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยม) 1 กิโลกรัม
      • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
      • ผักชี (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำหมูต้มเค็ม

     1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เตรียมไว้ก่อน แล้วก็ต้มไข่จนสุก ปอกเปลือก เตรียมไว้
     2. ผสมน้ำ 1 ถ้วยกับส่วนผสมเครื่องที่โขลกไว้ เติมเกลือ น้ำตาล น้ำปลา ซีอิ๊วดำ บรั่นดี และน้ำสต๊อกไก่ คนพอเข้ากัน ใส่เนื้อหมูลงเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
     3. ตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟแรง เทเนื้อหมูพร้อมน้ำที่หมักไว้ผัดให้เข้ากัน เปลี่ยนเป็นไฟกลาง
     4. เติมน้ำที่เหลือ พอเดือด ใส่ไข่ต้ม เคี่ยวนานประมาณ 30 นาที จนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม ตักใส่ถ้วย โรยผักชี พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำหมูต้มเค็ม เพิ่มเติมคลิก



2. หมูต้มจืด

     หลังจากกินหมูต้มเค็มไปแล้วลองมาตัดรสด้วยเมนูหมูต้มจืด จุดเด่นคือเต้าหู้ยัดไส้หมูสับลงไป พอต้มจนน้ำซุปเดือดก็โรยด้วยต้นหอม

ส่วนผสม หมูต้มจืด

      • เต้าหู้ขาวแบบนิ่ม 1 ก้อน
      • หมูสับ 1 ขีด
      • น้ำอุ่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับหมัก)
      • น้ำมันหอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
      • พริกไทย 1/2 ช้อนชา (สำหรับหมัก)
      • น้ำซุป
      • เกลือสมุทร
      • ซีอิ๊วขาว
      • น้ำตาลกรวด
      • พริกไทยป่น
      • ตั้งฉ่าย
      • ก้านขึ้นฉ่าย
      • ต้นหอม
      • ใบขึ้นฉ่าย
      • ผักชี (ไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำแกงจืดเต้าหู้ยัดไส้

     1. เอาเต้าหู้มาหั่นทแยง จะได้เป็นชิ้นสามเหลี่ยม ก้อนละ 4 ชิ้น แล้วใช้มีดปาดเอาไส้ (เนื้อเต้าหู้) ออกบางส่วน
     2. เตรียมหมูสับสำหรับยัดเป็นไส้ โดยใส่หมูสับลงในชาม เติมน้ำอุ่น ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทย ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ (ในสูตรใช้ 3 ขีด ที่เหลือจะไปทำอย่างอื่นต่อ)
     3. ค่อย ๆ เอาหมูสับมายัดเป็นไส้ในเต้าหู้ทีละชิ้นอย่างเบามือ อย่าให้เต้าหู้แตก ถ้ายัดไส้หมูที่ปรุงรสไว้ไม่หมดก็เอาไว้ปั้นเป็นลูก ๆ ใส่ลงไปในน้ำแกงได้
     4. ตั้งหม้อ ต้มน้ำซุป ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร ซีอิ๊วขาว น้ำตาลกรวด และพริกไทยป่น ใส่ตั้งฉ่าย และก้านขึ้นฉ่าย แล้วต้มให้เดือด
     5. เมื่อเดือดได้สักครู่ให้หรี่เตาไฟลงเหลือไฟอ่อน ๆ แล้วใส่เต้าหู้ยัดไส้ที่เตรียมไว้ลงไป ถ้าหมูสับใช้ไม่หมดก็ปั้นใส่ลงไปในน้ำซุปตอนนี้ได้ พอใส่เต้าหู้ลงไปแล้วก็ไม่ต้องเร่งไฟ ปล่อยไฟอ่อน ๆ ไปแบบนั้น ไม่ต้องเดือด นานสักประมาณ 10 นาที หมูที่ยัดไส้ไว้ก็สุกทั่วถึงดี จากนั้นค่อยใส่ต้นหอมกับใบขึ้นฉ่าย (หรือผักชีด้วยก็ได้) ลงไป แล้วเร่งไฟสัก 30 วินาที ก่อนปิดเตาไฟ ตักใส่ถ้วย เหยาะพริกไทยโรยหน้า

