มะม่วงแปรรูปเป็นอะไรได้บ้าง ? ชวนทำเมนูมะม่วงแปรรูปหลากสไตล์ ทั้งขนมและเครื่องดื่ม นี่แหละที่ใจต้องการ ถ้าให้กินทุกวันก็ไม่มีเบื่อ
จู่ ๆ อยากกินมะม่วงแช่อิ่ม แต่ไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด ถ้าลองทำเองคงดีกว่าแน่นอน พบกับเมนูมะม่วงแช่อิ่ม จับมะม่วงดิบแช่น้ำปูนใสข้ามคืน พอครบเวลาก็เอาไปแช่น้ำเชื่อม และแช่เย็นต่อเพื่อความกรอบอร่อย
ส่วนผสม มะม่วงแช่อิ่ม
• มะม่วงดิบ
• น้ำปูนใส
• เกลือ
• น้ำ
• น้ำตาลทราย
วิธีทำมะม่วงแช่อิ่ม
1. ละลายเกลือกับน้ำปูนใสเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ปอกเปลือกมะม่วงออกจนหมด ล้างให้สะอาดแล้วหั่นมะม่วงเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงแช่ในน้ำปูนใสที่ผสมเกลือไว้ ปิดฝาให้สนิท พักทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำมะม่วงไปล้างให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
3. ใส่น้ำและน้ำตาลทรายลงในหม้อ (อัตราส่วน 1:1) นำขึ้นตั้งไฟ คนผสมจนเดือดและน้ำตาลละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
4. ใส่มะม่วงลงแช่ในน้ำเชื่อม ปิดฝาให้สนิท แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน นำเข้าแช่เย็น พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะม่วงแช่อิ่ม เปรี้ยวอมหวาน กรอบอร่อย
++++++
2. มะม่วงกวน
ครั้นอยากจะกินมะม่วงกวนก็หาซื้อยากเหลือเกิน ลองหาเวลาทำเองกันดีไหม พบกับเมนูมะม่วงกวน สูตรจาก คุณ lindahelen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีส่วนผสมแค่ 2 อย่าง ได้แก่ น้ำตาลและเกลือ พอเอาไปกวนจนเดือดก็เอาไปตากจนแห้ง
ส่วนผสม มะม่วงกวน
• มะม่วง
• เกลือ 1 ช้อนกาแฟ
• น้ำตาลทราย (ใส่ หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำมะม่วงกวน
1. ล้างทำความสะอาดมะม่วงให้เรียบร้อย ปอกเปลือกหั่นเนื้อนำใส่เครื่องปั่น ปิดฝา ปั่นจนละเอียด
2. เทใส่หม้อตั้งไฟ เติมเกลือลงไปกวนไปเรื่อย ๆ จนเดือดแล้วปิดเตา
3. เตรียมภาชนะที่จะบรรจุมะม่วงกวนเพื่อตากแห้ง ใช้ถาดสีดำที่มากับเตาอบแล้วรองพื้นด้วยฟอยล์ เทใส่ถาดแล้ววางทิ้งไว้ในครัว ใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะแห้งโดยอัตโนมัติ
4. พอเริ่มแห้งก็แค่ดึงออกมาจากฟอยล์ ตัดแต่งม้วนเป็นแผ่น ๆ แค่นี้ก็ได้กินแล้ว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำมะม่วงกวน ไม่ต้องตากแดดก็อร่อยได้รสธรรมชาติ สูตรเด็ดจากต่างแดน
++++++
3. มะม่วงเบาแช่อิ่ม
หลังจากทำมะม่วงแช่อิ่มไปหลายรอบ คราวนี้ลองมาทำมะม่วงเบาแช่อิ่มบ้างดีกว่า จับมะม่วงเบาแช่น้ำปูนใสข้ามคืนแล้วค่อยเอามาแช่น้ำเชื่อมทิ้งไว้ 2 คืน แค่นี้ก็เรียบร้อย
ส่วนผสม มะม่วงเบาแช่อิ่ม
• มะม่วงเบาดิบ
• น้ำปูนใส (สำหรับแช่มะม่วง)
• เกลือเม็ด
• น้ำตาลทรายแดง 500 กรัม
