19 เมนูเด็กไม่กินผัก อาหารเด็กสุดน่ารัก แก้ปัญหาลูกไม่กินผักแบบง่าย ๆ

     ​​แจกฟรี ! เมนูเด็กไม่กินผัก สูตรอาหารเพื่อสุขภาพมีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน หน้าตาสุดครีเอท เหมาะสำหรับลูกรัก

     ลูกไม่กินผักคงเป็นปัญหาหนักใจของพ่อแม่ ยิ่งถ้า​​อาหารเด็ก มีผักให้เห็นก็เขี่ยทิ้งทันที หรือแค่ได้รสผักก็คายทิ้งอยู่ร่ำไป ใครอยากสอนลูกกินผักแบบเนียน ๆ มาทางนี้เลยค่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูเด็กไม่กินผัก ทุกเมนูอาหารมีผักทั้งนั้น แต่อาศัยการจัดจานให้ดูน่ารักน่ากิน เชื่อเถอะว่าแค่ลูกรักเห็นก็อยากลองชิมแล้ว แม่ ๆ ลองทำตามเลยนะคะ

1. สุกี้กระต่ายน้อยแช่น้ำ

     เมนูเด็กไม่กินผักเมนูแรกขอนำเสนอสุกี้กระต่ายน้อยแช่น้ำ สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2808334 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษอยู่ที่ข้าวปั้นรูปกระต่ายและแต่งผ้าห่มและหูกระต่ายด้วยโบโลน่า เสร็จแล้วก็จับแช่น้ำสุกี้ผัก

ส่วนผสม สุกี้กระต่ายน้อยแช่น้ำ

      • น้ำเปล่า
      • เกลือ
      • ผัก (แครอท, ข้าวโพดอ่อน, ถั่วลันเตา, ผักกาดขาว และข้าวโพด)
      • เต้าหู้ไข่
      • เต้าหู้ขาว (ตัดเป็นรูปได้ตามชอบ)
      • เห็ด (เห็ดฟางและเห็ดเข็มทอง)
      • เนื้อหมูสไลซ์ (แบบไม่ติดมัน)
      • ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ (เลือกแบบที่น้ำส้มสายชูน้อยที่สุด ไม่เช่นนั้นรสชาติมันไม่กลมกล่อม จะเปรี้ยวโดดเลย ต้องระวังอีกอย่างว่าถ้าน้ำส้มสายชูเยอะ ๆ ก็ไม่น่าจะดีกับลูกด้วย)
      • ซอสพริก 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
      • วุ้นเส้น
      • ไข่ไก่
      • งาขาวคั่ว (ไม่มีก็ไม่เป็นไร)
      • ข้าวกล้อง หรือข้าวขาว
      • โบโลน่า (สำหรับตกแต่ง)
      • บรอกโคลี (สำหรับตกแต่ง)
      • แครอท (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำสุกี้

     1. ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ใส่แครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วลันเตา ผักกาดขาว ข้าวโพด เต้าหู้ไข่ เต้าหู้ขาว เห็ด และเนื้อหมูลงไป
     2. พอทุกอย่างสุกก็ใส่ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
     3. ใส่ซอสพริก 1+1/2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
     4. รอน้ำเดือดแล้วใส่วุ้นเส้นลงไป
     5. พอน้ำเดือดอีกรอบก็ราดไข่ไก่ลง รอให้ไข่เซตตัวสักครู่ แล้วก็คน ๆ (น้ำไม่ต้องเยอะมาก เดี๋ยวไข่ละลายหายหมด)
     6. สุดท้ายปิดไฟ ขั้นตอนนี้ถ้าใครมีงาขาวก็ใส่หลังปิดไฟ

วิธีการตกแต่ง

     1. ปั้นข้าวเป็นรูปกระต่าย
     2. ตักทุกอย่างลงชาม เอาโบโลน่ามาทำเป็นผ้าห่มและหูกระต่าย ใช้ผักตกแต่งหน้ากระต่ายนิดหนึ่ง โดยเอาบรอกโคลีทำเป็นตากับจมูก เอาแครอททำเป็นแก้มแดง ๆ

