แกงเพลิน ๆ ของวันหยุดนี้ เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องชอบเมนูแกงปลา สูตรอาหารไทยอัดแน่นโปรตีน มีทั้งแกงกะทิกับแกงไทยไม่ใส่กะทิ แค่หม้อเดียวก็อิ่มทั้งบ้านแล้ว
ใครชอบกินเมนูแกงเหมือนกันบ้าง ถ้าแอบเซ็ง ๆ เบื่อ ๆ กับเมนูแกงหมูหรือแกงไก่ ลองเปลี่ยนมาทำแกงปลา กันสักหม้อดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำแกงปลา เช่น แกงปลาดุก แกงปลาช่อน แกงปลาหน่อไม้ดอง ไปจัดหาปลามาสักชนิดแล้วลงมือแกงกันเลยจ้า
1. แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา
เริ่มจากแกงปลาไม่ใส่กะทินั่นคือ แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แกงสีเหลืองรสแซ่บจัดจ้าน มีความเปรี้ยวของหน่อไม้ดอง จะใส่ปลาดุก ปลานิล ปลาช่อน หรือปลาสวายก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ
ส่วนผสม แกงเหลืองปลาหน่อไม้ดอง
• ปลา
• หน่อไม้ดอง
• น้ำพริกแกงเหลือง
• น้ำปลา
• น้ำมะนาว
• น้ำตาลทราย
วิธีทำแกงเหลืองหน่อไม้ดอง
1. ปั่นส่วนผสมน้ำพริกแกงเหลืองไปจนละเอียด
2. ต้มหน่อไม้ดองในน้ำสักพัก
3. ใส่ส่วนผสมน้ำพริกกับน้ำจนเดือด ใส่หน่อไม้ดองลงไป ต้มจนเดือดอีกสักครั้ง จึงใส่ปลา เติมรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว ตัดน้ำตาลปลายช้อนเป็นเสร็จพร้อมกิน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา เปรี้ยวเผ็ดสีสวยสูตรอร่อยตำรับปักษ์ใต้
อูย… กลิ่นหอมเหลือเกินสำหรับแกงปลาใส่กะทิหม้อนี้ พบกับแกงกะทิปลาช่อนใบยี่หร่า มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงโฮมเมด ผัดกับกะทิจนเดือดแล้วใส่ปลาช่อน พอปลาสุกใส่ใบยี่หร่า
ส่วนผสม แกงกะทิปลาช่อน
• น้ำพริกแกง
• ปลาช่อน (หั่นชิ้นพอดีคำ) 500 กรัม
• กะทิ 500 มิลลิลิตร (หรือกะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง)
• ใบยี่หร่า 100 กรัม (หั่นพอหยาบ)
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา (ปรุงรส)
ส่วนผสม น้ำพริกแกง
• ข่า 5 แว่น
• ตะไคร้ 3 ต้น
• กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูสด 100 กรัม
• พริกแห้ง 1 กำมือ
• กระชาย 5 ราก
• ขมิ้นหัวเล็ก 4 ชิ้น
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแกงกะทิปลาช่อน
1. โขลกส่วนผสมเครื่องพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง รอจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงลงไป รอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่ปลาช่อนลงไป (ไม่ต้องคน)
3. รอให้เดือดอีกครั้ง ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ใบยี่หร่าตามลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงกะทิปลาช่อนใบยี่หร่า กลิ่นหอมเผ็ดร้อนแรงพ่วงสูตรน้ำพริกแกง
3. แกงส้มปลากระบอก
แกงส้มปลากระบอกหน่อไม้ดองใคร ๆ ก็ทำ แต่ถ้าไม่อยากซ้ำใครขอนำเสนอแกงส้มปลากระบอก สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่ออดิบต้มกับน้ำแกงส้มจนกรอบนุ่ม เข้ากันดีกับปลากระบอก
ส่วนผสม แกงส้มปลากระบอก
• พริกสด 80 เม็ด
• เกลือ หรือน้ำปลา
• กะปิ
• กระเทียม
• ขมิ้นสด
• น้ำมะนาว
• น้ำตาลทราย
• ออดิบ
วิธีทำแกงส้มปลากระบอก
1. เอาเครื่องพริกแกงมาปั่นหรือตำตามสะดวก แต่การตำจะทำให้หอมและอร่อยกว่าปั่น ใส่ลงในหม้อเติมน้ำเปล่า
2. พอเดือดใส่ปลาลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือหรือน้ำปลาตามชอบเบา ๆ ไว้ก่อน เพราะกะปิอาจมีความเค็ม ปลาสุกใช้เวลาไม่นานราว 8-9 นาที เติมน้ำมะนาวเพื่อปรุงให้รสชาติเปรี้ยว และได้ความหอมต่างจากมะขามเปียก
3. ใส่ออดิบลงไป เร่งไฟจนเดือดแล้วปิดไฟ พร้อมปิดฝาทิ้งไว้ไม่ต้องคน เพราะต้องการกินแบบกรอบนอกนุ่มใน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงส้มปลากระบอก ใส่ไข่กับผักพื้นบ้านรสเผ็ดแรงสไตล์ปักษ์ใต้
4. แกงเขียวหวานปลาดุก
แกงเขียวหวานแบบภาคกลางรสออกหวานไปหน่อย ใครชอบความแซ่บต้องลองแกงเขียวหวานปลาดุก สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่น้ำพริกแกงปักษ์ใต้ ต้มกับกะทิ ใส่ปลาดุก เพิ่มความหอมจากกระชาย สุดท้ายใส่มะเขือพวงกับมะเขือเปราะ
ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาดุก
• ปลาดุก
• กะทิ
• พริกชี้ฟ้า
• ผิวมะกรูด 1/2 ลูก
• ใบพริก
• กระชาย
• ข่า
• ตะไคร้
• มะเขือเปราะ
• มะเขือพวง
• หอมแดง
