สังขยาใบเตย กะทิกล่อง สีสวยธรรมชาติ เนื้อเนียนรสชาติหวานหอม จิ้มอะไรก็อร่อย ทำเป็นไส้ขนมก็ได้
สังขยาใบเตย สูตรขนมแม้จะมีขายทั่วไปแต่รสชาติอาจไม่อร่อยถูกปาก วันนี้เราขอแนะนำเมนูสังขยาใบเตย สูตรกะทิกล่อง มีความหอมของใบเตยคั้นสด เติมความหวานจากนมข้นหวาน ใส่แป้งข้าวโพดเพิ่มความข้นหนืด
สังขยาใบเตยใส่แป้งอะไร
สังขยาใบเตยบางสูตรอาจไม่ใส่แป้งเลยถ้าต้องการเนื้อสัมผัสที่ไม่เหนียว แต่ถ้าต้องการใส่แป้งเพื่อให้เนื้อมีความเนียนข้น บางสูตรจะใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์กับแป้งข้าวโพด บางสูตรใส่แค่แป้งข้าวโพด หรือแป้งข้าวเจ้า
สังขยากินกับอะไร
สังขยาจิ้มกับขนมปัง ปาท่องโก๋ วาฟเฟิล หรือทำเป็นไส้ซาลาเปา ไส้ขนมปัง หรือไส้ขนมอื่น ๆ ได้ตามชอบ
สูตรสังขยาใบเตย
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
อร่อยแบบตะโกน "สังขยาใบเตย" ตั้งแต่ทำสูตรนี้ไม่อยากกินที่ไหนอีกเลย อร่อยไม่แพ้ร้านดัง
โดย พี่ขวดเข้าครัว
ส่วนผสม สังขยาใบเตย
-
น้ำตาลทราย 100 กรัม
-
ไข่แดง 4 ฟอง
-
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
-
นมข้นหวาน 90 กรัม
-
กะทิกล่อง 280 มิลลิลิตร
-
แป้งข้าวโพด 50 กรัม
-
น้ำใบเตยคั้นสด 10-15 ใบ
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
วิธีทำสังขยาใบเตย
1. นำน้ำตาลทราย ไข่แดง และเกลือป่น ตีผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อครีม
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
2. ใส่นมข้นหวานและกะทิ
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
3. ตีให้เข้ากัน ทยอยใส่แป้งข้าวโพดลงไป
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
4. ใส่น้ำใบเตยคั้นสด
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
5. จากนั้นนำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ครั้งที่ 1
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
6. ช้อนฟองออกให้หมด
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
7. แล้วนำไปกรองครั้งที่ 2 เพื่อให้ได้เนื้อที่เนียนนุ่ม
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
8. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดแล้วปรับเป็นไฟอ่อน
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
9. นำชามผสมวางลงได้เลย
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
10. หมั่นคนเรื่อย ๆ อย่าหยุดประมาณ 20 นาที
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
11. เราจะได้สังขยาเนื้อเนียนนุ่มที่อร่อยสุด ๆ จะกินกับขนมปัง ปาท่องโก๋ หรือทำเป็นไส้ขนมก็ได้ กินไม่หมดเก็บเข้าตู้เย็นได้ 2-3 อาทิตย์
ภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว
ใครอยากทำสังขยาใบเตย สูตรกะทิกล่องลองเลย จะกินกับอะไรก็อร่อย วิธีทำก็ไม่ยาก ปรับลดความหวานได้ตามชอบด้วย
บทความเกี่ยวกับเมนูสังขยาที่น่าสนใจ
► สังขยาใบเตย สูตรหวานน้อย เนื้อเนียนกลิ่นหอมทำขายดี
► ขนมปังสังขยาชาเขียว สูตรทำขายรสเข้มกลิ่นหอมไม่จำเจ
► 6 สูตรขนมไส้สังขยา หลากสูตรความอร่อยไส้แน่นหวานละมุน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : พี่ขวดเข้าครัว และ เพจพี่ขวดเข้าครัว
