1. ต้มยำปลาทูมะขามสด
ส่วนผสม ต้มยำปลาทู
- ปลาทูสด (หรือปลาทูนึ่ง)
- ข่า
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- น้ำปลา
- มะขามสดปอกเปลือกออก
- พริกขี้หนูสวนทุบ
- ผักชีฝรั่ง
- ใบกะเพรา
วิธีทำต้มยำปลาทู
1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไปต้ม รอน้ำเดือดแล้วใส่ปลาทูลงไป จากนั้นใส่มะขาม ปรุงรสด้วยน้ำปลา (ถ้ามะขามที่ใส่ไม่เปรี้ยว ให้เติมมะขามลงไปอีก)
2. พอได้รสที่ชอบแล้วตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูสวนทุบ ผักชีฝรั่ง และใบกะเพรา (หากคนชอบกินกะเพราเยอะ ๆ ให้ใส่ก่อนปิดไฟ)
2. พล่าปลาทู
ส่วนผสม พล่าปลาทู
- ปลาทูนึ่ง 1 ตัว (ขนาด 250 กรัม)
- กระเทียม 10 กลีบ
- พริกขี้หนู 10 เม็ด (ใครชอบจี๊ด ๆ ใส่เพิ่มได้ค่ะ)
- รากผักชี สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
- ผักชีสับหยาบ 1/3 ถ้วย
- ผักกาดหอมและใบสะระแหน่ สำหรับจัดจาน
วิธีทำพล่าปลาทู
1. นำปลาทูนึ่งไปย่างจนสุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อ เตรียมไว้
2. โขลกกระเทียม พริกขี้หนู และรากผักชีเข้าด้วยกันให้ละเอียด
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว คนให้ละลาย จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันดี จากนั้นใส่เนื้อปลาทู หอมแดงซอย ผักชี และตะไคร้ ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน (ใครอยากได้รสไหนชิมรสตามใจชอบ)
4. จัดใส่จาน โดยรองจานด้วยใบผักกาดหอม ตักพล่าปลาทูวางด้านบน แต่งด้วยใบสะระแหน่ เสิร์ฟได้ทันที
3. พล่าปลาสด
ส่วนผสม พล่าปลาสด
- ปลาหลังเขียว
- พริก
- สะระแหน่
- ตะไคร้
- มะนาว
- น้ำปลา
- หอมแดง
วิธีทำพล่าปลาหลังเขียว
1. เริ่มจากการขอดเกล็ดแล้วแล่เนื้อแบบฟิลเลย์ 2 ชิ้น แล่เนื้อเสร็จต้องคุมอุณหภูมิเนื้อปลาด้วยน้ำแข็ง
2. เอาเนื้อปลามาผ่านน้ำส้มสายชู ด้วยการขยำสุก 2 ครั้ง น้ำส้มสายชูจะช่วยล้างเมือกที่ติดผิวหนังของปลา สังเกตเนื้อปลาจะซีดลง ไม่ต้องล้างน้ำอีก บีบมะนาวลงไปสัก 2 ลูก ตามด้วยน้ำปลาเท่าน้ำมะนาว ใส่ตะไคร้ พริก และหอมแดง แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมดูตามรสที่ชอบ เปรี้ยว เค็ม และเผ็ด หอมตะไคร้กับสะระแหน่
4. ลาบปลาทู
ส่วนผสม ลาบปลาทู
- ปลาทูนึ่ง 1 ตัว (ขนาด 250 กรัม)
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 2 หัว
- ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ (เคล็ดลับ : ใช้ข้าวเหนียวดำกับข้าวสารและใบมะกรูดลงไปคั่วก่อนนำมาตำ)
- ต้นหอมซอย 2 ต้น
- ผักชีฝรั่งซอย 3 ใบ
- พริกขี้หนูซอย 10 เม็ด
- ใบสะระแหน่ 1 ทัพพี
- ผักสด
วิธีทำลาบปลาทู
1. นำปลาทูนึ่งไปย่างจนสุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อ เตรียมไว้
2. ใส่เนื้อปลาทูลงในอ่างผสม ตามด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น หอมแดง ข้าวคั่ว ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ และพริกขี้หนู เคล้าให้เข้ากัน