• พริกไทยดำ
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
วิธีทำแกงเขียวหวานปลาดุก
1. เตรียมเครื่องน้ำพริกแกงเขียวหวานแบบภาคกลาง โดยเพิ่มพริก ผิวมะกรูดราวครึ่งลูก และใบพริกไปปั่นจนละเอียด
2. เอาหัวกะทิใส่หม้อต้มพอเดือด ใส่เครื่องแกงลงไป ตามด้วยปลาดุก พอปลาเริ่มจะสุกก็ใส่กระชาย มะเขือพวง และผักอื่น ๆ ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลทราย กินกับขนมจีนผักสด
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานปลาดุก แกงไทยเผ็ดร้อนสูตรน้ำพริกแกงใต้
5. แกงสับนกปลา
แกงสับนกไก่หรือแกงสับนกหมูคงต้องชิดซ้ายให้กับเมนูแกงสับนกปลา สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่เนื้อปลาโขลกจนเหนียวแล้วปั้นเป็นก้อนกลมต้มกับเครื่องแกงจนสุก กินกับข้าวสวยหรือขนมจีนก็อร่อยเข้ากันจ้า
ส่วนผสม แกงสับนกปลา
• เนื้อปลา สับละเอียด
• น้ำแข็ง
• เกลือกะทิ
• น้ำพริกแกง
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• มะเขือพวง
• กระชาย
• พริกสด
• ใบมะกรูด
• ใบโหระพา
ส่วนผสม น้ำพริกแกง
• หัวกระชาย
• พริกไทยดำ
• ผิวมะกรูด
• หางกะทิ
วิธีทำน้ำพริกแกง
ปั่นหัวกระชาย พริกไทยดำ ผิวมะกรูด และหางกะทิเข้าด้วยกัน
วิธีทำแกงสับนกปลา
1. เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมันก่อน เมื่อแตกมันได้ที่ สังเกตริมกระทะจะมัน ๆ เยิ้ม ๆ ค่อยใส่พริกแกงลงไปแล้วเคี่ยวให้หอม พอเดือดปล่อยไว้ 15-20 นาที พริกแกงถึงจะสุกและส่งกลิ่นหอม
2. นำเนื้อปลามาแล่เนื้อ ปลิดหนังออกแล้วสับจนก้างราวท้องละเอียด จากนั้นนำลงไปโขลกในครกหิน ใส่น้ำแข็งสักหน่อย ใส่เกลือสักนิด การใส่น้ำแข็งลงในเนื้อปลาเพื่อให้เนื้อปลาคลายความกระด้างลง ถ้าเป็นเนื้อปลาล้วน ๆ จะกระด้าง กินแล้วสาก ๆ ไม่นุ่มจึงต้องใส่น้ำแข็งลงไป น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเพิ่มความชื้นให้เนื้อปลานุ่มขึ้น เกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ
3. โขลกเนื้อปลาจนเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อปลาจะเหนียวยกสากขึ้นได้ยาก ให้ปั้นก้อนแล้วใส่ลงในกะทิเครื่องแกง เพื่อทดสอบรสสัมผัสของเนื้อปลา ถ้าไม่เหนียวก็โขลกต่อ ถ้าจืดก็ปรับเพิ่มเกลือ ถ้ามีเครื่องปั่นจะช่วยให้ขั้นตอนการโขลกเนื้อปลารวดเร็วขึ้น
4. เมื่อปลาได้ที่ก็ปั้นใส่ลงในกระทะ ปรับชิมรสชาติแกง เติมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บเท่านั้น ใส่มะเขือพวง กระชาย พริก ใบมะกรูด และโหระพา
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงสับนกปลา เมนูแกงไทยโบราณชื่อแปลกแต่อร่อยปัง
6. แกงเทโพปลาเค็ม
แกงเทโพไก่ก็ทำไปเมื่อวาน วันนี้ขอลองทำแกงเทโพปลาเค็ม สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำปลาเค็มจากปลาสละ ใส่น้ำพริกแกงลงไปต้มกับกะทิ ที่ขาดไม่ได้เลยคือผักบุ้งไทย
ส่วนผสม แกงเทโพ
• ปลาเค็ม (ในสูตรใช้ปลาสละเค็ม)
• ผักบุ้งไทย
• น้ำพริกแกง
• หัวกะทิ
• มะกรูด
• ส้มแขก
• น้ำมะขามเปียก
• น้ำปลา
วิธีทำแกงเทโพ
1. เอาปลาสละมาผ่าหลัง แบะเนื้อออกแล้วชโลมเกลือ อัตราส่วน 3% ของน้ำหนักตัว ปลาตัวนี้น้ำหนักร่วม 8 กิโลกรัม จึงใช้เกลือร่วม ๆ 3 ขีด การใช้เกลือมากเกินไปหรือระยะเวลาที่หมักนานเกินไป จะส่งผลให้เนื้อปลามีความเค็มมาก กินไม่อร่อย ต้องกะเวลาและปริมาณเกลือให้พอดี หลังจากทาเกลือแล้วก็นำใส่ถุงใบใหญ่หมักไว้ค้างคืน รุ่งเช้าจึงล้างเกลือออกแล้วตากแดดจนแห้ง ก็จะได้ปลาสละเค็มเก็บไว้กินตลอดทั้งปี
2. เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมันจึงใส่เครื่องแกง ผัดต้มจนเครื่องแกงเริ่มส่งกลิ่นหอม ใส่ปลาแห้งตัดพอคำที่แช่น้ำไว้ ใส่มะกรูดหั่นแว่น ชิมรสตามชอบ อาจจะเพิ่มน้ำปลาลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก ก่อนเร่งไฟใส่ผักบุ้ง จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเทโพปลาเค็ม แกงไทยเผ็ดเปรี้ยวมีคุณค่าจากผักพื้นบ้าน
7. แกงป่าปลาดุก
เอาใจสาว ๆ กันด้วยเมนูแกงป่าปลาดุก แกงปลาไม่ใส่กะทิรสแซ่บ กินกับปลาดุกเนื้อแน่น ใส่เครื่องสมุนไพรเน้น ๆ เติมมะเขือเปราะกับใบกะเพรา
ส่วนผสม แกงป่าปลาดุก
• ปลาดุก (หั่นชิ้น) 500 กรัม
• น้ำพริกแกงป่า 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย
• กระชายซอย 100 กรัม
• มะเขือเปราะ (หั่นชิ้น) 200 กรัม