     + ดูวิธีทำแกงจืดเต้าหู้ยัดไส้หมูสับ เพิ่มเติมคลิก



3. หมูต้มหวาน

     หมูหวานทั่วไปใคร ๆ ก็ทำกัน ลองใส่กลิ่นวานิลลาเพิ่มความหอมกันดีไหม พบกับหมูต้มหวาน ทีเด็ดคือใส่หมูต้มกับคาราเมลและเติมกลิ่นวานิลลา อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนมาชิมกันเถอะ

ส่วนผสม หมูต้มหวาน

      • หมูสามชั้น (ทั้งก้อน)
      • น้ำตาลปี๊บ
      • คาราเมล
      • กลิ่นวานิลลา
      • ซีอิ๊วหวาน
      • น้ำปลา

วิธีทำหมูต้มหวาน

     1. ต้มน้ำด้วยไฟแรงจนเดือด จากนั้นใส่หมูสามชั้นทั้งก้อนลงไปต้ม โดยใช้ไฟแรงสักครู่แล้วค่อยลดไฟให้อ่อนลง ต้มจนหมูสามชั้นสุกและหนังนิ่ม ตักขึ้นมาพักไว้

     2. จากนั้นนำหมูสามชั้นต้มสุกมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ (หั่นชิ้นไม่ต้องเล็กมากเกินไป เพราะว่าเดี๋ยวพอเอาไปเคี่ยวกับน้ำตาลแล้วหมูสามชั้นจะมีการหดตัวลงไปอีก)
     3. เคี่ยวหมูกับน้ำตาลโดยนำน้ำที่ต้มหมูสามชั้นเมื่อครู่บางส่วนไปต้มด้วยไฟกลางจนเดือด จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงไปลดเป็นไฟอ่อนแล้วเคี่ยวจนน้ำตาลละลาย เติมคาราเมล กลิ่นวานิลลา และซีอิ๊วหวานลงไป ใส่น้ำปลาลงไป เมื่อชิมได้รสที่ชื่นชอบแล้วใส่เนื้อหมูสามชั้นหั่นลงไปเคี่ยวต่ออย่างน้อย 30-40 นาที ตักใส่จาน แต่งด้วยใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำหมูหวานวานิลลา เพิ่มเติมคลิก



4. กระดูกหมูต้มจืด

     เอาใจขาแทะทั้งหลายด้วยเมนูกระดูกหมูต้มจืด ใส่หน่อไม้หวานต้มกับกระดูกหมู และใส่เครื่องโขลกผัดเพิ่มความหอม แต่งด้วยผักชี

ส่วนผสม กระดูกหมูต้มจืด

      • หน่อไม้หวาน 1/2 กิโลกรัม
      • รากผักชี 2 ราก
      • กระเทียม 8-10 กลีบ
      • พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
      • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเปล่า 3 ลิตร
      • กระดูกหมู 1/2 กิโลกรัม
      • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
      • ผักชี สำหรับโรยหน้า

วิธีทำกระดูกหมูต้มจืด

     1. ปอกเปลือกหน่อไม้ออกให้หมด หั่นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด ประมาณ 3-5 นาที จากนั้นตักขึ้นล้างน้ำเย็น สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
     2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด นำไปผัดกับน้ำมันให้หอม ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
     3. ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟปานกลาง ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวประมาณ 15 นาที พอเดือดใส่รากผักชีที่ผัดไว้ หน่อไม้หวาน ปรุงรสด้วยน้ำปลากับเกลือ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนหมูสุกตามชอบ ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย โรยใบผักชี

     + ดูวิธีทำแกงจืดหน่อไม้กระดูกหมู เพิ่มเติมคลิก



5. หมูต้มพะโล้

     หมูต้มเค็มแม้จะอร่อยแต่ไม่ค่อยหอมเท่าไร ลองมาทำเมนูหมูต้มพะโล้ดูสิมีกลิ่นหอมจากเครื่องสมุนไพรจีน และเครื่องเทศต่าง ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือหมูสามชั้นกับไข่ต้ม

