15 สูตรทำของหวานหน้าร้อน สูตรขนมสุดแนวจากผลไม้ตามฤดูกาลโดนใจสายหวาน

     มะม่วงเป็นผลไม้ที่พบเห็นในช่วงหน้าร้อน หลายคนจะจับคู่กับข้าวเหนียวมูนกินอร่อย ๆ แบบไม่แคร์แคลอรี แต่ถ้าทำกินเองทั้งทีต้องพิเศษหน่อย พบกับข้าวเหนียวมะม่วงดอกกุหลาบ สูตรจาก คุณ maekwansri สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (#maekwansri) จับมะม่วงทำเป็นรูปดอกกุหลาบแสนสวย โปะบนข้าวเหนียวมูนและโรยถั่วทองคั่ว

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมะม่วงดอกกุหลาบ

      • ข้าวเหนียวเขี้ยวงู (ขัดด้วยสารส้มอย่างเบามือแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปแช่น้ำอย่างน้อย 3 ชม. หรือแช่ทั้งคืน)
      • หัวกะทิ
      • น้ำตาลทราย
      • เกลือนิดหน่อย
      • ใบเตย
      • ถั่วทองคั่ว
      • มะม่วงสุก

ส่วนผสม น้ำกะทิาดข้าวเหนียวมะม่วง

      • หัวกะทิ
      • แป้งข้าวโพด
      • เกลือ

วิธีทำข้าวเหนียวมะม่วง

     1. ทำข้าวเหนียวมูน โดยนำหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือมาขยำด้วยใบเตยให้หอม ชิมรสชาติที่ต้องการ จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้
     2. นึ่งข้าวเหนียวให้สุก เทใส่ลงไปในน้ำกะทิที่เตรียมไว้ทันที คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาให้สนิท ประมาณ 20 นาที เปิดฝาออกแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดฝาอีกครั้ง 10 นาที เมื่อข้าวเหนียวซึมซับน้ำกะทิดีแล้ว ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยถั่วทอง
     3. ทำน้ำกะทิสำหรับราดข้าวเหนียวมะม่วง โดยนำหัวกะทิผสมกับแป้งข้าวโพด เติมเกลือคนให้เข้ากัน ตั้งไฟคนจนกะทิเริ่มจะข้น ปิดไฟ
     4. ทำมะม่วงดอกกุหลาบ โดยปอกเปลือกมะม่วงให้ลึกหน่อย จะได้ไม่ดำคล้ำ ผ่าครึ่ง หั่นตามขวางไม่หนามาก จากนั้นจัดวางชิ้นมะม่วงไล่จากชิ้นเล็กมาจนถึงชิ้นใหญ่ให้เป็นรูปดอกกุหลาบ
     5. จัดจานข้าวเหนียวมูนราดกะทิ พร้อมมะม่วงน้ำดอกไม้หรืออกร่อง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเหนียวมะม่วงดอกกุหลาบ เสกขนมไทยเป็นดอกไม้สวยเก๋

2. โดนัทข้าวเหนียวมะม่วง

     ใครขี้เกียจเรียงมะม่วงเป็นดอกกุหลาบก็มาทำเมนูโดนัทข้าวเหนียวมะม่วง สูตรจาก คุณ Diary Delicious สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้พิมพ์โดนัทใส่ข้าวเหนียวมูนแล้วแกะออกจากพิมพ์เอามาจัดใส่จาน สุดท้ายก็แต่งหน้าด้วยมะม่วงฝานบางและน้ำกะทิ

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมะม่วงโดนัท

      • ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 300 กรัม
      • กะทิ 1+1/2 ถ้วยตวง
      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
      • เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
      • สารส้ม (สำหรับขัดข้าวเหนียว)
      • ใบเตย
      • มะม่วงสุก
      • ถั่วทองทอด (สำหรับโรย)

ส่วนผสม น้ำกะทิราดข้าวเหนียว

      • กะทิ 1 ถ้วย
      • แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนชา
      • เกลือ 3/4 ช้อนชา
      • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำกะทิราดข้าวเหนียว

      • ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ไมโครเวฟ ให้น้ำตาลทรายกับเกลือละลาย และกะทิข้นขึ้น เตรียมไว้