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• พริกชี้ฟ้า
• ใบกะเพรา
วิธีทำแกงป่าปลาดุก
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงป่าลงไปผัดจนหอม ตามด้วยปลาดุก ผัดให้สุก
2. เติมน้ำเปล่า รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บ
3. ใส่กระชายกับมะเขือเปราะ รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่พริกชี้ฟ้ากับใบกะเพรา ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงป่าปลาดุก รสจัดจ้านซดร้อน ๆ อร่อยแบบไทยไร้กะทิ
8. แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ
แอบกลืนน้ำลายเสียงดังเพราะเมนูแกงปลาหม้อนี้น่าหม่ำสุด ๆ พบกับแกงเขียวหวานปลาคังสะตอ สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปหรือตำเองก็ตามสะดวก ใส่เนื้อปลาคังลงไปผัดกับสะตอและกะทิหอมมัน
ส่วนผสม น้ำพริกแกงเขียวหวาน
• ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
• ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
• พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
• พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
• ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
• ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
• รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
• กระเทียมสับ 9 กลีบ
• หอมแดงซอย 3 หัว
• กะปิ 1 ช้อนชา
หมายเหตุ : นี่คือสูตรน้ำพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจ
ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ
• น้ำพริกแกงเขียวหวาน
• น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
• หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
• เนื้อปลาคังสด 500 กรัม (โดยล้างเนื้อปลาคังด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามเปียกจะช่วยลดกลิ่นคาวปลา)
• หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
• น้ำปลา 1 ช้อนคาว
• เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนคาว
• สะตอ 300 กรัม
• ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
• กระชายซอย 100 กรัม (ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย)
• พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง (หั่นเฉียง)
• ใบโหระพา
วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน
1. โขลกลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทยขาวเม็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
2. โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และรากผักชีแล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด
3. ใส่กระเทียมสับและหอมแดงซอยโขลกรวมกันให้ละเอียด จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ทั้งหมด และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตักใส่ถ้วยพักไว้
หมายเหตุ : คุณบ่งบ๊งเลือกใช้น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปที่มาวางขายที่ตลาด อตก. เป็นน้ำพริกแกงเขียวหวานจากยะลา เป็นแกงของคนใต้ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่รสชาตินั้นเด็ดขาดมาก
วิธีทำแกงเขียวหวานปลาคังสะตอ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่น้ำพริกพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอม
2. ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วยลงไปผัดจนหัวกะทิแตกมันเล็กน้อย
3. ใส่เนื้อปลาคังลงไปผัดให้สุกแล้วเติมหางกะทิลงไป (ถ้าเนื้อปลาสดเวลาผัดไม่ต้องกลัวว่าเนื้อปลาจะเละ)
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น และน้ำตาลปี๊บ ใส่สะตอ กระชายซอย และพริกชี้ฟ้าสามสี จากนั้นต้มต่อสักครู่จนสะตอสุก
5. แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป (ถ้าใส่ตอนปิดไฟแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย) คนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี แล้วปิดไฟ (บ่งบ๊งจะแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล้วเทใส่ไปในตอนสุดท้ายก่อนดับไฟ วิธีการแบบนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ หอมแกงไทยเอาใจคนชอบกินปลา
9. แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ
แกงเหลืองมะละกอปลากระป๋องขอเก็บไว้กินตอนใกล้สิ้นเดือน เพราะต้นเดือนแบบนี้ขอลองทำแกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ สูตรจาก เฟซบุ๊ก Fashion On Food และ เว็บไซต์ ChingCanCook ใส่เครื่องแกงส้มตำกับกุ้งสดและกะปิ สุดท้ายใส่มะละกอฝานกับปลาแซลมอนชิ้นโต
ส่วนผสม แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ
• แป้งข้าวโพด
• เกลือ
• น้ำเปล่า
• กุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก
• เครื่องแกงส้ม
• กะปิ
• น้ำซุปกระดูกหมู หรือน้ำซุปไก่
• มะละกอ
• น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
• ปลาแซลมอน
วิธีทำแกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ
1. ผสมแป้งข้าวโพดกับเกลือและน้ำเปล่า แกะกุ้งผ่าหลังดึงเส้นดำออก จากนั้นแช่ในส่วนผสมน้ำแป้งสักครู่ ทั้งนี้เพื่อลดความคาวและช่วยให้กุ้งเด้งด้วย ล้างกุ้งด้วยน้ำสะอาด จากนั้นลวกกุ้งในน้ำเดือดจนสุก แล้วเทน้ำทิ้งไป
2. นำกุ้งไปตำในครกจนละเอียด ใส่เครื่องแกงลงไปตำด้วย เติมกะปิลงไปนิดหนึ่ง
3. ตั้งน้ำซุปกระดูกหมู หรือซุปไก่จนเดือด จากนั้นก็ตักน้ำซุปเดือด ๆ ส่วนหนึ่งลงมาในครกที่มีพริกแกง ใช้ทัพพียี ๆ ให้พริกแกงไม่จับเป็นก้อน จากนั้นก็ตักพริกแกงใส่ลงไปในน้ำซุป ตั้งน้ำจนเดือด ลดไฟลง แล้วต้มซักพักให้งวดเล็กน้อย
4. ใส่มะละกอฝานลงไป ต้มแค่ 15 นาที มะละกอก็จะนิ่มได้ที่แล้วค่ะ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว ชิมจนได้รสที่ชอบ สุดท้ายใส่ปลาแซลมอนลงไปต้มจนสุก พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ อาหารไทยรสจัดดัดแปลงใหม่
10. แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ
จำไม่ได้ว่ากินแกงส้มแป๊ะซะล่าสุดตอนไหน เอาล่ะ… มารื้อฟื้นรสชาติแกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะกันเถอะ เริ่มจากเอาปลาช่อนไปทอดจนหนังกรอบเนื้อสุกนุ่มแล้วราดด้วยน้ำแกงส้มใส่ผักกระเฉดและผักอื่น ๆ ตามชอบ
ส่วนผสม ปลาช่อนแป๊ะซะ
• ปลาช่อน 1 ตัว
• น้ำพริกแกงส้ม 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
• กระชาย 2 ชิ้น
• น้ำซุป 4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 1+1/4 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 2+1/2 ช้อนชา
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
• ผักกระเฉด หั่นท่อน หรือผักสดอื่น ๆ ตามชอบ เช่น ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน ดอกแค เป็นต้น
• น้ำมันพืช (สำหรับทอดปลา)
วิธีทำปลาช่อนแป๊ะซะ
1. ทำความสะอาดปลา ขอดเกล็ด และควักไส้ออก ล้างให้สะอาดอีกครั้ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกหรือตำน้ำพริกแกงส้มกับกระชายจนละเอียด พักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ปลาลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน นำปลาทอดวางใส่หม้อไฟแป๊ะซะ พักไว้
4. ตั้งหม้อใส่น้ำซุป ใช้ไฟร้อนปานกลาง พอเดือดตักน้ำซุปขึ้นมาเล็กน้อยนำไปละลายน้ำพริกแกงส้ม แล้วเทส่วนผสมน้ำพริกแกงส้มลงไปในหม้อ ต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
5. พอเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักจนผักสุก ปิดไฟ ตักราดลงบนปลาทอดที่เตรียมไว้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ เมนูปลาเปรี้ยวแซ่บแถมผักแน่น ๆ
11. น้ำแกงส้มปลาทู
สำหรับคนที่ชอบกินแกงส้มมาก ๆ แล้วอยากได้น้ำซุปข้น ๆ ขอนำเสนอน้ำแกงส้มปลาทู สูตรจาก คุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เจ้าของ เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน ใส่เครื่องแกงส้มโขลกเองกับเนื้อปลาทูนึ่ง แค่นี้ก็เอาไปต้มจนเดือดและใส่เครื่องเคราได้เลยจ้า
ส่วนผสม น้ำแกงส้ม
• พริกแห้ง แกะเมล็ดออกแช่น้ำ
• หอมแดง
• กระเทียม (บางสูตรก็ไม่ใส่)
• กะปิ
• เกลือป่น
• กระชาย เล็กน้อย
• ปลาทูนึ่ง แกะเอาเฉพาะเนื้อ
• น้ำเปล่า
• น้ำมะขามเปียก
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
วิธีทำน้ำแกงส้ม
1. โขลกพริก หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือป่น และกระชายเข้าด้วยกันให้ละเอียด (หรือจะใช้ปั่นก็ได้)
2. จากนั้นใส่ปลาทูลงไปโขลกกับพริกแกง
3. ต้มน้ำจนเดือด ตักเครื่องแกงใส่ลงไป (หรือจะปั่นส่วนผสมทุกอย่างรวมกันแล้วเทลงหม้อก็ได้)