3. ตักใส่จาน จะโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่กับต้นหอมก็ได้ เสิร์ฟคู่กับผักสดตามชอบ
5. น้ำพริกปลาทู
ส่วนผสม น้ำพริกปลาทู
- ปลาทูนึ่ง (นำไปย่างแล้วแกะเอาแต่เนื้อ)
- หอมแดง ปอกเปลือก
- กระเทียม ปอกเปลือก
- พริกชี้ฟ้า หั่นเป็นท่อน ๆ (หรือพริกชนิดอื่น)
- น้ำต้มสุก (ใครที่ชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องใส่ก็ได้)
- มะนาว
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำน้ำพริกปลาทู
1. นำหอมแดง กระเทียม และพริกชี้ฟ้าไปคั่วหรือเผาจนสุก
2. ใส่หอมแดง กระเทียม และพริกที่คั่วแล้วลงไปตำในครก ตำให้แหลก (ใครชอบแหลกมาก-น้อยตามชอบ) ตามด้วยเนื้อปลาทูที่แกะไว้ โขลกให้เข้ากันดี
3. ใส่น้ำต้มสุกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ตักเสิร์ฟพร้อมกับผักต้ม ผักสด
6. น้ำพริกปลาทู
ส่วนผสม น้ำพริกปลาทู
- ปลาทู
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
- พริก
- หอมแดง
- กระเทียม
- น้ำปลาร้า 2-3 ทัพพี
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- ต้นหอม
- ผักชี
วิธีทำน้ำพริกปลาทู
2. หันไปเด็ดพริก หอมแดง และกระเทียม แล้วคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ เมื่อทุกอย่างสุกดีแล้ว นำใส่ครกตำให้พอแหลก ใส่เนื้อปลาแกะแล้วลงไปในครก ตำต่อจนปลาแหลกและเนื้อฟู
3. ตักน้ำปลาร้าราว ๆ 2-3 ทัพพี ผสมน้ำลงไปหน่อย เอาไปเคี่ยวจนน้ำเริ่มงวด แล้วจึงนำมาใส่กับปลาทูที่ตำไว้
4. ปรุงรสด้วยมะนาว ถ้าปลาร้าไม่เค็มมาก เติมน้ำปลาลงไป โรยหน้าด้วยผักชี บางบ้านก็จะทำให้มีน้ำมากเรียกกันว่า ป่นปลาทู ถ้าแบบน้ำก็เติมน้ำปลาร้าเพิ่ม ปรุงรสใหม่หรือจะใช้น้ำต้มปลาก็ได้ เสิร์ฟกับผักสดหรือผักลวก
7. น้ำพริกปลาแซลมอน
ส่วนผสม น้ำพริกปลาแซลมอน
- เนื้อปลาแซลมอน 200 กรัม
- พริกอ่อน 2 เม็ด
- พริกขี้หนู 10 เม็ด
- หอมแดง 5 หัว
- กระเทียม 10 กลีบ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำพริกปลาแซลมอน
1. นำพริกขี้หนู พริกอ่อน กระเทียม และหอมแดงไปย่างหรือคั่วในกระทะ ให้สุก ไหม้นิด ๆ จะได้หอม นำมาใส่ครกตำพอหยาบ
2. นำปลาแซลมอนไปย่าง หรือนาบกับกระทะ ใส่ลงไปตำในครกด้วย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา เติมรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว ใช้ช้อนคนส่วนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ เสิร์ฟกับผักสด
8. ต้มส้มปลา
ส่วนผสม ต้มส้มปลา
- ปลา (ตามชอบ)
- น้ำส้มโหนด
- หอมแดง
- กระเทียม
- ตะไคร้
- ขมิ้น
- พริกสด
- เกลือหรือน้ำปลา
วิธีทำต้มส้มปลา
- นำน้ำส้มโหนดผสมน้ำ แล้วเคี่ยวจนได้ความหอม ใส่ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม และขมิ้น พอน้ำซุปมีสีขมิ้นออกจาง ๆ แล้วจึงใส่ปลา ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา ก่อนบุบพริกสดลงไปตามความชอบ
9. ยำปลาดุกฟู