วิธีทำโดนัทข้าวเหนียวมะม่วง

     1. ถ้าเป็นข้าวเหนียวใหม่ให้นำข้าวเหนียวมาล้างให้สะอาดแล้วขัดด้วยสารส้ม เสร็จแล้วล้างอีกครั้งแล้วใส่น้ำแช่ทิ้งไว้อย่างต่ำ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าข้าวเหนียวเก่าให้ทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะข้าวเหนียวเก่าจะแข็งกว่า
     2. หลังจากแช่ข้าวเหนียวครบกำหนดแล้วก็ให้นำข้าวเหนียวไปนึ่ง โดยวางผ้าขาวบางลงไปที่ลังถึงแล้วก็วางใบเตยลงไป ตามด้วยข้าวเหนียวที่เราแช่ไว้ ทำรูไว้ตรงกลางด้วยเพื่อที่จะทำให้ข้าวเหนียวสุกเร็วทั่วถึงกัน นึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 30 นาที ข้าวเหนียวก็จะสุก ก่อนที่ข้าวเหนียวจะสุกประมาณ 10 นาที ให้เริ่มเคี่ยวน้ำกะทิเลย พอข้าวเหนียวสุกกะทิก็จะได้ที่พอดี วิธีการก็แค่นำกะทิ เกลือ และน้ำตาลทรายมาเคี่ยวให้พอเดือดเล็กน้อย คนให้น้ำตาลกับเกลือละลายเข้ากันดี ใส่ข้าวเหนียวนึ่งสุกลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วเปิดมาคนอีกรอบ โดยกลับด้านบนข้าวเหนียวลงล่าง แล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
     3. นำข้าวเหนียวมาใส่พิมพ์ซิลิโคนโดนัท ไม่ต้องอัดแน่นมาก จากนั้นนำมาวางบนจานเสิร์ฟ
     4. ฝานมะม่วงให้เป็นชิ้นบาง ๆ แล้วเอามาวางด้านบนข้าวเหนียว โรยด้วยถั่วทองทอด และราดด้วยน้ำกะทิ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โดนัทข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหน้าร้อนโฉมใหม่ สวยงามน่ากินกว่าเดิม

3. พานาคอตต้ามะม่วง

     ขอบอกว่าไม่เลี่ยนเลยสำหรับพานาคอตต้ามะม่วง โดย ครัวป้ามารายห์ ส่วนผสมมีทั้งชั้นมะม่วงและชั้นครีม เอาไปแช่เย็นกินเพลินแน่นอนค่ะ

ส่วนผสม พานาคอตตาชั้นมะม่วง

      • เจลาตินผงหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
      • น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ก็ได้)
      • เกลือเล็กน้อย
      • มะม่วงปั่น 400 กรัม
      • น้ำ 40 กรัม (ถ้าไม่อยากให้ชั้นมะม่วงข้นมาก สามารถเพิ่มน้ำได้อีก อาจจะเพิ่มเจลาตินลงไปอีกนิดหน่อย รสชาติสามารถเพิ่มหวานได้ตามใจชอบ)

ส่วนผสม พานาคอตตาชั้นครีม

      • เจลาตินหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
      • นมสด 200 กรัม
      • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
      • น้ำตาลทราย 70 กรัม
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง

     1. ทำชั้นมะม่วงโดยผสมเจลาตินกับน้ำพักไว้ 10 นาที นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นเติมน้ำตาลและเกลือป่นลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน ตักเนื้อมะม่วงปั่นบางส่วนใส่ชามเจลาติน คนให้เข้ากันแล้วเทกลับไปในถ้วยมะม่วงปั่น คนให้เข้ากัน
     2. วางแก้วให้เอียง 45 องศา เทมะม่วงลงไปครึ่งแก้ว นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวประมาณ 2-3 ชั่วโมง
     3. พอชั้นมะม่วงเซตตัวแล้ว มาเริ่มทำชั้นครีม เริ่มต้นเทนมใส่หม้อ ผสมเจลาตินลงไป พักไว้ 10 นาที (ยังไม่ต้องต้ม)
     4. ต้มไฟอ่อน ๆ เติมน้ำตาลกับเกลือป่นเล็กน้อย (อย่าให้เดือด) พอทุกอย่างละลายเข้ากันหมดก็ดับเตา เติมวิปปิ้งครีมกับกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน และพักให้เย็นลง
     5. พอมะม่วงเซตตัวก็เทครีมลงไปให้เต็มแก้ว นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวอีก 2-3 ชั่วโมง พอเซตตัวแล้วก่อนเสิร์ฟตกแต่งด้วยมะม่วงให้ดูน่ากินไปอีก