4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมและปรุงรสตามใจชอบ (และสามารถนำผักไปใส่ได้เลย)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 15 เมนูปลาทู เนรมิตเมนูปลาอร่อยแบบไทย ๆ
เริ่มจากแกงปลาไม่ใส่กะทินั่นคือ แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แกงสีเหลืองรสแซ่บจัดจ้าน มีความเปรี้ยวของหน่อไม้ดอง จะใส่ปลาดุก ปลานิล ปลาช่อน หรือปลาสวายก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ
ส่วนผสม แกงเหลืองปลาหน่อไม้ดอง
• ปลา
• หน่อไม้ดอง
• น้ำพริกแกงเหลือง
• น้ำปลา
• น้ำมะนาว
• น้ำตาลทราย
วิธีทำแกงเหลืองหน่อไม้ดอง
1. ปั่นส่วนผสมน้ำพริกแกงเหลืองไปจนละเอียด
2. ต้มหน่อไม้ดองในน้ำสักพัก
3. ใส่ส่วนผสมน้ำพริกกับน้ำจนเดือด ใส่หน่อไม้ดองลงไป ต้มจนเดือดอีกสักครั้ง จึงใส่ปลา เติมรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว ตัดน้ำตาลปลายช้อนเป็นเสร็จพร้อมกิน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา เปรี้ยวเผ็ดสีสวยสูตรอร่อยตำรับปักษ์ใต้
++++++++++++++++++
2. แกงกะทิปลาช่อนใบยี่หร่า
ส่วนผสม แกงกะทิปลาช่อน
• น้ำพริกแกง
• ปลาช่อน (หั่นชิ้นพอดีคำ) 500 กรัม
• กะทิ 500 มิลลิลิตร (หรือกะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง)
• ใบยี่หร่า 100 กรัม (หั่นพอหยาบ)
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา (ปรุงรส)
ส่วนผสม น้ำพริกแกง
• ข่า 5 แว่น
• ตะไคร้ 3 ต้น
• กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูสด 100 กรัม
• พริกแห้ง 1 กำมือ
• กระชาย 5 ราก
• ขมิ้นหัวเล็ก 4 ชิ้น
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแกงกะทิปลาช่อน
1. โขลกส่วนผสมเครื่องพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง รอจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงลงไป รอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่ปลาช่อนลงไป (ไม่ต้องคน)
3. รอให้เดือดอีกครั้ง ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ใบยี่หร่าตามลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงกะทิปลาช่อนใบยี่หร่า กลิ่นหอมเผ็ดร้อนแรงพ่วงสูตรน้ำพริกแกง
++++++++++++++++++
3. แกงส้มปลากระบอก
แกงส้มปลากระบอกหน่อไม้ดองใคร ๆ ก็ทำ แต่ถ้าไม่อยากซ้ำใครขอนำเสนอแกงส้มปลากระบอก สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่ออดิบต้มกับน้ำแกงส้มจนกรอบนุ่ม เข้ากันดีกับปลากระบอก
ส่วนผสม แกงส้มปลากระบอก
• พริกสด 80 เม็ด
• เกลือ หรือน้ำปลา
• กะปิ
• กระเทียม
• ขมิ้นสด
• น้ำมะนาว
• น้ำตาลทราย
• ออดิบ
วิธีทำแกงส้มปลากระบอก
1. เอาเครื่องพริกแกงมาปั่นหรือตำตามสะดวก แต่การตำจะทำให้หอมและอร่อยกว่าปั่น ใส่ลงในหม้อเติมน้ำเปล่า
2. พอเดือดใส่ปลาลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือหรือน้ำปลาตามชอบเบา ๆ ไว้ก่อน เพราะกะปิอาจมีความเค็ม ปลาสุกใช้เวลาไม่นานราว 8-9 นาที เติมน้ำมะนาวเพื่อปรุงให้รสชาติเปรี้ยว และได้ความหอมต่างจากมะขามเปียก
3. ใส่ออดิบลงไป เร่งไฟจนเดือดแล้วปิดไฟ พร้อมปิดฝาทิ้งไว้ไม่ต้องคน เพราะต้องการกินแบบกรอบนอกนุ่มใน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงส้มปลากระบอก ใส่ไข่กับผักพื้นบ้านรสเผ็ดแรงสไตล์ปักษ์ใต้
++++++++++++++++++
4. แกงเขียวหวานปลาดุก
แกงเขียวหวานแบบภาคกลางรสออกหวานไปหน่อย ใครชอบความแซ่บต้องลองแกงเขียวหวานปลาดุก สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่น้ำพริกแกงปักษ์ใต้ ต้มกับกะทิ ใส่ปลาดุก เพิ่มความหอมจากกระชาย สุดท้ายใส่มะเขือพวงกับมะเขือเปราะ
ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาดุก
• ปลาดุก
• กะทิ
• พริกชี้ฟ้า
• ผิวมะกรูด 1/2 ลูก
• ใบพริก
• กระชาย
• ข่า
• ตะไคร้
• มะเขือเปราะ
• มะเขือพวง
• หอมแดง
• พริกไทยดำ
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
วิธีทำแกงเขียวหวานปลาดุก
1. เตรียมเครื่องน้ำพริกแกงเขียวหวานแบบภาคกลาง โดยเพิ่มพริก ผิวมะกรูดราวครึ่งลูก และใบพริกไปปั่นจนละเอียด
2. เอาหัวกะทิใส่หม้อต้มพอเดือด ใส่เครื่องแกงลงไป ตามด้วยปลาดุก พอปลาเริ่มจะสุกก็ใส่กระชาย มะเขือพวง และผักอื่น ๆ ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลทราย กินกับขนมจีนผักสด
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานปลาดุก แกงไทยเผ็ดร้อนสูตรน้ำพริกแกงใต้