ส่วนผสม หมูต้มพะโล้

      • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
      • พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
      • รากผักชี 1 ชิ้น
      • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
      • อบเชย ยาวประมาณ 2 นิ้ว จำนวน 1 ชิ้น
      • ดอกโป๊ยกั๊ก 1 ดอก
      • น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
      • น้ำตาลทรายแดง 3/4 ถ้วย
      • ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย    
      • น้ำปลา 1/2 ถ้วย
      • ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
      • ไข่เป็ดต้ม ปอกเปลือก 10 ฟอง
      • หมูสามชั้น หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 500 กรัม
      • น้ำ 1 ลิตร

วิธีทำหมูต้มพะโล้

     1. โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด และรากผักชี เข้าด้วยกัน เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่เครื่องที่โขลกเตรียมไว้ลงผัดจนหอม ตามด้วยอบเชย และดอกโป๊ยกั๊กผัดจนร้อน ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายแดงลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยนํ้าปลา และซีอิ๊วขาว ผัดจนส่วนผสมเริ่มเหนียว จากนั้นใส่ซีอิ๊วดำหวาน และเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน
     3. ใส่เนื้อหมูกับไข่ลงผัดจนหมูสุก และไข่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลจนทั่ว
     4. ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟจนเดือด ลดไฟลง เทส่วนผสมไข่พะโล้ใส่หม้อน้ำร้อน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนหมูสามชั้นเปื่อยตามชอบ ชิมรส ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทาน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไข่พะโล้ เมนูไข่คุ้นลิ้นรสหวานกลมกล่อม



6. ขาหมูต้มพะโล้

     ใครไม่กลัวอ้วนขอนำเสนอเมนูขาหมูต้มพะโล้ สูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ขาหมู ไส้ใหญ่ เต้าหู้ ผักกาดดอง และไข่ต้ม ทีเด็ดคือใส่เครื่องพะโล้กลิ่นหอมไปสามบ้านแปดบ้าน ตัดเลี่ยนด้วยพริกดองน้ำส้ม

ส่วนผสม ขาหมูต้มพะโล้

      • ขาหมู (ส่วนขาหลัง)
      • ไส้ใหญ่หมู
      • น้ำเกลือ (สำหรับล้างไส้ใหญ่หมู)
      • น้ำส้มสายชู (สำหรับล้างไส้ใหญ่หมู)
      • เต้าหู้ขาวแบบแข็ง
      • ไข่ไก่ต้มสุก (ปอกเปลือก)
      • เครื่องพะโล้
      • น้ำตาลปี๊บ
      • รากผักชีทุบ
      • กระเทียม
      • ซีอิ๊วขาว
      • ซีอิ๊วดำ
      • ผักกาดดอง
      • ผักชี
      • พริกดองน้ำส้ม

อุปกรณ์

      • หม้ออบลมร้อน
      • หม้อตุ๋นแรงดัน (ถ้าไม่มีก็ใช้หม้อธรรมดาได้)