• น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
วิธีทำมะม่วงเบาแช่อิ่ม
1. ปอกเปลือกมะม่วงเบา ผ่าครึ่งแล้วเอาเม็ดออก (หรือผ่าซีก) นำไปล้างให้สะอาด ใส่อ่างผสมเตรียมไว้
2. นำมะม่วงไปแช่ลงในน้ำปูนใส 1 คืน เพื่อให้มะม่วงกรอบ จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด
3. นำมะม่วงที่แช่น้ำปูนใสแล้วไปดองในน้ำเกลือ (นำถุงใส่น้ำวางทับลงไปด้านบนด้วยเพื่อให้มะม่วงไม่ลอยขึ้นมาและโดนน้ำเกลือทั่วทุกชิ้น) แช่ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปล้างน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
4. ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายและเหนียวข้นเป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็น
5. นำมะม่วงเบาลงไปแช่ในน้ำเชื่อม ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด ทิ้งไว้ 2 คืน จากนั้นนำไปแช่เย็น พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะม่วงเบาแช่อิ่ม ของดีโอทอปกรอบอร่อยลองทำเอง
++++++
4. พานาคอตต้ามะม่วง
ถ้ามะม่วงสุกเหลือเยอะแยะก็จับมาทำเมนูพานาคอตต้ามะม่วง ขนมแบบฝรั่งกินกันดีกว่า สูตรจาก คุณ tukata001 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรขนมสลับสีมีทั้งซอสมะม่วงกับครีมนม เนื้อนุ่มเด้งรสเปรี้ยวหวาน กินเป็นขนมหวานตบท้ายอาหารคาวฟินระเบิด
ส่วนผสม พานาคอตต้ามะม่วง
• มะม่วงสุก 2 ถ้วย
• ผงเจลาติน 2 ซอง (1 ซอง = 1 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำมะม่วง หรือน้ำเปล่า 1 ถ้วย
• นมสด 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• ครีม หรือวิปปิ้งครีมเข้มข้น 2 ถ้วย
วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง
1. นำมะม่วงสุกมาปั่น หากใครคิดว่ามะม่วงสุกมีรสหวานน้อยไป เติมน้ำตาลทรายในส่วนขั้นตอนที่จะผสมก่อนไปแช่ตู้เย็น เทมะม่วงที่ปั่นไว้ลงในอ่างผสมรอไว้ก่อน
2. ผสมเจลาติน โดยใส่น้ำมะม่วง แต่ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำเปล่า (แต่รสชาติของมะม่วงจะเจือจางลงเล็กน้อย อาจจะต้องใส่น้ำตาลทรายเพิ่ม) ใส่ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ (1 ซอง) ลงในน้ำมะม่วงแล้วคนผสมให้เข้ากัน นำไปใส่ในไมโครเวฟ 1 นาที เอาออกมาเทลงในมะม่วงปั่นที่พักไว้ในอ่างผสม คนให้เข้ากันดี
3. นำแก้วที่เราต้องการจะใส่ขนมมาเตรียมไว้ หากต้องการทำขนมที่มีลักษณะเฉียงก็ให้หาถาดที่มีหลุม จัดแก้วให้เอียง 45 องศา และหาผ้ามารองก้นแก้วจะได้ไม่เลื่อน จัดการเทส่วนผสมซอสมะม่วงลงในแก้วให้ถึงขอบหรือจะหาแก้วสวย ๆ มาแล้วเทส่วนผสมซอสมะม่วงในลักษณะครึ่งแก้วก็ได้ นำเข้าตู้เย็น แช่ไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง จนกว่าจะเซตตัว แล้วค่อยมาทำในส่วนที่เป็นครีมนมด้านบน
