x close

8 เมนูแกงไทยใส่ปลา กลิ่นหอมรสเผ็ดร้อนอร่อยย่อยง่าย ๆ

แกงไทยใส่ปลา

แกงไทยใส่ปลา

     แซ่บพริกยกสวน ! เมนูแกงปลา อาหารไทยรสเผ็ดร้อน ใส่ปลาเพิ่มโปรตีนและย่อยง่าย เติมน้ำพริกแกงหอมหวน อร่อยล้ำหลากสไตล์

     ใครที่กำลังมองหาแกงไทย ย่อยง่าย ๆ ลองมาทำเมนูแกงใส่ปลาสักหม้อกินกับครอบครัวกันเถอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำแกงปลา มีทั้งแกงกะทิกับแกงไม่ใส่กะทิ เช่น แกงส้มปลาช่อน แกงฉู่ฉี่ปลาทู แกงไตปลา และแกงไทยใส่ปลาอีกสารพัด ไปซื้อปลามาเตรียมไว้เลยค่ะ

แกงไทยใส่ปลา

1. แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ

     ใครชอบกินปลาช่อนเป็นทุนเดิม ขอนำเสนอเมนูแกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ สูตรแกงปลานี้ใช้น้ำพริกแกงส้มสำเร็จรูป ก่อนอื่นจับปลาช่อนไปทอดจนกรอบแล้วราดน้ำแกงส้มกับเครื่องเคราลงไป เตรียมข้าวสวยให้พร้อมแล้วลุยกันเลยค่ะ

ส่วนผสม ปลาช่อนแป๊ะซะ

     • ปลาช่อน 1 ตัว
     • น้ำพริกแกงส้ม 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
     • กระชาย 2 ชิ้น
     • น้ำซุป 4 ถ้วย
     • น้ำตาลปี๊บ 1+1/4 ช้อนโต๊ะ
     • เกลือป่น 2+1/2 ช้อนชา
     • น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
     • ผักกระเฉด หั่นท่อน
     • ผักสดอื่น ๆ ตามชอบ เช่น ผักกระเฉด ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน ดอกแค เป็นต้น
     • น้ำมันพืช (สำหรับทอดปลา)

วิธีทำปลาช่อนแป๊ะซะ

     1. ทำความสะอาดปลา ขอดเกล็ด และควักไส้ออก หั่นปลาเป็นท่อน หรือจะต้มทั้งตัวก็ได้ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
     2. โขลกหรือตำน้ำพริกแกงกับกระชายจนละเอียด พักไว้
     3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ปลาลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน นำปลาทอดวางใส่หม้อไฟรูปปลา พักไว้
     4. ตั้งหม้อใส่น้ำซุป ใช้ไฟร้อนปานกลาง พอเดือดตักน้ำซุปขึ้นมาเล็กน้อยพอละลายน้ำพริกแกงส้ม แล้วเทส่วนผสมน้ำพริกแกงส้มลงไปในหม้อ
     5. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก พอเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักจนผักสุก ปิดไฟ ตักราดลงบนปลาทอดที่เตรียมไว้

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 สูตรเมนูปลาช่อน เติมโปรตีนมื้อเย็นอิ่มไม่อ้วนได้สุขภาพ

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

2. แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

     ใครเบื่อปลาทูทอดกับน้ำพริกกะปิก็มาทำเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด สูตรจาก คุณ RinS CookBook สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม จับปลาทูสดต้มกับเครื่องแกง หอมอร่อยยั่วน้ำลาย ยิ่ง

ส่วนผสม แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

     • ปลาทูสด 1+1/2 ปอนด์ (ประมาณ 680 กรัม)
     • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
     • หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
     • ใบมะกรูด 2 ใบ (ฉีกก้านกลางออก)
     • น้ำปลา 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลปี๊บ 2 ออนซ์ (ประมาณ 57 กรัม)
     • หางกะทิ 1 ถ้วย
     • ใบมะกรูดสดซอยฝอย 4 ใบ (โรยหน้า)
     • พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้น ๆ 1 เม็ด (โรยหน้า)
     • หัวกะทิ (โรยหน้า)

วิธีทำฉู่ฉี่ปลาทูสด

     1. ล้างปลาทูสดให้สะอาด ดึงเหงือกและไส้ทิ้ง ล้างให้สะอาดอีก 1 ครั้ง พักทิ้งไว้ให้แห้งแล้วบั้งปลา พักไว้
     2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟกลางอ่อนใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงไปผัดจนกะทิเริ่มจะแตกมันแล้วใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ตามด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ผัดให้เข้ากัน

     หมายเหตุ : ถ้าอยู่ในต่างประเทศหรือหาซื้อน้ำตาลปี๊บไม่ได้ สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้ หรือถ้าไม่มีจริง ๆ สามารถใช้น้ำตาลทรายขาวได้

