x close

20 สูตรของกินงานวัด เมนูสร้างอาชีพขายดีทำไม่ยากกำไรเร็ว

          แจกฟรี ! เมนูของกินงานวัด สูตรอาหารหลากสไตล์ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม ทำง่ายขายก็ง่าย กำไรจัดเต็ม
          ใครกำลังมองหาสูตรอาหารทำขายที่งานวัดแถวบ้าน นอกจากนี้ยังขายในตลาดนัด หรือส่งแบบเดลิเวอรี่ก็ได้ด้วย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำของกินงานวัด เช่น ขนมจีนน้ำยา กระเพาะปลา ผัดไทย หอยทอด ปลาหมึกย่าง ลูกชิ้นปิ้ง น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น อยากขายอะไรเลือกจิ้มแล้วลองฝึกฝีมือกันเลยค่ะ
 
อาหารจานเดียว

1. ขนมจีนน้ำยา

           เวลาไปเดินเล่นในงานวัดส่วนใหญ่จะเห็นเมนูขนมจีนน้ำยาขายกันหลายร้าน จุดเด่นนอกจากมีผักเยอะแยะเป็นเครื่องเคียงแล้ว รสชาติของน้ำยาก็ต้องอร่อยด้วยนะคะ ใครอยากทำขายมาจดสูตรน้ำยากะทิปลาช่อนสูตรนี้เลยค่ะ ความพิเศษคือใส่ปลาเค็มลงไปเพิ่มความนัวด้วย รับรองขายดิบขายดีแน่นอนค่ะ
 

ส่วนผสม น้ำยาปลาช่อน

  • ปลาช่อน 1 ตัว
  • น้ำเปล่า
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ และเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
  • ตะไคร้ 4 ต้น
  • ข่า 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 10 หัว
  • กระเทียม 1 หัวใหญ่
  • ขมิ้น 1 หัวแม่มือ
  • กระชาย 1 ถ้วย
  • ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาอินทรีเค็ม 1 ชิ้น
  • กะทิ 1 กระป๋อง
  • น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ลูกชิ้นปลา 300 กรัม
  • ใบมะกรูด
     

วิธีทำน้ำยาปลาช่อน

     1. ล้างทำความสะอาดปลาช่อน หั่นครึ่งเพื่อสะดวกในการต้ม เสร็จแล้วตั้งน้ำเปล่า เปิดไฟ ใส่ปลาลงไปตอนน้ำยังไม่เดือด พอน้ำเริ่มเดือดใส่เครื่องแกงทั้งหมดลงไป ได้แก่ พริก ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม ขมิ้น และกระชาย ยกเว้นกะปิ จากนี้ก็ต้มให้เดือด และรอจนปลาสุกดี
     2. เมื่อปลาและเครื่องแกงสุกดี นำมากรอง แยกเนื้อปลา และเครื่องแกงออก เอาปลานำมาแกะเอาแต่เนื้อปลา หนังไม่เอานะคะ ส่วนเครื่องแกงเราจะนำไปตำหรือปั่นก็ตามชอบ ในสูตรใช้การปั่นให้ละเอียด
     3. ระหว่างปั่นหรือตำ จะใส่ผิวมะกรูดและกะปิลงตำหรือปั่นพร้อมกัน ระหว่างปั่นหรือตำ ให้นำเนื้อปลาช่อนที่แกะก้างออกมาใส่รวมกับพริกแกง จะตำหรือปั่นก็ได้ สำหรับใครที่ใช้เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดตามชอบ
     4. สำหรับน้ำที่ต้มเครื่องสมุนไพรอย่าทิ้ง นำมาต้มต่อโดยใส่ปลาเค็ม ต้มประมาณ 3-5 นาทีจนส่งกลิ่นหอม กรองเอาปลาเค็มออกไป และนำเครื่องแกงที่ปั่นใส่ลงไป ตั้งไฟให้เดือด เมื่อเครื่องแกงเดือด เติมกะทิ 1 กระป๋อง คนให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามที่เราต้องการ ใส่ลูกชิ้นปลา ฉีกใบมะกรูดใส่ด้วยจะหอมมาก พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ ขนมจีนน้ำยา เพิ่มเติมคลิก

2. กระเพาะปลา

          กระเพาะปลาไม่อร่อยลูกค้าก็ไม่ติด ถ้าอยากขายดีต้องเครื่องถึงรสมือถึง ยกตัวอย่างวิธีทำกระเพาะปลาด้านล่างนี้เลยค่ะ ใส่ทั้งปีกไก่กับเนื้อปู เพิ่มไข่ต้ม ความพิเศษคือกระเพาะปลาไม่หืนไม่คาว หั่นชิ้นใหญ่พอให้ได้เคี้ยว ที่ขาดไม่ได้เลยคือจิ๊กโฉ่วหรือพริกน้ำส้ม กับเส้นหมี่ลวก
 

ส่วนผสม กระเพาะปลาน้ำแดง

  • กระเพาะปลา
  • ปีกไก่บน
  • กรรเชียงปู
  • ขิง
  • น้ำส้มสายชู
  • กระเทียมบุบ
  • รากผักชีบุบ
  • เม็ดพริกไทยบุบ
  • เกลือ
  • น้ำตาลกรวด
  • ซีอิ๊วขาว
  • ซอสหอยนางรม
  • ซีอิ๊วดำ
  • เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น (มีเหลือติดบ้านแค่ 2 ดอก เลยใช้เห็ดหูหนูแห้งผสมด้วย)
  • หน่อไม้ต้มหั่นเป็นชิ้น
  • แป้งข้าวโพด หรือแป้งมัน
  • ไข่ต้ม
  • ต้นหอมซอย
  • ผักชีซอย
  • พริกไทยป่น
  • กรรเชียงปู
     

