เมนูปลากุเลา เมนูอาหารไทยกลิ่นหอมอร่อยระดับห้าดาว

รวมเมนูปลากุเลา อาหารไทยจากปลาทะเลมีชื่อเสียงฝั่งภาคใต้ เนื้อนุ่มกลิ่นหอมอวล แม้ราคาแอบแรงแต่ก็น่าลองสักครั้ง

ปลากุเลา ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาราคาแพงของภาคใต้ โดยเฉพาะปลากุเลาตากใบ หรือปลากุเลาเค็มจากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ที่เป็นทั้งแหล่งกำเนิดปลาและแหล่งผลิตปลาเค็มที่มีความพิถีพิถัน ใครมีโอกาสหาซื้อปลากุเลามาได้ แนะนำจับมาทำเมนูปลากุเลา อาหารไทย เช่น ยำปลากุเลาเค็ม แกงลูกชิ้นปลากุเลา ปลากุเลานึ่งมะนาว เป็นต้น หรือจะจับไปทอดขมิ้นราดกระเทียมเจียวกรอบ ๆ ก็ฟินสุด ๆ

ปลากุเลา คือปลาอะไร

ภาพจาก : คุณตะโกครับ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ปลากุเลา (Kulao Fish) เป็นปลาทะเล มีรูปร่างเรียวยาว มีก้างตรงกลางอย่างเดียว สามารถกินได้ตั้งแต่ส่วนหัวและตลอดทั้งตัว อาศัยอยู่ในน้ำกร่อย ดินโคลน

ปลากุเลาตากใบ

ปลากุเลา ปลาทะเลมีชื่อเสียงในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เช่น สงขลา ปัตตานี นราธิวาส โดยเฉพาะอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีปลากุเลาชุกชุม และปลากุเลาเค็มตากใบก็เป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ขั้นตอนการทำจะหมักด้วยเกลือแล้วใช้ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกห่อหัวปลาเพื่อป้องกันแมลงวันมาวางไข่ จากนั้นนำไปตากแดดโดยห้อยหัวลงประมาณ 2 วัน จนแห้ง มีการนวดสลับกับการตากแดดเพื่อให้ปลามีเนื้อละเอียดทั่ว เอกลักษณ์คือ รสชาติไม่เค็มจัด มีความกลมกล่อม ผิวเรียบตึง เนื้อแน่นละเอียด ไม่ผ่านการแช่แข็ง เมื่อทอดจะฟูและมีกลิ่นหอม

ภาพจาก : คุณตะโกครับ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ปลากุเลาทำอะไรกินดี

ปลากุเลาสดสามารถเอามาทำเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น ปลากุเลาทอดเกลือ ปลากุเลาทอดราดน้ำปลา ปลากุเลาทอดราดพริกไทยดำ ปลากุเลาทอดขมิ้น ปลากุเลานึ่งมะนาว เป็นต้น ส่วนปลากุเลาเค็มก็เอามาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ปลากุเลาเค็มทอด ข้าวผัดปลากุเลาเค็ม หลนปลากุเลาเค็ม ยำปลากุเลาเค็มทอด แกงขี้เหล็กปลากุเลาเค็ม ผัดคะน้าปลากุเลาเค็ม เป็นต้น

เมนูปลากุเลา

1. ปลากุเลาเค็ม

ภาพจาก : คุณตะโกครับ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ปลากุเลาเค็ม จับปลากุเลาสดมาหมักด้วยเกลือและผึ่งแดดผึ่งลมจนครบเวลา จากนั้นเอาไปทอดจนสุกทำเป็นยำปลาเค็มหอมอร่อย หรือแปลงร่างเป็นเมนูผัดคะน้าปลาเค็ม ข้าวผัดปลาเค็ม หรือเอาไปต้มส้มก็เด็ด

ส่วนผสม ปลากุเลาเค็ม

ปลากุเลาสด
เกลือ
มะนาว
พริก
หอมแดง

วิธีทำปลากุเลาเค็ม

1. นำปลามาขอดเกล็ด ดึงเหงือก ดึงไส้ และล้างทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ

2. นำเกลือยัดลงไปในท้องปลาจนเต็ม จับเรียงวางไว้ในภาชนะหรือลังโฟม โรยด้วยเกลือตามลำตัวให้ทั่ว จากนั้นใช้หนังสติ๊กรัดปากปลาเพื่อไม่ให้เกลือไหลออก (เพราะถ้าไม่ปิดปากเกลือจะไหลออกได้ ปลาจะไม่ถึงเกลือ เนื้ออาจเสียได้) ปิดฝาเอาของหนักทับฝาลัง (ในสูตรใช้ถังใส่น้ำแล้ววางด้านบน) ช่วงนี้ปลาจะคายน้ำออก ถ้าปลาเยอะสามารถสลับปลาตัวบนลงด้านล่างได้ เทน้ำทิ้งแล้วหมักต่อประมาณ 3 วัน 3 คืน

ภาพจาก : คุณตะโกครับ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

3. เมื่อครบกำหนดก็เอาออกมาล้างน้ำ ฉีดน้ำเข้าท้องเพื่อไล่เกลือออกมาให้หมดและทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ ใช้กระดาษห่อปิดหัวปลาให้ทับรูใต้ท้องปลาด้วย ไม่เช่นนั้นแมลงวันจะวางไข่ได้ ปลาก็อาจจะขึ้นหนอน