     ป.ล. ถ้าใครกลัวข้าวจะละลายไปกับน้ำให้เอาโบโลน่ารองก่อนวางข้าว
 
     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 ไอเดียจัดจานอาหารน่ารัก ๆ เอาใจลูกและสามีที่ไม่ยอมกินข้าว

2. ไข่ตุ๋นเป็ดน้อย

     จากที่เคยทำไข่ตุ๋นโรยผักดูไม่ค่อยน่ารักเท่าไร ลองแปลงร่างเป็นไข่ตุ๋นเป็ดน้อย สูตรจาก คุณ Diary Delicious สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จุดเด่นคือไข่ตุ๋นเป็นรูปเป็ดน่ารัก แต่งด้วยผักต้มหลากสีสัน

ส่วนผสม ไข่ตุ๋น

      • ไข่ไก่ 4 ฟอง
      • นมถั่วเหลือง หรือนมสด 2 เดซิลิตร (200 มิลลิลิตร) **1 เดซิลิตร = 100 มิลลิลิตร**
      • น้ำ 1 เดซิลิตร (100 มิลลิลิตร)
      • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนชา
      • เกลือ 1/2 ช้อนชา
      • แครอทต้ม
      • ฟักทองต้ม
      • ต้นหอมซอย

     หมายเหตุ : ถ้าใครอยากจะเพิ่มหมูสับลงไปก็ได้

วิธีทำไข่ตุ๋น

     1. ตอกไข่ลงไปในถ้วยตวง (ใช้ไข่ 4 ฟอง ปริมาณประมาณ 2 เดซิลิตร) จึงใส่นมลงไป 2 เดซิลิตรเช่นกัน เพราะฉะนั้นปริมาณจะเท่ากับ 1:1 ไข่ 1 ส่วน กับนม 1 ส่วน
     2. ใส่นมลงไป จากนั้นใส่เกลือ น้ำสะอาด และซีอิ๊วขาวแล้วตีให้ส่วนผสมเข้ากัน นำมากรองสามรอบ เพื่อที่จะกรองเมือกไข่ขาวออกไป และช่วยให้เนื้อไข่เนียนขึ้นด้วย เทส่วนผสมไข่เทลงไปในพิมพ์พี่เป็ดน้อย พิมพ์ต้องทาน้ำมันบาง ๆ ก่อน ไข่จะได้ไม่ติดพิมพ์ แล้วนึ่งด้วยไฟอ่อน ตรงจุดนี้สำคัญมาก ต้องใช้ไฟอ่อนมาก ๆ เพราะไม่เช่นนั้นไข่จะไม่เนียน ถึงจะกรองเป็นสิบรอบยังไงไข่ตุ๋นก็จะไม่เนียนแน่นอน พอสุกแล้วให้นำมาพักให้อุ่นเล็กน้อยก่อนนำออกมาจากพิมพ์
     3. จากนั้นก็จะนำส่วนผสมที่เหลือใส่ในถ้วยทนความร้อน แล้วนำไปนึ่งต่อจากพี่เป็ดน้อยได้เลย พอไข่ตุ๋นในถ้วยสุกก็ให้เอาออกมา วางพี่เป็ดน้อยลงไป วิธีการดูว่าไข่สุกแล้วหรือยังให้ดูที่สีค่ะ ถ้าสีอ่อนลงให้ลองเอาช้อนแตะ ๆ ด้านบนดู ถ้ารู้สึกว่าเด้ง ๆ ก็แปลว่าสุกแล้ว นำผักต้มที่เด็ก ๆ ชื่นชอบใส่ลงไป เช่น แครอทต้ม ฟักทองต้ม และต้นหอม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไข่ตุ๋นเป็ด เมนูไข่สุดน่ารักเนื้อเนียนนุ่ม เอาใจเด็ก ๆ

3. พาสต้าครีมชีสเบอร์รีสด

     แค่เห็นภาพก็อยากแย่งลูกกินทันที พบกับพาสต้าครีมชีสเบอร์รีสด สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine จุดเด่นคือพาสต้าเป็นรูปน้องสัตว์สุดคิวต์ และราดด้วยซอสครีมชีสเบอร์รีสีสวย

