20 เมนูคลายร้อนมาแรง ทั้งคาวหวานและเครื่องดื่มเติมความสดชื่นรับซัมเมอร์

     อากาศร้อน ๆ แบบนี้ข้าวปลาก็กินไม่ค่อยลงเพราะรู้สึกเบื่ออาหาร อยากกินแต่เครื่องดื่มคลายร้อน ขืนปล่อยไว้แบบนี้ร่างกายคงผอมแห้งขาดสารอาหารแน่นอน เอาล่ะ… มาลองทำเมนูคลายร้อนง่าย ๆ กันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูคลายร้อน มีทั้งอาหารคาว เช่น ขนมจีนซาวน้ำ สลัดผลไม้ ขนมหวาน เช่น เฉาก๊วย เต้าหู้เย็น และเครื่องดื่ม เช่น น้ำใบบัวบก น้ำกระเจี๊ยบ ถ้าพร้อมแล้วลุยเลยดีกว่า

อาหารคลายร้อน (อาหารคาว)

1. สลัดผลไม้กุ้งกรอบกับครีมสลัดผลไม้

     อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าผลไม้สดแช่เย็นช่วยคลายร้อนและป้องกันไข้หวัดเพิ่มวิตามิน ขอยกตัวอย่างเมนูสลัดผลไม้กุ้งกรอบกับครีมสลัดผลไม้ ใส่กุ้งชุบแป้งทอดกินกับสลัดผลไม้นานาชนิด ราดครีมสลัดผลไม้เปรี้ยวหวาน

ส่วนผสม สลัดผลไม้กุ้งกรอบกับครีมสลัดผลไม้ (สำหรับ 3 ที่)

      • กุ้งสดแกะเปลือกเก็บหางไว้ 6 ตัว
      • ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน 1 ฟอง
      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
      • เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย
      • น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ถ้วย
      • ผลไม้ตามชอบ เช่น สตรอว์เบอร์รี องุ่นไข่ปลา บลูเบอร์รี กีวี และกล้วยหอม

ส่วนผสม ครีมสลัดผลไม้

      • มายองเนส 1+1/2 ถ้วย
      • สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 1/2 ถ้วย
      • กีวีหั่นชิ้นเล็ก 1 ลูก
      • เนื้อส้มในน้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย

วิธีทำสลัดผลไม้กุ้งกรอบกับครีมสลัดผลไม้

     1. เตรียมครีมสลัดผลไม้ โดยนำมายองเนส 1/2 ถ้วย มาปั่นกับสตรอว์เบอร์รีจนเป็นเนื้อเดียวกันจะได้สีแดง และนำมายองเนสที่เหลือ 1/2 ถ้วย ปั่นกับกีวีและเนื้อส้ม เตรียมไว้
     2. นำกุ้งมาคลุกแป้งสาลีบาง ๆ ชุบไข่ และคลุกเกล็ดขนมปัง ทอดในน้ำมันร้อนจนสุกกรอบ ตักขึ้น พักไว้
     3. จัดผลไม้สดใส่จาน วางกุ้งทอด ราดด้วยน้ำสลัดที่ทำไว้

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สลัดผลไม้กุ้งกรอบกับครีมสลัดผลไม้ เมนูสุขภาพไม่น่าเบื่อ

2. สลัดผลไม้น้ำผึ้งมะนาวมินต์

     มาต่อกันที่อีกสูตรสลัดผลไม้คลายร้อนนั่นคือ สลัดเมลอนซอสน้ำผึ้งมะนาวมินต์ สูตรนี้ใส่ผลไม้ตระกูลเมลอนที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบช่วยเพิ่มความสดชื่น เติมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาว เพิ่มกลิ่นหอมจากใบมินต์

ส่วนผสม สลัดเมลอนซอสน้ำผึ้งมะนาวมินต์

      • แตงโมหั่นเต๋า 5 ถ้วย
      • แคนตาลูปหั่นเต๋า 5 ถ้วย
      • เมลอนหั่นเต๋า 5 ถ้วย
      • สับปะรดหั่นเต๋า 3+1/2 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย
      • น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
      • ใบมินต์สับ 1/4 ถ้วย

วิธีทำสลัดเมลอนซอสน้ำผึ้งมะนาวมินต์

     1. ใส่ผลไม้ลงอ่างผสม เตรียมไว้
     2. คนผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และใบมินต์จนเข้ากัน เทใส่ลงในผลไม้ที่เตรียมไว้ จัดเสิร์ฟ

3. เต้าหู้เย็นญี่ปุ่น

     เต้าหู้คินุเป็นเต้าหู้นิ่ม ๆ มีเนื้อสัมผัสที่เย็น ถ้ากินเปล่า ๆ คงจืดชืด จับมาทำเต้าหู้เย็นญี่ปุ่น ทีเด็ดคือราดซอสโชยุและโรยต้นหอมกับปลาโอแห้ง ยิ่งจับแช่เย็นแล้วมากินยิ่งอร่อย ช่วยคลายร้อนได้เยอะเลยค่ะ