วิธีทำกระเพาะปลาน้ำแดง

     1. นำกระเพาะปลามาแช่น้ำให้นุ่มแล้วนำไปต้ม ใส่น้ำส้มสายชู ต้มให้น้ำเดือดเทน้ำทิ้ง ล้างน้ำขยำให้น้ำมันออก
     2. นำกระเพาะปลาใส่ลงหม้อต้มอีกครั้ง เติมน้ำ ใส่ขิงและน้ำส้มสายชู ต้มให้น้ำเดือดเพื่อล้างคราบมันออกให้หมด นำมาล้างกับน้ำเย็นอีกครั้ง บีบให้แห้ง หั่นเป็นชิ้น พักไว้
     3. ตั้งหม้อใส่น้ำ กระเทียม รากผักชี เม็ดพริกไทย ปีกไก่บน เกลือ และน้ำตาลกรวด ต้มให้เดือดสักพักใหญ่ ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และซีอิ๊วดำเล็กน้อย คนให้เข้ากัน เมื่อไก่เริ่มนุ่มแล้วใส่กระเพาะปลา เห็ดหอม และหน่อไม้ ชิมรสตามชอบ ระหว่างรอเดือดอีกครั้ง ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในขณะที่กำลังเดือด รีบคนให้เข้ากันจนข้นได้ที่แล้วปิดไฟ
     4. ตักใส่ชาม แต่งหน้าด้วยกรรเชียงปู ไข่ต้มยางมะตูม โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี และพริกไทย เสิร์ฟพร้อมกับจิ๊กโฉ่วหรือพริกน้ำส้ม กินกับเส้นหมี่ลวกก็อร่อย

 

ดูวิธีทำ กระเพาะปลา เพิ่มเติมคลิก

3. ผัดไทย

ของกินงานวัด

          ผัดไทยถ้าจะให้อร่อยนอกจากเส้นต้องเหนียวนุ่มและรสชาติน้ำซอสก็ต้องมีรสเปรี้ยวหวานแล้ว ยังต้องมีทางเลือกสำหรับลูกค้าที่เบื่อผัดไทยธรรมดา ลองเพิ่มเติมเมนูผัดไทยกุ้งสด หรือผัดไทยทะเลสิคะ อ้อ… อย่าลืมผักแกล้มอย่างใบกุยช่ายและถั่วงอกดิบด้วยนะคะ  
 

ส่วนผสม ผัดไทย

  • ซอสผัดไทย
  • กุ้งสด (แกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก) 3-5 ตัว
  • เต้าหู้เหลือง (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
  • ไชโป๊ (สับละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ
  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก (หรือเส้นจันท์) แช่น้ำจนนิ่ม
  • ถั่วงอกดิบ
  • ใบกุยช่าย (หั่นท่อน)
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
  • ถั่วลิสงคั่วบด (ตามชอบ)
  • ผักสด (สำหรับทานคู่)
     

ส่วนผสม ซอสผัดไทย

  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนชา (หรือความเผ็ดตามชอบ)
     

วิธีทำซอสผัดไทย

     1. ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และพริกป่นเข้าด้วยกัน
     2. นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟจนส่วนผสมเริ่มร้อนและน้ำตาลปี๊บละลาย ปิดไฟ เตรียมไว้ (ถ้าต้องการเก็บไว้หลายวันให้รอจนเดือดแล้วเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด)
 

วิธีทำผัดไทยกุ้งสด

     1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่กุ้งสดลงไปผัดให้โดนความร้อนจนกุ้งเริ่มสุก ตักขึ้นใส่จานเตรียมไว้
     2. ใส่เต้าหู้ลงไปผัดในกระทะใบเดิมพอให้เหลืองหอม ตามด้วยไชโป๊สับ ผัดพอเข้ากัน ใส่น้ำซอสผัดไทยที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากันจนเริ่มเดือด
     3. ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่แช่น้ำแล้วลงไปผัดให้เข้ากันเบา ๆ แล้วใช้ตะหลิวเขี่ยเส้นไปไว้ข้างกระทะ
     4. ตอกไข่ไก่ลงไป ยีให้พอแตก รอจนไข่เริ่มสุกแล้วนำส่วนผสมเส้นมาผัดให้เข้ากัน ตามด้วยกุ้งที่เตรียมไว้ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด ถั่วลิสงคั่วบด พริกป่น และมะนาว

 

ดูวิธีทำ ผัดไทย เพิ่มเติมคลิก

4. หอยทอด

          จากที่เคยเห็นงานวัดอื่น ๆ ขายหอยทอดหน้าตาน่ากินและคนก็ต่อคิวซื้อ พอวัดใกล้บ้านจัดงานก็เลยอยากทำขายบ้าง ความพิเศษก็คือหอยสด ตัวใหญ่ และส่วนผสมแป้งก็สำคัญต้องทอดแล้วกรอบนุ่ม ทีเด็ดคือน้ำจิ้มต้องมีสูตรเฉพาะ ไม่ซ้ำใคร
 

ส่วนผสม หอยทอด

  • แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย
  • แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
  • น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย (ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของแป้งที่นำมาผสม)
  • หอยแมลงภู่ดิบ
  • ต้นหอมซอย
  • ไข่ไก่
  • ถั่วงอกดิบ
  • ผักชีซอย
  • พริกไทยป่น
     