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พานาคอตต้ามะม่วง สูตรขนมสลับสีเปรี้ยวหวานอร่อยเย็นฉ่ำ

4. มูสมะม่วง

     เอาใจคนอยากกินของหวานหน้าร้อนสุดแนวด้วยมูสมะม่วงกล้วยหอม สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 904362 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความฟินอยู่ที่ชั้นมะม่วงผสมกล้วยหอม สลับกับชั้นครีมหอมอร่อย แค่คำแรกก็ฟินแล้ว

ส่วนผสม มูสมะม่วงกล้วยหอม

      • มะม่วงสุก 1 ผล
      • กล้วยหอมสุก 1 ผล
      • วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร (ถ้าใช้แบบผงให้ผสมน้ำอัตราส่วน วิปปิ้งครีมผง 100 กรัม : น้ำเย็นจัด 100 มิลลิลิตร)
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
      • ผงเจลาติน 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแช่ผงเจลาติน)

ส่วนผสม ท็อปปิ้ง

      • มะม่วงหั่นเต๋า
      • มะม่วงบด หรือมะม่วงผสมกล้วยหอมบด

วิธีทำเจลาติน

     1. ผสมน้ำเย็นกับผงเจลาตินให้เข้ากัน
     2. ทิ้งไว้สักครู่จนเจลาตินดูดน้ำจนอืด
     3. นำเข้าไมโครเวฟ 10 วินาที หรือจนเจลาตินละลายเป็นน้ำ

วิธีทำมูสมะม่วงกล้วยหอม

     1. ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอดแข็ง ใส่มะม่วงผสมกล้วยที่บดแล้วลงไป ตีต่อจนเข้ากัน
     2. ใส่เจลาตินที่ละลายเรียบร้อยลงไป ค่อย ๆ ใส่ทีละนิด สลับกับตีส่วนผสม จนเจลาตินหมด
     3. ตักใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็นจนเซตตัว ตกแต่งด้วยท็อปปิ้ง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มูสมะม่วงกล้วยหอม อร่อยตามฤดูกาลรับหน้าร้อนแบบฟิน ๆ

5. ชีสเค้กมะม่วง

     เอาใจคนพิเศษกันด้วยชีสเค้กมะม่วง (Mango Cheesecake) สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ฐานทำจากบิสกิต ส่วนชีสเค้กทำจากมะม่วงสลับชั้นกับหน้ามูสมะม่วง เอาไปแช่เย็นจนเซตตัวก็กินได้แล้วค่ะ

ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก

      • บิสกิต แครกเกอร์ หรือขนมปังกรอบ 180 กรัม
      • เนยจืดละลาย 80 กรัม

ส่วนผสม ชีสเค้กมะม่วง

      • ครีมชีส 250 กรัม หรือ 1 กล่อง
      • เนื้อมะม่วงปั่น 150 กรัม
      • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
      • น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม

ส่วนผสม หน้ามูสมะม่วง

      • เจลาติน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำร้อน (ผสมกับเจลาติน) 2 ช้อนโต๊ะ
      • เนื้อมะม่วงปั่น 200 กรัม
      • น้ำเปล่า 50 กรัม (ผสมตอนต้มเนื้อมะม่วง)
      • น้ำตาลทราย 30 กรัม
      • น้ำเลมอน 1 ช้อนชา

