15 เมนูนมสด อร่อยหลากสไตล์ที่ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม

     1. ผสมน้ำตาลกับนมอุ่น คนให้น้ำตาลละลาย ใส่ยีสต์แล้วรอสักพักจะมีฟองอากาศ ใส่น้ำตาลแค่บางส่วนก่อนเพื่อทดสอบว่ายีสต์ที่เก็บไว้ยังใช้ได้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ได้ทำขนมปังบ่อย ๆ แล้วมียีสต์ที่เก็บไว้ เวลาเอาออกมาใช้ควรทดสอบก่อน (สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ อุณหภูมิของนม ถ้าเผลออุ่นจนเดือดให้รอจนอุณหภูมิลดลงมาเหลือแค่อุ่น ๆ ถ้าเทยีสต์ลงในนมเดือด ยีสต์ตายหมด)

     2. ใส่ยีสต์ที่ผสมกับนม แล้วใส่เกลือ ไข่ และน้ำตาลทรายที่เหลือ ลงไปในชามแป้งขนมปัง นวดให้เข้ากันประมาณ 5 นาที ขั้นตอนนี้จะแฉะ ๆ หน่อย เดี๋ยวใส่เนยแล้วจะดีขึ้น เมื่อนวดได้สักพักให้ใส่เนยลงไปแล้วนวดประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าแป้งโดว์เนียน

     3. เวลานวดแป้ง ถ้ารู้สึกว่าแห้งไปให้ใส่น้ำเพิ่มทีละ 1 ช้อนโต๊ะ ถ้าเหลวไปให้ค่อย ๆ เพิ่มแป้ง เพราะแป้งแต่ละยี่ห้อและอุณหภูมิของแต่ละวันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นนอกจากสูตรที่ให้แล้วต้องกะเอาด้วย นวดแล้วเนื้อแป้งโดว์นิ่ม ๆ มีความยืดหยุ่น แสดงว่ามาถูกทางแล้ว นวดให้เป็นก้อนกลมแล้วพักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง ทาน้ำมันลงในชามก่อนพักแป้ง

     4. เมื่อพักแป้งเสร็จแล้วให้ชกไล่ลมแล้วแบ่งเป็นก้อนเท่า ๆ กัน แบ่งทั้งหมด 24 ก้อน แบ่ง 16 ก้อนเอาไว้ใส่แม่พิมพ์แบบ 8x8 นิ้ว ส่วนที่เหลือจะแบ่งใส่พิมพ์อันเล็ก พิมพ์ละ 4 ก้อน หลังจากแบ่งแป้งแล้วให้คลึงแป้งเป็นก้อนกลม แล้วพักไว้ประมาณ 10 นาที

     5. หลังจากพักแป้งแล้วให้คลึงแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ อีกรอบ ใส่ลงในแม่พิมพ์ และพักแป้งอีกประมาณ 35-40 นาที การพักแป้งรอบนี้ต้องคอยดู ถ้าพักแป้งในเวลาที่พอดี เวลาแตะลงไปจะรู้สึกถึงอากาศที่พองอยู่ในขนมปังแต่ตัวโดว์ไม่ยุบลงไป ถ้าพักแป้งนานเกินไปเวลาเอามือไปแตะโดว์จะยุบ เพราะว่ามีอากาศมากเกินไปในแป้งโดว์ เวลาอบก็จะยุบไม่สวยด้วย

     6. ทาหน้าขนมปังด้วยไข่ผสมนมสดเบา ๆ ถ้าชอบหน้าขนมปังสีเข้ม ๆ ให้ใส่ไข่เยอะกว่านม แต่ถ้าชอบแบบขาว ๆ ก็ทาแต่นมสดอย่างเดียวก็ได้

     7. นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ไม่เปิดพัดลม ประมาณ 20 นาที อบเสร็จใหม่ ๆ อย่าลืมทาเนยสดที่หน้าขนมปัง
 

     1. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ที่ร่อนไว้แล้ว) น้ำตาลทราย เกลือป่น และยีสต์ แล้วตีหรือผสมพอเข้ากัน จากนั้นใส่ไข่แดง นม กลิ่นวานิลลา ตีพอแป้งจับตัวกันเป็นก้อน

     2. ใส่เนยสดลงไป แล้วตีจนแป้งเนียนขึงเป็นฟิล์มบาง ๆ ได้ รวบแป้งให้หน้าตึงแล้วพักแป้งไว้ให้ฟูขึ้น 2 เท่า ประมาณ 1 ชั่วโมง (ใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุมไว้ หรือเป็นผ้าหมาด ๆ ก็ได้)

