17 เมนูจากน้ำพริกแกงเผ็ด ทั้งอาหารจานเดียวและกับข้าวทำง่าย ๆ

     1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดกับหัวกะทิลงผัดจนแตกมัน จากนั้นใส่เนื้อเป็ดย่างลงผัดให้เข้ากัน
     2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ เตรียมไว้
     3. ใส่หางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ส่วนผสมเป็ดผัดพริกแกงลงต้มจนเดือด ใส่สับปะรด มะเขือเทศราชินี และใบมะกรูดลงต้มจนเดือด โรยใบโหระพา ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม แต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพา
 

     1. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ตามด้วยกะทิ ผัดให้เข้ากัน
     2. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัด เติมน้ำซุปลงไปคนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือดแล้วลดไฟอ่อนลง พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนเครื่องแกงซึมเข้าเนื้อไก่และเปื่อยเล็กน้อย
     3. ใส่ใบมะกรูดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย เติมกะทิที่เหลือลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
     4. ใส่หน่อไม้ลงไปคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยพริก รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่ใบโหระพาลงไปคนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
 

     1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดให้หอม
     2. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนเกือบสุก เติมน้ำเปล่าลงไป (สำหรับทำน้ำแกงปริมาณตามชอบ)
     3. รอให้น้ำเดือดใส่เห็ดแชมปิญองลงไป ต้มจนเดือดอีกครั้ง แล้วต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที
     4. ใส่ปลาร้าลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย น้ำปลาเล็กน้อยแค่พอตัดรส และผงปรุงรส คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
     5. ปิดไฟแล้วใส่ใบกะเพรา คนให้เข้ากัน ตักแกงเผ็ดเห็ดใส่ถ้วย โรยด้วยพริกขี้หนูสด
 

     1. เทหางกะทิลงไปในหม้อ ใส่เนื้อวัวลงไปคนให้เข้ากัน เคี่ยวจนเริ่มเปื่อย ยกลงจากเตา เตรียมไว้
     2. ตั้งกระทะใส่หัวกะทิลงไปผัดจนเดือด ตามด้วยน้ำพริกแกง ผัดจนกะทิแตกมัน
เคล็ดลับ : การแยกผัดหัวกะทิกับพริกแกงจะทำให้สีของแกงเนื้อดูจัดจ้านน่ากิน
     3. ใส่ส่วนผสมพริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟต้มและคนให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นเบาไฟลง ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลา
     4. หั่นมะเขือเปราะแบบผ่า 4 ส่วนแล้วใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยมะเขือพวงและพริกชี้ฟ้า คนให้เข้ากันรอจนเดือดอีกครั้ง
     5. ใส่ใบโหระพาลงไปคนต่อสักครู่ ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
 

     1. เอาใบกะเพรามาเด็ดและล้างให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง นำไปทอดให้กรอบ
     2. หั่นปลาดุกเป็นชิ้น นำมาล้างด้วยเกลือ หรือแป้งมันให้หมดเลือด จะได้ไม่คาว หั่นเป็นชิ้นแบบในรูปแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ หรือจะใช้กระดาษซับน้ำให้แห้ง ก่อนทอดนำไปคลุกกับแป้งทอดกรอบบาง ๆ เลย
     3. ตั้งกระทะ เติมน้ำมันลงไป เปิดไฟให้ร้อนแล้วนำปลาลงทอด (การเอาปลาคลุกแป้งทำให้ปลาไม่ติดกัน เวลาทอดจะกรอบเหลือง) ทอดให้กรอบเลย ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
    4. นำน้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดกับน้ำมันเล็กน้อยให้หอม ถ้าแห้งเติมน้ำนิดหน่อย จากนั้นใส่พริกชี้ฟ้าและกระชายซอยฝอยลงผัดให้หอม ฉีกใบมะกรูดลงไปเพื่อเพิ่มความหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย ชิมรสให้ถูกใจ
    5. นำปลาดุกทอดกรอบที่พักไว้ลงผัดให้เข้ากัน โรยด้วยใบกะเพรากรอบ
 

     1. ใส่ทุกอย่างรวมกัน คนผสมให้เข้ากัน หมักไว้ 30 นาที
     2. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำไก่ที่หมักไว้ลงไปทอด พอไก่สุกเหลืองให้ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไปทอดต่อจนกรอบ ตักขึ้น
 