ส่วนผสม ปลาดุกฟู
- ปลาดุกย่าง 1 ตัว
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
- พริกขี้หนู
- กระเทียม
- น้ำปลา
- น้ำมะนาว
- น้ำตาลปี๊บ
- มะม่วงเปรี้ยวขูดหรือสับ 1 ลูก
- หอมแดงซอย
- ถั่วลิสงคั่ว (โรยหน้า)
- พริกซอย (โรยหน้า)
- ใบสะระแหน่ (โรยหน้า)
วิธีทำปลาดุกฟู
1. แกะเนื้อปลาดุกย่าง เอาก้างและหนังออก นำไปโขลกจนละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย (เพื่อช่วยให้เนื้อปลาฟู) โขลกให้ละเอียดเข้ากัน จากนั้นผึ่งเนื้อปลาที่โขลกแล้วให้แห้งก่อนนำไปทอด
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟแรง ค่อย ๆ โรยเนื้อปลาลงทอดจนจับตัวเป็นแพ ทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
3. ทำน้ำยำ โดยโขลกพริกและกระเทียมเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
4. จัดเนื้อปลาดุกฟูใส่จาน ตามด้วยมะม่วงเปรี้ยวขูดและหอมแดง โรยถั่วลิสง พริกซอย และใบสะระแหน่ เสิร์ฟพร้อมน้ำยำที่เตรียมไว้
10. ยำปลาทูฟู
ส่วนผสม ปลาทูฟู
- ปลาทูนึ่ง (เลือกปลาทูที่เนื้อนุ่ม)
- น้ำมันพืช
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดหรืออบ (ใครจะเปลี่ยนเป็นถั่วลิสงก็ได้)
ส่วนผสม น้ำยำ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งแห้งเนื้อ 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 1 หัวใหญ่
- พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- มะม่วงเปรี้ยวสับ 1/4 ถ้วย
หมายเหตุ : น้ำยำสูตรนี้ชิมก่อนจะใส่มะม่วงลงไป ถ้ามะม่วงเปรี้ยวมากให้ลดน้ำมะนาวลง ไม่อย่างนั้นอาจเปรี้ยวไปสำหรับคนไม่ชอบรสเปรี้ยวมาก
วิธีทำยำปลาทูฟู
1. แกะปลาทูเอาแต่เนื้อแล้วสับให้ละเอียดใส่จาน วางผึ่งไว้พอให้เนื้อปลาหมาด ๆ
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป นำขึ้นตั้งไฟแรงปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจัด (ถ้าใช้เกล็ดขนมปังให้นำเนื้อปลามาผสมกับเกล็ดขนมปังพอทั่ว) ใส่เนื้อปลาลงทอดทีละน้อยจนฟูเหลืองกรอบ ตักขึ้นแล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ทำน้ำยำโดยผสมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกันในภาชนะ คนให้น้ำตาลทรายละลาย จากนั้นใส่กุ้งแห้ง หอมแดงซอย พริกขี้หนู และมะม่วงเปรี้ยวลงไป คนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสตามชอบ
4. จัดผักรองจานแล้วนำปลาทูฟูที่ทอดแล้ววางลงไป ราดด้วยน้ำยำ โรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด (หรือจะเสิร์ฟน้ำยำแยกต่างหากก็ได้)
11. ยำปลาแซลมอนสด
ต้นเดือนแล้วจัดได้ กับเมนูยำปลาแซลมอนสด ใส่เครื่องยำแบบไทย ๆ เนื้อแน่นเด้งรสแซ่บหอมเครื่องสมุนไพร เอาไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟยิ่งอร่อย
ส่วนผสม ยำปลาแซลมอน
- เนื้อปลาแซลมอนสด
- พริกขี้หนู
- ตะไคร้
- กระเทียมจีน
- ต้นหอม
- หอมแดง
- น้ำปลา 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- มะนาว 2 ลูก