ภาพจาก : คุณตะโกครับ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

4. หลังจากห่อเสร็จก็ให้ตากในที่ร่ม อาจจะโดนแดดได้นิดหน่อย แต่ไม่ควรโดนแดดทั้งวัน เพราะเนื้อปลาจะสุกร่วนจากความร้อนของแสงแดด ควรเลือกตากในร่ม ตากลมไปเรื่อย ๆ จะดีที่สุด แค่ต้องการให้น้ำในปลาออกมาจึงต้องห้อยหัวลง ผึ่งลมราว 4-5 วัน เนื้อปลาก็จะค่อย ๆ แห้งลง บีบที่ตัวเบา ๆ เอาความนิ่มเหมือนกล้วยเริ่มสุกถือว่าใช้ได้

5. นำปลามาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำสักพัก เอาไปทอดไฟอ่อน อย่าใช้ไฟแรง ปลาจะไหม้ ด้านในไม่สุก ตักใส่จาน บีบมะนาว โรยพริกสดและหอมแดง

ดูเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำปลาเค็ม สูตรใช้ปลากุเลา หอมอร่อยพร้อมวิธีหมักปลาสุดเทพ

2. แกงสับนก

ภาพจาก : คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

แกงสับนก เมนูแกงโบราณ จับเนื้อปลากุเลาและปลาอื่น ๆ นวดจนเหนียวแล้วปั้นเป็นก้อนขนาดตามชอบ นำไปใส่หม้อแกงกะทิ ใส่เครื่องสมุนไพรไทยและใบโหระพา

ส่วนผสม แกงสับนก

เนื้อปลากุเลาและปลาอื่น ๆ สับละเอียด
น้ำแข็ง
หัวกะทิ
เกลือ
น้ำพริกแกง
น้ำปลา
น้ำตาลปี๊บ
มะเขือพวง
กระชาย
พริกสด
ใบมะกรูด
ใบโหระพา

ส่วนผสม น้ำพริกแกง

กระชาย
พริกไทยดำ
ผิวมะกรูด
หางกะทิ

วิธีทำแกงสับนก

1. นำปลาเล็กปลาน้อยพร้อมปลากุเลามาแล่เนื้อแล่หนังออก แล้วสับจนก้างราวท้องละเอียด นำลงไปโขลกในครกหิน ใส่น้ำแข็งลงไปเล็กน้อย ตามด้วยเกลือ จากนั้นโขลกเนื้อปลาจนเป็นเนื้อเดียวกัน จนเนื้อปลาเหนียวยกสากขึ้นได้ยาก

เคล็ดลับ :

การใส่น้ำแข็งลงในเนื้อปลาเพื่อให้เนื้อปลาคลายความกระด้างลง ถ้าเป็นเนื้อปลาล้วน ๆ จะกระด้าง กินแล้วสาก ๆ ไม่นุ่ม จึงต้องใส่น้ำแข็งลงไป น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเพิ่มความชื้นให้เนื้อปลานุ่มขึ้น และใส่เกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ
ถ้าโขลกแล้วเนื้อปลายังไม่เหนียวให้โขลกต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าจืดก็ปรับเพิ่มเกลือ ถ้ามีเครื่องปั่นจะช่วยให้ขั้นตอนการโขลกเนื้อปลารวดเร็วขึ้น

2. ทำพริกแกง โดยปั่นหัวกระชาย พริกไทยดำ และผิวมะกรูด และหางกะทิ รอไว้

3. เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน หัวกะทิน้ำแรกตักขึ้นจากกระทะ เคี่ยวไฟอ่อนจนแตกมันแล้วค่อย ๆ เติมหัวกะทิที่เหลือเคี่ยวต่อ

4. เมื่อแตกมันได้ที่ สังเกตริมกระทะจะมันเยิ้ม ค่อย ๆ ใส่พริกแกงลงไปแล้วเคี่ยวให้หอม ประมาณ 15-20 นาที พริกแกงถึงจะสุกและส่งกลิ่นหอม

5. ปั้นเนื้อปลาเป็นก้อนแล้วใส่ลงในเครื่องแกงกะทิ ชิมรสสัมผัสของเนื้อปลา เมื่อได้ที่ก็ปั้นใส่ลงในกระทะ เติมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บ ใส่มะเขือพวง กระชาย พริก ใบมะกรูด และโหระพา ตักเสิร์ฟ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ แกงสับนกปลา เมนูแกงไทยโบราณชื่อแปลกแต่อร่อยปัง

3. ปลากุเลานึ่งมะนาว

ปลากุเลานึ่งมะนาว เมนูปลากุเลาสุดแซ่บ จะใช้ปลาทั้งตัวหรือหั่นชิ้นก็ได้เช่นกัน เอาไปนึ่งจนสุก ราดน้ำยำมะนาวพริกรสจัดจ้าน

ส่วนผสม ปลากุเลานึ่งมะนาว

ปลากุเลาสด
รากผักชีสับ
พริกสดสับ
กระเทียมสับ
น้ำปลา
น้ำตาลทราย
น้ำเปล่า
พริกสดสับ
น้ำมะนาว

วิธีทำปลากุเลานึ่งมะนาว

นำปลามาขอดเกล็ด ดึงเหงือก ดึงไส้ และล้างทำความสะอาด บั้งให้สวยงาม พักให้สะเด็ดน้ำ
ตั้งซึ้งนึ่งรอจนน้ำเดือด ใส่ปลาลงไปนึ่งประมาณ 10 นาที หรือจนสุก
ทำน้ำยำ โดยผสมรากผักชี พริกสด กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ตั้งหม้อจนน้ำตาลละลาย ปิดไฟ ใส่พริกลงไป เติมน้ำมะนาว เสร็จแล้วราดบนตัวปลา

หลังจากนี้คงต้องหยอดกระปุกซื้อปลากุเลาสักตัวมาทำอาหารเป็นบุญปากสักหน่อย แค่คิดถึงกลิ่นหอม ๆ ตอนทอดก็ยั่วน้ำลายแล้ว ใครเป็นสายปลาอยากให้ลองเลยจ้า