ส่วนผสม พาสต้าครีมชีสเบอร์รีสด (สำหรับ 2 ที่)

      • พาสต้ารูปตัวสัตว์ต่าง ๆ ชนิดแห้ง 1 ถ้วย
      • เนื้อไก่หั่นชิ้นเล็กพอดีคำ 1/2 ถ้วย
      • หอมหัวใหญ่สับ 2 ช้อนโต๊ะ
      • ราสป์เบอร์รีสดคั้นน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
      • บลูเบอร์รีสด 1/4 ถ้วย
      • ราสป์เบอร์รีสด 1/4 ถ้วย
      • เชดดาร์ชีสขูด 2 ช้อนโต๊ะ
      • วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา
      • เนยสดเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
      • เกลือสำหรับปรุงรสเล็กน้อย

วิธีทำพาสต้าครีมชีเบอร์รีสด

     1. ต้มพาสต้าในน้ำเดือดประมาณ 8 นาทีหรือจนสุก ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ คลุกน้ำมันมะกอกเล็กน้อยให้ทั่ว พักไว้
     2. ผัดหอมหัวใหญ่กับเนยและน้ำมันมะกอกที่เหลือด้วยไฟอ่อนให้สุก ใส่เนื้อไก่ ผัดให้เข้ากันและสุก เติมวิปปิ้งครีม ผัดให้เข้ากัน
     3. เติมน้ำราสป์เบอร์รีคั้นลงไป ค่อยๆ คนให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นสีชมพู ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
     4. นำครีมชีสราสป์เบอร์รีที่ผัดไว้มาคลุกกับพาสต้าที่ต้มไว้ เติมน้ำผึ้งและชีสเชสดาร์ คลุกให้เข้ากัน ใส่บลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี คลุกให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟ

เคล็ดลับ

     1. ควรลวกหอมหัวใหญ่ในน้ำร้อนก่อนผัดเพื่อช่วยลดความเผ็ดลงสำหรับเด็ก
     2. ราสป์เบอร์รีจะมีรสเปรี้ยว ใช้แบล็กเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และบลูเบอร์รีที่มีความหวานมาช่วยตัดรสได้

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พาสต้าครีมชีสเบอร์รีสด อาหารฝรั่งง่าย ๆ เอาใจเด็กเล็ก

4. หอมใหญ่ทอด

     มาต่อกันที่อาหารว่างเอาใจลูกรัก พบกับหอมใหญ่ทอด สูตรจาก เฟซบุ๊ก เมนูคุณแม่มือใหม่-เจ้าตัวน้อย จับหอมใหญ่หั่นแว่นชุบน้ำแป้งแล้วเอาไปทอดจนสุก เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศ

ส่วนผสม หอมใหญ่ทอด (Onion Ring)

      • หอมใหญ่ลูกใหญ่ ๆ หั่นหนาประมาณ 1/2 ซม.
      • แป้งสาลี
      • ไข่ไก่
      • เนยจืด
      • นม
      • โซดาแช่เย็น
      • น้ำตาลทราย

วิธีทำหอมใหญ่ทอด

     1. ผสมแป้งสาลี ไข่ไก่ เนยจืด นม โซดาเย็น และน้ำตาลทราย ตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ถ้าส่วนผสมข้นเกินไปเติมโซดา ถ้าส่วนผสมเหลวเกินไปเติมแป้ง
     2. นำหอมใหญ่ลงคลุกกับส่วนผสมแป้ง นำลงไปทอดในน้ำมันท่วม ๆ ไฟกลาง อย่าทอดทีละหลายชิ้นเพราะจะติดกันเป็นแพ
     3. ทอดให้เหลืองสวย ตักพักไว้บนกระดาษอเนกประสงค์ กินกับซอสมะเขือเทศโฮมเมด

     หมายเหตุ : ถ้ามีพาร์มีซานชีสและออริกาโน่ผสมลงไปในแป้งด้วย จะทำให้อร่อยขึ้นอีก สูตรนี้รับประกันความกรอบ สามารถใช้ชุบผักหรือปลาหมึกก็ได้

