1. ฮันนี่โทสต์มะม่วง
ส่วนผสม ฮันนี่โทสต์มะม่วง
- ขนมปังกะโหลก
- เนยสดเค็ม (หรือเนยจืดก็ได้)
- มะม่วงสุก 1-2 ลูก
- ไอศกรีมรสที่ชอบ
- น้ำผึ้ง (สำหรับราดขนมปัง)
วิธีทำฮันนี่โทสต์มะม่วง
1. ตัดขนมปังกะโหลกเป็นแผ่นหนาตามขนาดที่ต้องการแล้วหั่นเป็นรูปตาราง 9 ช่อง จากนั้นหั่นเนยเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วนำใส่ลงไปในช่องขนมปังให้ครบทุกช่อง ใส่มากใส่น้อยตามชอบเลย
2. นำขนมปังเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 12-15 นาที
3. ระหว่างรอขนมปังครบเวลาก็มาหั่นมะม่วงรอ เมื่อหั่นมะม่วงเสร็จ ก็พอดีกับอบขนมปังเสร็จ
4. นำขนมปังมาตกแต่งด้วยมะม่วง ราดด้วยน้ำผึ้ง โปะไอศกรีม หรือวิปปิ้งครีม
2. พานาคอตต้ามะม่วง
ส่วนผสม พานาคอตต้ามะม่วง
- ผงเจลาติน 5 กรัม
- น้ำเย็น 30 กรัม
- นมสดจืด 200 มิลลิลิตร
- วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- มะม่วง 2 ลูก
วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง
1. ผสมผงเจลาตินกับน้ำเย็น พักไว้
2. ผสมนมสด วิปปิ้งครีม และน้ำตาลทราย นำไปตั้งไฟอ่อนพอให้น้ำตาลทรายละลาย โดยไม่ต้องถึงขั้นเดือด แล้วยกลงจากเตา เติมกลิ่นวานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เจลาตินที่ผสมไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน เทใส่ในภาชนะที่ต้องการ จะใส่แบบเฉียง หรือแบบตรงก็ตามชอบ รอให้คลายร้อนสักครู่ แล้วนำเข้าตู้เย็นรอให้เซตตัว
3. ระหว่างนั้นก็เตรียมมะม่วงรอ โดยนำมะม่วง 1 ลูก หั่นเต๋าเล็ก ๆ ส่วนมะม่วงอีก 1 ลูก นำไปปั่นให้ละเอียด เป็นซอสมะม่วง
4. พอเจลาตินเซตตัวก็เอาออกจากตู้เย็น ใส่มะม่วงลงไป ตามด้วยซอสมะม่วง ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เป็นอันเสร็จ จะกินเลยหรือแช่เย็น ๆ ก่อนกินก็ได้
3. พานาคอตต้ามะม่วง
ส่วนผสม ชั้นมะม่วง
- เจลาตินผงหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ก็ได้)
- เกลือเล็กน้อย
- มะม่วงปั่น 400 กรัม
- น้ำ 40 กรัม (ถ้าไม่อยากให้ชั้นมะม่วงข้นมาก สามารถเพิ่มน้ำได้ อาจจะเพิ่มเจลาตินลงไปอีกนิดหน่อย รสชาติสามารถเพิ่มหวานได้ตามใจชอบ)
ส่วนผสม ชั้นครีม
- เจลาตินหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
- นมสด 200 กรัม
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 70 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง
1. ทำชั้นมะม่วงโดยผสมเจลาตินกับน้ำพักไว้ 10 นาที พอครบเวลานำเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นเติมน้ำตาลและเกลือป่นลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน ตักเนื้อมะม่วงปั่นบางส่วนใส่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วเทกลับไปในถ้วยมะม่วงปั่น คนให้เข้ากัน
2. วางแก้วให้เอียง 45 องศา เทมะม่วงลงไปครึ่งแก้ว นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวประมาณ 2-3 ชั่วโมง