     3. พอกะทิแตกมันแล้วใส่หัวกะทิที่เหลือ ตามด้วยหางกะทิครึ่งหนึ่ง ผัดให้เข้ากัน เปิดไฟแรงขึ้นรอจนส่วนผสมเดือด
     4. ใส่ปลาทูสดลงไปแล้วลดเป็นไฟกลาง-อ่อน ถ้ากระทะกว้างส่วนผสมน้ำแกงไม่ท่วมตัวปลาให้ใช้ช้อนหรือทัพพีตักน้ำแกงราดบนตัวปลาให้ทั่ว
     5. ใส่หางกะทิที่เหลือลงไปขอบ ๆ กระทะให้ทั่ว (จะช่วยให้น้ำแกงไม่แห้ง) ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที
     6. เปิดฝาแล้วเคี่ยวต่ออีก 3-5 นาที เพื่อให้น้ำแกงงวด จากนั้นตักน้ำแกงราดบนตัวปลาอีกครั้งเพื่อให้น้ำแกงเกาะบนปลาเต็มที่ โรยด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้าแดง ตักฉู่ฉี่ปลาทูใส่จาน ราดด้วยหัวกะทิ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำฉู่ฉี่ปลาทูสด แกงไทยชื่อเก๋ กลิ่นหอมพร้อมเข้าปาก

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

3. แกงกะทิปลาดุกใบยี่หร่า

     ถ้ายังมีปลาดุกเหลือ ๆ จับมาทำเมนูแกงกะทิปลาดุกใบยี่หร่า สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รสชาติเผ็ดร้อน สีสวยชวนหิว ทำหม้อโตกินได้ทั้งวันเลยค่ะ

ส่วนผสม แกงกะทิปลาดุกใบยี่หร่า

     • น้ำพริกแกง (ถ้าชอบเผ็ดใส่เยอะได้)
     • ปลาดุกหั่นชิ้นพอดีคำ 1/2 กิโลกรัม
     • กะทิ หรือหัวกะทิ 500 มิลลิลิตร (1 กล่อง)
     • ใบยี่หร่า 1 ขีด (ล้างแล้วหั่นพอหยาบ)
     • ผงชูรส ตามชอบ
     • น้ำตาลปี๊บ ปลายช้อนแกง
     • น้ำปลา

ส่วนผสม น้ำพริกแกง

     • ข่า 5 แว่น
     • ตะไคร้ 3 ต้น
     • กระเทียม 1-2 หัว
     • พริกขี้หนูสด 1 ขีด     
     • พริกแห้ง 1/2 ขีด
     • กระชาย 5 ราก
     • ขมิ้นหัวเล็ก 4-5 หัว
     • เกลือ 1 ช้อนชา
     • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงกะทิปลาดุกใบยี่หร่า

     1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด เตรียมไว้
     2. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง รอจนเดือด ใส่พริกแกงลงไป รอเดือดอีกครั้ง ชิมรสและปรุงตามชอบ จากนั้นใส่ปลาดุกลงไป (ไม่ต้องคน)
     3. รอให้เดือดอีกครั้ง ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ใบยี่หร่าตามลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงกะทิปลาดุกใบยี่หร่า แกงไทยเผ็ดร้อนพร้อมเสิร์ฟใน 10 นาที

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

4. แกงกะทิปลาช่อน


     แกงส้มปลาช่อนเพิ่งกินไปเมื่อวาน วันนี้ลองเปลี่ยนมาทำเมนูแกงกะทิปลาช่อน สูตรนี้ใส่ใบยี่หร่าเพิ่มกลิ่นและรสเผ็ด รับรองอร่อยจนหยดสุดท้าย

ส่วนผสม แกงกะทิปลาช่อน

     • น้ำพริกแกง
     • ปลาช่อน (หั่นชิ้นพอดีคำ) 500 กรัม
     • กะทิ 500 มิลลิลิตร (หรือกะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง)
     • ใบยี่หร่า 100 กรัม (ล้างแล้วหั่นพอหยาบ)
     • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำปลา

ส่วนผสม น้ำพริกแกง

     • ข่า 5 แว่น
     • ตะไคร้ 3 ต้น
     • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
     • พริกขี้หนูสด 100 กรัม
     • พริกแห้ง 1 กำมือ
     • กระชาย 5 ราก
     • ขมิ้นหัวเล็ก 4 ชิ้น
     • เกลือป่น 1 ช้อนชา
     • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงกะทิปลาช่อน

     1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด เตรียมไว้
     2. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง รอจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงลงไป รอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่ปลาช่อนลงไป (ไม่ต้องคน)
     3. รอให้เดือดอีกครั้ง ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ใบยี่หร่าตามลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 สูตรเมนูปลาช่อน เติมโปรตีนมื้อเย็นอิ่มไม่อ้วนได้สุขภาพ

