10 สูตรบราวนี่หน้าฟิล์ม อร่อยฉ่ำหน้ากรอบเงาสวยพ่วงเคล็ดลับความอร่อย

1. นำดาร์กช็อกโกแลตกับเนยมาใส่ในอ่างผสม แล้วนำไปวางบนหม้อน้ำร้อน เพื่อให้เนยและดาร์กช็อกโกแลตละลาย

2. นำไข่ไก่ น้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายแดง มาใส่ในอ่างผสม โดยตีให้เข้ากันจนไข่ไก่เป็นสีนวลและขึ้นฟู

3. ใส่เนยและช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว แป้งกับผงโกโก้ที่ร่อนแล้วลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน

4. เทส่วนผสมของบราวนี่ใส่ในถาดอบขนาด 17x17 เซนติเมตร ที่มีกระดาษรองอบ และตกแต่งด้วยโอรีโอ้ อัลมอนด์สไลซ์ และดาร์กช็อกโกแลต

5. นำไปอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที รอให้เย็นแล้วตัดเสิร์ฟได้
    

1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ถาดอบขนาด 26.5 x16 ซม. และรองกระดาษไข

2. ต้มน้ำร้อนใส่หม้อ เตรียมไว้

3. นำเนย และช็อกโกแลตใส่ในอ่างผสม นำอ่างผสมไปวางบนหม้อน้ำร้อน รอให้เนยและช็อกโกแลตละลาย

4. นำไข่ไก่ และนํ้าตาลมาใส่ในอ่างผสม และตีให้เข้ากัน เตรียมไว้

5. นำเนยและช็อกโกแลตที่ละลายแล้วมาใส่ในอ่างผสมไข่ คนผสมให้เข้ากัน ผสมอย่าให้นานเกิน 30 วินาที เพราะจะทำให้บราวนี่ไม่ขึ้นหน้าฟิล์ม

6. นำแป้ง ผงโกโก้ และเกลือมาร่อน แล้วนำไปใส่ในอ่างผสมของไข่ คนผสมให้เข้ากัน

7. นำส่วนผสมของบราวนี่มาใส่ในถาดที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบประมาณ 20-25 นาที เมื่ออบสุกแล้ว รอให้เย็นตัวแล้วนำเข้าช่องแช่แข็ง ประมาณ 1 ชั่วโมงค่อยตัดเสิร์ฟ
    

1. ละลายเนย ดาร์กช็อกโกแลต และผงโกโก้ใส่ลงในอ่างผสม นำไปตุ๋นให้ละลายบนหม้อน้ำร้อน (ไม่ต้องเดือด) วางอ่างบนหม้อคนจนละลาย 

2. ตีไข่กับน้ำตาลจนน้ำตาลพอละลาย ไข่เปลี่ยนสีอ่อนลง ใส่ช็อกโกแลตที่ละลายไว้ลงไปรวมกัน คนส่วนผสมให้พอเข้ากัน จากนั้นใส่แป้ง เกลือ กลิ่นวานิลลา และผงฟู คนให้ส่วนผสมเข้ากัน 

3. เทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 8x8 นิ้ว เกลี่ยให้ทั่วพิมพ์ แต่งหน้าตามชอบ นำเข้าเตาอบประมาณ 20 นาที ครบเวลาแล้วนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น แล้วจึงนำออกจากพิมพ์
    

1. ตีน้ำตาลทรายกับไข่ขาว ตีจนน้ำตาลทรายละลายและไข่ขาวฟูขึ้น มีลักษณะเป็นครีมเงา ๆ

2. ใส่ไข่แดงลงไปทีละฟอง ตีผสมจนเข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไป ตีผสมจนเข้ากันอีกครั้ง หลังจากนั้นค่อย ๆ เทเนยละลายลงไป ตีจนเข้ากัน

3. แบ่งแป้งที่ร่อนพร้อมผงฟู ผงโกโก้ เกลือป่นลงไปครึ่งหนึ่ง ตีจนเข้ากัน แล้วใส่ส่วนที่เหลือลงไป ตีจนทุกอย่างเข้ากันดี

4. เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 165-170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 25-30 นาที พออบเสร็จ พักให้บราวนี่เย็นตัวลงก่อน แล้วค่อยเอาออกจากพิมพ์ ตัดแบ่งขนาดตามชอบ
    

1. ​เตรียมถาดสำหรับอบขนาด 9x13 นิ้ว ปูด้วยกระดาษไข และเพื่อป้องกันไม่ให้กระดาษไขเลื่อนให้ติดสก๊อตเทปตรงปลายกระดาษไขกับถาดอบเอาไว้

