6 สูตรขนมปังข้าวโอ๊ต อร่อยง่าย ๆ ได้ประโยชน์เยอะ

          เปลี่ยนขนมปังทำจากแป้งเดิม ๆ ให้กลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ กับขนมปังข้าวโอ๊ต ที่อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือดีต่อร่างกาย จะมีสูตรอะไรอร่อย ๆ น่ากินกันบ้าง ไปดูเลย

ข้าวโอ๊ตมีทั้ง Oatmeal (เนื้อหยาบ) Roll Oat (เมล็ดแบน) และ Instant Oat (บดปรุงสำเร็จ)

         ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะปราศจากกลูเตน และเป็นแหล่งรวมวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญมากมาย ช่วยในการลดน้ำหนัก ลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ข้าวโอ๊ตยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่

          ในข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ที่ดี อีกทั้งยังมีโปรตีนและไขมันมากกว่าธัญพืชอื่น ๆ รวมถึงวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยในการกินข้าวโอ๊ตแห้งครึ่งถ้วย (78 กรัม) จะให้คาร์โบไฮเดรต 51 กรัม โปรตีน 13 กรัม ไขมัน 5 กรัม ไฟเบอร์ 8 กรัม และให้พลังงานเพียง 303 แคลอรีเท่านั้น

          เบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นเส้นใยละลายน้ำในข้าวโอ๊ต เมื่อละลายน้ำแล้วจะกลายเป็นเจลหนาที่ช่วยดูดซึมกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด เพิ่มความไวของอินซูลิน และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ หากไม่มีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปล่อยให้สูงเกินไป อาจจะเป็นความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้

         โรคหืด เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรังที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก เกิดจากการอักเสบของทางเดินหายใจ ทำให้เด็ก ๆ มีอาการไอ หายใจมีเสียงหวีด และหายใจลำบาก มีรายงานการศึกษาจากหลายที่กล่าวว่า การให้ข้าวโอ๊ตบดละเอียดกับทารกที่อายุไม่เกิน 6 เดือน จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหอบหืดในเด็กได้

• แป้งอเนกประสงค์ gluten-free 2+1/3 ถ้วย 

• แซนแทนกัม 3/4 ช้อนชา (ถ้าแป้งที่ใช้มีแซนแทนกัมผสมอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่) 

• ผงฟู 2+1/2 ช้อนชา 

• เกลือ 1 ช้อนชา 

• กรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตมะพร้าว 1 ถ้วย 

• ไข่ 1 ฟอง 

• น้ำมันมะพร้าวละลาย 1/4 ถ้วย 

• น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย

• ข้าวโอ๊ตเมล็ดแบน (Rolled Oat) แบบ gluten-free 1 ถ้วย 

• นมอัลมอนด์ 3/4 ถ้วย

1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมถาดอบขนาด 9x5 นิ้ว ปูด้วยกระดาษรองอบ

2. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ จากนั้นตีให้เข้ากัน 

3. ตีไข่ โยเกิร์ต น้ำมันมะพร้าวละลาย น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย และข้าวโอ๊ต จนเข้ากันดี จากนั้นเติมนมอัลมอนด์ และผสมจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 

4. ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมเปียกลงในชามส่วนผสมแห้ง ตะล่อมเบา ๆ ด้วยทัพพีไม้จนเข้ากัน (อย่าผสมมากเกินไป เพราะขนมปังอาจจะแข็งเกินไปได้) 

5. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในถาดขนมปังที่เตรียมไว้ และโรยด้านบนด้วยข้าวโอ๊ตที่เหลือ 

6. อบประมาณ 30-45 นาที หรือจนกว่าด้านบนของขนมปังจะเป็นสีน้ำตาลทอง สามารถทดสอบความสุกได้โดยการใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเนื้อขนมปัง ถ้าดึงออกมาแล้วไม่มีเศษแป้งติดขึ้นมาด้วยแสดงว่าสุกทั่วกันดีแล้ว 

7. นำขนมปังออกจากถาดอบ ทิ้งไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท จากนั้นทาน้ำผึ้งที่ผิวด้านนอก และตัดแบ่งเสิร์ฟได้ 