     3. พอแป้งขึ้นฟูแล้วก็ชกไล่ลม จากนั้นแบ่งแป้งชั่งน้ำหนักให้ได้ก้อนละ 50 กรัม ขึงเป็นลูกกลม ๆ (จะกดให้แบนสักนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ) แล้วพักไว้ 20 นาที หรือแป้งขึ้นฟูประมาณ 50%

     4. จากนั้นใช้นิ้วจุ่มแป้งนวล แล้วเจาะรูลงไป หรือจะใช้ฝาทรงกระบอกจุ่มแป้งนวลแล้วกดลงไป ก็จะได้โดนัทมีรูตรงกลางกลมสวยน่ากินเหมือนกัน จากนั้นพักแป้งไว้อีก 10 นาที ก่อนนำไปทอด

     5. ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วปรับความร้อนกลาง ๆ ไปทางอ่อนนิดหน่อย นำด้านที่สวยคว่ำลง ทอดจนเหลืองสวย แล้วกลับอีกด้านทอดจนสุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน จากนั้นตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันบนตะแกรง จนโดนัทเย็นสนิท จะนำไปเคลือบไอซิ่งเกลซหรือคลุกน้ำตาลทรายก็อร่อย
 

     1. ตัดชีสแผ่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามต้องการ 

     2. เทนมสดลงบนกระทะหรือหม้อ เติมแป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย และไข่แดง 2 ฟอง คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี

     3. นำไปตั้งไฟกลางและคนเรื่อย ๆ พอนมเริ่มอุ่นให้เติมชีสลงไป กวนต่อให้ชีสละลายและมีความข้นเหนียว เทใส่กล่องในขณะที่ยังอุ่น ๆ ปาดหน้าให้เรียบและคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร

     4. ทิ้งให้คลายร้อนและนำเข้าตู้เย็นให้เซตตัวอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้นขนาดตามที่ต้องการ

     5. แปรงขนมด้วยไข่แดงที่เหลือ ก่อนจะนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที (วอร์มเตาอบไว้ก่อน) เอาความเข้มตามชอบได้เลย
 

     1. ใช้ที่ตักแตงโม ตักแคนตาลูปเป็นลูกกลม ๆ แช่ตู้เย็น เตรียมไว้

     2. ทำน้ำเชื่อม โดยต้มน้ำกับใบเตยให้หอมก่อน แล้วจึงใส่น้ำตาลทราย ตั้งไฟเคี่ยวพอข้น

     3. ต้มน้ำเปล่าให้เดือดจัด ใส่สาคูที่ล้างผ่านน้ำแล้ว ต้มให้สุก 90% เหลือเป็นตากบเล็ก ๆ ปิดไฟ ยกลงจากเตา เทสาคูใส่กระชอนแล้วล้างน้ำเพื่อหยุดความสุก และแช่ในน้ำเย็น 

     4. เมื่อสาคูเย็นสนิท ให้สะเด็ดน้ำ ตักใส่ในน้ำเชื่อม นำแช่ตู้เย็น

     5. นมสดนำไปแช่เย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วตักใส่ถ้วย ใส่สาคู น้ำเชื่อม แคนตาลูป ชิมรสหวานตามชอบ
 

     1. สำหรับชั้นต่อไปจะไม่ผสมไมโล โดยที่เวลาเทจะใช้ช้อนรองเพื่อลดความแรงของน้ำวุ้นที่ใส่ลงไปและลดฟองอากาศ สำหรับการเทชั้นต่อไปนี้วุ้นจะต้องยังร้อนอยู่ มิเช่นนั้นชั้นจะไม่ติดกัน

     2. ชั้นที่ 3 ทำวิธีเดียวกับชั้นที่ 1 ค่ะ โดยปล่อยให้วุ้นชั้นที่ 2 เซตตัวให้หน้ามีลักษณะตึง ๆ แล้วเทวุ้นชั้นที่ 3 โดยผสมผงไมโลลงไป 2 ช้อนโต๊ะเช่นกัน พักให้วุ้นเซตตัวแล้วแช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 5 ชั่วโมง หรือข้ามคืนค่ะ หลังจากนั้นตัดเสิร์ฟได้เลย
 

     1. แช่แผ่นเจลาตินในน้ำเย็นประมาณ 4-5 นาที

     2. นำนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลา ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วคนให้เข้ากัน

     3. นำหม้อต้มไปตั้งไฟ ใช้ไฟกลางค่อนไปทางไฟอ่อน ต้มให้นมมีอุณหภูมิประมาณ 50-60 องศาเซลเซียส หรือเห็นไอลอยขึ้นมาเวลาคนนม ปิดไฟ ยกหม้อลง