2. นำแปรงจุ่มเนยขาวที่ละลายแล้ว ทาบนกระดาษไขบริเวณพื้นถาด ไม่ต้องทาด้านข้าง

3. ​นำเนยผสมกับน้ำตาลทราย นำเข้าไมโครเวฟให้เนยละลาย ประมาณ 2 นาทีหรือจนละลาย ใช้ตะกร้อมือคนเพื่อให้น้ำตาลทรายละลายให้ได้มากที่สุด ​ใส่ช็อกโกแลตลงไปแล้วนำเข้าไมโครเวฟ ประมาณ 2 นาที ใช้ตะกร้อมือคนให้ช็อกโกแลตละลายเข้ากับเนยและน้ำตาล พักให้เย็น

4. ร่อนแป้ง ผงฟู และผงโกโก้เข้าด้วยกัน 2 รอบ ​และเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เปิดพัดลม เตรียมไว้

5. ​ตอกไข่ไก่ใส่อ่างผสม ใส่กลิ่นวานิลลาและผงกาแฟ ตีด้วยเครื่องตีจนไข่ขึ้นเป็นฟอง ใส่ส่วนผสมช็อกโกแลตที่เย็นแล้วลงไป ​ตีผสมด้วยความเร็วปานกลาง จนส่วนผสมช็อกโกแลตมีสีอ่อนลงเล็กน้อย หรือจนกว่าน้ำตาลจะละลายได้พอสมควร (สูตรนี้จะยังคงเหลือน้ำตาลเป็นเกล็ด ๆ ไม่ละลายทั้งหมด)

6. ​แบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน ใส่ลงไปตีผสมด้วยความเร็วต่ำ หรืออาจใช้ตะกร้อมือตะล่อม หลังจากผสมแป้งส่วนที่ 2 เข้ากันแล้ว ให้เทส่วนผสมทั้งหมดใส่ถาดอบ ​นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาทีหรือจนสุก 

7. ​เมื่อเค้กสุกนำออกจากเตามาผึ่งบนตะแกรงให้เย็น ตัดเป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการหรือถ้าอยากตัดง่ายขึ้นก็ให้นำบราวนี่ไปแช่เย็นเพื่อให้แข็งตัวก่อน แล้วนำออกมาตัดตามชอบ
    

1. นำนูเทลล่ามาใส่ชามผสม ใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนแล้วลงไป ตีผสมให้เข้ากันดี

2. เทใส่ในพิมพ์เค้กทรงสี่เหลี่ยมขนาด 8x8 นิ้ว ที่ปูกระดาษรองอบไว้แล้ว เกลี่ยหน้าให้เรียบ 

3. นำเข้าไปอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที หรือจนเค้กสุก สังเกตจากใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มดูแล้วมีเนื้อเค้กติดขึ้นมานิดหน่อยแสดงว่าสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นแล้วตัดเสิร์ฟ
    

1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้ถาดอบขนาด 16x26.5 เซนติเมตร รองด้วยกระดาษไข เตรียมไว้

2. นำชามผสมวางไว้บนหม้อที่มีน้ำร้อน 3/4 ของหม้อ ใส่เนยกับไวท์ช็อกโกแลตลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน เตรียมไว้

3. ตอกไข่ไก่ลงไปในอ่างผสม ร่อนน้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีให้เข้ากัน เทส่วนผสมเนยและไวท์ช็อกโกแลตที่ละลายแล้วใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากัน ร่อนแป้งกับผงชาเขียวลงไป คนผสมให้เข้ากัน 

4. เทส่วนผสมใส่ถาดที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน โรยอัลมอนด์สไลซ์ เอาไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก
    

1. นำไวท์ช็อกโกแลตกับเนยสด เข้าไมโครเวฟประมาณ 2-3 นาที จากนั้นคนให้ละลายเข้ากัน แล้วพักให้เย็นสนิท

2. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทราย (ในสูตรนำน้ำตาลไปปั่นจะได้ละลายง่าย) จนน้ำตาลทรายละลายหรือสีไข่อ่อนลง จากนั้นเทไวท์ช็อกโกแลตผสมเนย (ที่พักไว้จนเย็นแล้ว) ลงไปในชามผสม จากนั้นตีจนเข้ากัน

3. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และผงชาเขียว คนให้เข้ากัน

4. ร่อนแป้งลงไปในชามผสม ตีหรือตะล่อมจนเข้ากัน สามารถเพิ่มสีเขียวได้เล็กน้อย ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้

5. เทลงไปในพิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เสมอกัน จากนั้นวางคุกกี้หรือบิสกิตลงไป วางเรียงให้สวยงาม

6. นำไปอบใช้ไฟบน-ล่าง ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที พออบเสร็จแล้วพักให้เย็นสนิทก่อนนำออกจากพิมพ์ พอบราวนี่เซตตัวแล้ว ตัดขนาดตามใจชอบ
    