วิธีทำยำปลาแซลมอน
1. ซอยพริกขี้หนู หอมแดง และตะไคร้ ฝานกระเทียมจีนเป็นชิ้นบาง ๆ ใส่ลงในชามผสม
2. เติมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และเกลือลงไป คนผสมจนละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
3. หั่นปลาแซลมอนเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ใส่ปลาแซลมอนลงไปในส่วนผสมน้ำยำ คนผสมให้เข้ากันเบา ๆ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
12. ยำตะไคร้แซลมอน
ส่วนผสม ยำตะไคร้แซลมอน
- เนื้อแซลมอนสด หั่นเป็นชิ้นบาง
- ตะไคร้ซอย
- กระเทียมหั่นบาง
- หอมแดงซอย
- พริกสดซอย
- ต้นหอมซอย
- ผักชีซอย
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรสเล็กน้อย
วิธีทำยำตะไคร้แซลมอน
1. ผสมน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และผงปรุงรสเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริก ต้นหอม และผักชีลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันเบา ๆ
2. ใส่เนื้อปลาแซลมอนลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันเบา ๆ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
13. ยำมะม่วงปลาแซลมอน
ถ้าเมนูยำตะไคร้ปลาแซลมอนไม่ค่อยถูกปากเท่าไร ขอลองเปลี่ยนมาทำเมนูยำมะม่วงปลาแซลมอนสักมื้อ สูตรนี้ใส่มะม่วงหั่นเส้น เพิ่มเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เติมความเผ็ดจากพริกป่น
ส่วนผสม ยำมะม่วงปลาแซลมอน
- ปลาแซลมอนสด (สไลซ์บาง ๆ) 100 กรัม
- มะม่วงมัน (ซอยเป็นเส้น) 1 ลูก
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 2-3 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนชา
- น้ำเย็นและน้ำแข็ง
วิธีทำยำมะม่วงปลาแซลมอน
1. ปอกมะม่วง ล้างให้สะอาด ขูดมะม่วงออกมาเป็นเส้น ๆ แช่น้ำเย็น และน้ำแข็งเอาไว้ให้กรอบ พักให้สะเด็ดน้ำ
2. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และหอมแดง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ โรยมะม่วงที่ขูดไว้ ตักใส่จานที่เตรียมปลาแซลมอนไว้ โรยต้นหอม และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จัดเสิร์ฟ
14. ยำปลาแซลมอนสมุนไพร
ส่วนผสม ยำปลาแซลมอนสมุนไพร
- ปลาแซลมอน (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามชอบ)
- พริกขี้หนู (หั่นเล็ก ๆ)
- ตะไคร้ (ซอยเป็นเส้น ๆ)
- มะนาวประมาณ 1-2 ลูก
- กระเทียมจีน 4 กลีบ (สับละเอียด หรือตามชอบ)
- ต้นหอมซอย
- หอมแดงซอย
- เครื่องปรุง ได้แก่ น้ำปลา น้ำตาลทราย เกลือ
วิธีทำยำปลาแซลมอนสมุนไพร
1. เริ่มจากทำน้ำยำ โดยผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และเกลือนิดหน่อยคนให้เข้ากัน
2. ใส่เครื่องยำ ได้แก่ พริกขี้หนู ตะไคร้ น้ำมะนาว กระเทียม ต้นหอม และหอมแดงคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพิ่มเติมรสตามชอบ