ส่วนผสม น้ำจิ้มหอยทอด

  • ซอสพริกศรีราชา
  • น้ำจิ้มไก่
     

วิธีทำหอยทอด

     1. ทำแป้งหอยทอดโดยผสมแป้งข้าวโพด แป้งทอดกรอบ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และน้ำเย็นจัด คนให้เข้ากัน หมั่นคนแป้งเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้นองก้น
     2. เทน้ำมันพืชลงในกระทะพอประมาณ ตั้งไฟรอ ระหว่างนั้น ตักแป้งแบ่งมาทีละน้อยใส่ชาม ตามด้วยหอยแมลงภู่และต้นหอม คนผสมให้เข้ากัน
     3. เตรียมตะหลิวไว้สองอัน ใช้สำหรับตัดแบ่งและช่วยพลิกกลับด้าน รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นเทส่วนผสมลงกระทะ กระจายให้ทั่ว ๆ ตอกไข่ไก่ใส่ตามไปติด ๆ ยีให้กระจายทั่วทั้งแผ่น
     4. ทอดจนเริ่มเซตตัวและเริ่มกรอบ พอใกล้จะไหม้ให้พลิกด้าน (ทำหลาย ๆ แผ่นเข้าจะเริ่มโปร สามารถกำหนดระดับ ความหนา-บาง กรอบมาก-กรอบน้อยได้) เสร็จแล้วตักขึ้นมาพัก ซับน้ำมัน
     5. ใส่ถั่วงอกดิบผัดกับน้ำมันที่เหลือติดกระทะ อย่าให้นานจนเกินไป (จะได้กรอบนิด ๆ) ตักใส่จาน ตามด้วยหอยทอด โรยพริกไทยป่น ตามด้วยต้นหอมและผักชี แต่งด้วยถั่วงอกดิบ พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้มหอยทอด

 

ดูวิธีทำ หอยทอด เพิ่มเติมคลิก

5. ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก

          เมนูก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกหรือก๋วยเตี๋ยวเรือก็เป็นอีกเมนูอาหารงานวัดยอดนิยม สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือกับหมูหมัก ผักแกล้มที่ห้ามขาดคือใบโหระพา
 

ส่วนผสม น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ

  • น้ำเปล่า 10 ลิตร (ถ้าใช้น้ำมากขึ้น สัดส่วนของเครื่องปรุงและส่วนผสมต่าง ๆ ก็ต้องคูณเพิ่มไปด้วยเช่นกัน)
  • เครื่องตุ๋นหมูน้ำข้น 2 ชุด (ล้างน้ำให้สะอาดก่อนนำไปต้ม)
  • ลูกกระวานไทย 5 ลูก
  • ใบกระวาน 3 ใบ
  • เกลือป่น 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • กระดูกเอียวเล้ง 1 กิโลกรัม
  • กระเทียมดอง 5 หัว
  • น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วยตวง
  • รากขึ้นฉ่าย 5 ราก
  • ข่าแก่ (ยาว 2 นิ้ว) บุบพอแตก 1 ท่อน
  • ซีอิ๊วขาว (สูตร 1) 1/2 ถ้วยตวง
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลมะพร้าว 150-200 กรัม
  • ซีอิ๊วดำ 7-8 ช้อนโต๊ะ
  • เต้าหู้ยี้โขลกละเอียด 10 ก้อน
  • ใบเตย 8 ใบ
  • เลือดหมูสด 2 ถ้วยตวง
  • ใบตะไคร้
     

ส่วนผสม หมูหมัก (สูตรหมักหมูนุ่มด้วยวิธีธรรมชาติ)

  • เนื้อสะโพกหมูหั่นสไลซ์เป็นชิ้นบาง 1 กิโลกรัม
  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
     

ส่วนผสม เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว

  • เส้นก๋วยเตี๋ยว (ตามชอบ)
  • ถั่วงอกดิบและลวกสุก
  • พริกไทยป่น
  • ขึ้นฉ่ายซอย
  • ผักชีฝรั่งซอย
  • หมูหมัก
  • ลูกชิ้นหมูอย่างดี
  • ตับหมูหั่นบาง ๆ
  • น้ำซุป
  • กากหมูเจียว หรือ แคบหมูเจียว
  • กระเทียมเจียว
  • ใบโหระพา
     

วิธีทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว

     1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อก๋วยเตี๋ยว นำขึ้นตั้งไฟแรง ใส่เครื่องตุ๋นหมูน้ำข้นลงไป 2 ห่อ ตามด้วยลูกกระวาน ใบกระวาน และเกลือป่น ปิดฝาต้มให้เดือด
     2. เมื่อน้ำเดือดแล้วจึงใส่กระดูกเอียวเล้งลงไป ปิดฝาหม้อต้มจนเดือดแล้วจึงหรี่ไฟให้เหลือไฟอ่อน ๆ
     3. ใส่กระเทียมดองและน้ำกระเทียมดองลงไป ตามด้วยรากขึ้นฉ่าย ข่าแก่ และใบเตย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลมะพร้าว และซีอิ๊วดำ
     4. ปิดฝาหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง (เพราะจะทำให้ความหวานตามธรรมชาติในกระดูกนั้นละลายออกมากับน้ำซุป ยิ่งต้มนานก็ยิ่งอร่อย) เมื่อน้ำซุปเดือดได้ที่แล้ว ใส่เต้าหู้ยี้ลงไป  
     5. นำเลือดหมูสดมาขยำกับใบตะไคร้ในภาชนะสักครู่ ขยำเสร็จแล้วนำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ ๆ จากนั้นตักน้ำก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาสักกระบวย ใส่ลงไปในภาชนะที่ใส่เลือดหมู ใช้ช้อนคนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน เร่งไฟแรงขึ้นแล้วละลายเลือดใส่ลงไปในหม้อน้ำซุป คนเล็กน้อยให้พอเข้ากัน แล้วลดไฟอ่อนลงตามเดิม
 

วิธีทำหมูนุ่ม

     ► คลุกเคล้าเนื้อหมูกับไข่แดง แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส ให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง (เราก็จะได้เนื้อหมูที่นุ่มและไม่เหนียว)
 