ส่วนผสม เต้าหู้เย็นแบบญี่ปุ่น

      • เต้าหู้คินุ 300 กรัม
      • ขิงบด (บีบน้ำออก) 2 ช้อนโต๊ะ
      • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
      • ปลาโอแห้ง 3 กรัม
      • โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเต้าหู้เย็นแบบญี่ปุ่น

     1. นำเต้าหู้คินุออกจากกล่อง แล้วนำไปล้างน้ำเปล่า วางจานทับไว้ด้านบนของเต้าหู้ หาอะไรหนัก ๆ มาทับไว้ประมาณ 30 นาที
     2. นำใส่จานแล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
     3. วางขิงบดลงไป แล้วโรยด้วยต้นหอมซอย ปลาโอแห้ง ปิดท้ายด้วยราดโชยุลงไป แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าหู้เย็นญี่ปุ่น เมนูเต้าหู้เนื้อนุ่มเย็นฉ่ำคลายร้อนได้สุขภาพ

4. ขนมจีนซาวน้ำ

     ขนมจีนน้ำยากะทิร้อน ๆ คงไม่เหมาะเป็นเมนูคลายร้อน ต้องนี่เลยขนมจีนซาวน้ำ จับขนมจีนราดกะทิ เสิร์ฟพร้อมปลากราย ไข่ต้มยางมะตูม บีบมะนาว ใส่ขิงสับ และที่ขาดไม่ได้เลยคือสับปะรดผลไม้ที่มีน้ำเยอะ ยิ่งถ้าแช่เย็นฉ่ำยิ่งอร่อยสดชื่น

ส่วนผสม ขนมจีนซาวน้ำ

      • กะทิสด 2 ถ้วย
      • เกลือป่น 1 ช้อนชา
      • ลูกชิ้นปลากรายต้ม 100 กรัม
      • ขนมจีน 200 กรัม
      • ไข่ต้ม 2 ฟอง
      • มะนาว 1 ลูก
      • สับปะรดสับ 1 ถ้วย
      • ขิงซอย 1/2 ถ้วย
      • กระเทียมสด หรือกระเทียมดอง 1/2 ถ้วย
      • กุ้งแห้งป่น 1/2 ถ้วย
      • ส่วนผสมพริกน้ำปลา ได้แก่ พริกขี้หนูซอย 3 เม็ด น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว

วิธีทำขนมจีนซาวน้ำ

     1. เอากะทิใส่หม้อตั้งไฟอ่อน พอกะทิเดือดก็ใส่เกลือป่นลงไป ตามด้วยลูกชิ้นปลากราย หรือลูกชิ้นปลา สิ่งนี้โบราณเขาเรียกว่า แจงลอน วิธีทำคือเอาเนื้อปลากรายมาขูดแล้วก็นวดหรือตำให้เหนียว ปั้นเป็นรูปแบน ๆ พอคำ ใส่ในน้ำร้อนจนลอยขึ้นมา ก็ตักขึ้นใส่น้ำเย็นก็เสร็จ
     2. จัดจานโดยเอาเส้นขนมจีนใส่จาน ผ่าไข่ยางมะตูมวางลงไป (เอาไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่ลงในน้ำที่รองจากก๊อกแล้วนำไปตั้งไฟ พอเปิดแก๊สก็นับไปอีก 10 นาที ปิดแก๊ส แล้วเอาไข่ลงไปแช่น้ำเย็น ไข่จะเป็นยางมะตูม) ฝานมะนาวใส่สัก 2 ชิ้น ใส่สับปะรดสับ ขิงซอย (ขิงนี่ถ้าเป็นขิงกลางอ่อน กลางแก่ คือไม่แก่เกินไป ไม่อ่อนเกินไปจะได้รสชาติที่พอดี) ถ้ากลัวเผ็ดใส่แต่น้อย และกระเทียมสับ โรยกุ้งแห้งป่น (เอากุ้งแห้งมาแช่น้ำให้นิ่มพองแล้วก็บีบน้ำออก เอามาตำ จะได้กุ้งแห้งป่นที่เนื้อนุ่มฟู)
     3. ราดกะทิลงไปให้ชุ่ม ๆ เสิร์ฟกับพริกน้ำปลา

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมจีนซาวน้ำ เมนูโบราณเครื่องเยอะ พร้อมสูตรแจงลอนเหนียวนุ่ม

5. หมูเย็น

     ว้าว ! แม้ว่าเมนูหมูเย็นจะแปลกไปหน่อย แต่ถ้าได้กินคงเย็นฉ่ำน่าดู พบกับเมนูหมูเย็น จับขาหมูต้มจนเปื่อยแล้วใส่น้ำซุป เสร็จแล้วเอาไปแช่เย็นจนเซตตัว กินกับน้ำจิ้มพริกกระเทียมตัดเลี่ยน

