สูตรสะเดาดอง อร่อยง่ายข้ามคืน เก็บได้นานข้ามปี

1. ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำดี ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และช่วยย่อยอาหารประเภทไขมันได้ดี

2. มีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคเบาหวาน

3. ช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร รักษาแผลในกระเพาะอาหาร

4. ช่วย์ดีท็อกซ์สารพิษในกระแสเลือด ทำให้เลือดดีหมุนเวียนในร่างกายมากขึ้น กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

5. ดอกสะเดาช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการคันคอ ช่วยให้ระบาย บรรเทาอาการท้องผูก

1. สะเดาเป็นพืชที่มีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง 

2. รสขมของสะเดาจะไปกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน

3. หญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้ไม่มีน้ำนม

4. ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตต่ำควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ อาจเกิดอาการหน้ามืดหรือเป็นลมได้

1. ช่อดอกสะเดา 1/2 กิโลกรัม 

2. น้ำสะอาด 1 ลิตร 

3. น้ำส้มสายชู 500 มิลลิลิตร

4. น้ำตาลทราย 500 กรัม 

5. เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ

1. ทำน้ำดอง โดยตั้งหม้อ เติมน้ำ น้ำส้มสายชู น้ำตาล และเกลือ คนจนละลาย นำไปตั้งไฟต้มจนเดือด ปิดไฟ พักไว้จนเย็น

2. ล้างสะเดาประมาณ 2-3 ครั้ง ใส่สะเดาลงไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 1 นาที ตักออกมาใส่ในน้ำเย็น พักไว้จนคลายร้อน ใส่ลงในโหลดอง เติมน้ำดองลงไป ดองไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง จัดเสิร์ฟ

3. ถ้ากินไม่หมดให้ตักออกจากน้ำดองแล้วใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ หรือจะแช่ทั้งโหลก็ได้ แต่ความเปรี้ยวอาจจะเพิ่มขึ้น เก็บได้นานหลายเดือน

• สะเดาน้ำปลาหวาน เมนูเปรี้ยวปากของวัยเก๋า
• สะเดาน้ำปลาหวาน ปลาย่าง สูตรอาหารไทยหากินยากแต่ทำแสนง่าย
• มะยมดอง สูตรทำกินทำขาย เปรี้ยวหวานพร้อมเคล็ดลับกรอบนาน
• กิมจิหัวไชเท้า เมนูผักดองเกาหลี กรอบอร่อยทำง่าย
• วิธีทำสะตอดอง น้ำซาวข้าว เปรี้ยวกรอบอร่อยทันใจภายใน 3 วัน
   

ขอบคุณข้อมูลจาก : rama.mahidol.ac.th