x close

18 เมนูแกงกะทิ กับข้าวง่าย ๆ หอมอร่อยยกหม้อ

          น้ำลายสอ ! เปิดหม้อความอร่อยกับเมนูแกงกะทิ แกงไทยหอมกรุ่น อีกหนึ่งเมนูกับข้าวแบบไทย ๆ ทำง่ายทันใจ ข้าวสวยจานเดียวคงไม่พอ

แกงกะทิ

          อาหารประเภทแกงกะทิเหมาะสำหรับคออาหารไทยที่ไม่กลัวอ้วนและความเผ็ดร้อน วันหยุดนี้มาทำแกงกะทิกินสักหม้อดีกว่า กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 18 เมนูแกงกะทิ เช่น แกงเนื้อ แกงกะทิปลาดุก แกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงเขียวหวานเนื้อ และเมนูแกงไทยอื่น ๆ อีกเพียบ เตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบให้พร้อม ลุย !

แกงกะทิ

1. แกงเนื้อ

          เอาใจสาวกเนื้อกันด้วยเมนูแกงเนื้อ สูตรนี้จับพริกแกงเผ็ดผัดกับหัวกะทิก่อนเอาไปลงไปในหม้อแกงเนื้อเพื่อสีสันสวยงาม ที่ขาดไม่ได้เลยคือมะเขือเปราะและมะเขือพวง กินกับขนมจีนก็อร่อยนะคะ

ส่วนผสม แกงเนื้อ

          • เนื้อวัวหั่นชิ้น 400 กรัม
          • หางกะทิ 400 มิลลิลิตร
          • น้ำพริกแกง 2 ช้อนโต๊ะ
          • หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
          • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
          • มะเขือเปราะ
          • มะเขือพวง
          • พริกชี้ฟ้าแดง

วิธีทำแกงเนื้อ


          • 1. เทหางกะทิลงไปในหม้อ ใส่เนื้อวัวลงไปคนให้เข้ากัน เคี่ยวจนเริ่มเปื่อย ยกลงจากเตา เตรียมไว้

          • 2. ตั้งกระทะใส่หัวกะทิลงไปผัดจนเดือด ตามด้วยพริกแกง ผัดจนกะทิแตกมัน

          เคล็ดลับ : การแยกผัดหัวกะทิกับพริกแกงจะทำให้สีของแกงเนื้อดูจัดจ้านน่ารับประทาน


          • 3. ใส่ส่วนผสมพริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟต้มและคนให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นเบาไฟลง ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลา

          • 4. หั่นมะเขือเปราะแบบผ่า 4 ส่วนแล้วใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยมะเขือพวงและพริกชี้ฟ้า คนให้เข้ากันรอจนเดือดอีกครั้ง

          • 5. ใส่ใบโหระพาลงไปคนต่อสักครู่ ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเนื้อ แกงไทยรสเผ็ดร้อน เนื้อเปื่อยเหนียวนุ่มเคี้ยวอร่อย

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

2. แกงคั่วเห็ดเผาะ

          เห็ดเผาะซื้อมาเยอะแยะเอาไปต้มกินเพียว ๆ ก็จืดชืด ลองแบ่งมาทำเมนูแกงคั่วเห็ดเผาะดีกว่า สูตรนี้เพิ่มความหอมจากชะอมและใบมะกรูด ยิ่งถ้าได้เหาะเผาะอ่อน ๆ เคี้ยวน้ำเห็ดทะลักฟินสุด ๆ ไปเลยจ้า

ส่วนผสม แกงคั่วเห็ดเผาะ


          • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำพริกแกงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
          • กะทิ 500 กรัม
          • ใบมะกรูดหั่นฝอย
          • เห็ดเผาะ
          • น้ำตาลปี๊บ (ปรุงรส)
          • น้ำปลา (ปรุงรส)
          • เนื้อย่าง (เนื้อหมู หรือเนื้อกุ้ง)
          • ชะอมเด็ด 1 กำ

วิธีทำแกงคั่วเห็ดเผาะ


          • 1. ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันพืชในกระทะจนหอม

          • 2. ใส่กะทิ ใบมะกรูดหั่นฝอย และเห็ดเผาะลงไปผัดให้เข้ากัน

          • 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลา ชิมรสตามชอบใจ

          • 4. ใส่เนื้อย่างลงไป ตามด้วยชะอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเห็ดเผาะใบมะขามอ่อน แกงคั่วเห็ดเผาะ 2 สูตรอาหารเลอค่ารับหน้าฝน

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

3. แกงคั่วสับปะรดหมู

          ใครมีสับปะรดเหลือ ๆ จับมาทำเมนูแกงคั่วสับปะรดหมู สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน เนื้อหมูนุ่มลิ้นเข้ากันดีกับสับปะรด น้ำแกงรสชาติเปรี้ยวหวาน เผ็ดเล็กน้อย กินอร่อยกับคนพิเศษกันเลย

