เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม
วันวาเลนไทน์ ปีนี้ แฟนของใครที่ชอบกินเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม อร่อยไปกับเค้กเนื้อนุ่ม ๆ เข้มข้นรสช็อกโกแลต แถมพ่วงมาด้วยหน้าช็อกโกแลตฟัดจ์นิ่ม ๆ ด้านบนเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีก แต่ไม่อยากซื้อแบบสำเร็จให้แฟน แต่คิด ๆ ดูว่าจะทำเองก็อาจจะยากไปเสียหน่อยเพราะไม่มีเตาอบนั่นเอง แต่วันนี้เรามีสูตรและวิธีทำ เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มด้วยหม้อหุงข้าวมาฝาก เป็นสูตรมาจาก คุณ CRAZALYNA สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ไม่ต้องง้อเตาอบเลยสักนิด
สิ่งที่ต้องเตรียม
ส่วนผสม เมอร์แรงค์ไข่ขาว
ไข่ขาว 2 ฟอง น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ ครีมออฟทาร์ทาร์ (Cream of Tartar) 1/3 ช้อนชาส่วนผสม ตัวเค้กช็อกโกแลต แป้งเค้ก 1 ถ้วย (ตักออก 2 ช้อนโต๊ะ) ผงฟู 1/3 ช้อนชา เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1/3 ช้อนชา ผงโกโก้ 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายป่น 3/4 ถ้วย (ตักออก 1 ช้อนโต๊ะ) น้ำ 70 มิลลิลิตร นมข้นจืด หรือ นมสดพร่องมันเนย 7 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ ไข่แดง 2 ฟอง (ถ้าเป็นไข่ไก่ฟองเล็กใช้ 3 ฟอง) กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชาส่วนผสม ช็อกโกแลตฟัดจ์ (หน้านิ่ม) ผงวุ้น 1 ช้อนชา น้ำ 300 มิลลิลิตร นมข้นจืด 200 มิลลิลิตร + 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ถ้วย ผงโกโก้ 7 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนชา นมข้นจืด 11 ช้อนโต๊ะ เนยสด 75 กรัม
วิธีทำ
ใส่ครีมออฟทาทาร์ลงในไข่ขาวแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เตรียมไว้ ส่วนน้ำตาลทราย เตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนการตีไข่ขาว (เราเคยอ่านเจอที่ไหนไม่รู้ว่า การเอาไปแช่ตู้เย็นมันจะฟูง่าย เท่าที่เราตีเองก็ฟูไวกว่าอยู่นะ)
ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือป่น ผงโกโก้ และน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน ประมาณ 2 รอบ (สูตรนี้เจนดัดแปลงนิดหน่อยนะคะ เพราะไม่มีช้อนตวง 1/4 เลยใช้ 1/3 แทนค่ะ)
ทำหลุมตรงกลางแป้ง
ตีผสมน้ำกับนมข้นจืด น้ำมะนาว น้ำมันพืช ไข่แดง และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน
เทส่วนผสมของเหลวลงในหลุมแป้ง 
คนผสมให้เข้ากันไว ๆ 
นำไข่ขาวที่ผสมกับครีมออฟทาร์ทาร์ออกจากตู้เย็น จากนั้นตีด้วยความเร็วสูงจนเป็นฟอง (เป็นวิธีที่เหนื่อยที่สุด ต้องขุดพลังมาเต็มที่เลยค่ะเอาไข่ขาวที่ผสมกับครีมออฟทาร์ทาร์ที่เราเอาไปแช่ในตู้เย็นออกมาตีด้วยความเร็วแสง ฮ่า ๆ ) ตีให้เป็นฟองก่อน
พอเริ่มเป็นฟอง ให้ใส่น้ำตาลทรายที่ตวงไว้ลงไป 
