9 เมนูไข่มุก ทั้งคาวหวานและเครื่องดื่มอร่อยนุ่มยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน

     1. ต้มไข่มุกตามวิธีทำที่ระบุข้างซอง พอต้มจนสุกตักใส่น้ำเย็น
     2. ลวกหรือต้มมาม่าจนเส้นสุก กรองเอาน้ำออก ตักใส่ภาชนะ ใส่เครื่องปรุงมาม่า เคล้าจนทั่ว
     3. ใส่ไข่มุกรอบ ๆ ปริมาณตามชอบ สุดท้ายโรยงา

     1. แบ่งน้ำมันพืชใส่กล่อง 2 กล่อง ปิดฝาแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้ข้ามคืนจนน้ำมันพืชเย็นจัด
     2. ต้มน้ำในหม้อ ใส่สีผสมอาหารตามชอบลงไป (เคล็ดลับ : ใส่สีให้เข้มเล็กน้อย เพราะเมื่อผสมวุ้นแล้วสีจะอ่อนลง)
     3. ใส่ผงวุ้นลงไปต้มจนเดือดและผงวุ้นละลายหมด ปิดไฟ พักไว้จนน้ำวุ้นอุ่น ๆ ที่อุณหภูมิประมาณ 30-40 องศาเซลเซียส (เคล็ดลับ : ถ้าน้ำวุ้นร้อนเกินไปเมื่อหยดจะไม่เป็นลูกกลม)
     4. ใช้กระบอกฉีดยา (Syringe) ขนาดใหญ่ หยดน้ำวุ้นทีละหยดใส่น้ำมันพืชที่เย็นจัด หยดให้กระจาย ๆ ไม่ซ้อนกัน พักไว้สักครู่ (เคล็ดลับ : เมื่อน้ำวุ้นเจอกับน้ำมันเย็นจะจับตัวแข็งและมีทรงกลมตามการหยด)
     5. ใช้กระชอนตักวุ้นใส่ลงในน้ำเย็นจัดเพื่อล้างน้ำมันออก แช่ไว้สักครู่ให้ไข่มุกป๊อปแข็งตัวได้ดีขึ้น
     6. ตักไข่มุกป๊อปขึ้นจากน้ำ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ราดไข่มุกป๊อปบนขนมหรือไอศกรีมตามชอบ

     1. เปิดไฟตั้งน้ำให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายแดง คนเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายแล้วปิดไฟ ใส่แป้งมันลงไป คนให้แป้งเข้ากับน้ำตาล แป้งจะเหนียว ๆ หนืด ๆ เทแป้งออกจากหม้อเตรียมนวดต่อ
     2. ก่อนจะนวดให้โรยแป้งนวลจะช่วยให้นวดง่ายขึ้น ระวังร้อนมือด้วยนะคะ นวดจนแป้งเนียนสวยและไม่ติดมือ แบ่งแป้งออกเป็นหลาย ๆ ส่วน แล้วตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปั้นเป็นก้อนกลม
     3. วิธีต้มไข่มุกทำโดยต้มน้ำให้เดือดแล้วเทเม็ดมุกลงไปต้ม ให้คนตลอดเวลาจนไข่มุกลอยตัวขึ้นมา ลดไฟลง ใช้เวลาต้ม 30 นาที พอครบ 30 นาทีก็ปิดไฟและปิดฝาต้มต่ออีก 10 นาที นำไปล้างแล้วเทใส่ถ้วย เคล้ากับน้ำตาลทรายแดงและน้ำผึ้งก็กินได้