4. ทำครีมนมด้านบน โดยการนำนมสดใส่ในหม้อเล็ก เทผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ (1 ซอง) ลงในนม แล้วคนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ใส่น้ำตาลทราย เปิดเตาไฟอ่อน ๆ คนให้น้ำตาลละลายดี ไม่ต้องให้เดือด เติมกลิ่นวานิลลาและเกลือลงไป คนให้เข้ากันดี ปิดเตา ยกลง
5. นำครีมหรือวิปปิ้งครีม ที่อเมริกาเรียกว่า Heavy Whipping Cream เทลงในอ่างผสม ใส่ครีมนมที่เพิ่งยกลงมาจากเตา เทลงไป คนให้เข้ากัน
6. จากนั้นนำแก้วหรือภาชนะที่ใส่ส่วนผสมแรกที่เป็นมะม่วงออกจากตู้เย็น เทส่วนผสมที่สองที่เป็นครีมลงในถ้วยให้เต็ม นำเข้าตู้เย็น อย่างน้อยอีก 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะเซตตัว นำออกมาตกแต่งด้านบนด้วยมะม่วง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พานาคอตต้ามะม่วง เนื้อเนียนหอมละมุนน่าลองทำ
++++++
5. ชีสพายมะม่วง
ใครไม่มีเตาอบคงยิ้มกริ่มเพราะขนมเมนูมะม่วงแปรรูปสูตรนี้ไม่ต้องใช้เตาอบจ้า พบกับเมนูชีสพายมะม่วง สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ฐานพายกรุบกรอบราดครีมชีสมะม่วง แต่งด้วยมะม่วงหน่อยอร่อยเลย
ส่วนผสม ฐานพาย
• ขนมปังกรอบ หรือคุกกี้เนยบดละเอียด 200 กรัม
• เนยสดชนิดเค็ม 100 กรัม
• น้ำตาลทรายป่น 30 กรัม
• พิมพ์ถอดข้าง หรือพิมพ์ฟอยด์ หรือพิมพ์กระดาบจีบ
ส่วนผสม ครีมชีส
• ครีมชีส 250 กรัม
• น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 120 กรัม (สูตรนี้มะม่วงหวานมากจึงลดน้ำตาลเหลือ 100 กรัม)
• ครีมข้น หรือวิปปิ้งครีม 120 กรัม
• น้ำมะนาว หรือน้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ (แนะนำให้ใช้มะนาวเหลือง)
• มะม่วงสุกหั่นชิ้นเล็ก ส่วนที่ 1 200 กรัม
• เจลาตินชนิดแผ่นเล็ก 5 แผ่น (หรือเจลาตินชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ)
• มะม่วงสุกหั่นชิ้นเต๋าเล็ก ๆ ส่วนที่ 2 100 กรัม
วิธีทำชีสพายมะม่วง
1. ทำฐานพาย โดยผสมคุกกี้บดกับเนยสด และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นกรุลงในพิมพ์ เตรียมไว้
2. ทำครีมชีส โดยแช่เจลาตินแผ่นในน้ำเย็น นานประมาณ 10 นาที (เพื่อให้เจลาตินอุ้มน้ำ) ก่อนนำไปใส่ในครีมชีส ให้นำไปละลายในไมโครเวฟ 10 วินาที
3. ตีผสมครีมชีสกับน้ำตาลทรายในโถผสมให้เนียนเข้ากันดี แล้วใส่ครีมข้น บีบน้ำมะนาวเหลืองลงไป
4. เนื้อมะม่วง (1) ตีผสมให้เนื้อเนียนเข้ากัน ใส่เจลาตินละลาย คนผสมให้เข้ากัน
5. ใส่เนื้อมะม่วง (2) ลงไป ใช้พายยางคนผสมเนื้อมะม่วงกับครีมชีสให้เข้ากันดี
6. นำฐานขนมปังบดที่เซตตัวแล้วออกจากตู้เย็น ตักครีมชีสมะม่วงใส่ลงไป ตกแต่งส่วนหน้าชีสมะม่วงด้วยเนื้อมะม่วง ซอสมะม่วง วิปปิ้งครีม หรือกะทิข้น ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Mango Cheese Pie พายมะม่วงสุดอร่อย ไม่ใช้เตาอบ
++++++