ส่วนผสม หมูเย็น

      • ขาหมู
      • พริกไทยดำบด
      • น้ำเปล่า (สำหรับต้ม)

วิธีทำหมูเย็น

     1. เอาขาหมูล้างให้สะอาด แล้วนำไปต้มให้เปื่อย ตักมาผึ่งให้เย็นลงหน่อยแล้วเลาะเอากระดูกออกให้หมด นำหมูไปยีหรือฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เกลี่ยหมูลงในถาดหรือภาชนะพื้นเรียบ ใส่พริกไทยดำป่นลงไป เติมน้ำซุปที่ได้จากการเคี่ยวหมูราดลงไป ในส่วนผสมน้ำซุปปรุงรสด้วยซอสปรุงรส และเกลือเล็กน้อย นำเข้าตู้เย็นจนหมูเซตตัว
     2. ทำน้ำจิ้มโดยผสมซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ พริกขี้หนู และน้ำมะนาว เสิร์ฟกับหมูเย็น แกล้มกับผักชี

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูเย็น อาหารคลายร้อนเมนูหมู อร่อยแปลกใหม่

6. ต้มฟัก

     รู้ยัง ? ฟักเขียวเป็นอาหารฤทธิ์เย็น แม้จะกินต้มฟักแบบร้อน ๆ แต่กินเข้าไปช่วยให้ร่างกายเย็นลงได้ เอาล่ะ… ไปหาซื้อฟักเขียวมาทำเมนูต้มฟัก ใส่ไก่กับมะนาวดอง ซดร้อน ๆ ชุ่มคอแก้ร้อนใน

ส่วนผสม ไก่ต้มฟักมะนาวดอง

      • น้ำ 2 ลิตร
      • ไก่ (เลือกส่วนที่ชอบ) 500 กรัม
      • ผงปรุงรส
      • ซีอิ๊วขาว
      • ฟักเขียว (น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม) 1 ลูก ปอกเปลือกและหั่นชิ้น ๆ
      • มะนาวดอง ประมาณ 3-5 ลูก
      • น้ำมะนาวดอง
      • ต้นหอมและผักชี

วิธีทำไก่ต้มฟักมะนาวดอง

     1. ใส่น้ำเปล่าในหม้อประมาณ 2 ลิตร นำขึ้นตั้งไฟรอจนเดือดแล้วใส่ไก่ (สับเป็นชิ้นพอดี) ลงต้ม หมั่นช้อนฟองทิ้งจนน้ำใส
     2. ลดไฟเบาลงเล็กน้อยพอให้เดือดจนไก่เริ่มนิ่ม (ตามความชอบของแต่ละบุคคล)
     3. ปรุงรสด้วยเกลือ ผงปรุงรส และซีอิ๊วขาว (ชิมรสไม่ต้องให้เค็มมาก)
     4. พอไก่สุกได้ที่แล้ว ใส่ฟักลงไป ต้มจนฟักใกล้สุก (เนื้อฟักจะออกใส ๆ) ให้ลดไฟลงแล้วใส่มะนาวดองลงไป ตามด้วยน้ำมะนาวดอง ปิดไฟ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไก่ต้มฟักมะนาวดอง แกงจืดแบบไทย ๆ กลิ่นหอมโดดเด่น

สูตรขนมคลายร้อน

7. เฉาก๊วยนมสดเกล็ดหิมะคาราเมล

     ใคร ๆ ก็รู้ว่าเฉาก๊วยเป็นขนมหวานคลายร้อนสุดฮอต เพราะสรรพคุณช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ ถ้าเบื่อเฉาก๊วยใส่น้ำเชื่อมโปะน้ำแข็ง ก็ลองมาทำเมนูเฉาก๊วยนมสดเกล็ดหิมะคาราเมล ความพิเศษคือใส่คาราเมล และเกล็ดหิมะนมสด แค่ถ้วยเดียวก็เย็นฉ่ำสดชื่นแล้ว

ส่วนผสม เฉาก๊วยนมสดคาราเมล (สำหรับ 1 แก้ว)

      • เฉาก๊วยก้อน (ซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป) 1/4 ถ้วยตวง
      • เกล็ดหิมะนมสด ประมาณ 1 ถ้วยตวง
      • คาราเมลไซรัป ประมาณ 1/4 ถ้วยตวง (ถ้าใครไม่ชอบหวานให้ลดปริมาณไซรัปลงจากสูตรครึ่งหนึ่ง)
      • น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา (สำหรับโรยด้านบน)

ส่วนผสม เกล็ดหิมะนมสด

      • นมสดคาร์เนชั่น (หรือนมสด) 1/3 ถ้วยตวง
      • น้ำแข็ง 1 ถ้วยตวง

ส่วนผสม คาราเมลไซรัป

      • น้ำตาลคาราเมล 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลน้ำอ้อย หรือน้ำตาลไม่ขัดขาว)
      • น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเฉาก๊วยนมสดเกล็ดหิมะคาราเมล