ส่วนผสม แกงคั่วสับปะรดหมู

          • เนื้อสันในหมู (หั่นชิ้น) 250 กรัม
          • สับปะรดศรีราชา (หั่นชิ้น) 300 กรัม
          • หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
          • กะทิ (ความเข้มข้นปานกลาง) 3 ถ้วยตวง
          • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ
          • พริกชี้ฟ้าสีแดง (หั่นเฉียง) 2 เม็ด
          • ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
          • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำพริกแกงคั่ว

ส่วนผสม น้ำพริกแกงคั่ว

          • พริกชี้ฟ้าแห้ง 5 เม็ด (แกะเมล็ดออกแช่น้ำพอนุ่ม)
          • พริกขี้หนูแห้ง (แช่น้ำพอนุ่ม) 5 เม็ด
          • หอมแดง (หั่นหยาบ) 50 กรัม
          • กระเทียมไทย 20 กรัม
          • ข่าซอย 1 ช้อนชา
          • กะปิ 2 ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริกแกงคั่ว


          • โขลกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด

วิธีทำแกงคั่วสับปะรดหมู

          • 1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่น้ำพริกแกงคั่วลงผัดพอหอม ค่อย ๆ เติมหัวกะทิจนหมด ผัดจนกะทิแตกมัน

          • 2. เติมกะทิพอเดือด ใส่เนื้อหมูลงไปผัดรอจนสุก ตามด้วยสับปะรด

          • 3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก คนพอเข้ากันแล้วเคี่ยวต่อสักครู่

          • 4. โรยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้า คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงคั่วสับปะรดหมู แกงไทยดีเด็ดรสกลมกล่อม

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

4. แกงคั่วหอยแมลงภู่

          เอาใจคนชอบกินเมนูหอยกันด้วยเมนูแกงคั่วหอยแมลงภู่ สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้ใส่มะยมแทนสับปะรดที่คุ้นเคย แม้จะดูแปลกตาแต่อร่อยนะจะบอกให้

ส่วนผสม แกงคั่วหอยแมลงภู่


          • มะยมลูกแก่ ๆ 2 ถ้วยตวง
          • หอยแมลงภู่สด (แกะเอาแต่เนื้อ) 500 กรัม
          • หางกะทิ 2 ถ้วยตวง
          • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
          • เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา
          • ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
          • พริกชี้ฟ้าสีแดง (หั่นเฉียง) 1 เม็ด
          • น้ำเปล่า

ส่วนผสม น้ำพริกแกง

          • พริกชี้ฟ้าแห้ง 7 เม็ด (แกะเมล็ดออกแช่น้ำพอนุ่ม)
          • พริกขี้หนูแห้ง 2 เม็ด
          • กระเทียมไทย 5 กลีบ
          • หอมแดง (ปอกเปลือกหั่นหยาบ) 3 ช้อนโต๊ะ
          • กะปิ 2 ช้อนชา

วิธีทำแกงคั่วหอยแมลงภู่

          • 1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงรวมกันให้ละเอียด เตรียมไว้

          • 2. โขลกมะยมกับเกลือป่นพอแตก แล้วนำเมล็ดออก ล้างให้สะอาด บีบให้แห้งเตรียมไว้

          • 3. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่หอยแมลงภู่ลงลวกแค่พอสุก ตักขึ้นใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ

          • 4. ผสมน้ำพริกแกงกับหางกะทิ คนให้ละลายแล้วใส่มะยมลงไป ยกขึ้นตั้งไฟพอเดือด แล้วเคี่ยวต่อสักครู่ให้เนื้อมะยมนิ่ม ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ รอให้เดือดอีกครั้งแล้วค่อยใส่หอยแมลงภู่ลงไป ชิมรสชาติตามชอบ สุดท้ายใส่ใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าลงไป คนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงคั่วหอยแมลงภู่ ใส่มะยม แกงไทยกลิ่นหอมรสอร่อย

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

5. แกงเผ็ดไก่

          แกงเผ็ดไก่ใส่มะเขือเปราะกินบ่อย ๆ ก็เบื่อ ลองมาทำเมนูแกงเผ็ดไก่ สูตรจาก คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม สูตรนี้ใส่หน่อไม้เคี้ยวกรอบเข้ากันดีกับเนื้อไก่นุ่ม ๆ มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงเผ็ด ทำกินมื้อเย็นนี้กันเลย

ส่วนผสม แกงเผ็ดไก่

          • น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
          • กะทิ 1 ถ้วย + 1/4 ถ้วย
          • เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ (หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ตามชอบ) ประมาณ 142 กรัม
          • น้ำซุปหรือน้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
          • ใบมะกรูด 3-4 ใบ
          • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย 3-4 ช้อนชา
          • หน่อไม้ (หั่นเป็นชิ้น) 1/2 ถ้วย
          • ใบโหระพา 1/4 ถ้วย
          • พริกหวานหรือพริกชี้ฟ้าสีแดงและสีเขียว (หั่นเฉียง)1/3 ถ้วย
          • น้ำมันพืชเล็กน้อย สำหรับผัด

ส่วนผสม น้ำพริกแกงเผ็ด


          • พริกแห้ง 3 ชนิด ประมาณ 113 กรัม (พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า และพริกหยวก)
          • ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
          • เม็ดพริกไทยขาว 10 เม็ด
          • รากผักชีหรือก้านผักชีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
          • ตะไคร้ปั่นละเอียด 2 ต้น (เฉพาะโคน)
          • ข่าปั่นละเอียด 2 ช้อนชา
          • ผิวมะกรูดสับละเอียด 2 ช้อนชา
          • หอมแดงสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
          • กระเทียมสับ 1/4 ถ้วย
          • กะปิ 2 ช้อนชา
          • เกลือทะเล 2 ช้อนชา

          เคล็ดลับ : พริกแห้งที่ใช้ถ้าเป็นพริกขี้หนูแห้งจะมีรสเผ็ด ถ้าใช้พริกชี้ฟ้าแห้งจะเผ็ดน้อยลง และพริกหยวกแห้งจะไม่เผ็ดแต่ได้สีที่สวย

วิธีทำน้ำพริกแกงเผ็ด

          • 1. ตัดขั้วพริกแห้งแล้วกรีดฝักเพื่อนำเม็ดออก จากนั้นตัดพริกเป็นชิ้นบาง ๆ เล็ก ๆ แล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนนุ่ม

          • 2. ใส่ลูกผักชีและเม็ดพริกไทยขาวลงไปโขลกในครกให้ละเอียด ตามด้วยรากผักชี ตระไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือทะเล และพริกแห้งที่แช่น้ำไว้ลงไปโขลกให้เข้ากันจนเนียนละเอียด ประมาณ 5 นาที (หรือนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด)

          • 3. เก็บใส่ภาชนะ นำเข้าแช่เย็น เก็บไว้ใช้ได้นานเป็นอาทิตย์

วิธีทำแกงเผ็ดไก่

          • 1. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ตามด้วยกะทิ ผัดให้เข้ากัน

          • 2. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัด เติมน้ำซุปลงไปคนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือดแล้วลดไฟอ่อนลง พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนเครื่องแกงซึมเข้าเนื้อไก่และเปื่อยเล็กน้อย

          • 3. ใส่ใบมะกรูดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย เติมกะทิที่เหลือลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

          • 4. ใส่หน่อไม้ลงไปคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยพริก รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่ใบโหระพาลงไปคนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรแกงเผ็ดไก่ พร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงเผ็ด แกงไทยเด็ด ๆ ที่คุณคู่ควร

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

6. แกงเผ็ดเป็ดย่าง

          เป็ดย่างซื้อมาเมื่อวานกินเหลือไม่อยากทิ้ง เช้านี้จับมาทำเมนูแกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงกะทิสุดอร่อยกันดีกว่า เพิ่มสับปะรดและมะเขือเทศลงไป ดูดีเลอค่าน่าลองมากเลยล่ะ

ส่วนผสม แกงเผ็ดเป็ดย่าง

          • น้ำพริกแกงเผ็ด 1/4 ถ้วย
          • น้ำมันพืชสำหรับผัด
          • หัวกะทิ 1 ถ้วย
          • เป็ดย่างเฉพาะเนื้อ (หั่นเป็นชิ้น) 1/2 ตัว
          • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
          • หางกะทิ 2 ถ้วย
          • สับปะรด (หั่นเป็นชิ้น) 200 กรัม
          • มะเขือเทศราชินี (ผ่าครึ่งลูก) 100 กรัม
          • ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลางออก) 5 ใบ
          • ใบโหระพา 1 ถ้วย
          • พริกชี้ฟ้าแดง (หั่นเฉียง) สำหรับแต่ง
          • ใบโหระพาสำหรับแต่ง

วิธีทำแกงเผ็ดเป็ดย่าง


          • 1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดกับหัวกะทิลงผัดจนแตกมัน จากนั้นใส่เนื้อเป็ดย่างลงผัดให้เข้ากัน

          • 2. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ เตรียมไว้

          • 3. ใส่หางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ส่วนผสมเป็ดผัดพริกแกงลงต้มจนเดือด ใส่สับปะรด มะเขือเทศราชินี และใบมะกรูดลงต้มจนเดือด โรยใบโหระพา ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม แต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพา พร้อมรับประทาน

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเผ็ดเป็ดย่าง หอมกลิ่นเครื่องแกงรสจัดจ้านตำรับอาหารไทย

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

7. แกงพะแนงหมู

          วันนี้เคลียร์ตู้เย็นเจอน้ำพริกแกงพะแนงนิดหน่อย พอจะเอามาทำแกงกะทิกินอร่อย ๆ กับคนพิเศษได้ ถ้าอย่างนั้นจะช้าอยู่ทำไม เข้าครัวไปทำเมนูแกงพะแนงหมูเลยดีกว่า เพิ่มความหอมจากใบโหระพาและใบมะกรูด อูย… แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอ

ส่วนผสม แกงพะแนงหมู

          • น้ำมันพืชสำหรับผัด
          • น้ำพริกแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
          • กะทิ 1 ถ้วย
          • เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบาง 300 กรัม
          • ใบมะกรูดฉีกก้านกลาง 3 ใบ
          • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
          • ใบโหระพา 50 กรัม
          • ใบมะกรูดซอย สำหรับแต่ง
          • พริกชี้ฟ้าแดงซอย สำหรับแต่ง

วิธีทำแกงพะแนงหมู

          • 1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำพริกแกงพะแนงลงผัดจนหอม เติมกะทิลงผัดจนหอมและแตกมัน

          • 2. ใส่เนื้อหมูและใบมะกรูดลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ผัดผสมจนเนื้อหมูสุกและน้ำเริ่มข้น ใส่ใบโหระพาลงผัด ยกลงจากเตา ตักใส่จาน โรยด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมรับประทาน

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พะแนงหมู หอมกลิ่นเครื่องแกงตำรับไทย ๆ

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

8. แกงพะแนงกุ้ง

          แกงพะแนงหมู หรือแกงพะแนงไก่ก็มีขายทั่วไป แต่ถ้าหากเป็นแกงพะแนงกุ้งหากินยาก วันหยุดนี้มาทำกินเองดีกว่า สูตรจาก คุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อกุ้งเด้งดึ๋งกินคู่กับมะเขือพวงเคี้ยวกรุบ ข้าวกล้องพร้อม จัดการกินแกงกะทิให้หมดหม้อเลยค่ะ

ส่วนผสม แกงพะแนงกุ้ง


          • กุ้งสด
          • กะทิ 1 ถ้วย
          • น้ำพริกแกงพะแนง 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำปลา 2-3 ช้อนชา
          • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
          • มะเขือพวง
          • ใบมะกรูดหั่นฝอย
          • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย

          หมายเหตุ : น้ำพริกแกงพะแนงจะใส่ถั่วลิสงคั่วป่นและลูกผักชีคั่วป่นมาก กลิ่นลูกผักชีคั่วจะนำและสีจะคล้ำ น้ำพริกแกงจะข้น ส่วนรสชาติของพะแนงที่ดีจะกลมกล่อม ไม่ควรหวานจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด

วิธีทำแกงพะแนงกุ้ง

          • 1. ล้างกุ้ง แกะเปลือกเด็ดหัวเหลือหาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ใส่จาน เตรียมไว้

          • 2. เคี่ยวกะทิ 1/2 ถ้วยด้วยไฟกลางจนแตกมันเล็กน้อย ใส่น้ำพริกแกงพะแนงลงผัดจนมีกลิ่นหอมและมีมันสีแดงลอยหน้า จึงใส่กะทิที่เหลือผัดให้เข้ากันทั่ว

          • 3. ใส่กุ้งผัดพอสุก ใส่มะเขือพวง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา พอเดือดใส่ใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าแดง

          • 4. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบมะกรูดฝอยอีกสักหน่อย ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พะแนงกุ้ง อาหารไทยรสกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องแกง

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

9. แกงกะทิปลาดุก

          แกงกะทิปลาดุกใบชะพลู หรือแกงกะทิปลาดุกใบยอก็กินจนเอียน ลองมาทำเมนูแกงกะทิปลาดุก สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่ใบยี่หร่ากลิ่นหอมฉุนและรสเผ็ดร้อนกลบกลิ่นคาวปลา หอมฉุยไปถึงปากซอยเลย

ส่วนผสม แกงกะทิปลาดุก

          • เครื่องแกง (ตามชอบ ถ้าชอบเผ็ดใส่เยอะได้)
          • ปลาดุกหั่นชิ้นพอดีคำ 1/2 กิโลกรัม
          • กะทิ หรือหัวกะทิ 500 มิลลิลิตร (1 กล่อง)
          • ใบยี่หร่า 1 ขีด (ล้างแล้วหั่นพอหยาบ)
          • ผงชูรส
          • น้ำตาลปี๊บ ปลายช้อนแกง
          • น้ำปลา

ส่วนผสม เครื่องพริกแกง

          • ข่า 5 แว่น
          • ตะไคร้ 3 ต้น
          • กระเทียม 1-2 หัว
          • พริกขี้หนูสด 1 ขีด     
          • พริกแห้ง 1/2 ขีด
          • กระชาย 5 ราก
          • ขมิ้นหัวเล็ก 4-5 หัว
          • เกลือ 1 ช้อนชา
          • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงกะทิปลาดุก

          • 1. โขลกส่วนผสมเครื่องพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด เตรียมไว้

          • 2. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง รอจนเดือด ใส่พริกแกงลงไป รอเดือดอีกครั้ง ชิมรสและปรุงตามชอบ จากนั้นใส่ปลาดุกลงไป (ไม่ต้องคน)

          • 3. รอให้เดือดอีกครั้ง ประมาณ 5-7 นาที แล้วใส่ใบยี่หร่าตามลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงกะทิปลาดุกใบยี่หร่า แกงไทยเผ็ดร้อนพร้อมเสิร์ฟใน 10 นาที

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

10. แกงปูใบชะพลู

          แกงปูใบชะพลูที่เคยกินเจอแต่วิญญาณปู เพื่อตัดปัญหามาทำกินเองกันดีกว่า สูตรจาก คุณสาวนุ้ย@ภูเก็ต สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับเนื้อปูชิ้นโตใส่ลงไปในแกงกะทิ สุดท้ายใส่ใบชะพลูลงไป กินกับขนมจีนอร่อยเว่อร์

ส่วนผสม แกงปูใบชะพลู

          • น้ำพริกแกง 
          • กะปิ
          • เนื้อปู
          • กะทิ
          • ใบชะพลู
          • น้ำตาลทราย
          • เกลือ

วิธีทำแกงปูใบชะพลู

          • 1. นำหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่หัวกะทิ เครื่องแกง และกะปิลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน รอจนเดือด เริ่มมีกลิ่นหอมของเครื่องแกง เติมหางกะทิ

          • 2. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือ ชิมให้ได้รสที่ต้องการนะคะ แนะนำว่าควรใช้น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลปึกนะ จะทำให้รสชาติน้ำแกงที่กลมกล่อมกว่า แต่ ณ เพลานั้น นุ้ยคว้าอะไรได้ก็จัดเลย

          • 3. หลังจากปรุงรสตามชอบแล้ว นุ้ยเลือกที่จะใส่เนื้อปูก่อนเนื่องจากว่า ที่บ้านมีเด็กน้อยที่ไม่ชอบกลิ่นใบชะพลู จึงไว้ใส่ตอนท้าย

          • 4. หลังจากนั้นใส่ใบชะพลูตามลงไปได้เลยค่ะ คนอีกรอบแบบเบามือหน่อย ระวังเนื้อปูจะเละค่ะ 

          • 5. รอเดือดได้ที่ ตักใส่ภาชนะเสิร์ฟได้เลย

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมจีนแกงปูใบชะพลู กลิ่นหอมชวนหิว

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

11. แกงเขียวหวานเนื้อ


          แกงเขียวหวานเนื้อเจ้าอร่อยแถวบ้านย้ายไปไกล วันนี้นึกอยากกินเลยต้องมาทำเอง ขอแนะนำสูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2228164 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หั่นเนื้อชิ้นหนาตามชอบ นำลงไปเคี่ยวกับน้ำกะทิแกงเขียวหวาน พอเนื้อสุกนุ่มก็ตักราดลงบนขนมจีนเลยจ้า

ส่วนผสม แกงเขียวหวานเนื้อ

          • น้ำพริกแกงเขียวหวาน (ใส่กะปิ)
          • น้ำมันพืช
          • หัวกะทิ
          • เนื้อติดมัน
          • หางกะทิ
          • น้ำตาลปี๊บ
          • เกลือเม็ด
          • มะเขือพวง
          • มะเขือเปราะผ่าสี่ส่วน
          • พริกเหลืองหั่นเป็นเส้น ๆ
          • พริกจินดา
          • ใบโหระพา
          • ปลาเค็ม หรือปลาแดดเดียว

วิธีทำแกงเขียวหวานเนื้อ


          • 1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันให้หอม

          • 2. ค่อย ๆ เติมหัวกะทิใส่ลงไปเล็กน้อย เมื่อกะทิเริ่มแตกมันจึงใส่เนื้อลงไปผัดให้เข้ากัน

          • 3. เติมหางกะทิลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้เนื้อนุ่ม ระหว่างรอเนื้อนุ่มให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือเม็ด

          • 4. เมื่อเนื้อเริ่มนุ่มแล้วให้เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง

          • 5. ใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกเหลือง และพริกจินดาลงไปคนให้เข้ากันประมาณ 1-2 นาที ปิดไฟ ใส่ใบโหระพาลงไป ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมปลาเค็มหรือปลาแดดเดียว

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 7 เมนูอาหารเดือนรอมฎอน ทั้งคาวหวาน เย็นนี้รับอะไรดีคะ

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

12. แกงเขียวหวานหมู

          เย็นนี้จะจัดปาร์ตี้อาหารไทย หนึ่งในนั้นต้องมีแกงกะทิแน่นอน โดยเฉพาะเมนูแกงเขียวหวานหมูทำง่ายกินง่าย ใครสนใจไปหาซื้อน้ำพริกแกงเขียวหวานรอเลยค่ะ รับรองทำหม้อโตขนาดไหนก็เกลี้ยง

ส่วนผสม แกงเขียวหวานหมู

          • น้ำพริกแกงเขียวหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
          • หัวกะทิ 1 ถ้วย
          • เนื้อหมู 300 กรัม
          • หางกะทิ 3 ถ้วย
          • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • เกลือเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
          • มะเขือพวง 100 กรัม
          • มะเขือเปราะ (ผ่าสี่ส่วน) 1 ถ้วย
          • พริกชี้ฟ้าแดง (หั่นเฉียง) 2 เม็ด
          • ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 4 ใบ
          • ใบโหระพา (เด็ดเป็นใบ) 1 ถ้วย
          • น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงเขียวหวานหมู

          • 1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันพืชจนหอม เทหัวกะทิใส่ลงไปเล็กน้อย รอจนกะทิแตกมันจึงใส่เนื้อหมูลงไปผัดพอสุก

          • 2. เติมหางกะทิลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือเม็ด

          • 3. เมื่อเนื้อหมูเริ่มนุ่มแล้วให้เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง

          • 4. ใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกชี้ฟ้า และใบมะกรูดลงไปคนให้เข้ากัน ยกออกจากเตา โรยใบโหระพาลงไป ตักใส่ชาม

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 สูตรแกงเขียวหวาน อาหารไทยทรงเสน่ห์ อร่อยด้วยปลายจวักล้วน ๆ

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

13. แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน

          ใครชอบกินแกงเขียวหวานไก่บ้างคะ ? ลองเปลี่ยนจากใส่มะเขือเปราะกับเลือดมาใส่ยอดมะพร้าวอ่อนสักครั้งดีกว่า ขอแนะนำเมนูแกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน กินกับข้าวสวย หรือขนมจีนก็อร่อย ไม่เชื่อต้องลอง

ส่วนผสม แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน

          • น้ำพริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม
          • กะทิสำเร็จรูป 500 มิลลิลิตร
          • เนื้ออกไก่ (หั่นเป็นชิ้น) 300 กรัม
          • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
          • ยอดมะพร้าว 100 กรัม
          • พริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ
          • ใบมะกรูด 5 ใบ
          • ใบโหระพา 30 กรัม
          • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง (สำหรับตกแต่ง)
          • ใบมะกรูด (สำหรับตกแต่ง)
          • น้ำมันมะกอกสำหรับผัด

วิธีทำแกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน


          • 1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันมะกอกในกระทะจนหอม ค่อย ๆ เติมกะทิ ผัดจนกะทิแตกมัน จากนั้นใส่เนื้อไก่ลงผัดจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บคนผสมจนเดือด

          • 2. ใส่ยอดมะพร้าว พริกขี้หนู ใบมะกรูด และใบโหระพาคนผสมจนเดือด ตักใส่ชาม แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และใบมะกรูด พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 สูตรแกงเขียวหวาน อาหารไทยทรงเสน่ห์ อร่อยด้วยปลายจวักล้วน ๆ

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

14. แกงเขียวหวานปลาคัง


          เมื่อเช้าไปเหมาปลาคังสดมาจากตลาด กะว่าจะเอามาทำเมนูแกงกะทิ นั่นคือแกงเขียวหวานปลาคัง สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้อร่อยสไตล์ปักษ์ใต้ด้วยการใส่สะตอ เผ็ดร้อนแซ่บเว่อร์

ส่วนผสม น้ำพริกแกงเขียวหวาน

          • ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
          • ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
          • พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
          • พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
          • เกลือป่น 1 ช้อนชา
          • ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
          • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
          • ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2  ช้อนชา
          • รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
          • กระเทียมสับ 9 กลีบ
          • หอมแดงซอย 3 หัว
          • กะปิ 1 ช้อนชา

          หมายเหตุ : นี่คือสูตรน้ำพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจค่ะ

ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาคัง

          • น้ำพริกแกงเขียวหวาน
          • น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
          • หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
          • เนื้อปลาคังสด 500 กรัม (โดยล้างเนื้อปลาคังด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามเปียกจะช่วยลดกลิ่นคาวปลา)
          • หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
          • น้ำปลา 1 ช้อนคาว
          • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนคาว
          • สะตอ 300 กรัม
          • ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
          • กระชายซอย 100 กรัม (ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย)
          • พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง (หั่นเฉียง)
          • ใบโหระพา

วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน


          • 1. โขลกลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทยขาวเม็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้

          • 2. โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และรากผักชีแล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด

          • 3. ใส่กระเทียมสับและหอมแดงซอยโขลกรวมกันให้ละเอียด จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ทั้งหมด และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตักใส่ถ้วยพักไว้

          หมายเหตุ : คุณบ่งบ๊งเลือกใช้น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปที่มาวางขายที่ตลาด อตก. เป็นน้ำพริกแกงเขียวหวานจากยะลา เป็นแกงของคนใต้ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่รสชาตินั้นเด็ดขาดมาก

วิธีทำแกงเขียวหวานปลาคัง

          • 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่น้ำพริกพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอม

          • 2. ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วยลงไปผัดจนหัวกะทิแตกมันเล็กน้อย

          • 3. ใส่เนื้อปลาคังลงไปผัดให้สุกแล้วเติมหางกะทิลงไป (ถ้าเนื้อปลาสดเวลาผัดไม่ต้องกลัวว่าเนื้อปลาจะเละ)

          • 4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น และน้ำตาลปี๊บ ใส่สะตอ กระชายซอย และพริกชี้ฟ้าสามสี จากนั้นต้มต่อสักครู่จนสะตอสุก

          • 5. แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป (ถ้าใส่ตอนปิดไฟแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย) คนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี แล้วปิดไฟ (บ่งบ๊งจะแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล้วเทใส่ไปในตอนสุดท้ายก่อนดับไฟ วิธีการแบบนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา)

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 สูตรแกงเขียวหวาน อาหารไทยทรงเสน่ห์ อร่อยด้วยปลายจวักล้วน ๆ

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

15. แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด


          ปลาทูสดหลายเข่งเอาไปทอดหมดคงกินไม่ไหว แบ่งมาทำเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด สูตรจาก RinS CookBook จับปลาทูสดเคี่ยวกับน้ำพริกแกงเผ็ดจนงวด และข้น ก่อนเสิร์ฟราดหัวกะทิให้สวยงาม รับสักกี่ตัวดีคะ ?

ส่วนผสม แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

          • ปลาทูสด 1 ปอนด์ + 1/2 ปอนด์ (ประมาณ 680 กรัม)
          • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
          • หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
          • ใบมะกรูด 2 ใบ (ฉีกก้านกลางออก)
          • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลปี๊บ 2 ออนซ์ (ประมาณ 57 กรัม)
          • หางกะทิ 1 ถ้วย
          • ใบมะกรูดซอย 4 ใบ (โรยหน้า)
          • พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด (โรยหน้า)
          • หัวกะทิ (โรยหน้า)

วิธีทำแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด


          • 1. ล้างปลาทูสดให้สะอาด ดึงเงือกและไส้ทิ้ง ล้างให้สะอาดอีก 1 ครั้ง พักทิ้งไว้ให้แห้งแล้วบั้งปลา พักไว้

          • 2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟกลางอ่อนใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม

          • 3. ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงไปผัดจนกะทิเริ่มจะแตกมันแล้วใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ตามด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ผัดให้เข้ากัน

          หมายเหตุ : ถ้าอยู่ในต่างประเทศหรือหาซื้อน้ำตาลปี๊บไม่ได้ สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้ หรือถ้าไม่มีจริง ๆ สามารถใช้น้ำตาลทรายขาวได้

          • 4. พอกะทิแตกมันแล้วใส่หัวกะทิที่เหลือ ตามด้วยหางกะทิครึ่งหนึ่ง ผัดให้เข้ากัน เปิดไฟแรงขึ้นรอจนส่วนผสมเดือด

          • 5. ใส่ปลาทูสดลงไปแล้วลดเป็นไฟกลาง-อ่อน ถ้ากระทะกว้างส่วนผสมน้ำแกงไม่ท่วมตัวปลาให้ใช้ช้อนหรือทัพพีตักน้ำแกงราดบนตัวปลาให้ทั่ว

          • 6. ใส่หางกะทิที่เหลือลงไปขอบ ๆ กระทะให้ทั่ว (จะช่วยให้น้ำแกงไม่แห้ง) ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที

          • 7. เปิดฝาแล้วเคี่ยวต่ออีก 3-5 นาที เพื่อให้น้ำแกงงวด จากนั้นตักน้ำแกงราดบนตัวปลาอีกครั้งเพื่อให้น้ำแกงเกาะบนปลาเต็มที่

          • 8. โรยด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้าแดง ตักฉู่ฉี่ปลาทูใส่จาน ราดด้วยหัวกะทิ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำฉู่ฉี่ปลาทูสด แกงไทยชื่อเก๋ กลิ่นหอมพร้อมเข้าปาก

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

16. แกงฉู่ฉี่พริกสด

          ลองเปลี่ยนแนวจากเมนูฉู่ฉี่ปลาทูเป็นเมนูแกงฉู่ฉี่พริกสดกันบ้าง สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้ใช้น้ำพริกแทนพริกแกง แม้สีจะดูจืดชืดไปหน่อย แต่ความอร่อยมาเต็มนะคะ

ส่วนผสม แกงฉู่ฉี่พริกสด

          • ปลาทูสด (ควักไส้ออกล้างให้สะอาด) 5 ตัว
          • หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง + 1/2 ถ้วยตวง
          • น้ำปลา 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา
          • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา
          • ใบมะกรูดซอย
          • พริกชี้ฟ้าสีเขียวซอย
          • หัวกะทิผสมแป้งข้าวเจ้าเคี่ยวพอข้นสำหรับราด
          • น้ำพริก
          • น้ำมันพืช

ส่วนผสม น้ำพริก

          • พริกสดสีเขียว 10 เม็ด
          • ข่าซอย 1 ช้อนชา
          • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
          • หอมแดง 3 หัว
          • กระเทียมไทย 10 กลีบ
          • ผิวมะกรูด 1/2 ช้อนชา
          • รากผักชี 1 ช้อนชา
          • เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
          • กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริก

          • โขลกส่วนผสมน้ำพริกให้ละเอียดเตรียมไว้

วิธีทำแกงฉู่ฉี่พริกสด

          • 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชและน้ำพริกที่โขลกไว้ลงผัด ค่อย ๆ ใส่หัวกะทิลงผัดให้น้ำพริกสุกหอม ใส่ปลาทู ปิดฝา

          • 2. พอปลาสุกปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บ ตักใส่จาน ราดหัวกะทิ โรยใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า จัดเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ฉู่ฉี่พริกสด อาหารไทยรสกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องแกง

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

17. แกงขี้เหล็ก


          แกงขี้เหล็กปลาย่าง หรือแกงขี้เหล็กหมูย่างมีขายทั่วไป แต่ถ้าอยากกินเมนูแกงขี้เหล็กสุดแปลก ขอแนะนำสูตรจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแกงขี้เหล็กใส่กากหมู อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนต้องลองค่ะ

ส่วนผสม แกงขี้เหล็ก

          • พริกสด
          • หอมแดง
          • ใบมะกรูดซอย
          • กระเทียม
          • ตะไคร้ซอย
          • เกลือป่น
          • กะทิ
          • ขี้เหล็กต้มสุก
          • กากหมู
          • น้ำปลา
          • น้ำตาลทราย
          • ซีอิ๊วขาว
          • น้ำมันพืช

วิธีทำแกงขี้เหล็ก

          • 1. โขลกพริกสด หอมแดง ใบมะกรูดซอย กระเทียม ตะไคร้ซอย และเกลือป่นเข้าด้วยกันพอหยาบ เตรียมไว้

          • 2. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม จากนั้นใส่เทกะทิลงไป

          • 3. พอกะทิเริ่มเดือด ใส่เนื้อขี้เหล็กลงไป ตามด้วยกากหมู

          • 4. พอกากหมูเริ่มนิ่ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ

          • 5. พอเดือดอีกครั้งปิดไปไฟ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงขี้เหล็ก สูตรใส่กากหมู แกงกะทิโบราณรสอร่อย

++++++++++++++++++++

แกงกะทิ

18. แกงมัสมั่นเนื้อ


          แกงมัสมั่นไก่กินเกือบทุกอาทิตย์จนเริ่มจะขันได้แล้ว แหม… ถ้าเบื่อไก่ก็มากินเนื้อสิคะ ขอแนะนำเมนูแกงมัสมั่นเนื้อ สูตรจาก คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม เนื้อวัวนุ่มละลายในปากเคล้ากลิ่นเครื่องแกงมัสมั่น ถ้าได้ลองต้องติดใจแน่นอน

ส่วนผสม แกงมัสมั่นเนื้อ

          • หัวกะทิ 2 ถ้วย
          • น้ำพริกแกงมัสมั่น
          • เม็ดกระวาน 5 เม็ด
          • หางกะทิ 4 ถ้วย
          • เนื้อวัวหั่นเต๋า 1 ปอนด์ + 1/2 ปอนด์ (สามารถใช้เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะได้)
          • มะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ (จะช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้น)
          • ใบกระวาน 3 - 4 ใบ
          • น้ำปลา 1/2 ถ้วย
          • น้ำตาลปี๊บ 220 กรัม (สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้)
          • มันฝรั่ง 1 หัว น้ำหนักประมาณ 12 ออนซ์ (ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ นำไปแช่น้ำเย็นจัด)
          • หอมใหญ่ 1 หัว (ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่)
          • ถั่วลิสงคั่ว (ใหม่ ๆ) 1 ถ้วย

วิธีทำแกงมัสมั่นเนื้อ

          • 1. ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟกลาง ผัดจนเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นใส่น้ำพริกแกงมัสมั่น และเม็ดกระวานลงไป ผัดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับหัวกะทิ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้

          • 2. ใส่หางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือดเล็กน้อย (ไม่ต้องเดือดพล่าน) ใส่เนื้อสัตว์ ตามด้วยมะขามเปียกลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนจนเดือด ประมาณ 30 นาที (ไม่ต้องคน)

          • 3. ใส่น้ำพริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อ คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน โรยใบกระวานลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 40-45 นาที

          • 4. ใส่มันฝรั่งลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 15 นาที

          • 5. ใส่หอมใหญ่ลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที

          • 6. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที

          • 7. ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป ต้มต่ออีก 10 นาที ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มัสมั่นเนื้อ อาหารไทยในดวงใจ กลิ่นหอมรสอร่อยที่ไม่ควรพลาด

          นึกไม่ถึงว่าจะเลือกทำเมนูแกงไทยยากพอ ๆ กับเลือกคู่เลยนะเนี่ย (ฮา) ตอนแรกกะว่าจะทำสักหม้อกินกับครอบครัววันหยุด แต่พอได้อ่านครบทั้ง 18 เมนูแกงกะทิแล้วเริ่มคิดหนัก เพราะอยากทำกินทั้งหมดเลย แต่คงไม่ไหวเนอะทำทีเดียว ขอไปตัวไปให้คุณแฟนช่วยเลือกก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ  


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
18 เมนูแกงกะทิ กับข้าวง่าย ๆ หอมอร่อยยกหม้อ อัปเดตล่าสุด 16 สิงหาคม 2562 เวลา 12:28:33 584,054 อ่าน
TOP