3. พอชั้นมะม่วงเซตตัวแล้ว มาเริ่มทำชั้นครีม เริ่มต้นเทนมใส่หม้อ ผสมเจลาตินลงไป พักไว้ 10 นาที (ยังไม่ต้องต้ม) ต้มไฟอ่อน ๆ เติมน้ำตาลกับเกลือป่นเล็กน้อย (อย่าให้เดือดนะคะ) พอทุกอย่างละลายเข้ากันหมดก็ดับเตา เติมวิปปิ้งครีมกับกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน และพักให้เย็นลง
4. พอมะม่วงเซตตัวก็เทครีมลงไปให้เต็มแก้ว นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวอีก 2-3 ชั่วโมง พอเซตตัวแล้วก่อนเสิร์ฟตกแต่งด้วยมะม่วง
4. บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้
ส่วนผสม บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้
- นมสดจืด 450 มิลลิลิตร (หรือ 1 ขวด)
- นมข้นหวาน 1/4 ถ้วย
- มะม่วงน้ำดอกไม้ 1-2 ลูก (ตามชอบเลย)
- นมข้นสำหรับราด
วิธีทำบิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้
1. ผสมนมสดกับนมข้นหวานให้เข้ากัน เทใส่ถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซ 3 ชั่วโมง หรือจนแข็ง
2. พอใกล้ถึงเวลานำส่วนผสมนมออกจากฟรีซ โดยคนให้กลายเป็นเกล็ด แต่ถ้าแข็งเกินไปก็ใช้ของแข็งทุบเอา แล้วก็นำมาใส่ลงในถ้วย ตกแต่งด้วยมะม่วงหั่นชิ้น โปะด้วยไอศกรีม และราดด้วยนมข้น
5. ไอศกรีมมะม่วง
ส่วนผสม ไอศกรีมมะม่วง
- เนื้อมะม่วงปั่น 400 กรัม
- เจลาติน 1 ช้อนชา
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- ไอซิ่ง 50 กรัม
- นมข้นหวาน 30 กรัม
- สีผสมอาหารสีเหลือง (ใส่หรือไม่ก็ได้)
- เนื้อมะม่วงสุก
วิธีทำไอศกรีมมะม่วง
- ผสมเจลาตินกับน้ำคนให้เข้ากัน พักไว้ 10 นาที พอครบเวลาก็นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 10-20 วินาที แล้วก็นำไปผสมกับเนื้อมะม่วงปั่น อาจจะตักเนื้อมะม่วงปั่นมาผสมในถ้วยเจลาตินก่อน คนให้เข้ากัน แล้วค่อยนำไปเทรวมกันอีกทีจะได้คนเข้ากันง่าย ๆ
หมายเหตุ : สามารถนำมะม่วงหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแล้วแช่ช่องฟรีซให้แข็งก่อนแล้วมาปั่นก่อนทำไอศกรีมมะม่วง (จะทำให้ไอศกรีมเซตตัวเร็วและเกล็ดน้ำแข็งเล็กด้วย)
- ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจนตั้งยอดอ่อน เติมนมข้นหวานลงไป ตีจนเข้ากัน แล้วเทเนื้อมะม่วงปั่นที่ผสมเจลาตินไว้แล้วลงไปตีผสมด้วย ถ้าอยากได้สีเหลืองสวย ๆ ก็สามารถเติมสีเหลืองเพิ่มได้ ตีจนเข้ากันแล้วใส่เนื้อมะม่วงลงไปตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จะใส่เนื้อมะม่วงลงไปอีกก็ได้ จากนั้นแช่ไอศกรีมในช่องแช่แข็งประมาณ 10 ชั่วโมง (คือแช่ช่องฟรีซทิ้งไว้ค้างคืนไปเลย)
หมายเหตุ : ถ้าไม่มีตีเครื่องมือถือ สามารถใช้เครื่องปั่น ปั่นรวมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันได้