ก็ตีต่อด้วยความเร็วสูง ให้ขึ้นฟูจนได้ยอดอ่อน (ตอนนี้เราใช้ตะกร้อมือซึ่งมันเหนื่อยมาก แต่เราตีไปคนไปพอเริ่มเมื่อยก็คนช้า ๆ พอเริ่มมีแรงก็เร่งสปีดใหม่ค่ะ)
จากนั้นก็นำส่วนผสมไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอดอ่อนแล้ว ใส่ผสมกับแป้งเค้ก
ค่อย ๆ คนผสมจนเข้ากัน
จากนั้นนำกระดาษไขปูรอบหม้อหุงข้าวไว้ แล้วเทส่วนผสมใส่ลงในหม้อหุงข้าว กดปุ่ม "อบเค้ก" ใช้เวลาอบประมาณ 1 ชั่วโมง (ส่วนมากเราอบประมาณ 75 นาที จ้า และเช็คว่าสุกรึยังด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มไปที่เนื้อเค้กค่ะ ถ้าไม่มีของเหลวติดมาที่ไม้แสดงว่าสุกแล้วค่ะ)
เมื่ออบเสร็จแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ ให้คว่ำออกจากหม้อหุงข้าว พักทิ้งไว้จนเย็น (แสงไม่เท่ากันเพราะเราถ่ายไว้ทั้งแบบทำตอนไม่มีแสงแดดกับตอนมีแสงแดดจ้าหน้าตากับสีจะแตกต่างกันแต่รสชาติอร่อยเหมือนกันนะจ๊ะ) พอเค้กเย็น ใช้ด้ายเย็บผ้าแบ่งเค้ก (เนื่องจากไม่มีมีดฟันเลื่อย เราเลยลองใช้ด้ายเย็บผ้านี่แหละค่อย ๆ แบ่ง มันเวิร์กมาก 555) 
ใช้พลาสติกถนอมอาหารพันรอบเค้กชั้นล่าง เตรียมไว้ รอราดหน้าเค้ก
นำผงวุ้น น้ำ นมข้นจืด น้ำตาลทราย และผงโกโก้ ใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนผสมเรื่อย ๆ จนเดือด (อย่าใจร้อนเปิดไฟแรงนะคะไม่งั้นก้นหม้อจะไหม้ค่ะ เราโดนมาแล้วต้องอดทนคนไปเรื่อย ๆ นะคะ) 
จากนั้นก็ใส่แป้งข้าวโพด และนมข้นจืดลงไป คนผสมเรื่อย ๆ ห้ามหยุด (เพราะส่วนผสมจะข้นขึ้น ถ้าหยุดคนมันก็จะติดก้นหม้ออีกค่ะ อันนี้ก็โดนมาแล้วค่ะ)
พอคนจนส่วนผสมข้น จะเห็นรอยตะกร้อจาง ๆ ก็ปิดไฟ แล้วใส่เนยสด คนผสมต่อจนส่วนผสมเริ่มอุ่น จากนั้นนำไปราดลงบนเค้ก (ขอแนะนำให้คนจนอุ่นเลยนะคะ เราเคยคนจากหม้อปิดไฟแปบเดียวแล้วราด ปรากฏว่า ไหลเลอะเทอะหมดเลย แล้วมันร้อนจะทำให้พลาสติกที่เราครอบไว้บิดเบี้ยวด้วยค่ะ อีกอย่างถ้าไม่คนให้อุ่นก่อน หน้านิ่มจะเป็นลิ่ม ๆ ค่ะ เวลาเทหน้าจะไม่เนียนค่ะ)
พอราดส่วนผสมหน้านิ่มแล้ว วางเค้กทิ้งไว้ให้เซตตัว จากนั้นนำเข้าตู้เย็น (อันนี้เพื่อให้หน้านิ่มเซตตัวอย่างจริงจัง เท่าที่ทำมาหลายครั้งแล้วนะคะ เจนสังเกตว่า เวลาเราเอาเข้าตู้เย็นหรือรอให้เซตตัว ถ้าไม่มีภาชนะคลุมหรือปิดเค้กไว้ สีของหน้านิ่มจะเข้มขึ้นอีกค่ะ แต่อย่าคลุมตอนที่ยังอุ่น ๆ หรือร้อนนะคะ เพราะมันจะเป็นไอน้ำหยดลงบนเค้กได้ค่ะ)สำหรับเคล็ดลับต่าง ๆ ที่คุณเจนได้แนะนำเอาไว้นั้น เธอบอกว่า เจนก็ได้อ่านเทคนิคในการทำต่าง ๆ มาหลายที่เหมือนกันค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ นะคะ ขอให้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้านะคะ ถ้ามีตรงไหนแนะนำหรือผิดพลาดใด ๆ ขออภัยด้วยนะคะ
ไม่น่าเชื่อว่า แค่มีหม้อหุงข้าวที่ใช้แต่หุงข้าวสวยอยู่ทุกวัน จะสามารถเนรมิตเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มได้ออกมาน่ากินขนาดนี้ เห็นแล้วฟิน ขอตัวไปลองทำบ้างดีกว่า ^^
สูตรอาหาร เมนูอาหารแบบง่ายๆ เคล็ดลับการทำอาหาร คลิกเลย