     1. สไลซ์เนื้อวัวให้ได้ขนาดตามต้องการ
     2. หั่นลำต้นบรอกโคลี หั่นพริก ใบมะกรูด และปาปริก้า
     3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป ใช้ไฟอ่อน ผัดพริกแกงแดงกับน้ำมันจนหอม
     4. ใส่ลำต้นบรอกโคลี ปาปริก้า พริกจินดา และใบมะกรูด ผัดพอให้ผักสุก ใส่น้ำเปล่า
     5. ใส่เนื้อลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ ผัดต่ออีกสักครู่ ตักเสิร์ฟ
 

     1. ผ่าหลังกุ้งทั้งเปลือก เลือกเอาลำไส้ออก ส่วนหัวก็กรีดลง ควักเอากระเพาะอาหารออกมา กระเพาะกุ้งจะเป็นถุงอยู่บนหัวกุ้ง ลักษณะคล้าย ๆ กระเพาะปู บางคนเมาเพราะอาจจะไปโดนน้ำย่อยในส่วนนี้
     2. เพิ่มกุ้งแห้งใส่น้ำพริกแกงเพื่อให้เนื้อเครื่องแกงข้น เวลาผัดออกมาแล้วดูดี
     3. ตั้งกระทะให้น้ำมันร้อน เอากุ้งลงไปทอดจนตัวสุก ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที เพราะมีผ่าหลัง ทอดหัวกุ้งต่อ เอาตัวขึ้นพาดบนกระทะ จุ่มหัวลงทอดอีกราว 2-3 นาที แล้วตักพักรอไว้
     4. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนสุกหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลแว่น ชิมรสชาติให้หวานมาก่อนเค็มตามด้วยเผ็ด ใส่ถั่วฝักยาว ตามด้วยกุ้ง เปิดไฟแรงให้ถั่วสลด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูดฝอย
 

     1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกส่วนผสมทั้งหมดจนละเอียด เสร็จแล้วนำน้ำพริกแกงลงผัดกับน้ำมันนิดหน่อยจนหอม จากนั้นก็ใส่หัวกะทิทีละน้อยจนหมด ผัดจนกะทิแตกมัน ใส่เนื้อติดมันลงไปผัดให้เข้ากันดีแล้วเปลี่ยนใส่หม้อใหญ่ เติมหางกะทิ รอเคี่ยวให้เนื้อนุ่มสักนิด
     2. ใส่หน่อไม้ที่หั่นเตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บ ตั้งไฟให้เดือด ชิมรสตามชอบ ถ้าเป็นพริกแกงซื้อต้องระวังในการใส่น้ำปลา เพราะพริกแกงเขาจะใส่เกลือมาให้แล้ว ความเค็มต้องระวังนิดหนึ่ง ใส่ใบมะกรูดฉีก และใส่ใบโหระพา
 

     1. ทำกระทงห่อหมกโดยตัดใบตองเป็นวงกลม 2 แผ่นแล้วนำมาประกบกัน จับจีบแล้วแม็กหรือใช้ไม้กลัดทั้ง 4 มุม ตัดแต่งส่วนเกินของกระทงออกให้สวยงาม
     2. ใส่ปลากราย ไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ พริกแกงเผ็ด กระชาย น้ำปลา และกะทิลงในโถปั่นแล้วปั่นให้ละเอียดเข้ากัน
     3. นำผักกาดขาวลวกหรือใบโหระพามารองที่ก้นกระทง ใส่ห่อหมกที่ปั่นไว้ลงไปประมาณ 1/2 ส่วน แล้วใส่กุ้งสด สุดท้ายใส่เนื้อห่อหมกทับอีกที
     4. ตั้งน้ำให้เดือดใช้ไฟปานกลาง นำห่อหมกใส่ลังถึงนึ่งประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าจะสุก
     5. ทำหน้ากะทิราดห่อหมกโดยนำกะทิ เกลือ และแป้งข้าวโพดมาผสมรวมกันแล้วคนให้เข้ากัน นำใส่ไมโครเวฟ ประมาณ 1-2 นาที หรือจนกว่าแป้งจะสุกและข้น นำกะทิมาราดบนห่อหมกที่สุกแล้ว และตกแต่งด้วยพริกแดงซอยกับใบมะกรูดซอย พร้อมจัดเสิร์ฟได้เลย
 