- หลังจากที่เซตตัว ตักออกมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าก็ได้ ต้องรีบทำหน่อย อย่าให้ไอศกรีมละลาย เดี๋ยวจะกลับไปเป็นเกล็ดเหมือนเดิม นำมาปั่นจนละเอียดขึ้น ถ้ามีเครื่องปั่นกำลังสูงหน่อยจะดีมาก เพราะไอศกรีมจะค่อนข้างหนืด ทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ พอปั่นแล้วก็นำไปแช่ช่องฟรีซอีก 5-8 ชั่วโมง หรือจนไอศกรีมเซตตัวแข็งขึ้น ทำแบบนี้อีกสัก 1-2 รอบ หรือจนเกล็ดน้ำแข็งเล็กลงและเนื้อไอศกรีมเนียนขึ้น ตักเสิร์ฟ
6. ชีสเค้กมะม่วง
ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก
- บิสกิต แครกเกอร์ หรือขนมปังกรอบ 180 กรัม
- เนยจืดละลาย 80 กรัม
ส่วนผสม ชีสเค้กมะม่วง
- ครีมชีส 250 กรัม หรือ 1 กล่อง
- เนื้อมะม่วงปั่น 150 กรัม
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม
ส่วนผสม หน้ามูสมะม่วง
- เจลาติน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน (ผสมกับเจลาติน) 2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อมะม่วงปั่น 200 กรัม
- น้ำเปล่า 50 กรัม (ผสมตอนต้มเนื้อมะม่วง)
- น้ำตาลทราย 30 กรัม
- น้ำเลมอน 1 ช้อนชา
วิธีทำชีสเค้กมะม่วง
1. ทำฐานเค้ก โดยบดบิสกิตหรือนำไปปั่น เติมเนยละลายลงไป คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ แล้วปรับให้เรียบเพื่อให้เป็นฐานเค้ก แล้วนำไปแช่เย็นสัก 15 นาทีหรือจนเซตตัว
2. ทำชีสเค้ก โดยตีครีมชีสที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาลไอซิ่งจนเข้ากัน แต่อย่านานมากเดี๋ยวครีมจะแตกตัว เติมเนื้อมะม่วงปั่นลงไปแล้วคนจนเข้ากันอีกครั้ง
3. ตีวิปครีมจนตั้งยอด นำมาใส่ครีมชีสแล้วตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่รองฐานด้วยบิสกิต ปรับให้หน้าเรียบ แช่ในตู้เย็นให้ชีสเค้กเซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
4. ทำหน้ามูสมะม่วง โดยผสมเจลาตินกับน้ำร้อนพักไว้ 10 นาที กวนเนื้อมะม่วงปั่น น้ำเปล่า และน้ำตาลทรายจนเดือด ปิดเตา ใส่เจลาตินที่พักไว้ คนจนเข้ากัน ใส่น้ำเลมอน คนจนเข้ากัน คนให้อุ่นสักหน่อย แล้วเทราดหน้าลงบนชีสเค้ก
5. นำไปแช่ตู้เย็นรอให้หน้าชีสเค้กเซตตัวสัก 1 ชั่วโมง เอาออกมาคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร หน้าเค้กจะได้ไม่แห้ง และเอากลับไปแช่ตู้เย็นพักไว้ 1 คืน ก่อนนำออกจากพิมพ์ใช้มีดปลายแหลมแซะขอบพิมพ์ก่อน ค่อย ๆ นำเค้กออกมา หั่นชิ้นจัดเสิร์ฟ
7. ไอศกรีมมูสมะม่วง
ส่วนผสม ไอศกรีมมูสมะม่วง
- เนื้อมะม่วงสุก 335 กรัม (เลือกพันธุ์ได้ตามชอบ)
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- เนยจืด 100 กรัม
- ไข่แดง 80 กรัม
- ครีมสด 200 กรัม
วิธีทำไอศกรีมมูสมะม่วง
1. หั่นเนื้อมะม่วงสุกเป็นชิ้นเล็ก นำไปปั่นให้ละเอียด (ไม่ต้องกรองเนื้อออก)
2. ใส่มะม่วงปั่น น้ำตาลทราย เนย และไข่แดงลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนจนข้นเป็นคัสตาร์ด พักไว้ 2 ชั่วโมง
3. ตีครีมสดให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือ
4. ผสมครีมและคัสตาร์ด คนให้เข้ากันด้วยพายยางอย่างช้า ๆ เทใส่ถาด แช่เย็นในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส นาน 2 ชั่วโมง ถ้าแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นปกติต้องแช่นาน 4-6 ชั่วโมง สามารถเก็บในช่องฟรีซได้นาน 1 เดือน
8. มูสมะม่วงกล้วยหอม
ส่วนผสม มูสมะม่วงกล้วยหอม
- มะม่วงสุก 1 ลูก
- กล้วยหอมสุก 1 ลูก
- วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร (ถ้าใช้แบบผงให้ผสมน้ำอัตราส่วน วิปปิ้งครีมผง 100 กรัม : น้ำเย็นจัด 100 มิลลิลิตร)
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงเจลาติน 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแช่ผงเจลาติน)
ส่วนผสม ท็อปปิ้ง
- มะม่วงหั่นเต๋า
- มะม่วงบด หรือ มะม่วงผสมกล้วยหอมบด
วิธีทำเจลาติน
- ผสมน้ำเย็นกับผงเจลาตินให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนเจลาตินดูดน้ำจนอืด นำเข้าไมโครเวฟ 10 วินาที หรือจนเจลาตินละลายเป็นน้ำ
วิธีทำมูสมะม่วงกล้วยหอม
1. ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอดแข็ง ใส่มะม่วงผสมกล้วยที่บดแล้วลงไป ตีต่อจนเข้ากัน
2. ใส่เจลาตินที่ละลายเรียบร้อยลงไป ค่อย ๆ ใส่ทีละนิด สลับกับตีส่วนผสม จนเจลาตินหมด
3. ตักใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็นจนเซตตัว ตกแต่งด้วยท็อปปิ้ง
9. พานาคอตต้ามะม่วง
ส่วนผสม พานาคอตต้ามะม่วง
- มะม่วงสุก 2 ถ้วย
- ผงเจลาติน 2 ซอง (1 ซอง = 1 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำมะม่วง หรือน้ำเปล่า 1 ถ้วย
- นมสด 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ครีม หรือวิปปิ้งครีมเข้มข้น 2 ถ้วย
วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง
1. นำมะม่วงสุกมาปั่น ในสูตรนี้ไม่ใส่น้ำตาลเป็นส่วนผสมในมะม่วงเลย เพราะฉะนั้นหากใครมีมะม่วงสุกที่หวานอยู่แล้วก็ปั่นได้เลย หากใครคิดว่ามะม่วงสุกมีรสหวานน้อยไป เติมน้ำตาลทรายในขั้นตอนที่จะผสมก่อนไปแช่ตู้เย็น เทมะม่วงที่ปั่นไว้ลงในอ่างผสมรอไว้ก่อน
2. มาผสมเจลาติน หากมีน้ำมะม่วงก็นำมาใช้ในขั้นตอนนี้ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำเปล่า (แต่รสชาติของมะม่วงจะเจือจางลงเล็กน้อย อาจจะต้องใส่น้ำตาลทรายเพิ่ม) ใส่ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ (1 ซอง) ลงในน้ำมะม่วงแล้วคนผสมให้เข้ากัน นำไปใส่ในไมโครเวฟ 1 นาที หลังจากเข้าในไมโครเวฟ 1 นาทีแล้วเอาออกมา เทลงในมะม่วงปั่นที่พักไว้ในอ่างผสม คนให้เข้ากันดี
3. นำแก้วที่เราต้องการจะใส่ขนมมาเตรียมไว้ หากต้องการทำขนมที่มีลักษณะเฉียงก็ให้หาถาดที่มีหลุม จัดแก้วให้เอียง 45 องศา และหาผ้ามารองก้นแก้วจะได้ไม่เลื่อน จัดการเทส่วนผสมซอสมะม่วงลงในแก้วให้ถึงขอบ หรือจะหาแก้วสวย ๆ มาแล้วเทส่วนผสมซอสมะม่วงในลักษณะครึ่งแก้วก็ได้
4. นำเข้าตู้เย็น แช่ไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง จนกว่าจะเซตตัว แล้วค่อยมาทำในส่วนที่เป็นครีมนมด้านบน