วิธีทำจัดเสิร์ฟ

     1. ลวกถั่วงอกและลวกเส้นในน้ำเดือด ๆ ใส่ไว้ในชาม (การที่จะลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้อร่อย ได้เส้นไม่ดิบไม่แฉะนั้นจะต้องลวกในน้ำที่ร้อนจัด ๆ และลวกเร็ว ๆ) ก่อนใส่ลงชามก็สะบัดตะกร้อสักหน่อยเพื่อให้สะเด็ดน้ำ ตักน้ำมันกระเทียมเจียวสักเล็กน้อยนำลงไปคลุกเคล้ากับเส้น
     2. โรยพริกไทยป่น ตามด้วยขึ้นฉ่ายซอย และผักชีฝรั่งซอย
     3. ลวกหมูที่หมักเอาไว้ ตามด้วยตับหมูกับลูกชิ้น จากนั้นก็ตักน้ำซุปลงราด
     4. โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกับกากหมู เสิร์ฟพร้อมถั่วงอกดิบและใบโหระพา
 

ดูวิธีทำ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก เพิ่มเติมได้ที่

6. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

ของกินงานวัด

          เอาใจลูกค้ารักสุขภาพสักหน่อย ขอแนะนำให้ทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนขายค่ะ จะใส่หมูสับ ไก่สับ ปูอัด หรืออื่น ๆ ก็ตามชอบ ห่อกับผักสดและราดน้ำจิ้มสุดแซ่บ
 

ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ

  • หมูสับ (หรือไก่สับ) 500 กรัม
  • พริกไทยป่น (เล็กน้อย)
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • แครอต (หั่นเป็นแท่งหรือเส้นยาวๆ) 1 หัว
  • ผักกาดหอม (หรือผักสลัดอื่นตามชอบ)
  • ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • ผักชีฝรั่ง
  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ (หรือแป้งเปาะเปี๊ยะญวน)
     

ส่วนผสม น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สูตรที่ 1

  • พริกขี้หนูสวนสีเขียว 20 เม็ด
  • กระเทียมสับหยาบ 10 กลีบ
  • ใบโหระพาซอยหยาบ 1/4 ถ้วย
  • น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อม (น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย และน้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย ต้มให้ละลาย พักให้เย็น)
     

วิธีทำน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สูตรที่ 1

     1. ปั่นพริกขี้หนู กระเทียม และใบโหระพาเข้าด้วยกันจนละเอียด
     2. ใส่น้ำส้มสายชู เกลือป่น และน้ำเชื่อมลงไปปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง
 

ส่วนผสม น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สูตรที่ 2

  • พริกขี้หนูสวนสีเขียว 15 เม็ด
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • รากผักชีสับละเอียด 1 ราก
  • น้ำปลา 1/8 ถ้วย
  • น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ก้านผักชีซอย 10 กรัม
  • ใบสะระแหน่ซอย 10 ใบ
     

วิธีทำน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สูตรที่ 2

     1. ปั่นพริกขี้หนู รากผักชี และกระเทียมให้ละเอียดเข้าด้วยกัน
     2. ผสมน้ำปลา น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาวคนจนเข้ากัน เสร็จแล้วเทใส่ส่วนผสมที่ปั่นไว้แล้วคนให้เข้ากัน
     3. ใส่ก้านผักชีและใบสะระแหน่ลงไปคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
 

วิธีทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ

     1. ผสมหมูสับกับพริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย หมักไว้ประมาณ 30 นาที
     2. นำหมูไปรวนกับน้ำเล็กน้อยในกระทะ ตามด้วยซอสปรุงรสและซอสหอยนางรม ผัดจนส่วนผสมแห้ง ตักใส่จาน พักไว้ให้เย็น
     3. นำเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ไปนึ่งประมาณ 10 นาที ยกออกจากเตา พักให้เย็น  
     4. วางผักกาดหอม โหระพา ผักชีฝรั่ง แครอต และส่วนผสมไส้บนแผ่นก๋วยเตี๋ยว พับแป้งด้านข้างทั้ง 2 ด้านมาทับบนไส้แล้วม้วนเป็นท่อนกลม หั่นเป็นชิ้น ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มลุยสวน

 

ดูวิธีทำ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เพิ่มเติมคลิก

อาหารว่าง

7. กุยช่าย

          กุยช่ายถ้าไปรับมาขายกำไรไม่เยอะ และควบคุมต้นทุนไม่ได้ ดังนั้นถ้าทำเองคุ้มกว่าค่ะ สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำแป้งกุยช่ายและไส้ผัก ที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำจิ้มกุยช่าย
 

ส่วนผสม ขนมกุยช่าย

  • กุยช่าย 500 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมัน 1/2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • แป้งมัน 1/2 ถ้วย
  • น้ำเปล่าต้มเดือด 1+1/2 ถ้วย
     

ส่วนผสม น้ำจิ้มกุยช่าย

  • ซีอิ๊วหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูตำละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
     

วิธีทำขนมกุยช่าย

     1. ทำไส้ผักกุยช่าย โดยนำผักล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ใส่อ่างผสม เติมเบกกิ้งโซดาและเกลือลงไปแล้วขยำให้ผักนิ่มหรือสลด ใส่น้ำมันพืชลงคลุกให้เข้ากัน แล้วเทใส่กระชอนเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน
     2. ทำแป้งกุยช่าย โดยเทแป้งข้าวเจ้าผสมกับแป้งมัน คนให้เข้ากัน
     3. ต้มน้ำร้อนให้เดือดจัดแล้วเทใส่ในแป้ง คนเรื่อย ๆ จนแป้งเหนียวจับตัวกัน แล้วนำออกมานวดมือโดยนำแป้งมันมาโรยเป็นแป้งนวล และเอามาทามือเพื่อไม่ให้แป้งเหนียวติดมือ
     4. พอแป้งเนียนดีแล้วก็แบ่งแป้งออกมา แผ่ออกเป็นบาง ๆ แล้วแต่ขนาดที่ต้องการ จะใช้ไม้รีดแป้งก็ได้หรือใช้มือได้
     5. นำไส้ผักกุยช่ายมาวางตรงกลางแล้วห่อ จะห่อแบบมีจีบด้านหน้าหรือรวบก้นให้สนิทแล้วคว่ำเป็นก้อนกลมด้านบนก็ได้แล้วแต่ชอบ
     6. นำใบตองมารองก้นชุดนึ่ง เสร็จแล้วใช้มีดกรีดใบตองหน่อย จะได้มีทางให้น้ำไหลลงไปได้ จัดเรียงกุยช่ายให้ห่างกันนิดก็ดี เพราะเวลาสุกจะขยายตัวอีกนิดหนึ่ง นึ่งประมาณ 15 นาที
 