• เนื้อฟักทองบดละเอียด 1 ถ้วย 

• ซอสแอปเปิลแบบไม่หวาน 1/2 ถ้วย 

• น้ำตาลทรายแดง 2/3 ถ้วย 

• ไข่ 2 ฟอง 

• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 

• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย 

• แป้งอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วย 

• ข้าวโอ๊ตเมล็ดแบน (Rolled Oat) 1/2 ถ้วย และอีก 2-3 ช้อนโต๊ะ สำหรับโรยหน้า 

• ผงฟู 1 ช้อนชา

• อบเชย 2 ช้อนชา 

• กานพลูบด 1/4 ช้อนชา 

• ขิงผง 1/2 ช้อนชา 

• ลูกจันทน์เทศบด 1/2 ช้อนชา 

• เกลือทะเล 1/2 ช้อนชา 

• เมล็ดฟักทอง 1/4 ถ้วย (สำหรับโรยหน้าก่อนอบ) 

1. วอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมถาดอบด้วยการทาน้ำมันหรือเนย และรองด้วยกระดาษรองอบ

2. ใส่เนื้อฟักทองบด ซอสแอปเปิล น้ำตาลทรายแดง ไข่ กลิ่นวานิลลา และน้ำมันพืช ลงในชามผสมใบใหญ่ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

3. เติมแป้งอเนกประสงค์ ข้าวโอ๊ต ผงฟู เกลือ และเครื่องเทศทั้งหมด ลงในส่วนผสมเปียก จากนั้นใช้ไม้พายค่อย ๆ ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 

4. ตักแป้งลงในถาดที่เตรียมไว้ โรยด้านบนด้วยข้าวโอ๊ต 2-3 ช้อน และเมล็ดฟักทอง ก่อนนำไปอบในเตาอบ 

5. นำเข้าอบประมาณ 50-55 นาที หรือจนกว่าเนื้อขนมปังด้านในจะสุก (เช็กด้วยการใช้ไม้จิ้มเข้าไป จนไม่มีเศษแป้งขนมปังติดออกมา)

6. ทิ้งไว้ให้เย็นตัวประมาณ 10 นาที จากนั้นนำออกมาวางที่ตะแกรงให้เย็นสนิท ก่อนจะตัดแบ่งและเสิร์ฟได้ 

• แป้งอเนกประสงค์ 3 ถ้วย 

• ข้าวโอ๊ตเมล็ดแบน (Rolled Oat) 1 ถ้วย และ 2-3 ช้อนโต๊ะ สำหรับโรยหน้า

• เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา 

• ยีสต์สำหรับรูป 1/2 ช้อนชา 

• น้ำอุ่นเล็กน้อย หรือน้ำอุณหภูมิห้อง 1+2/3 ถ้วย

1. ใส่แป้ง ข้าวโอ๊ต เกลือ และยีสต์ ลงไปผสมให้เข้ากันดี 

2. ค่อย ๆ เทน้ำลงไปขณะที่คนส่วนผสม จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ปิดฝาชามด้วยกระดาษฟอยล์ ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดหรือพลาสติกแรป วางพักไว้ในพื้นที่อุ่น 12-16 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งโดว์ขึ้นฟู

3. เมื่อแป้งขึ้นฟูได้ที่ ให้โรยแป้งบาง ๆ ด้านบน ค่อย ๆ ปั้นก้อนแป้งโดยดึงตัวแป้งออกจากด้านข้างของชามไปตรงกลาง ปั้นไปจนกว่าจะได้เนื้อแป้งเนียนตามต้องการ จากนั้นพลิกแป้งโดว์ให้ตะเข็บของแป้งอยู่ด้านล่าง และโรยแป้งบาง ๆ ที่ด้านบน 

4. ปิดด้วยกระดาษฟอยล์ ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดหรือพลาสติกแรป พักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งขึ้นฟูอีกเล็กน้อย 

5. เตรียมถาดอบโดยการทาน้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 450 องศาฟาเรนไฮต์ อบถาดเปล่า ๆ เป็นเวลา 30 นาที เพื่อเป็นการวอร์มเตาอบ 