     1. หั่นก้อนเฉาก๊วยให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เตรียมไว้
     2. ทำคาราเมลไซรัป โดยเริ่มใส่น้ำตาลคาราเมล น้ำตาลทรายแดง และน้ำเปล่าลงในหม้อต้ม คนให้เข้ากัน ตั้งบนเตาใช้ไฟกลางจนส่วนผสมเดือด (ระหว่างนี้คนได้เล็กน้อย ไม่ต้องคนแรง) พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้นยกลง พักไว้ให้เย็น
     3. ทำเกล็ดหิมะนมสด โดยใส่น้ำแข็งและนมสดลงในโถปั่น ปั่นด้วยความเร็วสูงจนน้ำแข็งและนมกลายเป็นเกล็ดป่น (ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้ เวลาเสิร์ฟจะได้ไม่ละลายเร็ว) พักไว้ในช่องแช่แข็ง
     4. เมื่อต้องการจัดเสิร์ฟให้รินคาราเมลไซรัปลงบริเวณขอบแก้วเล็กน้อยเพื่อเพิ่มลวดลาย จากนั้นใส่เกล็ดหิมะนมสดให้ได้ประมาณ 2/3 ส่วนของแก้ว ตามด้วยเฉาก๊วยให้เต็มแก้ว ราดด้วยคาราเมลไซรัปที่เหลือจนหมด ตกแต่งด้วยน้ำตาลทรายแดง เวลากินให้คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เฉาก๊วยนมสดเกล็ดหิมะคาราเมล ท็อปปิ้งแน่น ๆ เย็นฉ่ำหวานมัน

8. เต้าหู้ฟรุตสลัด

     ขนมหวานคลายร้อนอย่างเต้าฮวยฟรุตสลัดหรือเต้าหู้ฟรุตสลัดก็มีประโยชน์จากนมสดและผลไม้ ยิ่งถ้ากินแบบแช่เย็นยิ่งลดอุณหภูมิความร้อนของร่างกายได้ดีทีเดียว

ส่วนผสม เต้าหู้ฟรุตสลัด

      • ผงเจลาติน 3 ช้อนชา
      • น้ำเปล่า 1+1/2 ถ้วย
      • นมสด 3 ถ้วย
      • นมข้นจืด 1+1/2 ถ้วย
      • ผงวุ้น 2 ช้อนชา
      • นมข้นหวาน 1+1/2 ถ้วย
      • กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา
      • ฟรุตสลัด 1 กระป๋อง
      • กีวีหั่นเต๋า
      • แก้วมังกรหั่นเต๋า

วิธีทำเต้าหู้ฟรุตสลัด

     1. ผสมน้ำเปล่ากับผงเจลาตินในหม้อแล้วคนให้ละลาย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
     2. พอครบ 10 นาทีแล้ว เทนมสดและนมข้นจืดลงไปในน้ำเจลาตินที่แช่ไว้ ค่อย ๆ เทผงวุ้นลงไป นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ และหมั่นคนเป็นระยะ ๆ ต้มจนส่วนผสมเริ่มเดือด
     3. ใส่นมข้นหวานและกลิ่นมะลิลงไปคนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่
     4. นำส่วนผสมวุ้นไปกรองผ่านตะแกรง ตักส่วนผสมใส่ถ้วยประมาณ 1/2 ถ้วย จากนั้นนำเข้าแช่เย็นจนส่วนผสมเซตตัวดี
     5. ก่อนเสิร์ฟตักฟรุตสลัดและผลไม้ใส่ลงไปตามชอบ แต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าหู้นมสด เมนูขนมหวานเนื้อเนียน ราดฟรุตสลัดสุดฉ่ำ

9. เต้าฮวยเมลอน

     เมลอนเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ ยิ่งเอามามิกซ์กับเต้าฮวยนมสดก็ยิ่งอร่อยและช่วยคลายร้อนได้มากโขเลย พบกับเต้าฮวยเมลอน จับผงวุ้นผสมกับเจลาตินและนมสด พอเซตตัวก็แต่งด้วยเมลอนและเอาไปแช่เย็น

ส่วนผสม นมสด

      • นมข้นจืด 3/4 ถ้วยตวง
      • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเปล่า 3/4 ถ้วยตวง

ส่วนผสม เต้าฮวยเมลอน

      • ผงวุ้น 1 ช้อนชา
      • น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
      • เจลาตินชนิดแผ่น (แช่น้ำเย็นจัดจนนุ่ม) 2 แผ่น
      • นมข้นหวาน 150 กรัม
      • นมข้นจืด 200 กรัม
      • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • เมลอนควักเป็นลูก 300 กรัม

วิธีทำนมสด

     ผสมนมข้นจืด น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ยกลงพักไว้ให้เย็น