6. ชีสเค้กมะม่วง
มาต่อกันที่เมนูชีสเค้กมะม่วง สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ มาพร้อมกับฐานบิสกิตและครีมชีส เติมความอร่อยด้วยมูสมะม่วง พอแช่เย็นจนเซตตัวก็จัดเสิร์ฟเลยค่ะ
ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก
• บิสกิต แครกเกอร์ หรือขนมปังกรอบ 180 กรัม
• เนยจืดละลาย 80 กรัม
ส่วนผสม ชีสเค้กมะม่วง
• ครีมชีส 250 กรัม หรือ 1 กล่อง
• เนื้อมะม่วงปั่น 150 กรัม
• วิปปิ้งครีม 250 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม
ส่วนผสม หน้ามูสมะม่วง
• เจลาติน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำร้อน (ผสมกับเจลาติน) 2 ช้อนโต๊ะ
• เนื้อมะม่วงปั่น 200 กรัม
• น้ำเปล่า 50 กรัม (ผสมตอนต้มเนื้อมะม่วง)
• น้ำตาลทราย 30 กรัม
• น้ำเลมอน 1 ช้อนชา
วิธีทำชีสเค้กมะม่วง
1. ทำฐานเค้ก โดยบดบิสกิตหรือนำไปปั่น เติมเนยละลายลงไป คนให้เข้ากัน
2. นำบิสกิตเทใส่พิมพ์ แล้วปรับให้เรียบเพื่อให้เป็นฐานเค้ก แล้วนำไปแช่เย็นสัก 15 นาทีหรือจนเซตตัว
3. ทำชีสเค้ก โดยตีครีมชีสที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาลไอซิ่งจนเข้ากัน แต่อย่านานมากเดี๋ยวครีมจะแตกตัว เติมเนื้อมะม่วงปั่นลงไป คนจนเข้ากันอีกครั้ง
4. ตีวิปครีมจนตั้งยอด ใส่ลงในครีมชีสแล้วตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่รองฐานด้วยบิสกิต ปรับให้หน้าเรียบ แช่ในตู้เย็นให้ชีสเค้กเซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
5. ทำหน้ามูสมะม่วง โดยผสมเจลาตินกับน้ำร้อนพักไว้ 10 นาที
6. กวนเนื้อมะม่วงปั่น น้ำเปล่า และน้ำตาลทรายจนเดือด ปิดเตา ใส่เจลาตินที่พักไว้ คนจนเข้ากัน ใส่น้ำเลมอน คนจนเข้ากัน คนให้อุ่นสักหน่อย แล้วเทราดหน้าลงบนชีสเค้ก นำไปแช่ตู้เย็นรอให้หน้าชีสเค้กเซตตัวสัก 1 ชั่วโมง เอาออกมาคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร หน้าเค้กจะได้ไม่แห้ง และเอากลับไปแช่ตู้เย็นพักไว้ 1 คืน
7. ก่อนนำออกจากพิมพ์ใช้มีดปลายแหลมแซะขอบพิมพ์ก่อน ค่อย ๆ นำเค้กออกมา จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กมะม่วง หวานอมเปรี้ยวหอมอร่อยไม่ต้องอบ
++++++
7. มูสมะม่วงกล้วยหอม
เพิ่มความอร่อยให้กับมูสมะม่วงด้วยกล้วยหอมกันเถอะ พบกับเมนูมูสมะม่วงกล้วยหอม สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 904362 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษอยู่ที่เนื้อมูสหอมละมุนรสเปรี้ยวหวาน แต่งหน้าด้วยมะม่วงสุก
ส่วนผสม มูสมะม่วงกล้วยหอม
• มะม่วงสุก 1 ผล
• กล้วยหอมสุก 1 ผล
• วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร (ถ้าใช้แบบผงให้ผสมน้ำอัตราส่วน วิปปิ้งครีมผง 100 กรัม : น้ำเย็นจัด 100 มิลลิลิตร)
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงเจลาติน 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแช่ผงเจลาติน)