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 55 เมนูอาหารลูกวัย 1 ขวบขึ้นไป อาหารเด็กปรุงด้วยรักจากแม่

5. สเต๊กดอกไม้

     สเต๊กก้อนกลม ๆ คงต้องชิดซ้ายให้กับสเต๊กดอกไม้ สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2808334 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับไก่บดผสมกับผักต่าง ๆ ปั้นเป็นรูปดอกไม้ โปะไข่ดาวลงไปตรงกลางและราดด้วยซอสผักรวม

ส่วนผสม หมักไก่

      • ไก่สับ
      • หอมหัวใหญ่สับ
      • แครอทสับ
      • ไข่ไก่
      • ซีอิ๊วขาว
      • เกลือป่น

ส่วนผสม ซอส

      • หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า
      • แครอทหั่นเต๋า
      • เห็ดฟาง
      • ซอสมะเขือเทศ

วิธีหมักไก่

      ► หมักไก่ประมาณ 30 นาที ทำเป็นรูปดอกไม้แล้วแช่ตู้เย็นไว้ให้เซตตัว เวลาเอามาลงจี่บนกระทะจะได้ไม่เสียทรง

วิธีทำซอส

      ► ผัดหอมใหญ่กับแครอทให้สุก ใส่เห็ดลงไป เมื่อเห็ดสุกก็ใส่ซอสมะเขือเทศลงไปเลย (ปริมาณแล้วแต่ชอบ) คนให้เข้ากัน

วิธีทำสเต๊กดอกไม้

      ► นำไก่หมักมาจี่บนกระทะ ใส่น้ำมันนิดเดียว ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ทำอาหารให้เด็กใช้เทฟลอนก็ดี จะได้ไม่ต้องใช้น้ำมันเยอะ

ขั้นตอนตกแต่ง

      ► ทอดไข่ขาวให้เป็นวงกลม (ใช้ที่ตัดรูปวงกลมมาทอดไข่ดาว) นำไข่ดาววางบนเนื้อไก่ ราดซอสลงไป ตกแต่งตามใจ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 ไอเดียจัดจานอาหารน่ารัก ๆ เอาใจลูกและสามีที่ไม่ยอมกินข้าว

6. ซูชิไก่หย็องกับไข่เส้น

     เอาใจลูกรักที่อยากกินซูชิกันหน่อย พบกับซูชิไก่หย็องกับไข่เส้น สูตรจาก เฟซบุ๊ก เมนูคุณแม่มือใหม่-เจ้าตัวน้อย จับใบคะน้าไปลวกจนสุกแล้วเกลี่ยข้าวสวยลงไป สอดไส้ด้วยไก่หย็อง จากนั้นห่อเป็นซูชิ เสิร์ฟกับไข่เส้น

ส่วนผสม ซูชิไก่หย็อง

      • ใบคะน้า
      • ข้าวสวย
      • ไก่หย็อง

ส่วนผสม ไข่เส้น

      • ไข่ไก่
      • น้ำมัน

วิธีทำซูชิไก่หย็อง

      1. เอาใบคะน้าไปลวกในน้ำเดือดจนสุก แช่น้ำเย็น บีบน้ำออก 

16. ออมเล็ต

     จากที่เคยทำไข่เจียวบ้าน ๆ ลองมาทำไข่เจียวสไตล์ฝรั่งดีไหม พบกับออมเล็ต สูตรจาก เฟซบุ๊ก เมนูคุณแม่มือใหม่-เจ้าตัวน้อย จับไข่ตีผสมกับนม ใส่เห็ดและผักรวม เอาไปทอดจนสุกเหลือง

ส่วนผสม ออมเล็ต

      • ไข่ไก่ 2 ฟอง
      • นม 1/2 กล่อง
      • เนยจืด
      • เกลือ
      • พริกไทยดำป่น
      • ใบไทม์ (ไม่ใส่ก็ได้)
      • หอมแดงสับ (หรือหอมใหญ่)
      • เห็ดชิเมจิขาว
      • ผักรวมแช่แข็ง