วิธีทำเต้าฮวยเมลอน

     1. ผสมผงวุ้นกับน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟคนจนวุ้นละลาย ใส่เจลาตินลงไปเคี่ยวต่อจนละลาย พักไว้
     2. ผสมนมข้นหวาน นมข้นจืด และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันคนจนละลาย เทใส่ส่วนผสมผงวุ้น เคี่ยวพอเดือด ปิดไฟ ใส่กลิ่นวานิลลาลงไปคนพอเข้ากัน
     3. ตักเต้าฮวยใส่ภาชนะ พักไว้จนเซตตัว ตักส่วนผสมนมสดลงไป ตามด้วยเมลอน นำเข้าแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าฮวยเมลอน เต้าฮวยมะพร้าวเผา 2 สูตรขนมคลายร้อนหอมอร่อยไม่จำเจ

10. เต้าหู้เย็น

     ขนมหวานเย็น ๆ ช่วยคลายร้อนได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมนูเต้าหู้เย็น สูตรนี้ใส่น้ำเต้าหู้เพื่อสุขภาพ บวกกับนมข้นหวานและน้ำหวาน เติมผงวุ้นเพื่อให้เนื้อกรุบกรอบ เสิร์ฟกับผลไม้มีคุณค่า

ส่วนผสม เต้าหู้เย็น

      • น้ำเต้าหู้ 2 ถ้วย (หรือนมสด)
      • นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำหวานเข้มข้น กลิ่นสละ (ปริมาณคือให้ใส่จนได้สีที่ชอบ)
      • ผงวุ้น 2+1/2 ช้อนชา

ท็อปปิ้งเต้าหู้เย็น

      • กีวีหั่นเต๋า
      • ส้มแกะเป็นกลีบ
      • กล้วยหอม หั่นแว่น
      • แคนตาลูปหั่นชิ้นพอดีคำ
      • เยลลี่ (ตามชอบ)

วิธีทำเต้าหู้เย็น

     1. นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลางพออุ่น เทน้ำเต้าหู้ นมข้นหวาน และน้ำหวานลงไป พอส่วนผสมเริ่มอุ่น เทผงวุ้นลงไป (เคล็ดลับ คือ ให้เทแบบเคาะช้อน ผงวุ้นจะได้กระจาย ละลายง่าย และไม่เป็นก้อน)
     2. คนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นไม่เป็นเม็ดเล็ก ๆ ติดปลายช้อน หากผงวุ้นละลายดีแล้วให้เร่งไฟแรงขึ้นเล็กน้อย รอจนส่วนผสมในกระทะเริ่มมีฟอง (แต่ไม่ต้องถึงกับเดือด) ปิดไฟ พักไว้
     3. นำส่วนผสมมากรองผ่านตะแกรง ประมาณ 2-3 รอบ
     4. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ทรงกลม หรือถ้วยทรงกลม พักทิ้งไว้จนเย็น (หรือใช้พัดลมช่วยเป่าจนเย็น) จากนั้นจึงนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
     5. พอครบเวลานำเต้าหู้เย็นออกมาจากถ้วยกลม เทออกมาบั้ง เป็นแฉก ๆ เสิร์ฟคู่กับกีวี ส้ม กล้วยหอม แคนตาลูป และเยลลี่

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าหู้เย็น วิธีทำเมนูดังกินเองง่ายกว่า หวานเย็นกลิ่นหอม

11. ไอศกรีมน้ำเต้าหู้งาดำ

     ใครอยากกินไอศกรีมคลายร้อน ขอนำเสนอไอศกรีมน้ำเต้าหู้งาดำ ไม่ต้องมีเครื่องทำไอศกรีมก็ทำได้ แต่ผสมน้ำเต้าหู้กับงาดำ เติมน้ำตาลทรายหน่อย เพิ่มเกลืออีกนิด พอแช่เย็นจนเซตตัวก็จัดเสิร์ฟได้เลยจ้า

ส่วนผสม ไอศกรีมน้ำเต้าหู้งาดำ

      • น้ำเต้าหู้ (ใช้แบบสำเร็จรูปก็ได้)
      • งาดำคั่วบด
      • น้ำตาลทราย (มาก-น้อยตามชอบ)
      • เกลือสมุทร 1 หยิบมือ (ไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำไอศกรีมน้ำเต้าหู้งาดำ

     1. ใส่น้ำเต้าหู้ งาดำคั่วบด น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรผสมรวมกัน นำขึ้นตั้งไฟให้เดือด จากนั้นยกลงจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็น
     2. เทส่วนผสมที่เย็นแล้วใส่พิมพ์ ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำเข้าแช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็งจนจับตัวเป็นน้ำแข็ง
     3. นำออกจากตู้เย็น จะใช้ส้อมขูดก็ได้ แต่ในสูตรใช้เครื่องตีแบบมือถือ (Hand Mixer) รวดเร็วและได้น้ำแข็งเกล็ดละเอียดกว่า จากนั้นนำกลับไปแช่ให้แข็งแล้วนำมาปั่น ทำแบบนี้สัก 2-3 รอบ ยิ่งทำมากก็ยิ่งจะได้เกล็ดน้ำแข็งละเอียดมาก