วิธีทำชีสเค้กมะม่วง

     1. ทำฐานเค้ก โดยบดบิสกิตหรือนำไปปั่น เติมเนยละลายลงไป คนให้เข้ากัน นำบิสกิตเทใส่พิมพ์ แล้วปรับให้เรียบเพื่อให้เป็นฐานเค้ก แล้วนำไปแช่เย็นสัก 15 นาทีหรือจนเซตตัว
     2. ทำชีสเค้ก โดยตีครีมชีสที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาลไอซิ่งจนเข้ากัน แต่อย่านานมากเดี๋ยวครีมจะแตกตัว เติมเนื้อมะม่วงปั่นลงไปแล้วคนจนเข้ากันอีกครั้ง
     3. ตีวิปครีมจนตั้งยอด นำมาใส่ครีมชีสแล้วตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่รองฐานด้วยบิสกิต ปรับให้หน้าเรียบ แช่ในตู้เย็นให้ชีสเค้กเซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
     4. ทำหน้ามูสมะม่วง โดยผสมเจลาตินกับน้ำร้อนพักไว้ 10 นาที กวนเนื้อมะม่วงปั่น น้ำเปล่า และน้ำตาลทรายจนเดือด ปิดเตา ใส่เจลาตินที่พักไว้ คนจนเข้ากัน ใส่น้ำเลมอน คนจนเข้ากัน คนให้อุ่นสักหน่อย แล้วเทราดหน้าลงบนชีสเค้ก นำไปแช่ตู้เย็นรอให้หน้าชีสเค้กเซตตัวสัก 1 ชั่วโมง เอาออกมาคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร หน้าเค้กจะได้ไม่แห้ง และเอากลับไปแช่ตู้เย็นพักไว้ 1 คืน
     5. ก่อนนำออกจากพิมพ์ใช้มีดปลายแหลมแซะขอบพิมพ์ก่อน ค่อย ๆ นำเค้กออกมาจัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กมะม่วง หวานอมเปรี้ยวหอมอร่อยไม่ต้องอบ

6. ข้าวเหนียวทุเรียน

     ใครไม่กลัวอ้วนนี่เลยขอนำเสนอข้าวเหนียวทุเรียน มาพร้อมวิธีทำข้าวเหนียวมูนและน้ำกะทิทุเรียน ใครมาขอแบ่งก็ไม่ยอมหรอกนะคะ

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน

      • ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
      • สารส้ม (โขลกละเอียด) 1 ช้อนชา
      • น้ำ (สำหรับแช่ข้าวเหนียว)   
      • กะทิคั้นสด 350 มิลลิลิตร
      • น้ำตาลทราย 200 กรัม
      • เกลือป่น 2 ช้อนชา

ส่วนผสม น้ำกะทิทุเรียน

      • เนื้อทุเรียนสุกฉีก 500 กรัม
      • น้ำกะทิ 2 ถ้วย
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
      • น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม

วิธีทำข้าวเหนียวมูน

     1. ซาวข้าวเหนียวจนสะอาด ใส่สารส้มลงไป เติมน้ำจนท่วม คนผสมจนเข้ากัน แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากนั้นล้างข้าวเหนียวที่แช่ไว้จนสะอาด สะเด็ดน้ำ พักไว้สักครู่ แล้วนำข้าวเหนียวไปนึ่งนานประมาณ 20 นาที จนข้าวเหนียวสุก เตรียมไว้
     2. ผสมกะทิกับน้ำตาลทราย และเกลือป่นในอ่างผสม เทข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วลงไป คนผสมจนเข้ากัน พักทิ้งไว้ 30 นาที จนข้าวเหนียวระอุ เตรียมไว้กินคู่กับน้ำกะทิทุเรียน

วิธีทำข้าวเหนียวทุเรียน

     ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่นลงไป คนผสมจนน้ำตาลปี๊บละลาย พอกะทิเริ่มเดือดใส่เนื้อทุเรียนฉีกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ตักราดลงบนข้าวเหนียวมูน พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 6 เมนูจากทุเรียน อร่อยง่าย ๆ จากราชาผลไม้ไทย

7. มะยงชิดลอยแก้ว

     มะยงชิดสด ๆ กินบ่อยก็เบื่อ ลองจับมาทำของหวานหน้าร้อนดีกว่า พบกับมะยงชิดลอยแก้ว สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน จับมะยงชิดแกะเม็ดออกแล้วใส่น้ำเชื่อม พอแช่จนเย็นก็จัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

ส่วนผสม มะยงชิดลอยแก้ว

      • มะยงชิด
      • น้ำตาลทราย
      • น้ำ
      • ใบเตย

วิธีทำมะยงชิดลอยแก้ว

     1. ทำน้ำเชื่อมโดยเทน้ำใส่หม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย นำขึ้นตั้งไฟ แล้วใส่ใบเตยลงไป เคี่ยวจนเริ่มเหนียวแล้วเอาใบเตยออก ปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็น (น้ำเชื่อมต้องเย็น ไม่อย่างนั้นมะยงชิดจะสุก)
     2. ปอกเปลือกมะยงชิดออกจนหมด แล้วคว้านเอาเม็ดออก หรือจะหั่นเป็นชิ้นก็ตามชอบ
     3. จัดมะยงชิดที่ปอกเปลือกแล้วเรียงภาชนะ เทน้ำเชื่อมที่เย็นแล้วตามลงไป ปิดฝาให้มิดชิด จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นก่อนจัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะยงชิดลอยแก้ว ขนมดับร้อนฉ่ำ ๆ ถ้วยเดียวไม่น่าพอ