วิธีทำออมเล็ต

     1. ลวกผักรวมให้นิ่ม สะเด็ดน้ำพักไว้
     2. ตีไข่ใส่นม ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทย และใบไทม์
     3. ตั้งกระทะเทฟลอนใช้ไฟอ่อน ใส่เนยจืดลงไปพอละลาย เทไข่ลงกระทะครึ่งหนึ่งก่อน
     4. ใส่หอมแดงสับ เห็ด และผักทั้งหมดลงไป
     5. ปิดกระทะด้วยฝาหม้อสักครู่ พอไข่เริ่มจับตัว เทไข่ส่วนที่เหลือลงไป
     6. ปิดฝาหม้อ พอไข่เริ่มเซตตัวใช้ตะหลิวพับไข่จากด้านข้างเข้ามาตรงกลางทั้งสองด้าน กลับด้านไข่ ปิดฝาหม้อทอดต่อ พอไข่เริ่มสวยใช้มีดหั่นครึ่ง ปิดฝาหม้อ อบต่อจนไข่สุกทั่วถึง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 55 เมนูอาหารลูกวัย 1 ขวบขึ้นไป อาหารเด็กปรุงด้วยรักจากแม่

17. สปาเกตตีบรอกโคลีไส้กรอก

     เอาใจเด็ก ๆ ที่ชอบกินเมนูเส้นกันด้วยสปาเกตตีบรอกโคลีไส้กรอก สูตรจาก เฟซบุ๊ก เมนูคุณแม่มือใหม่-เจ้าตัวน้อย ทีเด็ดคือใส่บรอกโคลีสับละเอียดลงไปผัดกับเส้นสปาเกตตีและใส่ไส้กรอกลงไปด้วย

ส่วนผสม สปาเกตตีบรอกโคลีไส้กรอก

      • เส้นสปาเกตตี (วันนี้ใช้ Brown Rice Spaghetti)
      • ไส้กรอกสำหรับเด็ก (ตรา Little Munchy)
      • บรอกโคลี
      • น้ำมันสำหรับผัด (น้ำมันมะกอก Classic หรือน้ำมันรำข้าว)
      • หอมใหญ่สับ
      • มะเขือเทศราชินี
      • ออริกาโน่ (ไม่มีก็ไม่ต้องใส่)
      • พริกไทยป่น

วิธีทำสปาเกตตีบรอกโคลีไส้กรอก

     1. ต้มเส้นสปาเกตตี โดยใส่น้ำมันลงในน้ำด้วยเวลาต้มเส้นจะได้ไม่ติดกัน ตอนต้มเส้นก็เอาบรอกโคลีลงไปลวกด้วยสัก 3 นาที คีบขึ้นมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนไส้กรอกก็ลวกไปพร้อมเส้นเลย
     2. พอสปาเกตตีสุกแล้วเทใส่กระชอน ราดน้ำเย็น ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
     3. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันและหอมใหญ่ลงไปผัดจนหอมใหญ่สุกใส
     4.ใส่มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่งลงไปผัดสักครู่ ตามด้วยไส้กรอก เส้นสปาเกตตี บรอกโคลีสับ ปรุงรสด้วยพริกไทยป่นและออริกาโน่เล็กน้อย คลุกให้เข้ากันก็พอ เพราะทุกอย่างสุกแล้ว

     หมายเหตุ : ถ้ามีชีสขูดโรยหน้าเพิ่มความนัวได้  ไส้กรอกจัดเป็นอาหารปรุงสำเร็จที่ปรุงรสเยอะและมีสารไนไตรท์ ถ้ากินปริมาณมาก ๆ อาจเกิดอันตรายได้ (ขนาดบริโภคในผู้ใหญ่คือ 4 แท่งต่อสัปดาห์) ดังนั้นบ้านไหนอยากให้ลูกลองกินควรเลือกยี่ห้อดี ๆ และไม่ควรกินบ่อย

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 55 เมนูอาหารลูกวัย 1 ขวบขึ้นไป อาหารเด็กปรุงด้วยรักจากแม่