วิธีทำขาหมูต้มพะโล้

     1. ล้างขาหมูให้สะอาด นำไปอบด้วยเตาอบลมร้อนประมาณ 300 องศาเซลเซียส ใช้เวลานานมากกว่า 40 นาที น้ำมันจะหยดติ๋ง ๆ หรือจนให้ได้สีออกเหลือง ๆ
     2. ล้างไส้ใหญ่หมู โดยล้างด้วยน้ำเกลือและน้ำส้มสายชูให้สะอาด นำไส้หมูไปคลุกกับซีอิ๊วดำนิดหน่อย จากนั้นเอาเข้าเตาอบลมร้อน หรือจะอบพร้อมขาหมูก็ได้
     3. หั่นเต้าหู้เป็นก้อน ๆ ตามใจชอบ นำเต้าหู้ไปทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
     4. ต้มไข่ไก่ให้สุกปอกเปลือกแล้วนำลงไปแช่ในน้ำซีอิ๊วดำ
     5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอร้อนแล้วเบาไฟลง ใส่เครื่องพะโล้ลงไปผัดให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปผัดจนละลายให้ได้กลิ่นไหม้เหมือนคาราเมล
     6. ตั้งหม้อแล้วเติมน้ำลงไป (ในสูตรใช้หม้อตุ๋นแรงดัน ถ้าไม่มีก็ใช้หม้อธรรมดา หรือตั้งเตาถ่านเลยยิ่งดี) ใส่ทุกอย่างลงไป รากผักชีทุบ กระเทียม ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำอย่างละนิด ผักกาดดอง และเติมเครื่องพะโล้ที่ผัดไว้ลงไป
     7. ตุ๋นให้สุก หม้อแรงดันผมตั้งไว้ประมาณ 40 นาที ถ้าเป็นหม้อธรรมดาใช้เวลานานหน่อย ลองใช้ส้อมจิ้มดูว่า หมูเปื่อยหรือเปล่า เมื่อสุกแล้วก็ตักขึ้นมา สับทุกอย่างจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟกับพริกดองน้ำส้ม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรขาหมูน้ำแดง วิธีทำแบบชัด ๆ เนื้อนุ่มล่อนหอมฉุย



7. หมูต้มซีอิ๊ว

     หมูต้มน้ำปลากลิ่นคาวเกินไป ลองเปลี่ยนมาทำหมูต้มซีอิ๊ว สูตรจาก คุณ swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่หมูสามชั้น ซี่โครงหมู และกุ้งลงไปต้มกับซีอิ๊วหวานและซีอิ๊วขาว เกิดมาต้องลองสักครั้งเนอะ

ส่วนผสม หมูต้มซีอิ๊ว

      • ซี่โครงหมูอ่อน 1 กิโลกรัม
      • หมูสามชั้น 1/2 กิโลกรัม
      • กุ้งสด 1/2 กิโลกรัม
      • หอมใหญ่ซอย 3/4-1 ถ้วย
      • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วหวาน (ตราจี้แซ จากนครสวรรค์)
      • ซีอิ๊วขาว
      • เหล้าจีน 1/2 ถ้วย
      • น้ำร้อน

วิธีทำหมูต้มซีอิ๊ว

     1. นำซี่โครงหมูอ่อนมาสับเป็นชิ้นเล็กและหั่นหมูสามชั้นขนาด 3 x 3 เซนติเมตร ใช้กรรไกรมาปอกเปลือกด้านบนของตัวกุ้งเพื่อให้แกะกุ้งได้ง่ายขึ้น (ไม่ต้องปอกเปลือกกุ้ง)
     2. นำหอมใหญ่ไปผัดกับน้ำมันพืชด้วยไฟอ่อนประมาณ 5 นาทีจนเนื้อหอมใหญ่สุกใส จากนั้นใส่หมูสามชั้นลงไปผัดจนสุก เสร็จแล้วตักหมูสามชั้นขึ้น พักไว้
     3. ใส่ซี่โครงหมูอ่อนลงไปผัดประมาณ 5 นาที ใส่หมูสามชั้นลงไป ตามด้วยซีอิ๊วหวานและซีอิ๊วขาวลงไปให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่เหล้าจีนลงไป ตามด้วยเติมน้ำร้อนให้เกือบท่วมส่วนผสมเนื้อหมู
     4. ต้มจนเดือด ปิดฝา แล้วหรี่เป็นไฟอ่อน ตุ๋นไปอีกประมาณ 1.15 ชั่วโมง (75 นาที) หรือจนเนื้อหมูเริ่มเปื่อย
     5. ใส่กุ้งสดลงไป เคี่ยวต่ออีกประมาณ 30 นาที ตักเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือบะหมี่ก็รสเลิศ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูต้มซีอิ๊วใส่กุ้ง อาหารเวียดนามอร่อยขั้นเทพ เมนูอร่อยเพิ่มพลัง