6. ค่อย ๆ วางแป้งโดว์ลงในถาดอบ ปิดฝาหรือใช้ฟอยล์คลุม อบเป็นเวลา 25 นาที และเปิดฝาหรือนำกระดาษฟอยล์ออก จากนั้นอบต่ออีก 15 นาที หรือจนกว่าก้อนขนมปังจะมีสีน้ำตาลทอง ทิ้งไว้ให้เย็น และตัดแบ่งเสิร์ฟได้

• เนื้อกล้วยหอมสุกบดหยาบ 3 ชิ้น (360 กรัม) 

• ไข่ 2 ฟอง 

• ข้าวโอ๊ตเมล็ดแบน (Rolled Oat) 2 ถ้วย

• ผงฟู 1 ช้อนชา 

หมายเหตุ : สามารถเพิ่มส่วนผสมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติได้ เช่น เมเปิลไซรัป ช็อกโกแลตชิพ และวอลนัทสับหยาบ

1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมถาดอบขนมปังขนาด 8x4 นิ้ว และรองถาดด้วยกระดาษรองอบเตรียมไว้ 

2. ใส่เนื้อกล้วยบด ไข่ ข้าวโอ๊ต และผงฟู ลงในเครื่องปั่น (ถ้าอยากใส่เมเปิลไซรัป ให้ใส่ตอนนี้ได้เลย) ปั่นด้วยความเร็วสูงจนได้เนื้อแป้งที่เนียนสวย (ใครอยากใส่ช็อกโกแลตชิพหรือวอลนัทสับหยาบ ให้ใส่เมื่อปั่นแป้งเนียนเข้ากันดีแล้ว) 

3. เทแป้งลงในถาดที่เตรียมไว้ นำเข้าอบประมาณ 35-45 นาที หรือจนกว่าเนื้อขนมปังจะสุก สังเกตได้จากการกดบนพื้นผิวของขนมปัง ถ้าเด้งกลับ ไม่ยุบตัว ก็แสดงว่าสุกดีแล้ว 

4. ทิ้งขนมปังให้เย็นตัวในถาด จากนั้นตัดแบ่งและเสิร์ฟได้ หากต้องการจะเก็บขนมปัง ควรเก็บไว้ในภาชนะที่อากาศถ่ายเทได้และใส่ไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง

• ข้าวโอ๊ตเมล็ดแบน (Rolled Oat) 1 1/4  ถ้วย

• แป้งสเปลท์ แบบไลท์ (Light Spelt) 1+1/4 ถ้วย 

• น้ำตาล 1/3 ถ้วย (จะใช้น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลจากอ้อยก็ได้) 

• ผงฟู 2 ข้อนชา 

• เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา 

• เกลือเล็กน้อย 

• กล้วยสุกบด 2-3 ผล 

• นมอัลมอนด์ไม่หวาน 1/4 ถ้วย 

• น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันเมล็ดองุ่น 1/4 ถ้วย (ใครจะใช้ซอสแอปเปิลก็ได้) 

• บลูเบอร์รีสด 1 ถ้วย  

หมายเหตุ : สามารถเพิ่มเครื่องเทศต่าง ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมได้ เช่น กลิ่นวานิลลา หรืออบเชย

1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ และเตรียมถาดอบขนาด 9x5 นิ้ว ทาด้านในให้ทั่วด้วยน้ำมันบาง ๆ 

2. ใส่แป้ง ข้าวโอ๊ต น้ำตาล ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือ (ถ้าใครอยากใส่อบเชยก็ใส่ตอนนี้ได้) คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน 

3. บดกล้วยสุกให้ละเอียดเนียน พักไว้ 

4. ใส่เนื้อกล้วยบด น้ำมัน นมอัลมอนด์ (ถ้าใครอยากใส่กลิ่นวานิลลาก็ใส่ตอนนี้ได้) ลงในส่วนผสมแห้ง ผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นใส่บลูเบอร์รีลงไป  

5. เทแป้งลงไปในถาด โรยหน้าด้วยบลูเบอร์รีและข้าวโอ๊ตเล็กน้อย นำเข้าเตาอบประมาณ 50-55 นาที จนกว่าขนมปังจะสุกหรือเปลี่ยนเป็นสีทอง 

6. เมื่ออบเสร็จให้ปล่อยให้เย็นในถาดประมาณ 15 นาที เมื่อครบเวลาให้นำออกมาวางบนตะแกรงจนเย็นสนิทดี 

