x close

7 สูตรบัวลอย ขนมไทยปั้นความสนุกใส่หม้อ เติมความหวานเข้าเส้น


          ขนมบัวลอย สูตรขนมไทยหวานหอมมีเอกลักษณ์ของเมืองไทย หอม อร่อย เหนียวหนึบ แป้งนุ่ม ทำกินเพลิน ๆ หลังอาหารเที่ยงก็อร่อย มาเติมความหวานให้ร่างกายกัน




          เอ่ยถึงบัวลอยเชื่อว่าเพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยจะนึกถึงบัวลอยไข่หวาน บัวลอยเผือก บัวลอยมะพร้าวอ่อน รวมถึงบัวลอยน้ำขิงกันเนอะ ถ้าบ้านใกล้ตลาดมีร้านขนมไทยก็หากินง่ายหน่อย แต่ถ้าบ้านไกลจะไหว้วานให้ใครซื้อคงลำบาก แบบนี้ต้องทำกินเองแล้วค่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำบัวลอย มีทั้งสูตรบัวลอยน้ำกะทิและบัวลอยน้ำขิง พร้อมแล้วลุย !

สูตรขนมบัวลอย


บัวลอย

1. บัวลอยไข่หวาน


บัวลอย

          สูตรบัวลอยอันดับต้น ๆ ที่นึกถึงเลยคือ บัวลอยไข่หวาน สูตรนี้เนื้อแป้งใส่เผือก ฟักทอง และน้ำใบเตยลงไปด้วย ทำให้ได้สีเม็ดบัวลอยจากธรรมชาติ หรือถ้าไม่สะดวกหาวัตถุดิบก็ใช้สีผสมอาหารแทนได้นะคะ บัวลอยเนื้อเหนียวนุ่มเข้ากันดีกับน้ำกะทิหวานหอม ยิ่งถ้ามีไข่หวานเคี้ยวสนุก ๆ ไปพร้อมกันด้วยแล้วละก็ อูย… ถูกใจใช่เลย ! 

ส่วนผสม บัวลอยไข่หวาน


      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
      ◆ น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
      ◆ เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
      ◆ ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีเหลือง)
      ◆ น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
      ◆ กะทิ 1 ถ้วย
      ◆ น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
      ◆ เกลือป่น 1 ช้อนชา
      ◆ ไข่ไก่

วิธีทำบัวลอยไข่หวาน


      1. แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำเปล่าและเผือกนึ่งสุก ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำเปล่าและฟักทองนึ่งสุก ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้ 
      2. ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่นคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟพอเดือด รีบปิดไฟ เตรียมไว้
      3. ต้มน้ำเปล่าในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
      4. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ

      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไข่หวาน สูตรขนมไทยในดวงใจ อร่อยไม่รู้ลืม

+++++++++++++++++++++

2. บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก



          บัวลอยไข่หวาน ขนมไทยใส่กะทิก็ว่าอร่อยแล้ว แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเพิ่มความแนว ลองใส่เม็ดแมงลัก ธัญพืชเพื่อสุขภาพลงไปสิคะ กลายเป็นเมนูใหม่ชื่อ บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก สูตรนี้ใช้แป้งบัวลอยสำเร็จรูปและกะทิสำเร็จรูป ทำง่ายเว่อร์ บัวลอยสีสวยกับเม็ดแมงลักเคี้ยวกรุบ ๆ เพิ่มออปชั่นอย่างมะพร้าวอ่อนลงไป พ่วงด้วยไข่หวาน ถ้วยเดียวคงไม่หนำใจ ต้องใส่ชามกันล่ะทีนี้

ส่วนผสม บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก


      ◆ แป้งบัวลอยสำเร็จรูป 250 กรัม
      ◆ น้ำเปล่า (สำหรับต้มบัวลอย)
      ◆ กะทิสำเร็จรูป 1,000 กรัม
      ◆ น้ำตาลทราย 160 กรัม
      ◆ น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
      ◆ เกลือป่น 1 ช้อนชา
      ◆ ใบเตยหอมล้างสะอาด
      ◆ ไข่ไก่
      ◆ มะพร้าวอ่อนหั่นเป็นชิ้น ๆ 200 กรัม
      ◆ เม็ดแมงลัก

วิธีทำบัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก


      1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง รอจนน้ำเดือดพล่านแล้วใส่เม็ดบัวลอยลงไปต้มจนลอยขึ้นมาประมาณ 1 นาที จากนั้นปล่อยทิ้งไว้อีก 30 วินาที
      2. ตักเม็ดบัวลอยที่สุกแล้วลงแช่ในน้ำเย็นสักครู่ ตักขึ้นมาพักไว้
      3. ใส่กะทิลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และใบเตย คนผสมจนน้ำตาลละลาย
      4. ตอกไข่ไก่ลงไปต้มในกะทิจนสุก ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
      5. ใส่เม็ดบัวลอยต้มสุกลงไปในกะทิ คนผสมให้เข้ากัน ใส่มะพร้าวอ่อนลงไป
      6. ตักบัวลอยน้ำกะทิใส่ถ้วย เตรียมไว้
      7. แช่เม็ดแมงลักในน้ำจนพอง
      8. ตักเม็ดแมงลักโรยลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ

      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก เมนูเดิมเพิ่มเติมคุณประโยชน์

+++++++++++++++++++++++

3. บัวลอยเผือก


บัวลอยเผือก

      บัวลอยเผือก ใส่มะพร้าวอ่อนแน่น ๆ แป้งนุ่มสีธรรมชาติ ราดน้ำกะทิใบเตยกลิ่นหอม จับแป้งผสมกับเผือก ถ้าอยากได้สีสด ๆ สามารถเติมสีผสมอาหารสีม่วงเพิ่มเติมได้ มาพร้อมน้ำกะทิหอมใบเตย ถ้าชอบเครื่องแน่นลองใส่ข้าวโพดหรือเผือกหั่นชิ้นลงไป

ส่วนผสม บัวลอยเผือก


      ◆ แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
      ◆ แป้งมัน 50 กรัม
      ◆ เผือกนึ่งสุก 250 กรัม
      ◆ หัวกะทิ 50 กรัม
      ◆ น้ำเย็นจัด เล็กน้อย

ส่วนผสม กะทิ


      ◆ หัวกะทิ 1 ลิตร
      ◆ น้ำมะพร้าวหรือหางกะทิ 500 กรัม
      ◆ เกลือ 1/2 ช้อนชา
      ◆ ใบเตย
      ◆ น้ำตาลทราย 125 กรัม
      ◆ มะพร้าวอ่อนหั่นเส้น 200 กรัม

วิธีทำบัวลอยเผือก


      1. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน และเผือกนึ่ง คนผสมพอเข้ากัน ใส่หัวกะทิกับน้ำเย็นจัด นวดจนแป้งเนียนไม่ติดมือ คลึงให้เป็นเส้นยาว คลุกแป้งนวลตัดเป็นชิ้น พักไว้
      2. ทำกะทิ โดยใส่หัวกะทิ น้ำมะพร้าวหรือหางกะทิ เติมเกลือลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อน คนจนเกลือละลาย พอร้อนช้อนหัวกะทิลอยหน้าออก 1 ถ้วย ใส่ใบเตยลงไป พอกะทิเริ่มเดือดใส่แป้งบัวลอย พอเดือดอีกครั้งใส่น้ำตาลทราย ใส่หัวกะทิที่ตักแยกไว้ ตามด้วยมะพร้าวอ่อน คนพอเข้ากัน ตักเสิร์ฟ


      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยเผือก ใส่มะพร้าวอ่อน อร่อยนุ่มทำง่ายหอมหวานมัน

++++++++++++++++++++++

4. บัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น


บัวลอย
ภาพจาก : นิตยสารแม่บ้าน

      ถ้าหากใครรักเดียวใจก็ต้องเลือกบัวลอยสีเดียวสิเนอะ เกี่ยวกันไหมเนี่ย เอาล่ะ… อยากให้ลองทำบัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น สูตรจากนิตยสารแม่บ้าน จับมันญี่ปุ่นมาทำเป็นเม็ดบัวลอย มีความหอมหวานมันจากกะทิ แม้จะมีสีเดียวแต่ก็ดูสวยดีเหมือนกันนะเนี่ย เดี๋ยวอ้อนคุณแฟนทำให้กินดีกว่า 

ส่วนผสม บัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น


      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
      ◆ มันญี่ปุ่นนึ่งสุกและบดละเอียด 1/2 ถ้วยตวง
      ◆ น้ำร้อน 6 ช้อนโต๊ะ
      ◆ แป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำแป้งนวล)
      ◆ น้ำเปล่า (สำหรับต้มเม็ดแป้ง) 
      ◆ น้ำเย็น (สำหรับแช่เม็ดแป้ง)
      ◆ กะทิ (ความเข้มข้นปานกลาง) 2 ถ้วยตวง
      ◆ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
      ◆ น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
      ◆ เกลือป่นหยาบ 3/4 ช้อนชา
      ◆ เนื้อมะพร้าวเผาหั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วยตวง
      ◆ ใบเตย 2 ใบ
      ◆ หัวกะทิ 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำบัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น