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมน้ำเต้าหู้งาดำ เย็นชื่นใจเพื่อสุขภาพ สูตรไม่ใส่นมและครีม

12. วุ้นเม็ดแมงลัก

     อากาศร้อน ๆ แบบนี้มาทำเมนูวุ้นคลายร้อนกินสักหน่อยดีกว่า พบกับเมนูวุ้นเม็ดแมงลัก ใส่น้ำหวานสีหรือกลิ่นตามชอบ ทีเด็ดคือใส่แมงลักเคี้ยวกรุบ พอแช่เย็นจนเซตตัวก็แจกให้กินทั้งครอบครัวได้เลยค่ะ

ส่วนผสม วุ้นเม็ดแมงลัก

      • ผงวุ้น 2 ช้อนชา
      • น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง (สำหรับผสมทำตัววุ้น)
      • น้ำหวานเข้มข้น (เลือกตามชอบ) 2 ถ้วยตวง
      • เม็ดแมงลัก 1-2 ช้อนโต๊ะ
      • พิมพ์วุ้น

วิธีทำวุ้นเม็ดแมงลัก

     1. แช่เม็ดแมงลักในน้ำเปล่าจนพอง เตรียมไว้
     2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่ผงวุ้นลงไปต้มจนละลาย ยกลงจากเตา พักไว้สักครู่พอให้คลายความร้อน
     3. ใส่น้ำหวานตามชอบลงไปคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยเม็ดแมงลักที่แช่น้ำไว้แล้วตักใส่พิมพ์ นำไปแช่เย็นจนวุ้นเซตตัว

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นเม็ดแมงลัก หลากสีหวานละมุนเคี้ยวกรุบชิ้นพอคำ

13. วุ้นผลไม้ไข่มุก

     วุ้นเม็ดแมงลักทำบ่อย ๆ ก็เอียน ลองเปลี่ยนมาทำเมนูวุ้นผลไม้แฟนซี หรือวุ้นไข่มุก (Pearl Jelly) ความพิเศษคือใส่ผลไม้ลงในเนื้อวุ้น กินกับน้ำเชื่อมใบเตยและน้ำแข็ง

ส่วนผสม วุ้นไข่มุก (สำหรับ 4 ที่)

      • วุ้นชนิดเส้น (ตัดสั้น) 1/2 ถ้วย หรือวุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเปล่า 3 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
      • ผลไม้ เช่น ส้ม กีวี ราสป์เบอร์รี และบลูเบอร์รี (หั่นชิ้นเล็ก)

ส่วนผสม น้ำเชื่อม

      • น้ำเปล่า 1+1/2 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
      • น้ำใบเตยคั้น เล็กน้อย (ปั่นใบเตยสดกับน้ำเล็กน้อยและกรองน้ำไว้ หรือจะใช้วิธีตำก็ได้)
      • น้ำแข็งป่น สำหรับเสิร์ฟ

อุปกรณ์

      • พิมพ์วุ้นกลมเล็กคล้ายลูกแก้วหรือไข่มุก
 

วิธีทำวุ้นไข่มุก

     1. แช่วุ้นในน้ำให้พอนิ่ม บีบน้ำให้แห้ง ใส่ลงไปต้มกับน้ำจนเดือดและวุ้นละลายหมด จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป ต้มต่อจนน้ำตาลละลายและใส ปิดไฟ พักไว้ให้พออุ่น ๆ
     2. ใส่ผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กลงในพิมพ์น้ำแข็งทรงลูกแก้ว เทวุ้นใส่ลงไป ประกบฝาปิดให้สนิท พักไว้จนเย็น แล้วนำแช่เย็นไว้จนวุ้นแข็งตัวดี
     3. ทำน้ำเชื่อมโดยต้มน้ำเปล่ากับน้ำตาลจนเดือดและน้ำตาลละลาย พักไว้จนเกือบเย็น ใส่น้ำใบเตยคั้นให้มีสีเขียวสวยตามชอบ
     4. แกะวุ้นออกจากพิมพ์ใส่ถ้วย ตักน้ำเชื่อมใบเตยราด โรยด้วยน้ำแข็งป่นละเอียดตามชอบ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นผลไม้ไข่มุก ขนมหวานคลายร้อนติดตู้เย็นไว้ไม่ผิดหวัง

14. บิงซูเมลอนแตงโม

     เอ่ยถึงน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีหรือบิงซูคงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ถ้าซื้อกินมันแพงก็มาทำกินเองสิคะ พบกับบิงซูเมลอน (Melon Bingsu) ความเย็นฉ่ำอยู่ที่เกล็ดน้ำแข็งนมสดกับเมลอน ใครจะใส่ท็อปปิ้งอื่น ๆ เพิ่มเติมก็ตามชอบจ้า