8. กระดูกหมูต้มแซ่บ

     แซ่บถึงทรวงเลยจริง ๆ กับเมนูเล้งแซ่บ สูตรจาก คุณบักอ้าย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับกระดูกเล้งต้มกับน้ำซุปใส่พริกยกสวน แต่งหน้าด้วยพริกแห้งทอด พริกขี้หนูตำ และผักชี

ส่วนผสม เล้งแซ่บ

      • กระดูกเอียวเล้ง 1 กิโลกรัม (เลือกเอากระดูกชิ้นที่มีเนื้อติดให้มาก จะอร่อยที่สุด)
      • ข่า 1 หัว
      • ตะไคร้ 1 ต้น
      • ใบมะกรูด 3 ใบ
      • รากผักชี 6 ราก
      • พริกขี้หนูสวน ตามชอบ
      • พริกแห้งทอด
      • ผักชี

ส่วนผสม เครื่องปรุง

      • เกลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมันหอย 1 ทัพพี
      • น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา
      • น้ำมะนาว ตามชอบ

วิธีทำกระดูกหมูต้มแซ่บ

     1. ล้างกระดูกเอียวเล้งให้สะอาด
     2. เอาน้ำเปล่าใส่ให้เต็มหม้อ ตามด้วย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และเกลือ เอากระดูกเอียวเล้งใส่ลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ ประมาณ 20 นาทีแล้วยกลง ตักกระดูกมาล้างให้สะอาด ขั้นตอนนี้จะช่วยต้มเอาคราบฟองสีดำของกระดูกเอียวเล้งออกได้เป็นอย่างดี
     3. เปลี่ยนน้ำใหม่ให้เต็มหม้อ หรือจนท่วมกระดูกเอียวเล้งทั้งหมด ใส่รากผักชี และเกลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อน้ำเดือดเติมซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลมะพร้าว ต้มต่ออีก 2 ชั่วโมง จนกระดูกเอียวเล้งได้ที่
     4. โขลกพริกขี้หนูสวนรอ ตักพริกขี้หนูตำแล้วลงไปในถ้วย ตามด้วยน้ำมะนาวแล้วจึงตักต้มกระดูกเอียวเล้งลงไปแต่งหน้าด้วยผักชี พริกขี้หนูตำ และพริกแห้งทอดให้สวยงาม

     + ดูวิธีทำเล้งแซ่บ ต้มเล้ง เพิ่มเติมคลิก



9. กระดูกหมูต้มรากบัว

     น้ำรากบัวก็ดื่มบ่อยแล้ว ลองจับมาทำอาหารคาวเมนูต้มหมูบ้างดีไหม กระดูกหมูต้มรากบัว ใส่กระดูกหมูกับถั่วลิสงต้มกับรากบัว เพิ่มความหอมจากพริกไทยเม็ดและปรุงรสให้เค็มหวาน

ส่วนผสม กระดูกหมูต้มรากบัว (สำหรับ 2 ที่)

      • กระดูกหมูอ่อน 300 กรัม
      • รากบัวจีน 350 กรัม
      • ถั่วลิสงดิบ 100 กรัม
      • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
      • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
      • ซีอิ๊วขาว 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเปล่า 1 ลิตร

วิธีทำกระดูกหมูต้มรากบัว

     1. เตรียมรากบัวจีน โดยนำรากบัวจีนมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกหั่นเป็นแว่น ล้างน้ำอีกครั้งพักไว้
     2. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่กระดูกหมูอ่อน และถั่วลิสงลงไป ลดไฟลง ต้มจนเปื่อยนานประมาณ 1 ชั่วโมง โดยระหว่างต้มให้หมั่นช้อนฟองให้น้ำซุปใส
     3. บุบพริกไทยเม็ดใส่ลงไป ตามด้วยรากบัวที่เตรียมไว้ ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ปิดฝาตุ๋นด้วยไฟอ่อน ๆ อีกประมาณ 30 นาที ตักใส่ชาม จัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำต้มรากบัวกระดูกหมูอ่อนใส่ถั่วลิสง เพิ่มเติมคลิก