      1. ผสมแป้งข้าวเหนียว มันญี่ปุ่นบดละเอียด และน้ำร้อน เข้าด้วยกัน นวดจนเนียนและสามารถปั้นเป็นก้อนได้
      2. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1/2 เซนติเมตร โรยแป้งนวลเล็กน้อย (เพื่อไม่ให้แป้งติดกัน)
      3. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด นำเม็ดแป้งลงต้มจนสุกลอยขึ้นมา ตักขึ้นไปแช่น้ำเย็นพอคลายความร้อน เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
      4. ใส่กะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือป่น เนื้อมะพร้าวเผา และใบเตย ลงไปต้มพอเดือด เติมหัวกะทิลงไป
      5. ใส่แป้งบัวลอยลงในหม้อ คนให้เข้ากัน พอเดือดเล็กน้อยยกลง ตักใส่ถ้วย จัดเสิร์ฟ

      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมบัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น ขนมไทยคิดนอกกรอบ ทำง่ายปั้นสนุกมือ

++++++++++++++++++

5. บัวลอยสาคู


บัวลอย
ภาพจาก : คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ

          บัวลอยทั่วไปเป็นเม็ดกลม ถ้าใครอยากกินบัวลอยแบบอินดี้ ขอแนะนำบัวลอยสาคู สูตรจากคุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ ใช้สาคูแทนแป้งบัวลอย เพิ่มสีสันจากน้ำดอกอัญชัน ตบท้ายด้วยแปะก๊วยสีเหลืองอร่าม บัวลอยถ้วยนี้ดูดีไฮโซจริง ๆ 

ส่วนผสม บัวลอยสาคู


      ◆ สาคูเม็ดเล็ก 500 กรัม
      ◆ น้ำร้อนจัด 1+1/4 ถ้วย
      ◆ แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
      ◆ น้ำดอกอัญชัน (หรือสีผสมอาหารสีม่วงเล็กน้อย)
      ◆ หัวกะทิ 7 ถ้วย
      ◆ หางกะทิ 3 ถ้วย
      ◆ น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
      ◆ เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
      ◆ แปะก๊วยต้มสุก

วิธีทำบัวลอยสาคู


      1. ใส่สาคูลงในอ่างผสม ค่อย ๆ ใส่น้ำร้อนลงไปแล้วนวดให้เข้ากันจนน้ำหมด ใส่สีผสมอาหารสีม่วงเล็กน้อย
      2. ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปนวดให้เข้ากันดี 
      3. คลึงเป็นแผ่นแล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร 
      4. เคล้าแป้งมันสำปะหลังให้ทั่วเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน
      5. ต้มน้ำให้เดือด ใส่สาคูลงต้มจนสุกลอย ตักขึ้นล้างน้ำเย็น
      6. ใส่หัวกะทิและหางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง หมั่นคนจนเดือด 
      7. จากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือสมุทรลงไป หมั่นคนอยู่เสมอ พอเดือดอีกครั้งชิมรสให้หวานนำและเค็มปะแล่ม
      8. ปิดไฟ ใส่สาคูต้มและแปะก๊วยต้มสุกลงไป ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สาคูบัวลอยแปะก๊วย ขนมไทยร้อน ๆ ไอเดียใหม่

++++++++++++++++++++

6. บัวลอยน้ำขิง


บัวลอยงาดำ

          เอาใจสาว ๆ รักสุขภาพด้วยสูตรบัวลอยน้ำขิง สูตรนี้ใส่น้ำขิงรสชาติเผ็ดร้อน แป้งบัวลอยสอดไส้งาดำ อยากชวนมาอร่อยกับบัวลอยคำโตกันเยอะ ๆ นะคะ 

ส่วนผสม แป้งบัวลอย


      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
      ◆ แป้งถั่วเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
      ◆ น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

ส่วนผสม ไส้บัวลอยงาดำ


      ◆ น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
      ◆ งาดำป่น 1 ถ้วย
      ◆ เนยถั่วชนิดหยาบ 170 กรัม

ส่วนผสม น้ำขิง


      ◆ น้ำเปล่า 5 ถ้วย
      ◆ ขิงแก่เผาไฟ 3-4 ชิ้น
      ◆ น้ำตาลอ้อย 1 ถ้วย
      ◆ เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำบัวลอยงาดำน้ำขิง