5. ครีมนมด้านบนจะทำหลังจากที่ตัวซอสมะม่วงเซตตัวเรียบร้อยแล้ว โดยการนำนมสดใส่ในหม้อเล็ก เทผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ (1 ซอง) ลงในนม แล้วคนให้เข้ากันดี ไม่ต้องตั้งไฟ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที พอครบเวลาเราจะใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน เปิดเตาไฟอ่อน ๆ คนให้น้ำตาลละลายดี ไม่ต้องให้เดือด เติมกลิ่นวานิลลาและเกลือลงไปคนให้เข้ากันดี ปิดเตา ยกลง
6. นำครีมหรือวิปปิ้งครีม เทลงในอ่างผสม จากนั้นเรานำครีมนมที่เพิ่งยกลงมาจากเตา เทผสมลงไปและคนให้เข้ากันจากนั้นจะนำแก้วหรือภาชนะที่ใส่ส่วนผสมแรกที่เป็นมะม่วงออกจากตู้เย็น จะเห็นว่ามะม่วงเซตตัวแล้ว ไม่แข็งเหมือนวุ้น จะยังคงความนิ่มหยุ่น ๆ เด้ง ๆ เทส่วนผสมที่สองที่เป็นครีมลงในถ้วยให้เต็ม จะได้พานาคอตต้า 7 แก้วนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะเซตตัว
7. ระหว่างรอก็มาจัดการกับมะม่วงที่จะตกแต่งด้านบน จะหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือจะหาช้อนกลม ๆ มาทำเป็นครึ่งวงกลมก็ตามชอบ หาใบสะระแหน่มาไว้ตกแต่งด้วย จะได้ดูสวยงามน่ากินยิ่งขึ้น
8. หลังจากทุกอย่างเซตตัว ตกแต่งด้วยมะม่วงกับใบสะระแหน่
10. มะม่วงเบาแช่อิ่ม
ส่วนผสม มะม่วงเบาแช่อิ่ม
- มะม่วงเบาดิบ
- น้ำปูนใส (สำหรับแช่มะม่วง)
- เกลือเม็ด
- น้ำตาลทรายแดง 500 กรัม
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
วิธีทำมะม่วงเบาแช่อิ่ม
1. ปอกเปลือกมะม่วงเบา ผ่าครึ่งแล้วเอาเม็ดออก (หรือผ่าซีก) นำไปล้างให้สะอาด ใส่อ่างผสมเตรียมไว้
2. นำมะม่วงไปแช่ลงในน้ำปูนใส 1 คืน เพื่อให้มะม่วงกรอบ จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด
3. นำมะม่วงที่แช่น้ำปูนใสแล้วไปดองในน้ำเกลือ (นำถุงใส่น้ำวางทับลงไปด้านบนด้วยเพื่อให้มะม่วงไม่ลอบขึ้นมาและโดนน้ำเกลือทั่วทุกชิ้น) แช่ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปล้างน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
4. ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายและเหนียวข้นเป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็น
5. นำมะม่วงเบาลงไปแช่ในน้ำเชื่อม ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด ทิ้งไว้ 2 คืน จากนั้นนำไปแช่เย็น พร้อมเสิร์ฟ
11. บิงซูมะม่วงง่าย ๆ
ส่วนผสม บิงซูมะม่วง
- นมเปรี้ยว
- โยเกิร์ต 2 ถ้วย
- มะม่วงน้ำดอกไม้
- เยลลี่
- นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่ก็ได้ หรือราดน้ำผึ้งตามชอบ)
วิธีทำบิงซูมะม่วง
1. นำนมเปรี้ยวใส่ถ้วย ตามด้วยโยเกิร์ต นมข้น ผสมทุกสิ่งให้เข้ากัน เทใส่ลงถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซในตู้เย็น 1 คืน
2. หั่นมะม่วงเป็นลูกเต๋า ใครจะใช้สตรอว์เบอร์รี หรือกีวีก็ได้
3. นำนมแช่แข็งออกมา ใช้ช้อนค่อย ๆ ขูดเป็นเกล็ด ถ้าบ้านใครมีเครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็นำไปปั่นได้ ตักใส่ภาชนะ แต่งด้วยเยลลี่กับมะม่วง สุดท้ายราดนมข้น
