โยเกิร์ตเนื้อเนียนสีขาวนุ่มสามาถมาปรุงเป็นได้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน อาหารทานเล่น ขนมและอีกมากมาย ที่ทั้งอร่อยและให้คุณค่าทางสารอาหารเทียบเท่ากับนม แถมยังมีจุลินทรีย์ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีประโยชน์ในเรื่องของความสวยความงามอยู่ไม่น้อย เพราะอร่อยและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์เด็ด ๆ แบบนี้ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นสินค้าบริโภคที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามากแค่ไหน วันนี้ก็เลยนำประวัติโยเกิร์ตมาฝาก เผื่อมีใครสนใจอยากจะรู้เบื้องหลังความเป็นมาของโยเกิร์ตมากขึ้นค่ะ
หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า โยเกิร์ตนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศบัลแกเรีย ซึ่งก็สอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ว่า โยเกิร์ตเป็นอาหารที่อยู่ในโภชนาการหลักของชนเผ่าทราเซียน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวบัลแกเรียในปัจจุบัน และคำว่าโยเกิร์ต ก็มาจากภาษาทราเซียน 2 คำสมาสกัน นั่นคือ คำว่า Yog ซึ่งแปลว่า หนาหรือข้น ส่วน Urt แปลว่า น้ำนม เมื่อนำรากศัพท์ทั้ง 2 คำมาผสมเข้าด้วยกัน ก็เกิดเป็นคำว่า Yogurt ที่เราเห็นทุกวันนี้นี่เอง
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ยังเผยอีกด้วยว่า ในปี ค.ศ. 681 บรรพบุรุษของชาวบัลแกเรีย เป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากทวีปเอเชียมายังคาบสมุทรมัลข่าน และในระหว่างเดินทางก็จะพกนมม้าที่เรียกว่า คูมิส (Kumis) บรรจุในถุงหนังแกะ คาดไว้กับตัว และด้วยความที่ถุงหนังแกะมีจุลินทรีย์ ผสมกับความร้อนจากอุณหภูมิของเรา ก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาการหมักขึ้น น้ำนมในถุงที่เคยเหลวใส ก็กลายสภาพเป็นโยเกิร์ตในที่สุด
ตอนนี้ก็ได้รู้กันแล้วว่า เบื้องลึกเบื้องหลังของโยเกิร์ตเป็นมากันอย่างไร ลองตามหาสูตรแล้วลงมือทำอาหารกันให้สนุกสนานไปเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สูตรอาหาร เมนูอาหารแบบง่ายๆ เคล็ดลับการทำอาหาร คลิกเลย
yaamata