10. หมูต้มจืดมะระ

     ใครเป็นสาวกมะระตัวจริงต้องลองทำเมนูหมูต้มจืดมะระ จับหมูผสมกับวุ้นเส้นแล้วเคล้ากับเครื่องปรุง เสร็จแล้วเอามายัดไส้มะระ ใส่ลงไปต้มกับกระดูกหมูเพื่อให้มีรสหวานธรรมชาติ

ส่วนผสม หมักหมูสำหรับยัดไส้

      • หมูสับ
      • กระเทียม 5 กลีบ
      • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • รากผักชี 1 ราก
      • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • วุ้นเส้น (แช่น้ำให้นิ่ม) 1 ห่อเล็ก

ส่วนผสม แกงจืดมะระยัดไส้

      • มะระ 2 ลูก
      • น้ำซุปกระดูกหมู 1 หม้อ (หรือน้ำซุปหมู, น้ำซุปไก่ 3 ลิตร)
      • น่องไก่ 2 น่อง (หรือกระดูกหมู)
      • เห็ดหอมแช่น้ำ 3 ดอก
      • รากผักชี 1 ต้น
      • กระเทียม
      • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำซุปกระดูกหมู

     นำกระดูกหมูไปล้างแล้วต้มน้ำทิ้ง 1 ครั้งก่อน แล้วนำกระดูกหมูที่ต้มครั้งแรกมาใส่หม้อ เติมน้ำ ต้มต่ออีก ประมาณ 1 ชั่วโมง เติมเกลือเล็กน้อย แค่นี้ก็ได้น้ำซุปอร่อยแล้วค่ะ

วิธีทำหมูต้มจืดมะระ

     1. วิธีการเลือกมะระ ก็ให้ดูสีมะระที่เป็นสีเขียวอ่อน ให้เลือกที่ลูกมีนูนใหญ่ ๆ จะทำให้มะระไม่ขมมาก นำมะระมาผ่าเป็นท่อน ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ควักไส้ออกกับขูดตรงขาว ๆ ออกด้วย เพราะทำให้มะระขมเช่นกัน จากนั้นแช่น้ำเกลือสัก 10-15 นาที ก่อนนำไปต้ม หรือนำมะระมาทาเกลือทั้งด้านนอกและด้านใน ก่อนทาควรให้มือเปียกน้ำนิดหน่อย เพื่อเกลือจะได้จับกับผิวมะระ ทิ้งไว้ 10-15 นาที เกลือจะทำการดูดความขมของมะระออกไป พอครบเวลาเอามะระไปล้างน้ำเอาเกลือออกให้สะอาด
     2. หมักหมูสับสำหรับยัดไส้โดยนำกระเทียม พริกไทย และรากผักชีมาตำให้ละเอียด แล้วนำหมูสับมาคลุกกับสามเกลอเลย ใช้สากตำนิดหน่อย ทำให้เนื้อหมูสับเหนียวยิ่งขึ้นด้วย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมันหอย แล้วก็ใช้สากตำ ๆ คลุก ๆ ให้เข้ากันดี
     3. นำวุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่มแล้วตัดเป็นท่อนสั้น ๆ นำมาคลุกกับหมูสับปรุงรส ยัดใส่ในมะระให้แน่น
     4. ตั้งน้ำซุปให้เดือด ถ้าไม่มีน้ำซุปก็ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ตามด้วยรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ด ใส่กระดูกหมู หรือน่องไก่แล้วแต่ชอบลงหม้อ ใส่เห็ดหอมตามลงไป ใส่มะระยัดไส้ตามลงไป
     5. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวกับน้ำตาลทราย จากนั้นก็ปิดฝา แล้วเปิดไฟค่อนข้างอ่อน ต้มต่อไปอีก 1 ชั่วโมง ไม่ต้องเปิดฝา จะทำให้มะระไม่ขม พอครบ 1 ชั่วโมง ตักใส่ถ้วย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ

     + ดูวิธีทำแกงจืดมะระยัดไส้หมูสับ เพิ่มเติมคลิก