วิธีทำน้ำจิ้มขนมกุยช่าย

     ► เทซีอิ๊วดำหวานใส่ถ้วย เติมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย พริกขี้หนูตำละเอียด คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

 

ดูวิธีทำ กุยช่าย เพิ่มเติมคลิก

8. ปลาหมึกย่าง

ของกินงานวัด

          เมนูปิ้งย่างไม่เคยขาดสำหรับงานวัด แต่เพราะหมูปิ้งกับไก่ปิ้งคนขายเยอะแล้ว ส่วนปลาหมึกย่างยังไม่มีใครขาย แบบนี้ต้องลองสักตั้ง สูตรนี้จับปลาหมึกหั่นชิ้นแล้วเสียบไม้ เสร็จแล้วหมักกับผงขมิ้นและซีอิ๊วดำหวาน พอหมักจนครบเวลาก็เอาไปย่างจนสุก ราดน้ำจิ้มซีฟู้ด
 

ส่วนผสม หมักปลาหมึกย่าง

  • ปลาหมึกสด
  • ผงขมิ้น
  • น้ำเปล่า
  • ซีอิ๊วดำหวาน
     

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด

  • น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
  • เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำร้อน 3+1/2 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 4 ถ้วย
  • พริกขี้หนู 200 กรัม
  • กระเทียมไทย 200 กรัม
  • ผักชี 200 กรัม
     

วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

     1. ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม ตามด้วยเกลือและน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนให้น้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำ จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน
     2. เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และผักชี ปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการ ตักใส่ขวดโหลแก้ว หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
 

วิธีทำปลาหมึกย่าง

     1. ล้างปลาหมึก ควักไส้ ดึงหมึก และลอกหนังดำ ๆ ออกให้สะอาด บั้งตัวปลาหมึกให้สวยงาม หรือหั่นเป็นชิ้นแล้วเสียบไม้ เตรียมไว้
     2. ทำน้ำหมักปลาหมึก โดยผสมผงขมิ้น น้ำเปล่า และซีอิ๊วดำหวานเข้าด้วยกัน
     3. ใส่ปลาหมึกลงไปหมักจนได้สีที่ต้องการ หรือหมักข้ามคืน โดยนำปลาหมึกใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงแช่ในถังน้ำแข็ง แล้วเอาน้ำแข็งโป๊ะทับไว้ข้างบนให้ท่วม เก็บได้นาน 3 วัน
     4. นำปลาหมึกไปย่างจนสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
 

ดูวิธีทำ ปลาหมึกย่าง เพิ่มเติมคลิก

9. ลูกชิ้นปิ้ง

          เมนูของกินงานวัดอย่างลูกชิ้นปิ้งก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งนี้ลูกชิ้นสามารถหาซื้อเจ้าอร่อย ๆ มาเสียบไม้เองได้เลย แต่น้ำจิ้มถ้าทำเองได้จะคุ้มกว่าเพราะเป็นเอกลักษณ์ สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำน้ำจิ้มมะขามเปียก
 

ส่วนผสม ลูกชิ้น

  • ลูกชิ้นหมูหรือลูกชิ้นไก่
  • ไม้เสียบ
     

ส่วนผสม น้ำจิ้มลูกชิ้น

  • พริกขี้หนู 8 เม็ด
  • กระเทียมกลีบใหญ่ 8 กลีบ
  • กระเทียมดอง 3 หัว
  • น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 1+1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสพริกศรีราชา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
     

วิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้น

     1. นำพริกขี้หนู กระเทียม และกระเทียมดองไปปั่นรวมกัน พักไว้
     2. ใส่น้ำตาลปี๊บลงในหม้อ เปิดเตาใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมะขามเปียกลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลาย ใส่เกลือลงไป ตามด้วยซอสพริกศรีราชากับน้ำกระเทียมดอง
     3. เอาพริกตำหรือปั่นมาใส่ในหม้อ คนผสมให้เข้ากัน รอให้เดือดแล้วชิมรสตามชอบ
     4. ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำ ใส่ลงไปพอให้เหนียวนิด ๆ เพราะพอเย็นตัวลงแล้วจะเหนียวมากกว่านี้ ปิดเตา พักน้ำจิ้มให้เย็นสนิท สุดท้ายใส่ผักชีซอย
     5. นำไม้แหลมมาเสียบลูกชิ้น ใช้มีดกรีดลูกชิ้นนิดหน่อย จับไปย่างใช้ไฟอ่อน ๆ ให้พอสุกเหลือง ย่างจนพองน่ากิน เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม

 

ดูวิธีทำ ลูกชิ้นปิ้ง เพิ่มเติมคลิก

10. ไข่นกกระทา

          ขนมไข่นกกระทาเหมาะมากที่จะขายในงานวัด เพราะต้นทุนต่ำและได้กำไรเยอะ ที่สำคัญลูกค้าที่เป็นเด็ก ๆ ก็ชอบซื้อกินด้วย สูตรนี้ใช้มันเทศสีเหลือง ใครจะใช้มันม่วงหรือมันเทศสีส้มก็ได้เช่นกัน เทคนิคที่จะทำให้ได้ลูกพองโตอยู่ที่การทอดค่ะ รับรองทำไม่ยากลองกันเลยค่ะ
 

ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา

  • แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 25 กรัม (ถ้าชอบแบบเหนียวนุ่ม ก็สามารถใช้แป้งข้าวโพดแทนได้)
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • เกลือ 1/2+1/4 ช้อนชา
  • มันเทศนึ่งบดละเอียด 350 กรัม
  • น้ำปูนใสประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ (ค่อย ๆ ใส่แล้วนวดจนแป้งไม่ร่วนและปั้นเป็นลูกได้ จะน้อยหรือมาก บวก-ลบน้ำเอาได้เลย)
     

วิธีทำขนมไข่นกกระทา

     1. ร่อนแป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ และผงฟู หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
     2. นำแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงไปในมันเทศที่นึ่งบดแล้ว แบ่งแป้งใส่สัก 3 รอบ นวดขยำจนเข้ากัน หลังจากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใสลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดจนแป้งเนียนไม่ร่วน สามารถปั้นเป็นก้อนได้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ เตรียมไว้
     3. ตั้งน้ำมันให้ร้อน แล้วนำไข่นกกระทาลงไปทอดด้วยไฟอ่อน ๆ คนไปด้วยขนมจะได้ไม่ไหม้ พอทอดจนขนมเริ่มเหลืองฟูขึ้น ก็นำตะหลิวกดยีขนม เพื่อให้ขนมฟูขึ้นจากขนาดเดิมประมาณ 1.5-2 เท่า ฟูมากก็กลวงมากค่ะ พอพองเหลืองแล้วก็ต้องทอดต่อไปอีกสัก 4-5 นาที เพื่อให้ผิวขนมเซตตัวกรอบดีก่อน ถ้าตักขึ้นมาเร็วก็จะยุบและแฟบ พอสุกพองเหลืองได้ที่แล้วก็ตักมาพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน

 

ดูวิธีทำ ไข่นกกระทา เพิ่มเติมคลิก

11. กล้วยทอด

          เมนูกล้วยทอดหรือกล้วยแขกเป็นอีกเมนูของกินงานวัดที่ใครได้กินจะเพลินมาก สูตรนี้ใส่งาขาวคั่วลงไปในแป้งเพิ่มความหอม ใครจะดัดแปลงเป็นกล้วยตากทอดก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
 

ส่วนผสม กล้วยทอด

  • กล้วยน้ำว้า 1 หวี (ในสูตรใช้ไปแค่ 8 ลูก เพราะว่าลูกใหญ่)
  • แป้งทอดกรอบ (โกกิ) 1 ถ้วย (แป้งสาลีอเนกประสงค์หรือแป้งข้าวเจ้า)
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
  • งาขาวคั่ว 1 ถ้วย
  • น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 2 ถ้วย
     

วิธีทำกล้วยทอด

     1. ใส่แป้งโกกิหรือแป้งทอดกรอบลงในอ่างใหญ่ ใส่กะทิลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
     2. เติมน้ำเปล่าลงไป (ในสูตรใส่น้ำอุณหภูมิห้อง แต่ถ้าเป็นน้ำเย็นจัดน่าจะกรอบกว่า) คน ๆ ให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลทรายละลาย
     3. ใส่มะพร้าวขูดลงไป ตามด้วยงาขาวคั่ว คนจนส่วนผสมแป้งข้นเล็กน้อย
     4. ใส่น้ำปูนใสลงไป จะทำให้กล้วยทอดกรอบนาน (วิธีทำน้ำปูนใส ในสูตรเอาปูนแดง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำใส่ขวด ปิดฝาเขย่าให้ปูนละลาย แล้วก็ตั้งไว้ปล่อยให้ปูนแดงตกลงก้นขวด เอาน้ำใส ๆ มาทำอาหาร ส่วนน้ำปูนใสที่เหลือเก็บไว้อุณหภูมิห้องธรรมดาได้นาน)
     5. ใส่เกลือ คนให้เข้ากัน ใส่กล้วยน้ำว้าฝานลงไปในส่วนผสมแป้งแล้วทอด (ในสูตรฝานลูกหนึ่งแค่ 3 ชิ้น เพราะชอบชิ้นหนา)
     6. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ๆ ไปทางร้อนใส่น้ำมันลงไป เอากล้วยชุบแป้งลงทอดจนเหลืองกรอบได้ที่ตักขึ้น

 

ดูวิธีทำ กล้วยทอด เพิ่มเติมคลิก

ของหวาน

12. ขนมเบื้อง

          เมนูขนมเบื้องขายในงานวัดแทบทุกงาน จะทำชิ้นใหญ่ หรือชิ้นเล็กก็แล้วแต่สไตล์ สำหรับใครอยากทำขายงานวัดเตรียมทำแป้งและครีมกันเลย ส่วนไส้ก็มีทั้งไส้เค็มคือไส้กุ้ง และไส้หวานคือไส้ฝอยทอง
 

ส่วนผสม แป้งขนมเบื้อง

  • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
  • แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซาหริ่ม 50 กรัม
  • น้ำเย็นจัด 150 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
     

ส่วนผสม ครีมขนมเบื้อง

  • ไข่ขาว 3/4 ถ้วย หรือประมาณ 2 ฟอง
  • น้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
  • น้ำมะนาว
     

ส่วนผสม ไส้หวาน

  • ฝอยทอง
  • มะพร้าวขูด
     

วิธีทำขนมเบื้อง

     1. นำแป้งสองชนิด (แป้งข้าวเจ้าและแป้งถั่วเขียว) มาผสมกันแล้วเทน้ำเย็นตามลงไป ตีให้พอเข้ากัน จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ ใช้ตะกร้อตีจนน้ำตาลละลายหมด ใช้มือช่วยบี้ ๆ ให้น้ำตาลละลายก็ได้ พักแป้งไว้ก่อน
     2. ทำครีมโดยใช้ไข่ขาวตีกับน้ำตาลไอซิ่ง ถ้าใครจะใช้น้ำตาลธรรมดาก็ได้ แต่ขอให้เป็นน้ำตาลทรายละเอียด น้ำตาลจะได้ละลายเร็ว ๆ หยดน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ครีมตั้งยอดเร็วขึ้น
     3. ตั้งเตา เทส่วนผสมแป้งลงไป แล้วก็แผ่แป้งให้บางที่สุดเท่าที่จะบางได้ พอแป้งเริ่มมีสีน้ำตาลก็ให้ละเลงครีมลงไป จะสังเกตเห็นว่าครีมเริ่มสุกและพองตัวขยายขึ้น ใส่ฝอยทองกับมะพร้าวขูดลงไป จากนั้นก็พับครึ่งวางบนตะแกรงเลย