     4. บีบน้ำออกจากเจลาตินที่แช่ไว้ แล้วนำเจลาตินใส่ในนมที่ร้อน คนให้เจลาตินละลาย

     5. นำนมอุ่นเทใส่แก้วหรือภาชนะที่เตรียมไว้ นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 4 ชั่วโมง หรือจนพุดดิ้งนมเซตตัว

     6. นำพุดดิ้งนมสดมาตกแต่งด้วยผลไม้ที่เตรียมไว้ แล้วเสิร์ฟ
 

     1. เทผงเจลาตินลงในน้ำเปล่าแล้วคนให้เข้ากัน พักไว้ 5-10 นาที ให้เจลาตินพองตัว

     2. ใช้ไฟอ่อนอุ่นนมสดให้พออุ่นแบบไม่เดือด ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นปิดไฟ แล้วใส่เจลาตินที่พองตัวแล้วลงไป คนให้เจลาตินละลาย ถ้านมร้อนเกินไปจะทำให้เจลาตินเสื่อมสภาพนะคะ ฉะนั้นเอาแบบอุ่น ๆ พอ

     3. เทนมที่ผสมเจลาตินแล้วลงไปในชามที่มีงาดำบดอยู่ แล้วคนให้เข้ากัน เอาชามนมสดวางบนน้ำแข็งแล้วคนไปเรื่อย ๆ ให้นมเย็นลง ถ้าคนบนน้ำแข็งแล้วยังเย็นไม่พอแนะนำให้เอาไปแช่ตู้เย็นเพิ่มสัก 5-10 นาที เมื่อนมสดผสมงาดำเย็นแล้วให้ใส่วิปปิ้งครีมลงไป ถ้าทำถูกวิธีงาดำจะแทรกตัวอยู่กับนม ไม่ตกตะกอน จากนั้นก็เทใส่ชามพุดดิ้ง แล้วแช่ไว้ข้ามคืน
 

     1. ทำวุ้นนมสด โดยใส่น้ำกับผงวุ้นลงในหม้อ คนให้เข้ากัน นำไปต้มให้น้ำเดือด ปิดไฟ 

     2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนจนละลาย เทนมลงไปผสมให้เข้ากัน เปิดไฟ ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน เมื่อนมเริ่มเดือดปิดไฟและยกลง

     3. เทนมใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วพักไว้ให้เย็นตัวประมาณ 15 นาที ก่อนจะนำไปแช่ในตู้เย็นจนเซตตัว อย่างน้อย 2 ชั่วโมง

     4. ทำโฟมกาแฟโดยใส่ผงกาแฟ น้ำตาลทราย และน้ำร้อน ในอ่างผสม แล้วตีให้ขึ้นยอด

     5. นำวุ้นนมสดมาถอดพิมพ์ และตกแต่งด้วยฟองกาแฟกับโรยด้วยผงโกโก้ก่อนจัดเสิร์ฟ
 

     1. ใส่กระเทียม เม็ดพริกไทย และรากผักชี ลงไปโขลกในครกจนละเอียด

     2. หมักหมูด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ตามสูตร และใส่นมสดเพื่อเพิ่มความหอมนุ่ม นวดจนเข้ากัน ใส่น้ำเปล่าเพื่อทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อได้ดีและมีความนุ่มฉ่ำมากขึ้น และเติมน้ำมันพืชเพื่อให้หมูมีความเงางามเด้งน่ากิน นวดจนเข้ากันอีกครั้ง

     3. นำหมูไปหมักในตู้เย็น 3-6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน ซอสจะซึมเข้าเนื้อ ทำให้หมูนุ่มอร่อย

     4. นำหมูมาเสียบไม้ โดยแช่ไม้ในน้ำเปล่าก่อนนำมาเสียบหมูเพื่อเวลาปิ้งไม้จะได้ไม่ไหม้ เสียบหมูโดยสลับส่วนเนื้อหมูกับส่วนที่ติดมัน เวลาย่างหมูจะได้อร่อยไม่แห้งเกินไป เก็บในกล่องพลาสติก นำไปแช่ช่องเย็นหรือช่องฟรีซไว้ได้นาน เพื่อนำไปปิ้งย่างเมื่อต้องการกิน
 

     1. หั่นหมูเป็นชิ้นเล็ก ๆ ยาวพอประมาณ และโขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย ให้ละเอียด พักไว้

     2. คลุกเคล้าหมูกับนมสดให้เข้ากันจนนมสดซึมเข้าไปในเนื้อหมู ใส่เครื่องโขลกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำตาลปี๊บ คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน นำเข้าตู้เย็น พักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือข้ามคืน

     3. ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อนใส่น้ำมันพอประมาณ นำหมูลงไปทอดด้วยไฟปานกลาง พอทอดจนสุกตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เสร็จแล้วเสิร์ฟกับข้าวเหนียว
 