ส่วนผสม บิงซูเมลอน

      • นมสด 250 กรัม
      • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
      • น้ำเชื่อม 250 กรัม (น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ)
      • แตงโม ตักเป็นลูกกลม
      • เมลอน (พันธุ์โกลเด้นฮันนี่) ตักเป็นลูกกลม
      • นมข้นหวาน
      • อัลมอนด์สไลซ์
      • เครื่องทำน้ำแข็งไส

วิธีทำบิงซูเมลอน

     1. ใส่วิปปิ้งครีม น้ำเชื่อม และนมสดลงในเหยือก คนผสมให้เข้ากัน เทส่วนผสมนมใส่พิมพ์น้ำแข็ง นำไปแช่ช่องแข็งจนกลายเป็นน้ำแข็ง
     2. แกะน้ำแข็งออกจากพิมพ์ นำไปใส่ในเครื่องทำน้ำแข็งไส เปิดเครื่องแล้วไสออกมาใส่ในถ้วยเมลอนแช่แข็ง
     3. เรียงเมลอนบนเกล็ดน้ำแข็งให้สวยงาม โรยอัลมอนด์สไลซ์ เพิ่มความอร่อยด้วยนมข้นหวาน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บิงซูเมลอนแตงโม สูตรขนมหวานเย็นฉ่ำ ฟินอะไรเบอร์นั้น

15. บิงซูสัญชาติไทย

     บิงซูสัญชาติเกาหลีก็ทำไปแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำเมนูบิงซูสัญชาติไทย ทีเด็ดคือเกล็ดน้ำแข็งใส่นมสดกับกะทิหอมมัน เติมเครื่องเคราแบบไทย ๆ ตามชอบ

ส่วนผสม บิงซูสัญชาติไทย

      • นมสด 350 กรัม
      • หัวกะทิ 250 กรัม
      • น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
      • ถุงซิปล็อก
      • ขนุนสุกหั่นเส้น
      • มันเชื่อม
      • ทับทิมกรอบ
      • ลอดช่อง
      • มะพร้าวอ่อน
      • ถั่วลิสงคั่ว

วิธีทำบิงซูสัญชาติไทย

     1. ใส่นมสด หัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงในภาชนะ เทใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ คนจนส่วนผสมละลายและร้อน ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท
     2. เทส่วนผสมที่ได้ลงในถุงซิปล็อก
     3. นำเข้าแช่ช่องแข็งประมาณ 6-12 ชั่วโมงหรือจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
     4. นำออกจากตู้เย็น ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟคู่กับขนุน มันเชื่อม ทับทิมกรอบ ลอดช่อง มะพร้าวอ่อน และถั่วลิสงคั่ว

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บิงซูสัญชาติไทย ขนมหวานตามกระแสไอเดียแจ่มสุด

สูตรเครื่องดื่มคลายร้อน

16. น้ำใบบัวบก

     หลายคนคงรู้ดีว่าใบบัวบกแก้ร้อนใน ช่วยดับกระหาย ใครสนใจอยากทำน้ำใบบัวบกดื่มคลายร้อนจัดเลยค่ะ สูตรนี้ใส่น้ำเชื่อมและใบเตย พอทำเสร็จเอาไปแช่เย็น อยากดื่มคลายร้อนตอนไหนก็ได้จ้า

ส่วนผสม น้ำใบบัวบก

      • ใบบัวบก 600 กรัม
      • น้ำ 6 ถ้วย
      • ใบเตยมัดเป็นปม 2-3 ใบ
      • น้ำเชื่อม 1+1/2 ถ้วย หรือสารสกัดจากหญ้าหวานตามชอบ

วิธีทำน้ำใบบัวบก

     1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด สะเด็ดน้ำออกจนหมด จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ เตรียมไว้
     2. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด พักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น
     3. แบ่งใบบัวบกเป็น 6 ส่วน ทยอยใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว 1 ถ้วยลงปั่นจนละเอียดเป็นน้ำ ทำซ้ำจนหมด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่เฉพาะน้ำ เตรียมไว้
     4. ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบก คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทน้ำใบบัวบกใส่ลงไป พร้อมดื่ม หรือเทขวดปิดฝาให้สนิท นำเข้าตู้เย็น เก็บไว้ดื่มได้

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำใบบัวบก เครื่องดื่มสุขภาพแก้ช้ำใน ชะลอวัย

17. น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน

     ดอกกระเจี๊ยบแดงเป็นอีกสมุนไพรไทย มีสรรพคุณแก้ร้อนใน แต่ถ้าทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบดื่มเปล่า ๆ อาจเปรี้ยวเกินไป มาตัดรสหวานด้วยพุทราจีนกันดีไหม พบกับน้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน สูตรนี้เติมน้ำตาลทรายนิดหน่อย ใส่น้ำแข็งพร้อมดื่ม