 

ดูวิธีทำ ขนมเบื้อง เพิ่มเติมคลิก

13. โดนัท

ของกินงานวัด

           พ่อค้าแม่ค้าที่อยากขายโดนัทน้ำตาลในงานวัด มาจดวิธีทำแป้งโดนัทกันเลยค่ะ สูตรนี้ใส่สีผสมอาหารสีเหลือง พอพักแป้งเรียบร้อยก็เอาไปทอดจนสุก
 

ส่วนผสม โดนัทน้ำตาล

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
  • ผงฟู 8 กรัม
  • นมผง 40 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 240 กรัม
  • เกลือ 2 ช้อนชา
  • น้ำ 300 กรัม
  • ไข่ไก่ (ไข่ทั้งฟองตีให้เข้ากัน) 160 กรัม
  • น้ำมันพืช 60 กรัม
  • สีผสมอาหารสีเหลือง 12 หยด
  • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
  • น้ำตาลทราย (สำหรับคลุก)
     

วิธีทำโดนัทน้ำตาล

     1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู นมผง และน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน เติมเกลือลงไป
     2. เติมน้ำ ไข่ไก่ น้ำมันพืช และสีผสมอาหารสีเหลืองลงในส่วนผสมแป้ง คนเบา ๆ จนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ประมาณ 15 นาที
     3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปใช้ไฟปานกลาง นำส่วนผสมเทลงเครื่องหยอดโดนัท กดลงบนน้ำมันที่ร้อนได้ที่ เมื่อโดนัทลอยขึ้นให้พลิกกลับด้าน ทำการทอดจนมีสีเหลืองสวยทั้งชิ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน นำไปคลุกน้ำตาลทรายขณะยังอุ่น พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ โดนัทน้ำตาล เพิ่มเติมคลิก

14. น้ำแข็งไส

           น้ำแข็งไสใคร ๆ ก็ทำขายกัน ลองแปลงร่างเป็นแตงโมไสดีไหม แค่จับแตงโมไปแช่เย็นจนแข็ง แล้วเอาไปปั่นจนละเอียด ตักใส่ถ้วย ราดนมข้นหวานและแต่งด้วยเจลลี่หรืออื่น ๆ ตามชอบ
 

ส่วนผสม แตงโมไส

  • แตงโม
  • นมข้นหวาน
  • เม็ดเจลลี่ (ตกแต่ง) หรือท็อปปิ้งอื่น ตามชอบ
  • เครื่องปั่น
     

วิธีทำแตงโมไส

     1. หั่นเฉพาะเนื้อแตงโมเป็นชิ้น ๆ นำเม็ดออกให้หมด จากนั้นนำเข้าช่องแช่แข็งให้แตงโมเป็นก้อนน้ำแข็งประมาณ 1 คืน
     2. นำแตงโมที่แข็งแล้วไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียดตามชอบ
     3. ตักใส่ถ้วย ราดด้วยนมข้น แต่งด้วยเจลลี่ให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ แตงโมไส เพิ่มเติมคลิก

15. เฉาก๊วย

          อากาศร้อน ๆ ขอแนะนำให้ขายเฉาก๊วยในงานวัดเลยจ้า สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำเฉาก๊วย และน้ำเชื่อม ทั้งนี้สามารถใส่ท็อปปิ้งอื่น ๆ เช่น วุ้นมะพร้าว พุทราจีน แปะก๊วย เป็นต้น
 

ส่วนผสม เฉาก๊วย

  • ผงทำเฉาก๊วย 1 ซอง
  • น้ำเปล่า 1 ลิตร
  • น้ำตาลทองธรรมชาติ
  • น้ำเปล่า (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
  • น้ำแข็ง สำหรับเสิร์ฟ
     

วิธีทำเฉาก๊วย

     1. เทผงเฉาก๊วยใส่ลงอ่างผสม เติมน้ำ 250 มล. ลงไป คนผสมให้เข้ากันดี เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำที่เหลือ (750 มล.) ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด พอน้ำเดือดแล้วปรับเป็นไฟอ่อนแล้วเทส่วนผสมเฉาก๊วยลงไปกวนผสมให้เข้ากันจนข้นและเนียน ปิดไฟแล้วเทใส่พิมพ์แล้วพักไว้ให้เย็นและเฉาก๊วยเซตตัว
     3. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลลงในหม้อ ตามด้วยน้ำ (อัตราส่วน หวานมาก-น้อยตามชอบ) นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด ปิดไฟ เตรียมไว้
     4. ตักเฉาก๊วยใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำเชื่อม เติมน้ำแข็ง หรือจะหั่นซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ ใส่แก้ว หรือเอาเข้าช่องฟรีซจะได้น้ำเชื่อมเป็นวุ้น ๆ อร่อยชื่นใจ

 

ดูวิธีทำ เฉาก๊วย เพิ่มเติมคลิก

เครื่องดื่ม

16. ชาไข่มุก

ของกินงานวัด

          เอ่ยถึงเครื่องดื่มสุดฮิตส่วนใหญ่จะนึกถึงชาไข่มุก สูตรนี้ส่วนผสมมีแค่ผงชา น้ำตาลทราย นมสด และไข่มุก ใครจะดัดแปลงเป็นโกโก้ไข่มุก ชาเขียวไข่มุก หรือกาแฟไข่มุกก็ตามชอบเลยค่ะ
 