1. ละลายเนยกับไวท์ช็อกโกแลตในไมโครเวฟประมาณ 1 นาที คนให้เข้ากัน แล้วพักให้อุ่นลง

2. ตีไข่กับน้ำตาลทรายจนน้ำตาลละลายหรือไข่มีสีอ่อนลง เติมกลิ่นวานิลลาและไวท์ช็อกโกแลตละลายพักไว้จนอุ่นลงในชามผสม ตีให้เข้ากัน 

3. ใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูและเกลือป่นลงไปแล้วตีจนเข้ากัน เพิ่มความหนึบด้วยไวท์ช็อกโกแลตชิพแล้วใช้ไม้พายตะล่อมจนเข้ากัน 

4. เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะไล่ฟองอากาศ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส (ใช้ไฟบน-ล่าง) ประมาณ 45-50 นาที

5.  พออบเสร็จแล้วพักให้เย็นในพิมพ์ประมาณ 30 นาที-1 ชั่วโมง เพื่อให้บราวนี่เซตตัวก่อน ไม่อย่างนั้นเวลายกออกจากพิมพ์เลยจะทำให้หน้าแตกหมด แล้วค่อยนำมาตัดเสิร์ฟ
    

     1. ละลายเนยจืดและช็อกโกแลตให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ใช้ไมโครเวฟได้ แต่ระวังอย่าใช้ไฟแรง

เคล็ดลับ :

• เพื่อที่จะไม่ให้คุกกี้แบน ช็อกโกแลตที่ใช้จะต้องเป็นของแท้ ไม่เอาแบบ Compound Chocolate เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันค่อนข้างเยอะ ทำให้เวลาเจอความร้อนในเตาอบแล้วละลาย คุกกี้จะแบนและแผ่ออกเยอะมาก ๆ ราคาของ Compound ถูกกว่าเยอะก็จริงแต่ใช้ไม่ได้

• หลังจากที่ละลายช็อกโกแลตแล้ว ต้องคอยสังเกตไม่ให้ช็อกโกแลตเซตตัว ช็อกโกแลตที่ละลายแล้วจะต้องมีความมันวาวในทุกขั้นตอนที่ทำ ในสูตรเอาชามแช่น้ำอุ่นรักษาอุณหภูมิตลอด ถ้าเริ่มเซตตัวจะไม่มีหน้าฟิล์ม (บางสูตรก็เอาส่วนผสมที่เสร็จแล้วไปแช่เย็นจนแข็งก่อนอบเหมือนกัน)

     2. ตีไข่และน้ำตาลทรายแดงให้เข้ากัน โดยจะต้องให้น้ำตาลทรายแดงละลายให้หมด จากนั้นเติมน้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา และเกลือหยิบมือ ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วสูงประมาณ 5 นาที จุดที่ต้องสังเกต ก่อนตีคือส่วนผสมจะมีสีน้ำตาลเข้มของน้ำตาลทรายแดง เมื่อผ่านไป 5 นาทีแล้วส่วนผสมจะฟูและสีจางลงอย่างเห็นได้ชัด

เคล็ดลับ : จะต้องตีให้น้ำตาลทรายแดงละลายให้หมด ถึงจะได้หน้าฟิล์ม

     3. ผสมช็อกโกแลตที่ละลายแล้วลงไป และตีให้เข้ากันด้วยเครื่องตีไฟฟ้าสปีดระดับกลางประมาณ 1 นาที ร่อนแป้ง ผงโกโก้ และผงฟู ลงไปในไป จากนั้นตะล่อมให้ไม่เห็นแป้งขาว ๆ แล้วใส่ช็อกโกแลตชิพลงไป ผสมให้เข้ากันแล้วหยุดมือ อย่าคนเยอะ เนื้อคุกกี้จะไม่อร่อย ตักคุกกี้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วแผ่ให้เป็นรูปวงกลม จุดสังเกตคือ ส่วนผสมจะต้องมันวาว

• สำหรับเตาอบมืออาชีพ หรือ Convention Oven ให้อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที
• สำหรับเตาอบเล็กหรือเตาติ๊งและอบได้ทีละ 1 ถาด ถ้าจะให้คุกกี้หน้าแตกจะต้องใช้อุณหภูมิประมาณ 190-200 องศาเซลเซียส ใน 2-3 นาทีแรก และลดลงมาอบที่ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 7-8 นาที 
• สำหรับเตาอบเล็กที่อบได้ทีละ 1 ถาด ระหว่างรอถาดแรกอบ จะต้องมั่นใจว่าส่วนผสมคุกกี้ยังมันวาวอยู่ ในสูตรแช่น้ำอุ่นตอนรอถาดแรกอบ แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องถาดแรกมีหน้าฟิล์ม แต่ถาดที่ 2 หน้าฟิล์มหาย

     4. ตกแต่งด้วยไวท์ช็อกโกแลต