7. ตัดแบ่งและเสิร์ฟ สามารถเก็บไว้ในภาชนะมีฝาปิดได้นานถึง 3 วัน ในอุณหภูมิห้อง หรือเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 1 สัปดาห์ หากเก็บไว้ในช่องแช่แข็งก็สามารถเก็บได้นานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว

• แป้งโฮลวีต หรือแป้งอเนกประสงค์ 1 1/4 ถ้วย 

• ข้าวโอ๊ตเมล็ดแบน (Rolled Oat) 1/2 ถ้วย 

• ผงฟู 1 ช้อนชา 

• เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา 

• เกลือโคเชอร์ 1/2 ช้อนชา 

• อบเชยป่น 1+1/2 ช้อนชา 

• ลูกจันทน์เทศบด 1/4 ช้อนชา 

• กานพลูบด 1 หยิบมือ 

• น้ำตาลทรายแดง 2/3 ถ้วย 

• ไข่ 2 ฟอง 

• น้ำมันอะโวคาโด หรือน้ำมันพืช 1/3 ถ้วย 

• ซอสแอปเปิลแบบไม่หวาน 1/2 ถ้วย

• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนโต๊ะ 

• ผิวเลมอนเล็กน้อย (ถ้ามี) 

• แอปเปิล 1 ผล ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นประมาณ 1/2 นิ้ว

• วอลนัทคั่วสุก 1/3 ถ้วย สับหยาบ 

• น้ำตาลเทอร์บิดาโน 1 ช้อนโต๊ะ สำหรับโรยหน้า 

1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมถาดอบขนาด 9x5 นิ้ว สเปรย์หรือทาน้ำมันบาง ๆ ที่ด้านในถาด และรองด้วยกระดาษรองอบ 

2. ใส่แป้ง ข้าวโอ๊ต ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือ อบเชย ลูกจันทน์เทศ และกานพลู ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้ 

3. ตีน้ำตาลทรายแดงและไข่เป็นเวลา 1 นาที หรือจะเป็นฟองเล็กน้อย จากนั้นใส่ซอสแอปเปิล กลิ่นวานิลลา และผิวเลมอน (ถ้ามี) แล้วตีจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

4. ตักส่วนผสมแห้งใส่ลงในส่วนผสมเปียก ค่อย ๆ ใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่แอปเปิลสับและวอลนัทสับหยาบ จากนั้นเทส่วนผสมลงในถาดอบที่เตรียมไว้ เคาะถาดเบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ และโรยน้ำตาลเทอร์บิดาโนให้ทั่วด้านบนของแป้ง 

5. นำเข้าเตาอบเป็นเวลาประมาณ 40-50 นาที หรือจนกว่าขนมปังจะสุก เมื่อสุกดีแล้วนำมาวางบนตะแกรง ทิ้งให้เย็นประมาณ 5-10 นาที จากนั้นจึงนำออกจากถาด ทิ้งให้เย็นสนิท จึงตัดแบ่งและเสิร์ฟ 

     ★ คุกกี้ข้าวโอ๊ต สูตรคุกกี้นิ่มทำง่ายเอาไว้กินเล่นจากของเหลือ

     ★ ซอฟต์คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรหวานน้อยอร่อยนุ่มเต็มคำ

     ★ คุกกี้ข้าวโอ๊ตลูกเกด สูตรทำคุกกี้ธัญพืชกรอบนุ่มรับวันพิเศษ

     ★ แพนเค้กกล้วยน้ำว้าข้าวโอ๊ต ของหวานคลีนไม่ใช้เครื่องตีส่วนผสมแค่ 3 อย่าง

     ★ กล้วยข้าวโอ๊ตอัลมอนด์สมูทตี้ เครื่องดื่มปั่นมื้อเช้าเพื่อสุขภาพ

     ★ 8 เมนูข้าวโอ๊ตลดความอ้วน อาหารเช้ามื้อคุณภาพ อิ่มง่าย ๆ ไขมันต่ำ
 

         เป็นอย่างไรบ้างกับสูตรขนมปังข้าวโอ๊ตแบบง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากกัน น่ากินทุกเมนูและทำง่ายมาก ๆ เลย แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย ลองเอาไปทำกินกันดูนะคะ
 

ขอบคุณข้อมูลจาก
healthline.com