อร่อยแรงกว่าทุกเค้กก็คือเมนูเค้กกล้วยหอมธัญพืชนี่เอง ใส่กล้วยสุกงอมหวาน ๆ ที่เกือบเอาไปทิ้งขว้าง จะเอาไปนึ่งหรืออบก็ได้ โรยหน้าด้วยเครื่องจัดเต็ม แหม… ออกมาสวยงามฟรุ้งฟริ้งเลย
จากที่เคยทำเค้กกล้วยหอม เบเกอรี่หน้าโล้น ๆ ลองแต่งเติมท็อปปิ้งด้านบนหน่อยดีไหมเอ่ย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเค้กกล้วยหอมธัญพืช สูตรจาก Easy food good health by Andy จับกล้วยหอมแบบสุกงอมแปลงร่างเป็นเค้กหน้าตาน่ารัก เพิ่มเติมธัญพืชด้วยนะ
เค้กกล้วยหอมธัญพืชนึ่งและอบ โดย Easy food good health by Andy
สวัสดีค่ะ วันนี้มาชวนทำเค้กกล้วยหอมธัญพืชรวม มีกล้วยหอมแบบงอม ๆ เปลือกดำ ด้วยความเสียดายจึงนำมาแปลงร่างเป็นเค้กกล้วยหอมธัญพืช สวยงามน่ากินไปอีก บ้านไหนสะดวกวิธีไหนเลือกทำได้เลยค่ะ สูตรนี้นึ่งได้อบได้ค่ะ
ส่วนผสม เค้กกล้วยหอมธัญพืช
- กล้วยหอม 1 ลูก (120 กรัม)
- ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย (74 กรัม)
- กลิ่นเนยวานิลลา 1/4 ช้อนชา
- นมจืด 100 มิลลิลิตร (88 กรัม)
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1/8 ถ้วย (50 กรัม หรือ 45 มิลลิลิตร)
- แป้งเค้ก ตรามงกุฎม่วง 136 กรัม (1 ถ้วย)
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- ธัญพืชอบแห้ง ได้แก่ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ แครนเบอร์รีอบแห้ง
วิธีทำเค้กกล้วยหอมธัญพืช
★ ผสมน้ำมะนาวในนมจืด ตั้งทิ้งไว้ 15 นาที
★ บดกล้วยละเอียดหรือหยาบตามชอบ แอนใช้กล้วยหอมที่งอมมาก ๆ ค่ะ
★ ตอกไข่ไก่ลงไปผสม ตามด้วยน้ำตาลทรายและกลิ่นเนยวานิลลา คนให้เข้ากัน นำนมจืดผสมมะนาวใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
★ จากนั้นค่อย ๆ รินน้ำมันรำข้าวใส่ลงไป คนจนเข้ากันดี
★ ร่อนแป้งและผงฟูลงไป ประมาณ 2-3 สามรอบ ตะล่อมแป้งจนเข้ากัน พักไว้ 30 นาที
★ เมื่อพักแป้งครบตามเวลา คนไล่ฟองอากาศ ตักใส่พิมพ์สำหรับนึ่ง แอนใช้พิมพ์จีบรองด้วยพิมพ์กระดาษจีบเบอร์ 2818 โรยหน้าด้วยธัญพืชอบแห้ง
★ นำไปนึ่งหลังน้ำเดือด ใช้ไฟปานกลาง นึ่งนาน 20 นาที
★ วอร์มเตาอบ ตักใส่พิมพ์สำหรับอบ แอนใช้พิมพ์มัฟฟินขนาด 6 ชิ้น โรยหน้าด้วยธัญพืชอบแห้ง นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบนาน 20 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง ได้เป็นเนื้อนุ่ม ๆ หน้าไม่กรอบ
★ เพียงเท่านี้ก็ได้เค้กกล้วยหอมไว้กินแล้วค่ะ
ถ้าทำเค้กกล้วยหอมธัญพืชกินเอง หน้าก็จะแน่นตรงปกแบบนี้แหละเนอะ ถ้าไม่มีกล้วยหอมก็ใช้กล้วยน้ำว้าหรือกล้วยไข่แทนก็ได้ค่ะ ก็จะได้ความหอมอร่อยไปอีกแบบ ลองแต่งจานกินกับไอศกรีมกันดูแล้วจะติดใจเด้อค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
Easy food good health by Andy