12. น้ำมะม่วงเลมอนเนด (Mango Lemonade)
ส่วนผสม น้ำมะม่วงเลมอนเนด
- มะม่วงสุกปอกเปลือกหั่นชิ้น 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำแข็ง
- ใบสะระแหน่ สำหรับแต่ง
วิธีทำน้ำมะม่วงเลมอนเนด
1. ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในชาม นำเข้าไมโครเวฟจนน้ำตาลละลาย พักไว้ให้เย็น
2. ใส่มะม่วง น้ำเชื่อม และน้ำมะนาวลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ
13. ลาสซี่มะม่วง (Mango Lassi)
ส่วนผสม ลาสซี่มะม่วง
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ออนซ์
- เนื้อมะม่วงสุก 4 ออนซ์
- ซอสมะม่วงเข้มข้น (ในสูตรนี้ใช้ Kesar Mango Pulp แบบกระป๋องจากประเทศอินเดีย)
- นมสด 1/4 ถ้วย (หรือฮาฟแอนด์ฮาฟครีม)
- น้ำแข็ง 1 ถ้วย
- น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ (หรือน้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ)
หมายเหตุ : ซอสมะม่วงเข้มข้นชนิดกระป๋อง หรือ Kesar Mango Pulp สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้
วิธีทำลาสซี่มะม่วง
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (เวลาในการปั่นขึ้นอยู่กับเครื่องปั่นแต่ละเครื่อง)
2. ตกแต่งแก้ว โดยเทซอสมะม่วงลงในไปในแก้วก่อนแล้วเอียงแก้วไปมาให้สวยงามตามชอบ จากนั้นเทลาสซี่ที่ปั่นไว้ลงไป ราดทับด้วยซอสมะม่วงอีกครั้ง แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ (หรือจะโรยถั่วพิสตาชิโอลงไปก็ได้ตามชอบ)
14. น้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก
ส่วนผสม น้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก
- มะม่วงสุก หั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ แช่แข็ง 1 ถ้วยตวง
- มิกซ์เบอร์รีแช่แข็ง 1/2 ถ้วยตวง
- เลมอนสไลซ์ 1 ผล
- น้ำแร่ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำน้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก
- นำมะม่วงสุก มิกซ์เบอร์รี และเลมอนใส่ในกระบอกแก้วหรือขวดโหล ใช้ช้อนกดผลไม้ให้พอมี น้ำซึมออกมา
- ใส่น้ำแร่ลงไปจนเต็มปิดฝาให้แน่น
- นำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน ใช้ดื่มในช่วงเช้าหรือระหว่างวัน
15. สมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด
ส่วนผสม สมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด
- อะโวคาโด 1/2 ถ้วยตวง
- เนื้อมะม่วงสุกแช่แข็ง 1 ถ้วยตวง
- นมสด 1 ถ้วยตวง
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- อัลมอนด์สไลซ์ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำสมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด
◆ นำส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นอัลมอนด์) ปั่นจนละเอียด รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยอัลมอนด์สไลซ์ พร้อมดื่ม