• มะม่วงหั่นเต๋า (ท็อปปิ้ง)
• มะม่วงบด หรือ มะม่วงผสมกล้วยหอมบด (ท็อปปิ้ง)
วิธีทำมูสมะม่วงกล้วยหอม
1. ทำเจลาติน โดยผสมน้ำเย็นกับผงเจลาตินให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนเจลาตินดูดน้ำจนอืด นำเข้าไมโครเวฟ 10 วินาที หรือจนเจลาตินละลายเป็นน้ำ
2. ทำมูสมะม่วงกล้วยหอม โดยตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอดแข็ง ใส่มะม่วงผสมกล้วยที่บดแล้วลงไป ตีต่อจนเข้ากัน
3. ใส่เจลาตินที่ละลายลงไป ค่อย ๆ ใส่ทีละนิด สลับกับตีส่วนผสมจนเจลาตินหมด ตักใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็นจนเซตตัว ตกแต่งด้วยท็อปปิ้ง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มูสมะม่วงกล้วยหอม อร่อยตามฤดูกาลรับหน้าร้อนแบบฟิน ๆ
++++++
ใครมีเครื่องทำไอศกรีมสมควรจัดอย่างแรงกับเมนูไอศกรีมมะม่วง สูตรจาก คุณ Rins CookBook เนื้อไอศกรีมเนียนละมุนกินกับข้าวเหนียวมะม่วงและเนื้อมะม่วงสุก
ส่วนผสม ไอศกรีมมะม่วง
• เนื้อมะม่วงสุก (ปั่นละเอียดจนเป็นเนื้อครีม) 2 ถ้วย (Mango Pulp)
• นมข้นหวาน 1 ถ้วย
• เฮฟวีครีมแช่เย็นจัด 1 ถ้วย
• ข้าวเหนียวมูนและเนื้อมะม่วงสุกหั่นเต๋า (สำหรับเสิร์ฟ)
หมายเหตุ : เนื้อมะม่วงสุกปั่นที่ใช้ในสูตรนี้เป็นมะม่วงพันธุ์เกสรของประเทศอินเดีย มีสีออกส้มมากกว่ามะม่วงของไทย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้
วิธีทำไอศกรีมมะม่วง
1. นำอ่างผสมสแตนเลสพร้อมหัวตีตะกร้อไปแช่ในช่องฟรีซนาน 30 นาที
2. นำอ่างผสมออกจากตู้เย็นแล้วใส่เฮฟวีครีมที่แช่เย็นจัดแล้วลงไปตีด้วยความเร็วปานกลางจนตั้งยอดอ่อน ใส่นมข้นหวานลงไป ตีต่อด้วยความเร็วกลาง-สูงจนตั้งยอดเกือบแข็ง
3. ใส่เนื้อมะม่วงสุกปั่นละเอียดลงไปตะล่อมด้วยพายยางให้พอเข้ากัน (ระวังอย่าคนผสมแรงจนเกินไปเพราะจะทำให้อากาศที่อยู่ในครีมยุบตัวลง) เทส่วนผสมใส่เครื่องทำไอศกรีม (เครื่องทำไอศกรีมแต่ละเครื่องมีวิธีการใช้ไม่เหมือนกัน ควรศึกษาก่อนใช้) ในสูตรนี้ก่อนใช้เครื่องให้นำตัวโถไอศกรีมเข้าไปแช่ในช่องฟรีซประมาณ 24 ชั่วโมง และอุ่นเครื่องทำไอศกรีมก่อนใช้ ประมาณ 30 นาที)
หมายเหตุ : สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องทำไอศกรีมให้ใส่ส่วนผสมลงในกล่องพลาสติก ปิดฝาแล้วนำไปใส่ช่องแช่แข็ง พอครบ 1 ชั่วโมง ให้นำออกมาตีให้เข้ากัน ทำซ้ำอย่างนี้ประมาณ 5-6 ครั้ง
4. เปิดเครื่อง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากครบ 30 นาทีแล้วเทส่วนผสมใส่ลงกล่องพลาสติกแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อให้ไอศกรีมเซตตัวก่อนรับประทาน นำไอศกรีมมะม่วงที่เซตตัวแล้วออกมาตักเป็นก้อนกลม จัดใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมะม่วงและเนื้อมะม่วงสุกหั่นเต๋า หรือสามารถตักเสิร์ฟได้ทันทีหลังจากปั่นเสร็จ เสิร์ฟพร้อมกับมะม่วงสุก ข้าวเหนียวมูน วิปครีม หรือโรยถั่วตามชอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมมะม่วง หวานเปรี้ยวเย็นฉ่ำ ร้อนไหน ๆ ก็ห้ามพลาด