8. เงาะลอยแก้ว

     หลังจากทำมะยงชิดลอยแก้วแล้วมาต่อด้วยเงาะลอยแก้วกันเถอะ จับเงาะมาหั่นเอาแต่เนื้อ แล้วเอาไปต้มกับน้ำเชื่อมสักครู่ พอพักจนเย็นก็ตักใส่ถ้วยโปะน้ำแข็ง

ส่วนผสม เงาะลอยแก้ว

      • เนื้อเงาะ (ปอกเปลือกคว้านเม็ดออก)
      • น้ำเปล่า 300 กรัม
      • น้ำตาลทราย 300 กรัม

วิธีทำเงาะลอยแก้ว

     1. นำเงาะมาคว้านเม็ดออก หรือหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ นำไปล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
     2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย
     3. ใส่เนื้อเงาะลงไปรอให้น้ำเชื่อมเดือดอีกครั้ง ปิดไฟแล้วพักไว้จนเย็น ก่อนเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เงาะลอยแก้ว เมนูคลายร้อนเย็นฉ่ำอร่อยฟินกินเพลิน

9. บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้

     ติ่งเกาหลีต้องลองมาทำบิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้ สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3128333 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เกล็ดนมสดเนื้อเนียนนุ่มละลายในปากเข้ากันดีกับมะม่วงสุกหั่น กินกับไอศกรีมและราดนมข้น

ส่วนผสม บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้

      • นมสดจืด 450 มิลลิลิตร (หรือ 1 ขวด)
      • นมข้นหวาน 1/4 ถ้วย
      • มะม่วงน้ำดอกไม้ 1-2 ลูก
      • นมข้นสำหรับราด

วิธีทำบิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้

     1. ผสมนมสดกับนมข้นหวานให้เข้ากัน เทใส่ถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซ 3 ชั่วโมง หรือจนแข็ง พอใกล้ถึงเวลานำส่วนผสมนมออกจากฟรีซแล้วมาหั่นมะม่วงรอ
     2. นำส่วนผสมนมออกจากฟรีซ โดยคนให้กลายเป็นเกล็ด แต่ถ้าแข็งเกินไปก็ใช้ของแข็งทุบ แล้วก็นำมาใส่ลงในถ้วย
     3. ตกแต่งด้วยมะม่วงหั่น โปะด้วยไอศกรีม และราดด้วยนมข้น

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 สูตรขนมจากมะม่วง เมนูสุดอลังจากฝีมือเด็กหอ

10. ฮันนี่โทสต์มะม่วง

     ลองกันยัง ? ชวนทำฮันนี่โทสต์มะม่วง สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3128333 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับขนมปังทาเนยแล้วไปอบจนกรอบนุ่ม แต่งหน้าด้วยมะม่วง น้ำผึ้ง และไอศกรีม

ส่วนผสม ฮันนี่โทสต์มะม่วง

      • ขนมปังกะโหลก
      • เนยสดเค็ม (หรือเนยจืดก็ได้)
      • มะม่วงสุก 1-2 ลูก
      • ไอศกรีมรสที่ชอบ
      • น้ำผึ้ง (สำหรับราดขนมปัง)

วิธีทำฮันนี่โทสต์มะม่วง

     1. ตัดขนมปังกะโหลกเป็นแผ่นหนาตามขนาดที่ต้องการแล้วหั่นเป็นรูปตาราง 9 ช่อง จากนั้นหั่นเนยเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วนำใส่ลงไปในช่องขนมปังให้ครบทุกช่อง
     2. นำขนมปังเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 12-15 นาที ระหว่างรอขนมปังครบเวลาก็มาหั่นมะม่วงรอ เมื่อหั่นมะม่วงเสร็จ ก็พอดีกับอบขนมปังเสร็จ
     3. นำขนมปังมาตกแต่งด้วยมะม่วง ราดด้วยน้ำผึ้ง โปะไอศกรีม หรือวิปปิ้งครีม