++++++++++++++++++
5. แกงสับนกปลา
แกงสับนกไก่หรือแกงสับนกหมูคงต้องชิดซ้ายให้กับเมนูแกงสับนกปลา สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่เนื้อปลาโขลกจนเหนียวแล้วปั้นเป็นก้อนกลมต้มกับเครื่องแกงจนสุก กินกับข้าวสวยหรือขนมจีนก็อร่อยเข้ากันจ้า
ส่วนผสม แกงสับนกปลา
• เนื้อปลา สับละเอียด
• น้ำแข็ง
• เกลือกะทิ
• น้ำพริกแกง
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• มะเขือพวง
• กระชาย
• พริกสด
• ใบมะกรูด
• ใบโหระพา
ส่วนผสม น้ำพริกแกง
• หัวกระชาย
• พริกไทยดำ
• ผิวมะกรูด
• หางกะทิ
วิธีทำน้ำพริกแกง
ปั่นหัวกระชาย พริกไทยดำ ผิวมะกรูด และหางกะทิเข้าด้วยกัน
วิธีทำแกงสับนกปลา
1. เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมันก่อน เมื่อแตกมันได้ที่ สังเกตริมกระทะจะมัน ๆ เยิ้ม ๆ ค่อยใส่พริกแกงลงไปแล้วเคี่ยวให้หอม พอเดือดปล่อยไว้ 15-20 นาที พริกแกงถึงจะสุกและส่งกลิ่นหอม
2. นำเนื้อปลามาแล่เนื้อ ปลิดหนังออกแล้วสับจนก้างราวท้องละเอียด จากนั้นนำลงไปโขลกในครกหิน ใส่น้ำแข็งสักหน่อย ใส่เกลือสักนิด การใส่น้ำแข็งลงในเนื้อปลาเพื่อให้เนื้อปลาคลายความกระด้างลง ถ้าเป็นเนื้อปลาล้วน ๆ จะกระด้าง กินแล้วสาก ๆ ไม่นุ่มจึงต้องใส่น้ำแข็งลงไป น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเพิ่มความชื้นให้เนื้อปลานุ่มขึ้น เกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ
3. โขลกเนื้อปลาจนเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อปลาจะเหนียวยกสากขึ้นได้ยาก ให้ปั้นก้อนแล้วใส่ลงในกะทิเครื่องแกง เพื่อทดสอบรสสัมผัสของเนื้อปลา ถ้าไม่เหนียวก็โขลกต่อ ถ้าจืดก็ปรับเพิ่มเกลือ ถ้ามีเครื่องปั่นจะช่วยให้ขั้นตอนการโขลกเนื้อปลารวดเร็วขึ้น
4. เมื่อปลาได้ที่ก็ปั้นใส่ลงในกระทะ ปรับชิมรสชาติแกง เติมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บเท่านั้น ใส่มะเขือพวง กระชาย พริก ใบมะกรูด และโหระพา
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงสับนกปลา เมนูแกงไทยโบราณชื่อแปลกแต่อร่อยปัง
++++++++++++++++++
6. แกงเทโพปลาเค็ม
แกงเทโพไก่ก็ทำไปเมื่อวาน วันนี้ขอลองทำแกงเทโพปลาเค็ม สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำปลาเค็มจากปลาสละ ใส่น้ำพริกแกงลงไปต้มกับกะทิ ที่ขาดไม่ได้เลยคือผักบุ้งไทย
ส่วนผสม แกงเทโพ
• ปลาเค็ม (ในสูตรใช้ปลาสละเค็ม)
• ผักบุ้งไทย
• น้ำพริกแกง
• หัวกะทิ
• มะกรูด
• ส้มแขก
• น้ำมะขามเปียก
• น้ำปลา
วิธีทำแกงเทโพ
1. เอาปลาสละมาผ่าหลัง แบะเนื้อออกแล้วชโลมเกลือ อัตราส่วน 3% ของน้ำหนักตัว ปลาตัวนี้น้ำหนักร่วม 8 กิโลกรัม จึงใช้เกลือร่วม ๆ 3 ขีด การใช้เกลือมากเกินไปหรือระยะเวลาที่หมักนานเกินไป จะส่งผลให้เนื้อปลามีความเค็มมาก กินไม่อร่อย ต้องกะเวลาและปริมาณเกลือให้พอดี หลังจากทาเกลือแล้วก็นำใส่ถุงใบใหญ่หมักไว้ค้างคืน รุ่งเช้าจึงล้างเกลือออกแล้วตากแดดจนแห้ง ก็จะได้ปลาสละเค็มเก็บไว้กินตลอดทั้งปี
2. เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมันจึงใส่เครื่องแกง ผัดต้มจนเครื่องแกงเริ่มส่งกลิ่นหอม ใส่ปลาแห้งตัดพอคำที่แช่น้ำไว้ ใส่มะกรูดหั่นแว่น ชิมรสตามชอบ อาจจะเพิ่มน้ำปลาลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก ก่อนเร่งไฟใส่ผักบุ้ง จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเทโพปลาเค็ม แกงไทยเผ็ดเปรี้ยวมีคุณค่าจากผักพื้นบ้าน
++++++++++++++++++
7. แกงป่าปลาดุก
เอาใจสาว ๆ กันด้วยเมนูแกงป่าปลาดุก แกงปลาไม่ใส่กะทิรสแซ่บ กินกับปลาดุกเนื้อแน่น ใส่เครื่องสมุนไพรเน้น ๆ เติมมะเขือเปราะกับใบกะเพรา
ส่วนผสม แกงป่าปลาดุก
• ปลาดุก (หั่นชิ้น) 500 กรัม
• น้ำพริกแกงป่า 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย
• กระชายซอย 100 กรัม
• มะเขือเปราะ (หั่นชิ้น) 200 กรัม
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• พริกชี้ฟ้า
• ใบกะเพรา
วิธีทำแกงป่าปลาดุก
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงป่าลงไปผัดจนหอม ตามด้วยปลาดุก ผัดให้สุก
2. เติมน้ำเปล่า รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บ
3. ใส่กระชายกับมะเขือเปราะ รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่พริกชี้ฟ้ากับใบกะเพรา ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงป่าปลาดุก รสจัดจ้านซดร้อน ๆ อร่อยแบบไทยไร้กะทิ