++++++
9. ลาสซี่มะม่วง
ขอบายขนมเมนูมะม่วงแปรรูปชั่วคราว เพราะเริ่มคอแห้งอยากกินเครื่องดื่มขึ้นมาแล้วสิ ขอนำเสนอเมนูลาสซี่มะม่วง สูตรจาก คุณ RinS CookBook จับโยเกิร์ตกับมะม่วงสุกปั่นพร้อมกับนมสดและน้ำแข็ง รสชาติดีอย่าบอกใครเชียว
ส่วนผสม ลาสซี่มะม่วง
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ออนซ์
• เนื้อมะม่วงสุก 4 ออนซ์
• ซอสมะม่วงเข้มข้น (ในสูตรนี้ใช้ Kesar Mango Pulp แบบกระป๋องจากประเทศอินเดีย)
• นมสด 1/4 ถ้วย (หรือฮาฟแอนด์ฮาฟครีม)
• น้ำแข็ง 1 ถ้วย
• น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ (หรือน้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ)
หมายเหตุ : ซอสมะม่วงเข้มข้นชนิดกระป๋อง หรือ Kesar Mango Pulp สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้
วิธีทำลาสซี่มะม่วง
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (เวลาในการปั่นขึ้นอยู่กับเครื่องปั่นแต่ละเครื่อง)
2. ตกแต่งแก้ว โดยเทซอสมะม่วงลงในไปในแก้วก่อนแล้วเอียงแก้วไปมาให้สวยงามตามชอบ จากนั้นเทลาสซี่ที่ปั่นไว้ลงไป ราดทับด้วยซอสมะม่วงอีกครั้ง แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ (หรือจะโรยถั่วพิสตาชิโอลงไปก็ได้ตามชอบ)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาสซี่มะม่วง เครื่องดื่มโยเกิร์ตปั่นสไตล์อินเดีย ร้อนนี้ต้องลอง
++++++
10. น้ำหมักผลไม้ใส่มะม่วงสุก
เอาใจคนรักสุขภาพด้วยเมนูน้ำหมักผลไม้ใส่มะม่วงสุก สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้ใส่น้ำแร่หมักกับมะม่วงข้ามคืน เติมเบอร์รีรวมและเลมอนไปสักหน่อย
ส่วนผสม น้ำหมักผลไม้ใส่มะม่วงสุก
• มะม่วงสุก หั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ แช่แข็ง 1 ถ้วยตวง
• มิกซ์เบอร์รีแช่แข็ง 1/2 ถ้วยตวง
• เลมอนสไลซ์ 1 ผล
• น้ำแร่ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำน้ำหมักผลไม้ใส่มะม่วงสุก
1. นำมะม่วงสุก มิกซ์เบอร์รี และเลมอนใส่ในกระบอกแก้วหรือขวดโหล ใช้ช้อนกดผลไม้ให้พอมี น้ำซึมออกมา ใส่น้ำแร่ลงไปจนเต็มปิดฝาให้แน่น
2. นำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน ใช้ดื่มในช่วงเช้าหรือระหว่างวัน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำหมักผลไม้ สูตรใส่มะม่วงสุก เครื่องดื่มแก้วใหม่รสชาติแนว ๆ
++++++
11. ไอศกรีมมูสมะม่วง
ใครไม่มีเครื่องทำไอศกรีมก็ไม่มีปัญหาเพราะไอศกรีมสูตรนี้ไม่ต้องใช้เครื่อง พบกับเมนูไอศกรีมมูสมะม่วง สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine จับทุกอย่างไปปั่นจนเนียนแล้วเอาไปแช่ช่องแข็งจนเซตตัว