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 สูตรขนมจากมะม่วง เมนูสุดอลังจากฝีมือเด็กหอ

11. เครปใบเตยข้าวเหนียวมะม่วง

     ข้าวเหนียวมะม่วงก็อร่อย แต่ถ้าห่อด้วยแป้งเครปคงฟินยิ่งกว่า พบกับเครปใบเตยข้าวเหนียวมะม่วง สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3128333 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงห่อด้วยแป้งเครปใบเตย ลองทำกันเลยดีไหมคะทุกคน

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน

      • ข้าวเหนียว 500 กรัม
      • กะทิ 2 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
      • เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเค็มเพิ่มได้)
      • ใบเตยหอม 7-8 ใบ
      • สารส้ม (สำหรับล้างข้าวเหนียว)

ส่วนผสม เครปใบเตย

      • แป้งเค้ก 120 กรัม
      • กะทิ 50 กรัม
      • ไข่ 3 ฟอง
      • นมสดจืด 260 กรัม
      • ใบเตยหอมสัก 10 ใบ
      • เกลือ 1/2 ช้อนชา
      • น้ำตาลทราย 60 กรัม
      • เนยละลาย 65 กรัม

     หมายเหตุ : นำนมสดกับกะทิไปปั่นพร้อมใบเตยแล้วกรองเอาแต่น้ำ กลิ่นจะหอมมาก แล้วค่อยไปผสมกับแป้ง

วิธีทำเครปใบเตยข้าวเหนียวมะม่วง

     1. นำสารส้มไปขัดข้าวเหนียวดิบเบา ๆ ขัดแบบแห้ง แล้วค่อยต่อด้วยขัดแบบน้ำ ขัดจนยางข้าวออก น้ำจะขุ่น ทิ้งไว้สักครู่แล้วไปซาวน้ำจนใส แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรืข้ามคืน ในสูตรแช่ 1 คืน (สารส้มจะช่วยให้ข้าวเหนียวดิบมีเม็ดขาวใส เวลาเอาไปมูน ข้าวจะใสเรียงตัวสวย)
     2. ทำแป้งเครป เริ่มจากร่อนแป้งเค้ก 1 รอบ ใส่เกลือลงไปแล้วพักไว้
     3. นำนมสดกับกะทิผสมให้เข้ากันแล้วเอาไปปั่นรวมกับใบเตยต่อมาก็กรอง 2 รอบ เพื่อจะได้รสและกลิ่นจากใบเตย และตีไข่กับน้ำตาลทรายให้เข้ากันดีจนน้ำตาลทรายละลาย
     4. เทส่วนผสมกะทิลงไปในส่วนผสมไข่กับน้ำตาลทรายทีละนิด สลับกับเทแป้งเค้กลงไปทีละนิด ผสมให้เข้ากันและแป้งไม่เป็นเม็ด เติมเนยละลาย ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปกรอง 2 รอบ ใส่ภาชนะ คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารแล้วเก็บในตู้เย็น 1 คืน ใครไม่มีเวลาพักอย่างน้อย 30 นาที
     5. นำข้าวเหนียวดิบไปล้างน้ำอีก 1 รอบ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ ระหว่างนั้นก็ตั้งชุดนึ่งไว้รอนึ่งข้าวเหนียว นำข้าวเหนียวไปนึ่งประมาณ 30 นาที เอาพอข้าวเหนียวสุกประมาณ 80-90% พอครบเวลา 15 นาทีต้องกลับข้าวเหนียวดิบจะได้สุกทั่วถึง
     6. ทำน้ำกะทิ โดยผสมกะทิ 2 ถ้วยกับน้ำตาลทราย 1 ถ้วย คนจนน้ำตาลทรายละลาย เอาใบเตยลงไปขยำ กรองด้วยตะแกรง 1 ครั้ง
     7. พอข้าวเหนียวสุกก็เทข้าวเหนียวร้อน ๆ ลงไปมูนในส่วนผสมของกะทิ ใช้ไม้พายกวนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วปิดด้วยผ้าขาวบาง ทำซ้ำ 3-4 รอบ จนข้าวเหนียวดูดเอาน้ำกะทิหมด
     8. ทอดแป้งเครป โดยนำแป้งเครปที่ผสมไว้ออกจากตู้เย็น รอให้แป้งคลายเย็นก่อน แล้วคนผสมให้เข้ากันอีกที ตักแป้งประมาณครั้งละ 1/4 ถ้วย ลงทอดในกระทะใช้ไฟอ่อน โดยกลิ้งแป้งให้เป็นแผ่น ถ้าสุกแล้วเครปจะล่อนออกจากกระทะ
     9. หั่นมะม่วงเป็นแนวยาว เตรียมไว้
     10. ประกอบร่างเครป โดยเอาแป้งเครปวางลงไปบนเสื่อสำหรับทำซูชิ ตามด้วยข้าวเหนียวมูน และมะม่วง ม้วนเป็นโรลให้สวยงาม หรือนำมะม่วงมาวางเรียงตรงกลางแผ่นเครปก่อนแล้วตามด้วยข้าวเหนียวมูน พับแป้งด้านล่างขึ้นไปโดยให้แผ่นแป้งทับไส้ แล้วค่อยพับแป้งด้านซ้ายลงไป ตามด้วยด้านขวา สุดท้ายก็เอาพับด้านบนลงมา แล้วใช้มีดกรีดให้สวยงาม ราดด้วยซอสกะทิ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 สูตรขนมจากมะม่วง เมนูสุดอลังจากฝีมือเด็กหอ