ส่วนผสม ชานมไข่มุก

  • ผงชา 1 ช้อนชา
  • น้ำเดือด 8 ออนซ์
  • น้ำตาลทราย เล็กน้อย (ปรุงรส)
  • ไข่มุกต้มสุก 1/4 ถ้วย
  • น้ำแข็ง
  • นมสด (ตามชอบ)
     

วิธีทำชานมไข่มุก

     1. แช่ผงชากับน้ำร้อนไว้ประมาณ 5 นาที พอครบเวลากรองเอาชาออก
     2. เติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบ คนให้ละลายแล้วพักทิ้งไว้จนเย็น
     3. ตักไข่มุกใส่แก้ว ตามด้วยน้ำแข็ง เทน้ำชาที่เย็นแล้วลงไปจนเกือบเต็ม สุดท้ายเติมนมสดลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ ชานมไข่มุก เพิ่มเติมคลิก

17. น้ำเก๊กฮวย

ของกินงานวัด

           น้ำเก๊กฮวย น้ำสมุนไพรแบบไทย ๆ ดื่มเพื่อสุขภาพและคลายร้อน สูตรนี้ทำจากดอกเก๊กฮวยแห้ง ต้มกับน้ำใบเตย เติมน้ำตาลทรายหน่อย ก่อนเสิร์ฟตักใส่น้ำแข็ง
 

ส่วนผสม น้ำเก๊กฮวย

  • ดอกเก๊กฮวยแห้ง 1 กำมือ
  • น้ำ 2 ลิตร
  • น้ำตาลทราย 500 กรัม
  • ใบเตย 10 ใบ
     

วิธีทำน้ำเก๊กฮวย

     1. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด ใส่ดอกเก๊กฮวยลงไปเคี่ยวสักพัก
     2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
     3. พอน้ำเก๊กฮวยเริ่มอุ่นยกลงกรอง ตักใส่แก้วหรือบรรจุใส่ขวด

 

ดูวิธีทำ น้ำเก๊กฮวย เพิ่มเติมคลิก

18. น้ำจับเลี้ยง

ของกินงานวัด

          ถ้าขายน้ำเก๊กฮวยอย่างเดียวก็ตัวเลือกน้อยไปหน่อย ลองเพิ่มน้ำจับเลี้ยงด้วยดีไหม สูตรนี้ใส่น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดงก็ได้ ก่อนเสิร์ฟเติมน้ำแข็ง
 

ส่วนผสม น้ำจับเลี้ยง

  • จับเลี้ยงสำเร็จรูปน้ำหนักประมาณ 50-70 กรัม จำนวน 1 ห่อ
  • น้ำ 2 ลิตร
  • น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลทรายแดง (ตามชอบ)
     

วิธีทำน้ำจับเลี้ยง

     1. ใส่เครื่องจับเลี้ยงลงในหม้อ ตามด้วยน้ำ ต้มไฟอ่อนจนเดือด และน้ำเปลี่ยนสี ประมาณ 20 นาที ยกลงจากเตา กรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะน้ำ เทกลับใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ
     2. ใส่น้ำตาลทรายแดง คนผสมให้เข้ากัน ต้มจนเดือด ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตักใส่ขวด นำเข้าแช่เย็นจนถึงเวลาดื่ม

 

ดูวิธีทำ น้ำจับเลี้ยง เพิ่มเติมคลิก

19. น้ำเต้าหู้

          สำหรับลูกค้าที่รักสุขภาพและอยากเติมโปรตีนจากถั่ว ขอแนะนำน้ำเต้าหู้ สูตรนี้ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ ส่วนท็อปปิ้งก็แล้วแต่ลูกค้าว่าอยากจะใส่หรือไม่ แต่ก็ควรมีติดไว้ เช่น ถั่วแดง ลูกเดือย ข้าวบาร์เลย์ เม็ดแมงลัก เป็นต้น
 

ส่วนผสม น้ำเต้าหู้

  • ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
  • ถั่วลิสง 1 ถ้วย
  • อัลมอนด์ 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า
  • น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวานตามชอบ)

หมายเหตุ : อัตราส่วนผสมระหว่างถั่วกับน้ำคือ 1:3
 

วิธีทำน้ำเต้าหู้

     1. ล้างถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน (ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
     2. ใส่ถั่วทั้งหมดที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3) แล้วปั่นให้เข้ากันประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
     3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
     4. นำน้ำเต้าหู้ขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้)
     5. ตักน้ำเต้าหู้ที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ น้ำเต้าหู้ เพิ่มเติมคลิก

20. นมเย็น

ของกินงานวัด

          นมเย็นก็เป็นอีกเครื่องดื่มงานวัดยอดฮิต ส่วนผสมไม่เยอะ มีสีสันและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงเป็นนมเย็นไข่มุกได้ด้วยนะคะ
 

ส่วนผสม นมเย็น

  • นมสด 150 มิลลิลิตร
  • นมข้นหวาน 30 มิลลิลิตร
  • น้ำหวานสีแดง 2 ช้อนชา
  • นมข้นจืด (โรยหน้า)
     

วิธีทำนมเย็น

     1. ผสมนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวานเข้าด้วยกันจนเป็นสีชมพู
     2. เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ราดด้วยนมข้นจืด หรือวิปปิ้งครีม พร้อมเสิร์ฟ

 

ดูวิธีทำ นมเย็น เพิ่มเติมคลิก

          ใครอยากได้สูตรอาหารงานวัดสำหรับขายเพิ่มรายได้มาเลือกและจดสูตรกันเลยค่ะ มีทั้งอาหารคาว อาหารว่าง อาหารหวาน และเครื่องดื่ม เริ่มขายก่อนรวยก่อนนะคะ

 

สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing คลิกเลย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
20 สูตรของกินงานวัด เมนูสร้างอาชีพขายดีทำไม่ยากกำไรเร็ว โพสต์เมื่อ 29 พฤษภาคม 2562 เวลา 12:32:20 113,073 อ่าน
TOP