x close

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ ไม่หน้าแตก

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เนื้อสเต็กแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร คงเห็นกันแล้วว่าเนื้อสเต็กจะมีหลายประเภท เนื้อริบอาย เนื้อทีโบน และเนื้อส่วนอื่น ๆ ที่นำมาทำสเต็ก ถ้าไม่อยากหน้าแตกเวลาสั่งสเต็ก ก็ตามมารู้จักประเภทเนื้อสเต็กแต่ละส่วนกันดีกว่า

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

          ถ้าพูดถึงสเต็กหลายคนก็นึกถึงชิ้นเนื้อขนาดประมาณฝ่ามือที่ผ่านการย่างหรือทอดในระดับความสุกที่ต่างกันแล้วแต่ความชอบของคนกิน แต่จริง ๆ แล้วเรื่องราวของสเต็กก็ไม่ได้จบแค่นั้นค่ะ เพราะเนื้อสเต็กที่เราได้กินอย่างเอร็ดอร่อยนั้น เป็นเนื้อที่ได้มาจากส่วนต่าง ๆ ของวัว ซึ่งประเภทเนื้อสเต็กเหล่านี้ก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเวลาที่เราไปสั่งสเต็กในร้านอาหารฝรั่ง เราจึงจะเห็นรายการสเต็กเรียงรายจนเลือกไม่ถูก ยิ่งพอถูกถามถึงระดับความสุกแล้วหลายคนก็ถึงกับมึนหนักเข้าไปใหญ่ จนในที่สุดก็ได้สเต็กในแบบที่ไม่ได้ตรงสเปคของตัวเองมากิน เอาล่ะ ! ต่อไปนี้เรามารู้จักประเภทเนื้อสเต็กและระดับความสุกของสเต็กไว้ดีกว่า เวลาไปสั่งสเต็กกินครั้งหน้าจะได้ไม่เขินเนอะ

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

1. เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ (Tenderloin Steak)
           
          เนื้อสเต็กประเภทเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ (Tenderloin) หรือฟิเลมิยอง (Filet Mignon) เป็นเนื้อสันในที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ เพราะเป็นเนื้อในส่วนที่วัวไม่ต้องออกแรงใช้กล้ามเนื้อมาก มักจะจัดเสิร์ฟเป็นชิ้นหนาประมาณ 2 นิ้วขึ้นไป เพื่อความนุ่มที่สมบูรณ์แบบ และด้วยความอร่อยเด็ดของเนื้อฟิเลมิยอง เจ้าสเต็กประเภทนี้จึงมีราคาค่อนข้างแพงพอดูเลยทีเดียว
 
วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

2. เนื้อสตริปลอยน์ (Strip Loin Steak)
           
          สตริปสเต็กเป็นเนื้อสันติดมันที่ติดอันดับเนื้อสเต็กที่อร่อยที่สุด เพราะไม่ได้มีแค่ความนุ่มของเนื้อเท่านั้น แต่กัดลงไปแล้วยังฉ่ำไปด้วยรสชาติของเนื้อสันติดมันแบบถึงใจ ซึ่งว่ากันว่าราคาก็แพงหูฉี่แซงหน้าฟิเลมิยอง เพราะเป็นเนื้อสันส่วนที่ไม่น้อยในตัววัวนั่นเองค่ะ อ้อ ! นอกจากชื่อนี้แล้ว ยังสามารถเรียกว่านิวยอร์กสตริปสเต็ก (New York Strip) ได้ด้วยนะคะ
 
วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

3. ทีโบน (T-bone Steak)
           
          เนื้อส่วนกลางซึ่งจะติดส่วนกระดูกรูปตัว T ออกมาด้วย ทีโบนจัดเป็นเนื้อลูกครึ่งระหว่างฟิเลมิยองกับเนื้อสตริปลอยน์ ด้วยเหตุนี้รสชาติของสเต็กทีโบนจึงเด็ดไม่แพ้ส่วนไหน ทั้งนุ่มแบบฟิเลมิยอง และฉ่ำรสชาติเนื้อแบบถึงพริกถึงขิงแบบสตริปลอยน์ อร่อยอย่างนี้ก็คงไม่ต้องเดาราคากันแล้วล่ะเนอะ
 
วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

4. พอร์ตเตอร์เฮาส์ (Porterhouse Steak)
           
          เนื้อส่วนกลางติดกระดูกเช่นเดียวกับเนื้อทีโบน แต่พอร์ตเตอร์เฮาส์จะได้ส่วนที่เป็นฟิเลมิยองมามากกว่า ขนาดของชิ้นเนื้อจึงใหญ่กว่าทีโบนเล็กน้อย และแม้จะมีความนุ่มในแบบฟิเลมิยองมากกว่าความฉ่ำในแบบเนื้อสันติดมันของสตริปลอยน์ ก็ไม่ได้ลดความเด็ดดวงลงไปได้สักนิด

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

5. ริบอาย (Ribeye Steak)
           
          เนื้อซี่โครงที่ขึ้นชื่อและฮอตไม่เบา เนื่องจากเป็นเนื้อที่ติดมันเยอะพอสมควร จึงมีความชุ่มฉ่ำและได้รสชาติเนื้อแบบเต็มแม็กซ์ และถึงแม้จะไม่นุ่มเหมือนฟิเลมิยอง แต่เนื้อส่วนริบอายจะกรุบ ๆ เคี้ยวมันกว่าเยอะเลยล่ะ ราคาเลยอาจจะถูกกว่าฟิเลมิยอง แต่ก็สูสีหรืออาจจะแพงกว่าสตริปลอยน์ค่ะ
 
วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

6. โทมาฮอว์ค (Tomahawk Steak)
           
          เกือบ ๆ จะเป็นคู่แฝดของทีโบน แต่ความอร่อยเด็ดและขนาดของชิ้นเนื้อจะอลังการมากกว่า เพราะเป็นเนื้อซี่โครงส่วนที่ใหญ่ที่สุดในวัว จึงพกเนื้อหนังและไขมันมาแบบจัดหนัก ส่วนมากจะถูกจัดเสิร์ฟด้วยความหนาประมาณ 2 นิ้วขึ้นไป หั่นมากินแต่ละคำต้องบอกว่าสุดยอดมาก ๆ ยิ่งถ้าสั่งแบบมีเดียมแรร์ คือเนื้อที่ย่างกึ่งสุกกึ่งดิบ ก็จะเริ่ดเว่อร์เลยจ้า

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

7. เซอร์ลอยน์ (Sirloin Steak)
           
          เซอร์ลอยน์เป็นเนื้อสันนอก หรือเนื้อสะโพกด้านบนที่เต็มไปด้วยเนื้อนุ่ม ๆ ปนมันแถมลายเนื้อพอให้เคี้ยวกรุบ ๆ เป็นเนื้อสเต็กอีกหนึ่งประเภทที่ติดอับดับเนื้อขายดี เพราะมีมากและราคาไม่แพง ที่สำคัญยังเคี้ยวอร่อยได้ทั้งรสชาติเนื้อนุ่ม ๆ กับความชุ่มฉ่ำจากเนื้อติดมันไปพร้อม ๆ กัน

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

8. ไพร์ม ริบ (Prime Rib Steak)
           
          เนื้อติดซี่โครงที่ตัดเอามาแต่เนื้อล้วน ๆ (บางร้านอาจจะตัดส่วนซี่โครงติดมาด้วย) ไพร์ม ริปเป็นเนื้อติดมันค่อนข้างมาก จึงให้สัมผัสฉ่ำนุ่ม ไม่เหนียว เคี้ยวอร่อยกำลังดี

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

9. ท็อป เบลด (Top Blade Steak)
           
          หรือจะเรียกอีกอย่างว่า แฟลท สเต็ก ก็ไม่ผิดค่ะ เนื้อส่วนนี้เป็นเนื้อปนมันค่อนข้างนุ่ม เลยมีรสชาติในตัวเองอยู่แล้ว เรียกว่านำไปย่าง หรืออบโดยไม่ต้องหมักก็ยังกินแล้วฟิน แถมราคาเนื้อส่วนนี้ก็ไม่แพงมากนักอีกด้วย

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

10. สเต็กเนื้อบด (Ground Beef Steak)
           
          สเต็กเนื้อบดเป็นเนื้อวัวหลาย ๆ ส่วนที่ถูกนำมาบดรวมกันแล้วหมัก มักจะใช้เป็นเนื้อสำหรับทำเบอร์เกอร์ชนิดต่าง ๆ แต่ถ้าจะให้ดีต้องย่างหรืออบแบบมีเดียม ย่างให้พอสุกแบบอมชมพูหน่อย ๆ ถึงจะอร่อยจ้า


มารู้จักระดับความสุกของเนื้อสเต็กกันเถอะ !
           
          ระดับความสุกของเนื้อสเต็กมีส่วนสำคัญกับความอร่อยของสเต็กเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าอยากจะอร่อยกับสเต็กอย่างสมบูรณ์แบบ เรามารู้จักระดับความสุกของสเต็กกันก่อนดีกว่าค่ะ

วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ

          บลูแรร์ (Blue Rare) : สุกแค่ผิวเนื้อด้านนอก ด้านในยังดิบแบบเป็นสีแดงเกือบทั้งชิ้น

          แรร์ (Rare) : ย่างแบบเนื้อด้านนอกสุกพอประมาณ (เป็นสีน้ำตาลอมเทา) ส่วนด้านในยังเป็นเนื้อแดงอมชมพูอยู่ ส่วนมากจะใช้เวลาย่างประมาณ 1 นาที

          มีเดียม แรร์ (Medium Rare) : เนื้อกึ่งสุกกึ่งดิบ ด้านในยังเป็นเนื้อแดงประมาณ 50%

          มีเดียม (Medium) : ย่างให้สุกขึ้นมาอีกนิด พอให้เนื้อด้านนอกเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ เนื้อด้านในอมชมพู

          ดัน (Done) : ย่างแบบให้เนื้อสุกทั่วถึงกัน แต่ยังคงหลงเหลือเนื้อสีชมพูเล็กน้อย
         
          เวล ดัน (Well Done) : เนื้อสุกทั่วถึงกันทุกส่วน ไม่เหลือเนื้อส่วนที่เป็นสีชมพูอยู่เลย ลักษณะเนื้อที่ย่างแบบนี้จึงไม่ค่อยมีความฉ่ำของรสชาติเนื้อเท่าไรนัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินเนื้อสุกแบบจริงจัง

          คราวนี้ก็ได้รู้จักประเภทของสเต็ก รวมทั้งระดับความสุกที่ควรสั่งสเต็กกันไปแล้ว ไปกินสเต็กที่ไหนก็รับรองได้ว่าจะสั่งได้ฉะฉานไม่มีเขิน แถมยังได้กินสเต็กในแบบที่ตัวเองต้องการแบบไม่มีพลาดด้วยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Here I Like, wikipedia


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีสั่งสเต็กเนื้อ สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ ไม่หน้าแตก อัปเดตล่าสุด 7 สิงหาคม 2566 เวลา 17:00:13 193,535 อ่าน
TOP