12. ไอศกรีมมะม่วง

     เตรียมเครื่องทำไอศกรีมมารอเลย จะได้เอามาทำไอศกรีมมะม่วง สูตรจาก คุณ Rins CookBook เนื้อไอศกรีมเนียนนุ่มหอมกลิ่นมะม่วง ใส่ท็อปปิ้งตามชอบ

ส่วนผสม ไอศกรีมมะม่วง

      • เนื้อมะม่วงสุก (ปั่นละเอียดจนเป็นเนื้อครีม) 2 ถ้วย (Mango Pulp)
      • นมข้นหวาน 1 ถ้วย
      • เฮฟวี่ครีมแช่เย็นจัด 1 ถ้วย
      • ข้าวเหนียวมูนและเนื้อมะม่วงสุกหั่นเต๋า (สำหรับเสิร์ฟ)
 
     หมายเหตุ : เนื้อมะม่วงสุกปั่นที่ใช้ในสูตรนี้เป็นมะม่วงพันธุ์เกสรของประเทศอินเดีย มีสีออกส้มมากกว่ามะม่วงของไทย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้

วิธีทำไอศกรีมมะม่วง

     1. นำอ่างผสมสเตนเลสพร้อมหัวตีตะกร้อไปแช่ในช่องฟรีซนาน 30 นาที พอครบเวลานำออกจากตู้เย็นแล้วใส่เฮฟวี่ครีมที่แช่เย็นจัดแล้วลงไปตีด้วยความเร็วปานกลางจนตั้งยอดอ่อน ใส่นมข้นหวานลงไป ตีต่อด้วยความเร็วกลาง-สูงจนตั้งยอดเกือบแข็ง ใส่เนื้อมะม่วงสุกปั่นละเอียดลงไปตะล่อมด้วยพายยางให้พอเข้ากัน (ระวังอย่าคนผสมแรงจนเกินไปเพราะจะทำให้อากาศที่อยู่ในครีมยุบตัวลง)
     2. เทส่วนผสมใส่เครื่องทำไอศกรีม (เครื่องทำไอศกรีมแต่ละเครื่องมีวิธีการใช้ไม่เหมือนกัน ควรศึกษาก่อนใช้) ในสูตรนี้ก่อนใช้เครื่องให้นำตัวโถไอศกรีมเข้าไปแช่ในช่องฟรีซประมาณ 24 ชั่วโมง และอุ่นเครื่องทำไอศกรีมก่อนใช้ ประมาณ 30 นาที)

     หมายเหตุ : สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องทำไอศกรีมให้ใส่ส่วนผสมลงในกล่องพลาสติก ปิดฝาแล้วนำไปใส่ช่องแช่แข็ง พอครบ 1 ชั่วโมง ให้นำออกมาตีให้เข้ากัน ทำซ้ำอย่างนี้ประมาณ 5-6 ครั้ง