18. บาร์บีคิว

     ปาร์ตี้สำหรับเด็ก ๆ มื้อนี้ต้องมีเมนูบาร์บีคิว สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine จับเนื้อสัตว์เสียบไม้สลับกับผักต่าง ๆ มาพร้อมวิธีทำซอสบาร์บีคิวรสเข้มข้น

ส่วนผสม บาร์บีคิว (สำหรับ 4 ที่)

      • เนื้อหมูหั่นชิ้นใหญ่พอดีคำ 150 กรัม
      • เนื้อไก่หั่นชิ้นใหญ่ 150 กรัม
      • กุ้งสดตัวใหญ่ 15 ตัว
      • พริกหวานสีเหลืองหั่นชิ้นเท่าเนื้อไก่ 1/2 ลูก
      • มะเขือเทศราชินี 15 ลูก
      • สับปะรดหั่นชิ้นพอดีคำ 15 ชิ้น

ส่วนผสม ซอสบาร์บีคิว

      • กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
      • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
      • หอมหัวใหญ่สับ 1/4 ถ้วย
      • ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
      • ออริกาโน่แห้ง 1 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำบาร์บีคิว

     1. เตรียมซอสบาร์บีคิวโดยผัดกระเทียมกับน้ำมันให้หอม ใส่หอมหัวใหญ่ลงผัดจนสุก ใส่ซอสมะเขือเทศ รอให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และออริกาโน่ ลดไฟลงเคี่ยวจนซอสข้น ยกลง พักไว้ให้เย็น
     2. นำเนื้อหมู เนื้อไก่ และกุ้งมาหมักกับซอสบาร์บีคิวที่เตรียมไว้ประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วนำมาเสียบไม้สลับกับผักที่เตรียมไว้ เช่น มะเขือเทศ สับปะรด พริกหวาน นำไปย่างจนสุก จัดใส่จานเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำบาร์บีคิว สูตรง่ายสำหรับเด็ก พร้อมสูตรซอสหมักง่าย ๆ

19. ชีสเค้กฟักทอง

     ปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมหวานจากผักนั่นคือ ชีสเค้กฟักทอง สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine ตัวชีสเค้กใส่ฟักทองและน้ำเชื่อม พอแช่เย็นจนเซ็ตตัวก็แต่งด้วยฟักทองหั่นชิ้นลวก

ส่วนผสม ชีสเค้กเนื้อฟักทอง (6-8 ถ้วย)

      • เนื้อฟักทองนึ่งสุกบดละเอียด 2/3 ถ้วย
      • ผงเจลาติน 2 ช้อนชา
      • น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย
      • ครีมชีส 2 ก้อน (ก้อนละ 250 กรัม วางในอุณหภูมิห้อง)
      • น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
      • น้ำเชื่อมเข้มข้น 1/4 ถ้วย
      • ฟักทองหั่นชิ้นลวก

วิธีทำชีสเค้กฟักทอง

     1. แช่ผงเจลาตินในน้ำเปล่าประมาณ 10 นาทีจนพองตัว นำไปเข้าไมโครเวฟให้ร้อนและเจลาตินละลาย คนให้คลายความร้อน พักไว้
     2. ตีครีมชีสกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากันจนเนื้อเนียน ใส่น้ำเชื่อมและเนื้อฟักทอง ตีต่อให้เข้ากัน ใส่เจลาตินที่ละลายไว้ ตีให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยแช่เย็นไว้จนเซตตัว
     3. ก่อนเสิร์ฟตกแต่งด้วยเนื้อฟักทองหั่นชิ้นเล็กลวกสุก

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กฟักทอง เปลี่ยนผักกินยากเป็นขนมอร่อยเด็กชอบ

     จบไปแล้วสำหรับเมนูเด็กไม่กินผัก บอกเลยว่าถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่ได้ลองทำรับรองว่าเด็ก ๆ จะหันมากินผักมากขึ้น เพราะด้วยหน้าตาชวนหม่ำและรสชาติอร่อยถูกปากนั่นเอง