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

5. แกงเขียวหวานปลาคัง


     จากที่เคยทำเมนูแกงเขียวหวานปลากราย ลองเปลี่ยนมาทำเมนูแกงเขียวหวานปลาคัง สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ปลาคังเนื้อแน่นนุ่มผัดกับน้ำพริกแกงเขียวหวาน ใส่สะตอกรอบอร่อย ไปหุงข้าวรอเลยค่ะ

ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาคัง

     • น้ำพริกแกงเขียวหวาน (ในสูตรใช้น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปจากยะลา)
     • น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
     • หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
     • เนื้อปลาคังสด 500 กรัม (โดยล้างเนื้อปลาคังด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามเปียกจะช่วยลดกลิ่นคาวปลา)
     • หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
     • น้ำปลา 1 ช้อนคาว
     • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนคาว
     • สะตอ 300 กรัม (ถ้าเป็นมะเขือให้ล้างทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้นแล้วล้างผ่านน้ำอีกรอบเพื่อล้างยางออก ทำให้สีไม่หมอง)
     • ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
     • กระชายซอย 100 กรัม (ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย)
     • พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง หั่นเฉียง
     • ใบโหระพา เด็ดเป็นใบ

ส่วนผสม น้ำพริกแกงเขียวหวาน

     • ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
     • ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
     • พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
     • พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
     • เกลือป่น 1 ช้อนชา
     • ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
     • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
     • ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
     • รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
     • กระเทียม 9 กลีบ
     • หอมแดงซอย 3 หัว
     • กะปิ 1 ช้อนชา

     หมายเหตุ : นี่คือสูตรน้ำพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจค่ะ

วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน

     1. โขลกลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทยขาวเม็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
     2. โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และรากผักชี แล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด
     3. ใส่กระเทียมสับ และหอมแดงซอย โขลกรวมกันให้ละเอียด จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกเตรียมไว้ทั้งหมด และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตักใส่ถ้วยพักไว้

วิธีทำแกงเขียวหวานปลาคังสะตอ
 

     1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดจนหอม ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วย ผัดจนหัวกะทิแตกมันเล็กน้อย
     2. ใส่เนื้อปลาคังลงผัดให้สุก แล้วเติมหางกะทิ 1 ถ้วย
     3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น และน้ำตาลปี๊บ ใส่สะตอ กระชายซอย และพริกชี้ฟ้าสามสี จากนั้นผัดต่อสักครู่จนสะตอสุก
     4. แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป (ถ้าใส่ตอนปิดไฟแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย) คนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี แล้วปิดไฟ (ในสูตรแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล้วเทใส่ไปในตอนสุดท้ายก่อนดับไฟ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา)

     หมายเหตุ : น้ำพริกแกงสมัยนี้มักใส่สีผสมอาหาร ใบพริก หรือใบกระท้อนเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้น้ำแกงที่ออกมามีสีสันสวยงาม มีสีเขียวจัด หรือแดงเว่อร์ บางคนก็โขลกก้านพริกขี้หนูใส่เข้าไปด้วยเพื่อให้พริกแกงมีกลิ่นหอม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ หอมแกงไทยเอาใจคนชอบกินปลา

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

6. น้ำแกงส้มเนื้อปลาทู


     อยากกินแกงส้มน้ำข้นก็เติมเนื้อปลาทูลงไปเลยจ้า ขอนำเสนอวิธีทำน้ำแกงส้มเนื้อปลาทู สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน จับเนื้อปลาทูนึ่งโขลกกับน้ำพริกแกง นำไปต้มกับน้ำเปล่าจนเดือด ต่อจากนี้ก็เติมผักที่ชอบได้เลยค่ะ

ส่วนผสม น้ำแกงส้มเนื้อปลาทู

     • พริกแห้ง (แกะเมล็ดออกแช่น้ำ)
     • หอมแดง
     • กระเทียม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
     • กะปิ
     • เกลือป่น
     • กระชาย เล็กน้อย
     • ปลาทูนึ่ง แกะเอาเฉพาะเนื้อ
     • น้ำเปล่า
     • น้ำมะขามเปียก
     • น้ำปลา
     • น้ำตาลปี๊บ

วิธีทำน้ำแกงส้มเนื้อปลาทู

     1. โขลกพริก หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือป่น และกระชายเข้าด้วยกันให้ละเอียด หรือปั่นก็ได้
     2. จากนั้นใส่ปลาทูลงไปโขลกกับพริกแกง
     3. ต้มน้ำจนเดือด ตักเครื่องแกงใส่ลงไป (หรือจะปั่นส่วนผสมทุกอย่างรวมกันแล้วเทลงหม้อก็ได้)
     4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ ใส่ผักได้เลย

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 15 เมนูปลาทู เนรมิตเมนูอร่อยแบบไทย ๆ

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

7. แกงเหลืองปลาแซลมอน

     เติมความแซ่บตอนเย็นกันด้วยเมนูแกงเหลืองปลาแซลมอน สูตรจาก เฟซบุ๊ก Fashion on Food และเว็บไซต์ ChingCanCook ทีเด็ดอยู่ที่น้ำพริกแกงส้มใส่กะปิกับกุ้งลวก รับรองน้ำข้นรสเผ็ดร้อน ไปซื้อปลาแซลมอนรอเลยค่ะ

ส่วนผสม แกงเหลืองปลาแซลมอน

     • แป้งข้าวโพด
     • เกลือ
     • น้ำเปล่า
     • กุ้ง ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก
     • น้ำพริกแกงส้ม
     • กะปิ
     • น้ำซุปกระดูกหมู หรือน้ำซุปไก่
     • มะละกอ
     • น้ำมะขามเปียก
     • น้ำตาลปี๊บ
     • น้ำตาลทราย
     • น้ำปลา
     • น้ำมะนาว
     • ปลาแซลมอน

วิธีทำแกงเหลืองปลาแซลมอน

     1. ผสมแป้งข้าวโพดกับเกลือและน้ำเปล่า
     2. แกะกุ้งผ่าหลังดึงเส้นดำออก แช่ในส่วนผสมน้ำแป้งสักครู่ ทั้งนี้เพื่อลดความคาวและช่วยให้กุ้งเด้งด้วย ล้างกุ้งด้วยน้ำสะอาด แล้วนำไปลวกในน้ำเดือดจนสุก แล้วเทน้ำทิ้งไป
     3. นำกุ้งไปตำในครกจนละเอียด ใส่น้ำพริกแกงส้มกับกะปิลงไปตำด้วย
     4. ตั้งน้ำซุปจนเดือด ตักส่วนหนึ่งลงมาในครกที่มีน้ำพริกแกง ใช้ทัพพียี ๆ ให้น้ำพริกแกงไม่จับเป็นก้อน จากนั้นก็ตักน้ำพริกแกงใส่ลงไปในน้ำซุป ตั้งน้ำจนเดือด ลดไฟลง แล้วต้มสักพักให้งวดเล็กน้อย
     5. ใส่มะละกอฝานลงไป ต้มประมาณ 15 นาที มะละกอก็จะนิ่มได้ที่แล้ว ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว ชิมจนได้รสที่ชอบ
     6. สุดท้ายใส่ปลาแซลมอนลงไปต้มจนสุก พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเหลืองปลาแซลมอนมะละกอ อาหารไทยรสจัดดัดแปลงใหม่

+++++++++++++++++

แกงไทยใส่ปลา

8. แกงไตปลา

     ปิดท้ายกันด้วยเมนูแกงไตปลา อีกหนึ่งเมนูแกงปลารสจัดจ้าน อุดมด้วยสารพัดผัก เติมรสเปรี้ยวตามชอบ จะกินกับข้าวสวยหรือขนมจีนก็แจ่มค่ะ

ส่วนผสม แกงไตปลา

     • ไตปลาอย่างดี 1 ขวด
     • น้ำ 1+1/2 ลิตร
     • น้ำพริกแกงเผ็ด 200 กรัม
     • น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส)
     • น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
     • ปลาโอย่าง 1 ตัว หรือปลาทูนึ่ง 5 ตัว (แกะเอาเฉพาะเนื้อ)
     • ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 10 ใบ
     • ผักสดตามชอบ เช่น หน่อไม้ไร่ ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ อย่างละ 100 กรัม

วิธีทำแกงไตปลา

     1. ต้มไตปลาในหม้อ คนผสมจนละลาย ยกลงจากเตา กรองเอาแต่เฉพาะน้ำไตปลา เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไตปลาลงต้ม คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
     3. ใส่เนื้อปลาที่แกะเตรียมไว้ลงต้มจนเดือด ชิมรส จากนั้นใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ และใบมะกรูดลงต้มจนสุก ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงไตปลา แกงไทยไม่ใส่กะทิอร่อยเด็ด เผ็ดถึงใจ

     ใครชอบเมนูแกงไทยอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่มาทำแกงใส่ปลาสักมื้อสิคะ ทั้งย่อยง่ายได้โปรตีนดีต่อสุขภาพ กินแล้วติดใจแน่นอนค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 เมนูแกงไทยใส่ปลา กลิ่นหอมรสเผ็ดร้อนอร่อยย่อยง่าย ๆ โพสต์เมื่อ 9 มีนาคม 2560 เวลา 11:57:01 37,439 อ่าน
TOP