     3. เปิดเครื่อง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากครบ 30 นาทีแล้วเทส่วนผสมใส่ลงกล่องพลาสติกแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อให้ไอศกรีมเซตตัวก่อนรับประทาน หรือสามารถตักเสิร์ฟได้ทันทีหลังจากปั่นเสร็จ ได้เป็นไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเนื้อเนียน พร้อมกับมะม่วงสุก ข้าวเหนียวมูน วิปครีม หรือโรยถั่วตามชอบ
     4. นำไอศกรีมมะม่วงที่เซตตัวแล้วออกมาตักเป็นก้อนกลม จัดใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมะม่วงและเนื้อมะม่วงสุกหั่นเต๋า

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมมะม่วง หวานเปรี้ยวเย็นฉ่ำ ร้อนไหน ๆ ก็ห้ามพลาด

++++++++++++++++++

     ทุเรียนสุกเหลือ ๆ จะทิ้งก็เสียดาย ลองเปลี่ยนมาทำขนมหวานหน้าร้อนนั่นคือไอศกรีมทุเรียนดีกว่า สูตรนี้ใส่นมสดและวิปครีม เอาส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นจนเนียนละเอียด กินกับท็อปปิ้งตามชอบเลยค่ะ

ส่วนผสม ไอศกรีมทุเรียน

      • เนื้อทุเรียนสุก 1 ถ้วย
      • นมสด 1+1/4 ถ้วย
      • วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
      • สีผสมอาหารเหลืองเล็กน้อย

วิธีทำไอศกรีมทุเรียน

     1. ใส่เนื้อทุเรียน นมสด วิปปิ้งครีม น้ำเชื่อม และสีผสมอาหารสีเหลืองไปปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด
     2. เทใส่พิมพ์น้ำแข็ง หรือพิมพ์สี่เหลี่ยม นำไปแช่ช่องฟรีซจนไอศกรีมแข็ง อย่างน้อย 5 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
     3. พอไอศกรีมแข็งได้ที่แล้วแกะออกจากพิมพ์น้ำแข็ง เสียบด้วยไม้ลูกชิ้น พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมทุเรียน สูตรโบราณสีสวยกลิ่นหอม เย็นฉ่ำไม่ใช้เครื่อง

15. ไอศกรีมกล้วยบวชชี

     กล้วยบวชชีที่คุ้นเคยแปลงร่างเป็นไอศกรีมได้ด้วยนะคะ พบกับไอศกรีมกล้วยบวชชี สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน จับกล้วยบวชชีตักใส่พิมพ์ไอศกรีมแล้วเอาไปแช่เย็นจนแข็ง แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ

ส่วนผสม ไอศกรีมกล้วยบวชชี

      • กะทิเข้มข้นปานกลาง 1 ถ้วย
      • กล้วยน้ำว้าสุกห่าม 100 กรัม (ต้มสุกหั่นเป็นชิ้น)
      • น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
      • เนื้อมะพร้าวเผาหั่นชิ้น 50 กรัม
      • กล้วยน้ำสุกห่ามต้มสุกหั่นแว่น (สำหรับใส่ในพิมพ์)
      • พิมพ์ไอศกรีมตามชอบ
      • ไม้เสียบไอศกรีม

วิธีทำไอศกรีมกล้วยบวชชี

     1. ใส่กะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อน ใส่กล้วยน้ำว้าลงต้ม พอเดือดใส่น้ำตาลปี๊บและเกลือป่น ต้มต่อจนกล้วยน้ำว้านิ่ม ใส่เนื้อมะพร้าวเผา คนผสมพอเข้ากันดี ยกลงจากเตา
     2. ใส่กล้วยน้ำว้าหั่นแว่น ลงในพิมพ์ ตักส่วนผสมกล้วยลงในพิมพ์จนเต็ม จากนั้นเสียบไม้ไอศกรีมลงตรงกลาง นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 1 คืน หรือจนแข็งตัว จัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เก๋ ๆ ไอศกรีมกล้วยบวชชี เปลี่ยนขนมไทยเป็นขนมอินเตอร์ง่าย ๆ

     ขอตัวไปซื้อมะม่วงสุกก่อนนะคะ เพราะอยากลองทำไอศกรีมมะม่วงกับโดนัทข้าวเหนียวมะม่วงกินสักครั้ง แค่คิดก็น้ำลายสอแล้วค่ะ