++++++++++++++++++
แอบกลืนน้ำลายเสียงดังเพราะเมนูแกงปลาหม้อนี้น่าหม่ำสุด ๆ พบกับแกงเขียวหวานปลาคังสะตอ สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปหรือตำเองก็ตามสะดวก ใส่เนื้อปลาคังลงไปผัดกับสะตอและกะทิหอมมัน
ส่วนผสม น้ำพริกแกงเขียวหวาน
• ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
• ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
• พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
• พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
• ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
• ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
• รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
• กระเทียมสับ 9 กลีบ
• หอมแดงซอย 3 หัว
• กะปิ 1 ช้อนชา
หมายเหตุ : นี่คือสูตรน้ำพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจ
ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ
• น้ำพริกแกงเขียวหวาน
• น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
• หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
• เนื้อปลาคังสด 500 กรัม (โดยล้างเนื้อปลาคังด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามเปียกจะช่วยลดกลิ่นคาวปลา)
• หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
• น้ำปลา 1 ช้อนคาว
• เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนคาว
• สะตอ 300 กรัม
• ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
• กระชายซอย 100 กรัม (ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย)
• พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง (หั่นเฉียง)
• ใบโหระพา
วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน
1. โขลกลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทยขาวเม็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
2. โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และรากผักชีแล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด
3. ใส่กระเทียมสับและหอมแดงซอยโขลกรวมกันให้ละเอียด จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ทั้งหมด และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตักใส่ถ้วยพักไว้
หมายเหตุ : คุณบ่งบ๊งเลือกใช้น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปที่มาวางขายที่ตลาด อตก. เป็นน้ำพริกแกงเขียวหวานจากยะลา เป็นแกงของคนใต้ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่รสชาตินั้นเด็ดขาดมาก
วิธีทำแกงเขียวหวานปลาคังสะตอ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่น้ำพริกพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอม
2. ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วยลงไปผัดจนหัวกะทิแตกมันเล็กน้อย
3. ใส่เนื้อปลาคังลงไปผัดให้สุกแล้วเติมหางกะทิลงไป (ถ้าเนื้อปลาสดเวลาผัดไม่ต้องกลัวว่าเนื้อปลาจะเละ)
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น และน้ำตาลปี๊บ ใส่สะตอ กระชายซอย และพริกชี้ฟ้าสามสี จากนั้นต้มต่อสักครู่จนสะตอสุก
5. แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป (ถ้าใส่ตอนปิดไฟแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย) คนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี แล้วปิดไฟ (บ่งบ๊งจะแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล้วเทใส่ไปในตอนสุดท้ายก่อนดับไฟ วิธีการแบบนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ หอมแกงไทยเอาใจคนชอบกินปลา
++++++++++++++++++
9. แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ
แกงเหลืองมะละกอปลากระป๋องขอเก็บไว้กินตอนใกล้สิ้นเดือน เพราะต้นเดือนแบบนี้ขอลองทำแกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ สูตรจาก เฟซบุ๊ก Fashion On Food และ เว็บไซต์ ChingCanCook ใส่เครื่องแกงส้มตำกับกุ้งสดและกะปิ สุดท้ายใส่มะละกอฝานกับปลาแซลมอนชิ้นโต
ส่วนผสม แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ
• แป้งข้าวโพด
• เกลือ
• น้ำเปล่า
• กุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก
• เครื่องแกงส้ม
• กะปิ
• น้ำซุปกระดูกหมู หรือน้ำซุปไก่
• มะละกอ
• น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
• ปลาแซลมอน
วิธีทำแกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ
1. ผสมแป้งข้าวโพดกับเกลือและน้ำเปล่า แกะกุ้งผ่าหลังดึงเส้นดำออก จากนั้นแช่ในส่วนผสมน้ำแป้งสักครู่ ทั้งนี้เพื่อลดความคาวและช่วยให้กุ้งเด้งด้วย ล้างกุ้งด้วยน้ำสะอาด จากนั้นลวกกุ้งในน้ำเดือดจนสุก แล้วเทน้ำทิ้งไป
2. นำกุ้งไปตำในครกจนละเอียด ใส่เครื่องแกงลงไปตำด้วย เติมกะปิลงไปนิดหนึ่ง
3. ตั้งน้ำซุปกระดูกหมู หรือซุปไก่จนเดือด จากนั้นก็ตักน้ำซุปเดือด ๆ ส่วนหนึ่งลงมาในครกที่มีพริกแกง ใช้ทัพพียี ๆ ให้พริกแกงไม่จับเป็นก้อน จากนั้นก็ตักพริกแกงใส่ลงไปในน้ำซุป ตั้งน้ำจนเดือด ลดไฟลง แล้วต้มซักพักให้งวดเล็กน้อย
4. ใส่มะละกอฝานลงไป ต้มแค่ 15 นาที มะละกอก็จะนิ่มได้ที่แล้วค่ะ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว ชิมจนได้รสที่ชอบ สุดท้ายใส่ปลาแซลมอนลงไปต้มจนสุก พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ อาหารไทยรสจัดดัดแปลงใหม่
++++++++++++++++++
10. แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ
จำไม่ได้ว่ากินแกงส้มแป๊ะซะล่าสุดตอนไหน เอาล่ะ… มารื้อฟื้นรสชาติแกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะกันเถอะ เริ่มจากเอาปลาช่อนไปทอดจนหนังกรอบเนื้อสุกนุ่มแล้วราดด้วยน้ำแกงส้มใส่ผักกระเฉดและผักอื่น ๆ ตามชอบ
ส่วนผสม ปลาช่อนแป๊ะซะ
• ปลาช่อน 1 ตัว
• น้ำพริกแกงส้ม 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
• กระชาย 2 ชิ้น
• น้ำซุป 4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 1+1/4 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 2+1/2 ช้อนชา
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
• ผักกระเฉด หั่นท่อน หรือผักสดอื่น ๆ ตามชอบ เช่น ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน ดอกแค เป็นต้น
• น้ำมันพืช (สำหรับทอดปลา)
วิธีทำปลาช่อนแป๊ะซะ
1. ทำความสะอาดปลา ขอดเกล็ด และควักไส้ออก ล้างให้สะอาดอีกครั้ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกหรือตำน้ำพริกแกงส้มกับกระชายจนละเอียด พักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ปลาลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน นำปลาทอดวางใส่หม้อไฟแป๊ะซะ พักไว้
4. ตั้งหม้อใส่น้ำซุป ใช้ไฟร้อนปานกลาง พอเดือดตักน้ำซุปขึ้นมาเล็กน้อยนำไปละลายน้ำพริกแกงส้ม แล้วเทส่วนผสมน้ำพริกแกงส้มลงไปในหม้อ ต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
5. พอเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักจนผักสุก ปิดไฟ ตักราดลงบนปลาทอดที่เตรียมไว้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ เมนูปลาเปรี้ยวแซ่บแถมผักแน่น ๆ
++++++++++++++++++
11. น้ำแกงส้มปลาทู
สำหรับคนที่ชอบกินแกงส้มมาก ๆ แล้วอยากได้น้ำซุปข้น ๆ ขอนำเสนอน้ำแกงส้มปลาทู สูตรจาก คุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เจ้าของ เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน ใส่เครื่องแกงส้มโขลกเองกับเนื้อปลาทูนึ่ง แค่นี้ก็เอาไปต้มจนเดือดและใส่เครื่องเคราได้เลยจ้า
ส่วนผสม น้ำแกงส้ม
• พริกแห้ง แกะเมล็ดออกแช่น้ำ
• หอมแดง
• กระเทียม (บางสูตรก็ไม่ใส่)
• กะปิ
• เกลือป่น
• กระชาย เล็กน้อย
• ปลาทูนึ่ง แกะเอาเฉพาะเนื้อ
• น้ำเปล่า
• น้ำมะขามเปียก
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
วิธีทำน้ำแกงส้ม
1. โขลกพริก หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือป่น และกระชายเข้าด้วยกันให้ละเอียด (หรือจะใช้ปั่นก็ได้)
2. จากนั้นใส่ปลาทูลงไปโขลกกับพริกแกง
3. ต้มน้ำจนเดือด ตักเครื่องแกงใส่ลงไป (หรือจะปั่นส่วนผสมทุกอย่างรวมกันแล้วเทลงหม้อก็ได้)
4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมและปรุงรสตามใจชอบ (และสามารถนำผักไปใส่ได้เลย)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 15 เมนูปลาทู เนรมิตเมนูปลาอร่อยแบบไทย ๆ
วันไหนฝนตกออกไปข้างนอกไม่ได้ก็อยู่บ้านทำแกงปลาสักหม้อสิคะ
ไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม แกงเหลือง แกงเขียวหวาน หรือแกงเทโพก็เลือกได้ตามชอบ
เอาล่ะ… ไปโขลกน้ำพริกกันเถอะ