ส่วนผสม ไอศกรีมมูสมะม่วง
• เนื้อมะม่วงสุก 335 กรัม (เลือกพันธุ์ได้ตามชอบ)
• น้ำตาลทราย 60 กรัม
• เนยจืด 100 กรัม
• ไข่แดง 80 กรัม
• ครีมสด 200 กรัม
วิธีทำไอศกรีมมูสมะม่วง
1. หั่นเนื้อมะม่วงสุกเป็นชิ้นเล็ก นำไปปั่นให้ละเอียด (ไม่ต้องกรองเนื้อออก)
2. ใส่มะม่วงปั่น น้ำตาลทราย เนย และไข่แดงลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนจนข้นเป็นคัสตาร์ด พักไว้ 2 ชั่วโมง
3. ตีครีมสดให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือ
4. ผสมครีมและคัสตาร์ด คนให้เข้ากันด้วยพายยางอย่างช้า ๆ เทใส่ถาด แช่เย็นในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส นาน 2 ชั่วโมง ถ้าแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นปกติต้องแช่นาน 4-6 ชั่วโมง สามารถเก็บในช่องฟรีซได้นาน 1 เดือน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไอศกรีมมูสมะม่วง สูตรไม่ใช้เครื่องเนื้อเนียนหวานน้อยเย็นฉ่ำ
++++++
12. เครมบรูเล่ข้าวเหนียวมะม่วงสังขยา
ใครไม่กลัวอ้วนอยากให้ลองทำเมนูเครมบรูเล่ข้าวเหนียวมะม่วงสังขยา สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อสังขยานุ่มละมุนแทรกชิ้นมะม่วงสุกเข้ากันดีกับข้าวเหนียวมูนซึ่งทำเป็นฐาน แต่งด้านบนด้วยน้ำตาลเผาไฟให้ไหม้สวย
ส่วนผสม เครมบรูเล่
• ข้าวเหนียวมูน
• มะม่วงสุกหั่นชิ้นเล็ก
• น้ำตาลปี๊บ 110 กรัม
• ไข่แดง 5 ฟอง
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
• กะทิ 1 ถ้วย
• ครีม 1+1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย
วิธีทำเครมบรูเล่
1. เอาข้าวเหนียวมูนกะทิกรุลงพิมพ์บาง ๆ ใช้ช้อนกด ๆ หน่อยหนึ่ง
2. ทำสังขยา โดยใส่ไข่แดง เกลือ และน้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม
3. ล้างใบเตยให้สะอาด เพื่อเอามาขยำกับไข่ ใส่แป้งสาลีลงไป ขยำจนใบเตยออกกลิ่นที่ไข่แดง
4. ใส่กะทิกับครีมลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือดรอบ ๆ เทครีมลงในส่วนผสมไข่แดง คนไปด้วยเทไปด้วย เสร็จแล้วเอาไปกรองกากและเศษแป้งออก
5. หั่นมะม่วงเป็นชิ้นเล็ก ๆ วางลงบนข้าวเหนียว เทส่วนผสมไข่แดงลงไป นำไปอบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่ต้องรองน้ำก็ได้ เพราะอบไฟอ่อน ๆ เพียงแต่ใช้เวลาหน่อยเท่านั้นเอง
6. อบเสร็จพักให้เย็น แล้วโรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายจนทั่ว ใช้ไฟพ่นให้น้ำตาลไหม้มีกลิ่นหอม หั่นเป็นชิ้นเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เครมบรูเล่ข้าวเหนียวมะม่วงสังขยา ของหวานลูกผสมเข้มข้นหอมมัน
แหม… เมนูมะม่วงแปรรูปมาได้จังหวะพอดี ตอนแรกนึกว่าจะต้องทิ้งมะม่วงสุกเหลือ ๆ แล้ว เดี๋ยวจะเอามาแปลงกายเป็นลาสซี่มะม่วงกินสักเหยือกให้พุงกางเลย