     1. เทน้ำหรือน้ำมันออกจากทูน่ากระป๋องให้แห้ง นำถั่วฝักยาวไปลวกให้สุก เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย ใส่น้ำพริกแกงลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา
     3. ใส่เนื้อปลาทูน่าลงไป ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่ถั่วฝักยาวที่ลวกแล้วลงไป ตามด้วยใบมะกรูด ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ
 

     1. ลวกถั่วฝักยาวในน้ำเดือด ประมาณ 20 วินาที ตักขึ้นใส่ลงแช่ในน้ำเย็น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ จากนั้นใส่หมูลงผัดจนสุก ใส่ถั่วฝักยาว และใบมะกรูดลงผัดสักครู่ ยกลงจากเตา ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
 

     1. โขลกน้ำพริกแกงกับขิงเข้าด้วยกัน (สำหรับคนที่ชอบกลิ่นขิง) ใส่น้ำพริกแกงลงในกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟอ่อน ๆ ผัดให้พอหอม
     2. พอน้ำพริกแกงมีกลิ่นหอมแล้ว ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ผัดจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดีกับน้ำพริกแกง
     3. ใส่แคบหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
     4. ใส่ปลาแห้งป่นลงไป เติมน้ำปลาแล้วผัดผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ให้รสชาติเผ็ดนำ หวานตาม เค็มนิด ถ้าได้ที่แล้วก็ปิดเตาได้เลย)
     5. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยใบมะกรูดซอยฝอย พร้อมเสิร์ฟ
 

     1. หั่นมันหมูเป็นชิ้นเล็ก ๆ
     2. ตั้งกระทะ ใส่มันหมูลงไป จากนั้นใส่น้ำสะอาดลงไปพอให้น้ำท่วมมันหมู เปิดไฟแรงพอเดือด ใส่เกลือป่นลงไป แล้วเบาไฟลงอ่อน ๆ เพื่อรีดน้ำมันหมูออกมา หมั่นคนไม่ให้ติดกัน ขั้นตอนนี้น้ำก็จะระเหยออกไป ส่วนน้ำมันหมูก็จะเริ่มเข้ามา หมั่นคนต่อไปเรื่อย ๆ ใช้ไฟเบาเข้าไว้ ทอดจนมันหมูเหลือง ตักขึ้นกรองเอาน้ำมันออกให้หมด คนอย่าให้มันหมูติดกัน ตักใส่ถ้วย พักไว้
     3. โขลกขิงให้ละเอียด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปโขลกให้เข้ากัน เตรียมไว้
     4. ละลายน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาเข้าด้วยกัน
     5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันหมูประมาณ 1 ทัพพีลงไป ใช้ไฟเบา ๆ จากนั้นใส่น้ำพริกลงไปผัดให้หอม เติมส่วนผสมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บลงไป ใส่ปลาแห้งป่น ผัดให้เข้ากันและชิมรส ใส่กากหมูลงไป ปิดไฟ ผัดผสมให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอย ใส่ไข่เค็ม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยใบมะกรูดซอย
 

     1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงรวมกันให้ละเอียด เตรียมไว้
     2. โขลกมะยมกับเกลือป่นพอแตก แล้วนำเมล็ดออก ล้างให้สะอาด บีบให้แห้งเตรียมไว้
     3. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่หอยแมลงภู่ลงลวกแค่พอสุก ตักขึ้นใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
     4. ผสมน้ำพริกแกงกับหางกะทิ คนให้ละลายแล้วใส่มะยมลงไป ยกขึ้นตั้งไฟพอเดือด แล้วเคี่ยวต่อสักครู่ให้เนื้อมะยมนิ่ม ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ รอให้เดือดอีกครั้งแล้วค่อยใส่หอยแมลงภู่ลงไป ชิมรสชาติตามชอบ สุดท้ายใส่ใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าลงไป คนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
 

          แหม… น่าจะเจอเมนูน้ำพริกแกงก่อนอาหารมื้อเย็น ไม่งั้นคงได้กินไปแล้วล่ะ แต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้จะออกไปช้อปปิ้งวัตถุดิบแต่เช้าเลย จะได้ทำกินวนไปสามมื้อเลยจ้า