3. จากนั้นใส่ปลาแซลมอนที่หั่นไว้แล้วลงไปคนเข้ากัน ชิมรสดูอีกสักครั้ง ตักใส่ภาชนะเสิร์ฟ หรือจะเอาเข้าตู้เย็นสักพักแล้วค่อยนำมาเสิร์ฟ
15. ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน
ส่วนผสม ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน
- แซลมอนดิบ
- พริกขี้หนูซอย
- กระเทียมหั่น
- น้ำปลา
- ผงปรุงรสเล็กน้อย
- น้ำตาลทราย
- มะนาว 1 ลูก
- ต้นหอมซอย
- หอมแดงซอย
- ตะไคร้ซอย
- ใบมะกรูดซอย
- ใบสะระแหน่
- ต้นอ่อนทานตะวัน
วิธีทำยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน
1. ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมลงไปก่อน ขั้นตอนนี้ใครอยากได้เผ็ด ๆ ขยี้เลยจ้ะ ขยี้พริกให้เละเลย ถ้าใครไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องขยี้แรง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส และน้ำตาลทราย บีบมะนาวไปลูกหนึ่งเลยเพื่อความซี้ด คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. ใส่ต้นหอม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบสะระแหน่ลงไปคลุกเคล้าอีกสักรอบ ค่อยใส่ปลาลงไป คลุกเคล้าส่วนผสมให้ทั่ว เทใส่บนต้นอ่อนทานตะวันที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่
16. ต้มยำปลาเก๋าน้ำใส
ส่วนผสม ต้มยำปลาเก๋าน้ำใส
- ปลาเก๋า
- ตะไคร้
- หอมแดง
- ใบมะกรูด
- พริกสด
- น้ำปลา
- น้ำมะนาว
- ใบกะเพรา
วิธีทำต้มยำปลาเก๋าน้ำใส
1. เจาะเอาเลือดปลาออกจากตัวปลาก่อน ป้องกันการคาวได้ดียิ่ง เลือดปลาจะไม่ตกค้างในเนื้อและใต้ชั้นกระดูกที่ทำให้เกิดกลิ่นคาวเวลาปรุง โดยใช้กรรไกรตัดที่เหงือก หรือมีดปลายแหลมเจาะที่โคนเหงือกด้านใน รอให้เลือดไหลออก 3-4 นาทีก็เสร็จ ปลาที่จะนำมาเจาะเลือด ควรน็อกปลาในน้ำเย็นก่อน ป้องกันการดิ้นและแรงสะบัดของปลา เนื้อปลาที่โดนเจาะเลือดจะมีสีขาว ทำให้ดูน่ากิน
2. จัดชิ้นหางมาทำต้มยำน้ำใสแบบแซ่บ ๆ ทุบตะไคร้ ใส่หอมแดง และใบมะกรูดลงไปในน้ำเดือด ตามด้วยพริก พอน้ำเดือดใส่ปลา ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว เร่งไฟใส่กะเพรา เป็นอันเสร็จ
17. ปลาเก๋านึ่งมะนาว
ส่วนผสม ปลาเก๋านึ่งมะนาว
- ปลาเก๋า 1 ตัว
- น้ำปลา 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า หรือน้ำซุป 1/4 ถ้วย
- กระเทียมจีน 10 กลีบ
- พริกขี้หนูสีแดงสับ 5 เม็ด (หรือตามชอบ)
- มะนาวฝานเป็นแผ่นบาง
- ผักชีซอย (สำหรับโรยหน้า)
- ใบสะระแหน่ (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำปลาเก๋านึ่งมะนาว
1. ขอดเกล็ดปลา ควักเหงือกและไส้ออก ล้างให้สะอาด บั้งให้ห่าง ๆ ทั้ง 2 ด้าน
2. นำปลาใส่จานสำหรับนึ่ง นำไปนึ่งในชุดนึ่งบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรง ประมาณ 20 นาที หรือจนสุก
3. ทำน้ำยำด้วยการผสมน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ลงในถ้วย คนให้เข้ากัน ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู พักไว้