      1. ทำไส้งาดำ โดยเทน้ำตาลทรายใส่อ่างผสม ตามด้วยงาดำป่น จากนั้นใส่เนยถั่วตามลงไป คลุกส่วนผสมให้เข้ากัน ปั้นเป็นลูกกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. นำไปแช่ช่องแข็ง เตรียมไว้
      2. ทำแป้งบัวลอย โดยเทแป้งข้าวเหนียวและแป้งถั่วเขียวลงใส่อ่างผสม ตามด้วยน้ำเปล่า นวดจนแป้งเนียน 
      3. ทำบัวลอยงาดำ โดยปั้นแป้งกลม ๆ แล้วกดให้แบน วางไส้ขนมลงไปตรงกลางแผ่นแป้ง ห่อให้มิด นำไปคลุกกับผงแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
      4. ทำน้ำขิง ปอกขิงที่เผาไฟแล้วเป็นแผ่น นำไปต้มกับน้ำให้เดือด ตามด้วยน้ำตาล รอจนเดือดประมาณ 5 นาที 
      5. ใส่บัวลอยงาดำลงต้มจนลอยขึ้นเหนือน้ำ ตักใส่ชามเสิร์ฟ

+++++++++++++++++++++

7. บัวลอยแก้วฟักทอง


บัวลอยฟักทอง
ภาพจาก : คุณ sujitrar สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          บัวลอยแก้วแบบประยุกต์ใส่ฟักทองผสมกับแป้งมัน คลึงเป็นเส้นยาวแล้วหั่นแล้วค่อยเอาไปต้มจนสุก สุดท้ายราดน้ำกะทิใบเตย หวาน หอม หนึบ แปลกใหม่ไปอีกแบบ

ส่วนผสม บัวลอยแก้วฟักทอง


      ◆ แป้งมัน 270 กรัม
      ◆ ฟักทอง 300 กรัม
      ◆ น้ำร้อน 1/2 ถ้วย

ส่วนผสม น้ำกะทิ


      ◆ หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
      ◆ น้ำตาลทราย 140 กรัม
      ◆ เกลือ 1/2 ช้อนชา
      ◆ น้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร
      ◆ ใบเตย

วิธีทำบัวลอยแก้วฟักทอง


      1. ทำบัวลอยแก้วฟักทอง โดยนำฟักทองมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นลูกเต๋า นำไปนึ่งแล้วบดให้ละเอียด และนำแป้งมันใส่ลงชามผสม ใส่ฟักทองที่บดเสร็จแล้วลงไป นวดฟักทองและแป้งให้เข้ากัน
      2. ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำร้อนลงไป นวดจนแป้งและเนื้อฟักทองเป็นเนื้อเดียวกัน
      3. หลังจากนั้นใช้แป้งมันทำเป็นแป้งนวลทาลงบนเขียง และโรยลงในถาดเพื่อใช้สำหรับวางตัวบัวลอยไม่ให้ติดถาด นำแป้งบัวลอยที่นวดแล้วคลึงเป็นเส้นยาว ๆ ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ คลุกเม็ดบัวลอยด้วยแป้งนวล พักไว้
      4. ตั้งน้ำให้เดือด นำแป้งลงไปต้ม รอจนแป้งลอยสักครู่จึงตักขึ้นใส่ลงในน้ำเย็น
      5. หลังจากนั้นเตรียมในส่วนของกะทิ ให้นำหัวกะทิกับใบเตยใส่ลงหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่า ตั้งไฟ
      6. หลังจากกะทิเริ่มเดือดขอบหม้อให้ใส่เม็ดบัวลอยลงไปแล้วปิดไฟ ตักเสิร์ฟ


      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยแก้วฟักทอง แป้งใสสีสวย อร่อยหวานเหนียวนุ่ม

          ใครเบื่อทำเบเกอรี่ลองมาทำบัวลอยขนมไทยกันดีไหม แม้อุปกรณ์ไม่ครบก็ใช้ไมโครเวฟได้เหมือนกัน ทั้งนี้ เพื่อน ๆ สามารถสร้างสรรค์เม็ดบัวลอยจากผัก ดอกไม้ หรือสีผสมอาหารก็ได้ ใช้น้ำกะทิสดหรือน้ำกะทิสำเร็จรูปก็แล้วแต่ เอาตามสะดวกเลยค่ะ ทุกอย่างพลิกแพลงได้หมดไม่มีอะไรตายตัว เอ้า... เข้าครัวกันได้แล้วค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 สูตรบัวลอย ขนมไทยปั้นความสนุกใส่หม้อ เติมความหวานเข้าเส้น อัปเดตล่าสุด 4 มกราคม 2567 เวลา 00:27:03 1,785,378 อ่าน
TOP