ผัดคะน้าปลาเค็ม เมนูอาหารตามสั่งยอดนิยม และเคล็ดลับการผัดให้อร่อย

แจกสูตรผัดคะน้าปลาเค็ม เมนูอาหารตามสั่งจานเด็ดยอดฮิต ทั้งหอม กรอบ อร่อย รสชาติเค็มเผ็ดเข้ากันลงตัว พร้อมวิธีการผัดคะน้าให้อร่อย

หิวแล้ว ! ไปเข้าครัวมาทำเมนูผัดคะน้าปลาเค็มกัน หนึ่งในอาหารจานเดียวยอดนิยมจากหมวดผัดคะน้า ทำง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน ส่วนผสมหลัก ๆ ที่ต้องมีก็คือ คะน้า ปลาอินทรีเค็ม พริกและกระเทียม อร่อยไปกับปลาอินทรีเค็มชิ้นสวยที่นำไปทอดจนเหลืองกรอบ หอม ตามด้วยผัดกระเทียมจนหอมในกระทะ ใส่คะน้าและพริกสับลงไป ก่อนตบท้ายปรุงรสด้วยน้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็ได้ผัดคะน้าปลาเค็ม พร้อมเสิร์ฟ

ผัดคะน้าปลาเค็มจานนี้อร่อยครบรส ทั้งเค็มนิด ๆ จากเนื้อปลาที่ใส่ลงไป เผ็ดกำลังดีจากพริกขี้หนู และความกรุบกรอบของผักคะน้า แถมกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ยิ่งอร่อยมาก แต่ก่อนจะไปดูวิธีการทำผัดคะน้าปลาเค็ม เราขอพาไปดูประโยชน์ของผักคะน้า วิธีเลือกผักคะน้า รวมทั้งวิธีเลือกปลาเค็ม และวิธีผัดคะน้าให้อร่อย กันก่อนดีกว่า       

ผักคะน้า (Chinese Kale) เป็นผักใบเขียวที่กินได้ทั้งใบไปจนถึงก้าน คะน้ามีหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคะน้าไทย คะน้าฮ่องกง ซึ่งขนาดของต้นและความกรอบ หวาน ก็จะแตกต่างกันออกไป สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท ที่นิยมมากที่สุดก็คือ เมนูผัดคะน้า เช่น ผัดคะน้าหมูกรอบ ผัดคะน้าหมูชิ้น และผัดคะน้าปลาเค็ม โดยเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ตามชอบ นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวผัด ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว และอีกมากมาย

ทั้งนี้ คะน้ายังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ได้แก่ 

• คะน้าเป็นผักที่มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้

• ในผักคะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระเบต้าแคโรทีน ช่วยในการบำรุงสายตา และมีสารลูทีน ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในเซลล์ผิว รวมถึงช่วยบำรุงผิวพรรณด้วย

• ผักที่มีปริมาณแคลเซียมค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

• ในคะน้ามีโฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบำรุงเลือดและลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจาง

• ผักคะน้ามีไฟเบอร์สูงมาก ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี

ผักคะน้าที่ดี กินแล้วอร่อย ควรเลือกที่ไม่แก่จนเกินไป วิธีสังเกตให้ดูรอยตัดตรงโคนต้น ถ้าเป็นเส้นสีขาวเล็ก ๆ แสดงว่ายังไม่แก่เกินไป แต่หากเป็นเส้นสีขาวขนาดใหญ่จะเป็นคะน้าที่แก่ เหนียว และมีเสี้ยนเยอะ อีกจุดสังเกตที่สำคัญก็คือ ให้ดูใบของคะน้า ไม่ควรมีสีเหลือง ก้านและลำต้นไม่เหี่ยว

ปลาเค็มทำจากปลาหลายชนิด ทั้งปลาอินทรี ปลาสลิด และปลาช่อน นิยมนำไปประกอบอาหารแตกต่างกันออกไป ปลาเค็มที่ดีควรเลือกปลาที่มีสีเป็นธรรมชาติ ไม่ผ่านการย้อมสีให้แดงสด หรือสีเข้มกว่าปกติ รวมทั้งจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของปลา และเกลือที่ใช้หมัก ไม่เหม็นตุ หรือมีแมลงวันตอมเยอะจนเกินไป ก่อนนำไปประกอบอาหารให้ล้างด้วยน้ำสะอาด 1-2 รอบ เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสารเคมีออก

ให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาดก่อน 1 รอบ นำมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปล้างในน้ำเกลืออีก 1 รอบ แล้วแช่ไว้สัก 10-15 นาที จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำธรรมดา นำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำอีกรอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้ผักคะน้าที่ไม่ขม ไม่เหม็นเขียว สามารถนำไปประกอบอาหารต่าง ๆ ได้แล้ว

1. ปลาอินทรีเค็ม 1 ชิ้น

2. คะน้า (หั่นเป็นท่อนสั้น)

3. กระเทียมสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ

4. พริกสับ (ตามชอบ)

5. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

1. ล้างผักคะน้าให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ หั่นเป็นท่อนเตรียมไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำปลาเค็มลงไปทอดจนสุก ใส่จานพักไว้
3. ใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม ตามด้วยใส่คะน้าลงไปผัดคลุกเคล้า เปิดไฟแรง
4. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและน้ำตาลทราย จากนั้นใส่ปลาเค็มที่เตรียมไว้และพริกลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เอาใจคนรักปลาเค็มกับเมนูผัดคะน้าปลาเค็ม อร่อยกลมกล่อม รสชาติเค็มนิด ๆ เข้ากันลงตัว และได้ประโยชน์มากมายจากผักคะน้า พร้อมแล้ว…ไปลงมือทำกันเลย

• 11 เมนูจากผักคะน้า อร่อยแบบบ้าน ๆ จานไหนก็ห้ามพลาด
• สูตรข้าวผัดหมู ใส่คะน้า เมนูง่าย ๆ อิ่มท้องอร่อยเด็ดทุกมื้อ
• 18 เมนูผัดผัก รวมสูตรเมนูผักหอมอร่อยย่อยง่าย
• 23 สูตรอาหารง่าย ๆ หลากเมนูอร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ
• 20 สูตรเมนูกับข้าวยอดฮิต ประจำร้านข้าวแกงไปเมื่อไรก็เจอ

ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad.com, medthai.com, hellokhunmor.com