4. วางปลานึ่งลงในจาน ราดน้ำยำลงไป แต่งด้วยมะนาวฝาน และผักชีให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
18. ปลาสำลีทอดราดน้ำยำ
ส่วนผสม ปลาทอด
- ปลาสำลี
- มะม่วงเบา
- พริกขี้หนู
- หอมแดง
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย
- ถั่วลิสงคั่ว (ไม่ใส่ก็ได้)
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว (ไม่ใส่ก็ได้)
- ปลาหมึกอบกรอบ (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำปลาทอด
1. นำมะม่วงมาปอกเปลือกและฝานรอไว้
2. เอาปลาสำลีผ่าด้านหลังแล้วแบะ 2 ซีก ตากแดดพอผิวหมาด ราว 1 ชั่วโมงแล้วกลับด้านอีก 1 ชั่วโมง ก่อนนำไปทอดรอไว้
3. ทำน้ำยำโดยนำมะม่วง พริก และหอมแดงผสมรวมกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาที่ต้องมากกว่าน้ำตาลทราย บางร้านก็จะใส่ถั่ว เม็ดมะม่วงก็ตามใจที่เราชอบ แต่ถ้าได้หมึกอบกรอบจะยิ่งเพิ่มความอร่อย คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ราดลงไปบนตัวปลาทอด
19. แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ
ส่วนผสม ปลาช่อนแป๊ะซะ
- ปลาช่อน 1 ตัว
- น้ำพริกแกงส้ม 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
- กระชาย 2 ชิ้น
- น้ำซุป 4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1+1/4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 2+1/2 ช้อนชา
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
- ผักกระเฉด หั่นท่อน
- ผักสดอื่น ๆ ตามชอบ เช่น ผักกระเฉด ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน ดอกแค เป็นต้น
- น้ำมันพืช (สำหรับทอดปลา)
วิธีทำปลาช่อนแป๊ะซะ
1. ทำความสะอาดปลา ขอดเกล็ด และควักไส้ออก ล้างให้สะอาดอีกครั้ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกหรือตำน้ำพริกแกงส้มกับกระชายจนละเอียด พักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ปลาลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน นำปลาทอดวางใส่หม้อไฟแป๊ะซะ พักไว้
4. ตั้งหม้อใส่น้ำซุป ใช้ไฟร้อนปานกลาง พอเดือดตักน้ำซุปขึ้นมาเล็กน้อยนำไปละลายน้ำพริกแกงส้ม แล้วเทส่วนผสมน้ำพริกแกงส้มลงไปในหม้อ ต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
5. พอเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักจนผักสุก ปิดไฟ ตักราดลงบนปลาทอดที่เตรียมไว้
20. ต้มยำปลาช่อนฝักมะขามอ่อน
ส่วนผสม ต้มยำปลาช่อน
- น้ำเปล่า (ประมาณ) 3 ถ้วยตวง
- ข่ากึ่งแก่กึ่งอ่อน 1 แง่ง
- ใบมะกรูด 10 ใบ
- ตะไคร้ 3-4 ต้นกลาง
- หอมแดงทุบ 10 หัว
- มะขามอ่อนฝักใหญ่ 5 ฝัก
- ปลาช่อนสด 1 ชิ้น
- เห็ดฟางผ่าครึ่ง 1 ถ้วยใหญ่
- มะเขือเทศ (ปริมาณตามชอบ)
- ผงปรุงรสหมู 2 ช้อนส้อม
- ผงชูรส 1 ช้อนชาพูน (ถ้าไม่ชอบก็ใช้น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา)
- น้ำปลา 2 ช้อนส้อม
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- ใบกะเพราแดง 1 ถ้วยใหญ่
- พริกแห้งทอด