     1. ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายแดง ตั้งไฟ เปิดไฟแรง พอน้ำเดือดแล้วรอให้เดือดเต็มที่ 1-2 นาที แล้วให้ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปกวนทันที เพราะไม่เช่นนั้นแป้งจะสุกไม่เท่ากัน กวนจนแป้งเหนียวเข้ากันดีแล้ว
     2. นำตัวแป้งไปนวดที่โต๊ะสะอาด นวดไปจนแป้งเนื้อเนียน เวลานวดอาจจะใช้แป้งมันสำปะหลังในการโรยเพื่อให้แป้งไม่ติดโต๊ะนวด
     3. แบ่งตัวแป้งออกเป็นก้อน ๆ เพื่อง่ายต่อการนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เวลาปั้นอาจจะใช้เวลานาน ให้หาพลาสติกหรือผ้ามาคลุมตัวแป้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของตัวแป้งแห้ง แต่ถ้าผิวของตัวแป้งแห้งก็สามารถนวดให้เนื้อเนียนใหม่ได้
     4. ปั้นตัวแป้งให้เป็นเม็ดกลม ๆ ตามขนาดที่เราต้องการ ใช้แป้งมันสำปะหลังโรยบ้างเป็นบางครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวแป้งที่เราปั้นติดกัน
     5. ตั้งหม้อใส่น้ำที่สะอาด รอจนน้ำเดือดแล้วใส่ตัวแป้งไข่มุกที่ปั้นเสร็จแล้วลงไป รอประมาณสัก 2-3 นาที แล้วค่อยคนเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวไข่มุกติดก้นหม้อน้ำร้อน พอน้ำเดือดและไข่มุกไม่ติดก้นหม้อน้ำ หรือติดกันเป็นก้อนแล้ว ให้เบาไฟลง ไฟเบาแต่น้ำยังคงเดือดอยู่เล็กน้อยแต่ไม่มาก ต้มไข่มุกอีก 30 นาที แต่ทุก 10 นาที ให้หมั่นมากวนไข่มุก ป้องกันการติดก้นหม้อ
     6. พอครบ 30 นาทีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำฝาหม้อมาปิดไว้ รออีก 15 นาที
     7. พอครบ 15 นาทีแล้ว ให้นำตัวไข่มุกไปล้างน้ำเปล่า เพื่อกำจัดตัวเมือกที่ติดไข่มุก
     8. นำไข่มุกมาใส่ในชามอ่างแล้วปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา และน้ำผึ้ง นำมาจัดเสิร์ฟได้

     1. แช่ผงชากับน้ำร้อนไว้ประมาณ 5 นาที พอครบเวลากรองเอาชาออก
     2. เติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบ คนให้ละลายแล้วพักทิ้งไว้จนเย็น
     3. ตักไข่มุกใส่แก้ว ตามด้วยน้ำแข็ง เทน้ำชาที่เย็นแล้วลงไปจนเกือบเต็ม สุดท้ายเติมนมสดลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

     1. ผสมกาแฟเอสเปรสโซ น้ำตาลทราย และนมสดเข้าด้วยกัน
     2. ตักไข่มุกใส่แก้ว ตามด้วยน้ำแข็ง เทส่วนผสมกาแฟลงไป แต่งด้วยฟองนมให้เต็มแก้ว พร้อมเสิร์ฟ

     1. ละลายผงชาเขียวกับน้ำร้อนเข้าด้วยกัน
     2. ใส่ชาเขียวที่ละลายไว้ลงในเชคเกอร์ ตามด้วยน้ำผึ้ง นมสด และน้ำแข็ง เขย่าผสมให้เข้ากันดี
     3. ตักไข่มุกใส่แก้ว เทส่วนผสมชาเขียวลงไป ตามด้วยไอศกรีมชาเขียว พร้อมเสิร์ฟ

     1. ค่อย ๆ เทนมอุ่น ๆ ลงในผงชาเผือกคนผสมให้ละลายเข้ากัน เติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบ คนให้เข้ากัน
     2. ตักเม็ดไข่มุกต้มสุกใส่ลงแก้ว เติมชานมเผือกลงไป พร้อมเสิร์ฟ

     1. ปั่นลิ้นจี่ กะทิ นม เกลือป่น และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเนียน เทใส่ภาชนะแล้วนำไปแช่แข็ง ประมาณ 1 ชั่วโมง
     2. ตักไข่มุกใส่แก้ว นำส่วนผสมที่ปั่นไว้มาเทใส่ลงไป พร้อมเสิร์ฟ

           เพื่อน ๆ ชอบเมนูไข่มุกสูตรไหนจัดเลยค่ะ ใครไม่สะดวกทำไข่มุกเองก็ซื้อไข่มุกสำเร็จรูปมาต้มก็ได้นะคะ อุ๊ย… ใกล้มือเที่ยงแล้วขอลองทำมาม่าเกาหลีไข่มุกชิมสักหน่อยดีกว่า