     1. เทนมสดลงหม้อ เติมน้ำตาลทราย เกลือ และแป้ง คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี จากนั้นนำไปตุ๋นโดยใช้ไฟกลาง เมื่อเดือดแล้วให้คนตลอดเวลาจนส่วนผสมเหนียวได้ที่แล้วยกลงจากเตา เทใส่พิมพ์ที่แปรงด้วยน้ำมันบาง ๆ พักทิ้งไว้ให้เย็นก่อนจะนำแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา 3 ชั่วโมง นำมาตัดแบ่งเอาขนาดตามต้องการ และนำไปเสียบให้สวยงาม

     2. ทำแป้งเปียกสำหรับชุบนมสดทอด เริ่มจากเทแป้งลงในชาม ตามด้วยน้ำตาลทรายและน้ำ คนให้ทุกอย่างเข้ากันดี 

     3. ใส่เกล็ดขนมปังลงในภาชนะ เตรียมไว้

     4. นำนมสดที่เสียบไม้แล้วมาจุ่มลงในแป้งเปียกและคลุกด้วยเกล็ดขนมปัง

     5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป ใช้ไฟกลาง นำลงทอดประมาณ 3-4 นาที หรือจนกว่าจะเป็นสีเหลืองทองเป็นอันใช้ได้  จะกินเปล่า ๆ หรือจิ้มกับมายองเนสก็เข้ากัน
 

     1. เตรียมปูไข่ โดยนำปูไข่มาทำความสะอาด โดยการขัดคราบโคลนที่อยู่ในตัวปูออกและล้างน้ำให้สะอาด แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

     2. นำปูไข่มาแกะกระดองออกจากตัวปูเพื่อนำไปนึ่ง (แกะอย่างระวังอย่าให้ไข่ปูหลุดออกจากตัวปู)

     3. เริ่มนึ่งปูไข่ ตั้งน้ำเมื่อน้ำร้อนแล้ว นำตัวปูไข่และกระดองปูไข่ไปนึ่ง 

     4. นำนมข้นจืดราดลงบนกระดองปูหรือตัวปู แล้วปิดฝาลังถึง นึ่งเป็นเวลา 5-10 นาที อย่านึ่งนานมาก เพราะจะทำให้ไข่ของปูไข่ด้านและแข็งเกินไป เสิร์ฟน้ำจิ้มซีฟู้ดคู่กับปูไข่นึ่งนมสด
 

     1. เตรียมอ่างผสม เติมนมสด ตอกไข่ไก่ ใส่แครอตหั่นเต๋า กุ้งหั่นชิ้นเล็ก และต้นหอมซอย ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ตีส่วนผสมให้เข้ากัน

     2. ตั้งไฟรอจนน้ำเดือด นำชามไข่ตุ๋นไปนึ่งจนเกือบสุกทั่ว สังเกตจากไข่ด้านบนไม่แฉะ

     3. ราดด้วยน้ำมันหัวกุ้งรอบ ๆ ตรงกลาง ตามด้วยกุ้งที่ผ่าหลังเรียบร้อยแล้ว

     4. นึ่งต่อจนกุ้งเกือบสุกดี ค่อย ๆ เปิดฝาโรยชีสและต้นหอมซอย อบต่อแค่พอชีสละลายและไข่ตุ๋นสุกทั่วถึงเป็นอันพร้อมเสิร์ฟ ต้องกินตอนร้อน ๆ ชีสถึงจะมีความยืด
 

     1. ต้มน้ำสำหรับนึ่งให้เดือด ลวกกุ้งในน้ำที่เริ่มจะเดือดให้พอสุก ตักแช่ในน้ำเย็นจัด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

     2. ตอกไข่ใส่นมสด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวกับน้ำตาลทรายเล็กน้อย ตีให้เข้ากัน กรองไข่ลงในกระชอนแล้วใส่ภาชนะที่จะนำไปนึ่ง นำไปนึ่งด้วยไฟอ่อน ประมาณ 15 นาที หรือจนไข่สุก

     3. วางกุ้งลงบนไข่นึ่ง โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย
 

      1. ผสมไข่ไก่ นมข้นจืด และน้ำซุปไก่ เข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอนให้ไข่เป็นเนื้อเดียวกัน

      2. แบ่งส่วนผสมไข่ประมาณ 1/3 ส่วน นำไปผสมกับผักโขม เทใส่ถ้วยสำหรับนึ่ง นึ่งพอสุก นำส่วนผสมไข่ที่เหลือมาใส่ก้ามปู เทใส่ชามเดิม นึ่งต่อจนสุก