ส่วนผสม น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน

      • ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 1 กำมือ
      • พุทราจีน 1 กำมือ
      • น้ำ 1-1.5 ลิตร
      • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
      • เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน

     1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร)
     2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย (ชิมรสตามต้องการ) ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทเก็บใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน สองเพื่อนซี้คู่หูสมุนไพรคู่สุขภาพ

18. น้ำหล่อฮั้งก้วย

     หล่อฮั้งก้วยเป็นสมุนไพรจีนที่มีรสหวานในตัว มีสรรพคุณแก้ร้อนใน ช่วยให้เจริญอาหาร และหลับสบาย ส่วนใหญ่นิยมเอามาทำน้ำหล่อฮั้งก้วย ใครจะใส่ดอกเก๊กฮวยเพิ่มความหอมหรือไม่ก็ได้ เติมน้ำแข็งหน่อย ดื่มอร่อยชื่นใจจริงเลย

ส่วนผสม น้ำหล่อฮั้งก้วย

      • ผลหล่อฮั้งก้วย 2 ผล
      • น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
      • ดอกเก๊กฮวยตากแห้ง 1 กำมือ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
      • น้ำตาลทราย (ตามชอบ)

วิธีทำน้ำหล่อฮั้งก้วย

     1. ล้างผลหล่อฮั้งก้วยให้สะอาดแล้วบิให้แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ 30 นาที
     2. นำหม้อที่แช่หล่อฮั้งก้วยไปต้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 30 นาที (ใส่ดอกเก๊กฮวยตากแห้งลงไปในขั้นตอนนี้เพื่อเพิ่มเติมกลิ่นหอม) เติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบ พอครบเวลาปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นเล็กน้อย
     3. นำไปกรองผ่านตะแกรงเอาเฉพาะน้ำ ตักใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง (หรือดื่มแบบอุ่น ๆ ได้)

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำหล่อฮั้งก้วย เครื่องดื่มสมุนไพรจีนคลายร้อนไม่ทำลายสุขภาพ

19. น้ำว่านหางจระเข้

     หลายคนคุ้นเคยกับเอาว่านหางจระเข้มารักษาแผลน้ำร้อนลวกหรือทาผิวป้องกันแสงแดด แต่หารู้ไหมว่าเนื้อว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็น เอามาทำเมนูคลายร้อนอย่างน้ำว่านหางจระเข้เคี้ยวกรุบ ๆ ดื่มเพื่อสุขภาพได้ด้วย เติมความหวานด้วยน้ำตาลทรายแดง ใส่น้ำแข็งเพิ่มความเย็นฉ่ำ

ส่วนผสม น้ำว่านหางจระเข้

      • เนื้อว่านหางจระเข้ (หั่นเป็นชิ้น) 200 กรัม (ล้างให้สะอาดจนหมดเมือก)
      • น้ำเปล่า 3 ถ้วย
      • น้ำตาลทรายแดง 3/4 ถ้วย
      • น้ำแข็ง (เสิร์ฟ)

วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้

     1. นำเนื้อว่านหางจระเข้ไปต้มด้วยไฟกลางประมาณ 15-20 นาที จนเนื้อว่านหางจระเข้สุก
     2. ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป คนพอน้ำตาลละลาย ปิดไฟ
     3. รินใส่แก้วน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำว่านหางจระเข้ เครื่องดื่มสมุนไพรสุดเฮลธ์ตี้เคี้ยววุ้นเพลิน

20. น้ำลิ้นจี่ปั่น

     ลิ้นจี่เป็นผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวและฉ่ำน้ำ แค่กินใส่น้ำแข็งก็ชื่นใจแล้ว แต่ถ้าเบื่อ ๆ ก็เอามาทำน้ำลิ้นจี่ปั่น ใส่เนื้อลิ้นจี่กับน้ำหวานกลิ่นลิ้นจี่ เติมน้ำเชื่อมกับน้ำมะนาว พอปั่นกับน้ำแข็งจนเนียนก็จัดเสิร์ฟได้เลยจ้า

ส่วนผสม น้ำลิ้นจี่ปั่น

      • น้ำหวานกลิ่นลิ้นจี่ 50 มิลลิลิตร
      • น้ำเชื่อม 30 มิลลิลิตร
      • น้ำแข็งบด 1 แก้ว
      • เนื้อลิ้นจี่ในน้ำเชื่อม 3 ลูก
      • น้ำมะนาวเล็กน้อย

วิธีทำน้ำลิ้นจี่ปั่น

     1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเนื้อเนียน
     2. เทใส่แก้ว แต่งให้สวยงาม พร้อมดื่ม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำลิ้นจี่ปั่น เครื่องดื่มคลายร้อนหวานหอมสดชื่น

     จบไปแล้วสำหรับเมนูคลายร้อนมาแรง ใครอยากทำอาหารคาวพร้อมกับขนมหวานก็เหมาะ และอาจพ่วงด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้วก็ยอดเยี่ยมไปเลยจ้า