- มะนาว 1 ซีก (บีบลงไปเพื่อความหอม)
- ผักชีฝรั่ง (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำต้มยำปลาช่อน
1. ต้มน้ำเปล่าประมาณ 3 ถ้วย หรือกะปริมาณตามจำนวนปลาและวัตถุดิบที่ใส่ลงไป จากนั้นใส่ข่า ใบมะกรูด ตะไคร้ หอมแดงทุบ ฝักมะขามอ่อนทุบ และผงปรุงรสหมูลงไป
2. ต้มจนฝักมะขามอ่อนเปื่อย หรือลองชิมรสดูให้ได้รสเปรี้ยวตามต้องการแล้วก็ตักฝักมะขามออก ขั้นตอนนี้ต้องคอยดูเรื่อย ๆ เพราะฝักมะขามจะเปื่อยเร็วมากหากเปื่อยยุ่ยมากเกินไปหรือต้มนานเกินไป น้ำซุปจะเปรี้ยวเกิน
3. จากนั้นรอให้เดือดอีกครั้งแล้วหย่อนชิ้นปลาช่อนลงไปทีละชิ้นในขณะน้ำยังเดือดอยู่ (เคล็ดลับ : อย่าเทพรวดลงไปทีเดียวเพราะปลาช่อนมีเมือกเยอะจะทำให้ต้มยำคาวมาก) เมื่อหย่อนปลาช่อนลงไปจนหมดแล้วรอให้น้ำเดือดจนปลาสุกในระดับหนึ่งก็ใส่เห็ดฟาง ตามด้วยมะเขือเทศ
4. ปรุงรสด้วยผงปรุงรสหมู ผงชูรส น้ำปลา และเกลือสมุทร จากนั้นรอจนปลาเริ่มสุกเปื่อยได้ที่ก็ใส่ใบกะเพราแดงลงไป ตามด้วยพริกทอด ขยำพอแตกนิดหนึ่งจะได้หอม ๆ บีบมะนาวลงไปซีกหนึ่งเพื่อเพิ่มความหอม ตักใส่ชาม โรยใบผักชีฝรั่ง พร้อมเสิร์ฟ
21. ต้มยำปลาแซลมอน
ส่วนผสม ต้มยำปลาแซลมอน
- แซลมอน 500 กรัม
- ข่าหั่น 8-10 ชิ้น
- ตะไคร้หั่น 12-15 ชิ้น
- ใบมะกรูดฉีก 10-12 ใบ
- หอมแดง 4-5 หัว
- มะเขือเทศหั่น 6-8 ชิ้น
- มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้งคั่ว 5-6 เม็ด
- เกลือ 2 ช้อนชา
- มะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวนตำแหลก 12-15 เม็ด
- ผักชีฝรั่ง
วิธีทำต้มยำปลาแซลมอน
1. ล้างปลาแซลมอนให้สะอาด พักไว้
2. ตั้งน้ำให้เดือดใส่เครื่องต้มยำ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง มะขามเปียก มะเขือเทศ และพริกแห้ง ตั้งไฟจนเครื่องต้มยำมีกลิ่นหอม ใส่ปลาแซลมอนลงไป (อย่าเพิ่งคน รอจนเดือดสักครู่) ตักเอาฟองที่ลอยขึ้นมาออก
3. เมื่อเนื้อปลาเริ่มสุกใส่เกลือลงไป ปิดไฟ ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย โรยด้วยพริกขี้หนูที่ตำไว้ ใส่ผักชีฝรั่ง เสร็จเรียบร้อย
22. ต้มยำปลากะพง
ส่วนผสม ต้มแซ่บปลากะพง
- เนื้อปลากะพง 300 กรัม
- เห็ดฟาง (ผ่าครึ่ง) 1 ถ้วย
- ข่า (หั่นแว่น) 4 แว่น
- ตะไคร้ (หั่นท่อนทุบ) 2 ต้น
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น (ตามชอบ)
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่งซอย
- พริกแห้งทอดกรอบ 3 เม็ด
วิธีทำต้มแซ่บปลากะพง
1. ต้มน้ำ ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไปต้ม รอจนเดือด
2. ใส่เนื้อปลาลงไป (ไม่ต้องคนเพราะจะทำให้คาว) รอน้ำเดือดอีกครั้ง
3. ใส่เห็ดฟางลงไปต้มจนเดือด ปิดไฟ
4. บีบน้ำมะนาวใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำปลา ข้าวคั่ว และพริกป่น ตักส่วนผสมต้มแซ่บลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ โรยผักชีฝรั่งและพริกแห้งทอดกรอบ
สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing