
มัสมั่นเนื้อ อาหารไทยในดวงใจ กลิ่นหอมรสอร่อยที่ไม่ควรพลาด
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Rin Silpachai, คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ใครชอบกินแกงมัสมั่นแบบแขก ๆ ก็คงจะต้องปลื้มกับมัสมั่นเนื้อถ้วย นี้แน่ ๆ แหม ! ก็กลิ่นเครื่องแกงหอมเกินห้ามใจ แถมยังได้ลิ้มรสเนื้อนุ่ม ๆ รสหวาน-เค็มกลมกล่อม พูดแล้วก็หิว ก็เพราะแบบนี้สินะ แกงมัสมั่นถึงเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก จนฝรั่งมังค่าก็หลงใหลได้ปลื้มไปตาม ๆ กัน
เอาล่ะ พูดมาก็ตั้งเยอะ ลองมาดูวิธีทำมัสมั่นเนื้อกินเองกันซะเลยดีกว่าไหม ถึงจะใช้เวลาเคี่ยวนานร่วม ๆ 2 ชั่วโมง แต่เชื่อเถอะว่า คุ้มเกินคุ้ม ซึ่งสูตรมัสมั่นเนื้อสูตรนี้มาจาก คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม ถ้าพร้อมจะลุยแล้ว ก็ตามมาเลยจ้า
หมายเหตุ : แกงมัสมั่น 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 325 กิโลแคลอรี่
หัวกะทิ 2 ถ้วย
น้ำพริกแกงมัสมั่น
เม็ดกระวาน 5 เม็ด
หางกะทิ 4 ถ้วย
เนื้อวัวหั่นเต๋า 1 1/2 ปอนด์ (สามารถใช้เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะได้)
มะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ (จะช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้น)
ใบกระวาน 3 - 4 ใบ
น้ำปลา 1/2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 220 กรัม (สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้)
มันฝรั่ง 1 หัว น้ำหนักประมาณ 12 ออนซ์ (ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ นำไปแช่น้ำเย็นจัด)
หอมใหญ่ 1 หัว (ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่)
ถั่วลิสงคั่ว (ใหม่ ๆ) 1 ถ้วย
1. ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟกลาง ผัดจนเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นใส่น้ำพริกแกงมัสมั่น และเม็ดกระวานลงไป ผัดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับหัวกะทิ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้
2.ใส่หางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือดเล็กน้อย (ไม่ต้องเดือดพล่าน) ใส่เนื้อสัตว์ ตามด้วยมะขามเปียกลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนจนเดือด ประมาณ 30 นาที (ไม่ต้องคน)
3. ใส่น้ำพริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อ คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน โรยใบกระวานลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 40-45 นาที
4. ใส่มันฝรั่งลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 15 นาที
5. ใส่หอมใหญ่ลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที
6. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที
7. ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป ต้มต่ออีก 10 นาที ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟเห็นแกงมัสมั่นถ้วยนี้แล้ว บอกตรง ๆ ว่า หิวเลยจ้า ขอข้าวสวยด่วน ! ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อย แต่ทำออกมาแล้วก็คุ้มนะเนี่ย ใครสนใจก็ลองทำกันดูนะคะ






