15 เมนูมะม่วงคลายร้อน สูตรอร่อยหลากสไตล์หวานฉ่ำรับซัมเมอร์

          ฤดูนี้ต้องโดน ! เมนูมะม่วงคลายร้อน สูตรขนมคลายร้อน ใส่ผลไม้หวานอมเปรี้ยว พ่วงเมนูเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ 
          อากาศร้อนไม่เกรงใจแบบนี้ สงสัยต้องจัดเมนูมะม่วงเอาไว้กินดับร้อนสักหน่อย แต่แอบเบื่อ ๆ เมนูข้าวเหนียวมะม่วงแล้วสิ  คงจะดีถ้ามีเมนูขนมคลายร้อนอื่น ๆ บ้างเนอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูมะม่วงคลายร้อน มีทั้งขนมไทย เบเกอรี และเครื่องดื่ม เช่น ไอศกรีมมะม่วง พานาคอตต้ามะม่วง บิงซูมะม่วง สมูทตี้มะม่วง น้ำหมักมะม่วง เป็นต้น เลือกทำได้เลยฟินทุกเมนูจ้า

1. ฮันนี่โทสต์มะม่วง

          ฮันนี่โทสต์ผลไม้สุดฮิตในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเมนูฮันนี่โทสต์มะม่วง สูตรนี้ขนมปังกรอบนอกนุ่มในหอมกลิ่นเนย ลักษณะเด่นคือ แต่งด้วยมะม่วงสุกยังไม่จบต้องราดน้ำผึ้งและโปะไอศกรีมด้วยนะจ๊ะ

ส่วนผสม ฮันนี่โทสต์มะม่วง

  • ขนมปังกะโหลก
  • เนยสดเค็ม (หรือเนยจืดก็ได้)
  • มะม่วงสุก 1-2 ลูก
  • ไอศกรีมรสที่ชอบ
  • น้ำผึ้ง (สำหรับราดขนมปัง)
     

วิธีทำฮันนี่โทสต์มะม่วง

     1. ตัดขนมปังกะโหลกเป็นแผ่นหนาตามขนาดที่ต้องการแล้วหั่นเป็นรูปตาราง 9 ช่อง จากนั้นหั่นเนยเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วนำใส่ลงไปในช่องขนมปังให้ครบทุกช่อง ใส่มากใส่น้อยตามชอบเลย
     2. นำขนมปังเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 12-15 นาที
     3. ระหว่างรอขนมปังครบเวลาก็มาหั่นมะม่วงรอ เมื่อหั่นมะม่วงเสร็จ ก็พอดีกับอบขนมปังเสร็จ
     4. นำขนมปังมาตกแต่งด้วยมะม่วง ราดด้วยน้ำผึ้ง โปะไอศกรีม หรือวิปปิ้งครีม

ดูวิธีทำ ฮันนี่โทสต์มะม่วง เพิ่มเติมคลิก

2. พานาคอตต้ามะม่วง

          มาต่อกันที่เมนูพานาคอตต้า ชื่อดูดีไฮโซเพราะเป็นขนมตำรับอิตาลี สูตรนี้เนื้อขนมเนียนนุ่มหวานหอม ทีเด็ดคือแต่งหน้าด้วยซอสมะม่วง

ส่วนผสม พานาคอตต้ามะม่วง

  • ผงเจลาติน 5 กรัม
  • น้ำเย็น 30 กรัม
  • นมสดจืด 200 มิลลิลิตร
  • วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • มะม่วง 2 ลูก

วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง

     1. ผสมผงเจลาตินกับน้ำเย็น พักไว้
     2. ผสมนมสด วิปปิ้งครีม และน้ำตาลทราย นำไปตั้งไฟอ่อนพอให้น้ำตาลทรายละลาย โดยไม่ต้องถึงขั้นเดือด แล้วยกลงจากเตา เติมกลิ่นวานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เจลาตินที่ผสมไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน เทใส่ในภาชนะที่ต้องการ จะใส่แบบเฉียง หรือแบบตรงก็ตามชอบ รอให้คลายร้อนสักครู่ แล้วนำเข้าตู้เย็นรอให้เซตตัว
     3. ระหว่างนั้นก็เตรียมมะม่วงรอ โดยนำมะม่วง 1 ลูก หั่นเต๋าเล็ก ๆ ส่วนมะม่วงอีก 1 ลูก นำไปปั่นให้ละเอียด เป็นซอสมะม่วง
     4. พอเจลาตินเซตตัวก็เอาออกจากตู้เย็น ใส่มะม่วงลงไป ตามด้วยซอสมะม่วง ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เป็นอันเสร็จ จะกินเลยหรือแช่เย็น ๆ ก่อนกินก็ได้

ดูวิธีทำ พานาคอตต้ามะม่วง เพิ่มเติมคลิก

3. พานาคอตต้ามะม่วง

          พานาคอตต้าราดซอสมะม่วงดูเชยไปหน่อย ต้องมาทำพานาคอตต้ามะม่วงสูตรนี้เลย ลักษณะเด่นคือชั้นขนมและชั้นมะม่วงสลับชั้นสวยงาม สุดท้ายแต่งด้วยมะม่วงสุก

ส่วนผสม ชั้นมะม่วง

  • เจลาตินผงหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ก็ได้)
  • เกลือเล็กน้อย
  • มะม่วงปั่น 400 กรัม
  • น้ำ 40 กรัม (ถ้าไม่อยากให้ชั้นมะม่วงข้นมาก สามารถเพิ่มน้ำได้ อาจจะเพิ่มเจลาตินลงไปอีกนิดหน่อย รสชาติสามารถเพิ่มหวานได้ตามใจชอบ)

ส่วนผสม ชั้นครีม

  • เจลาตินหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
  • นมสด 200 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  • น้ำตาลทราย 70 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง

     1. ทำชั้นมะม่วงโดยผสมเจลาตินกับน้ำพักไว้ 10 นาที พอครบเวลานำเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นเติมน้ำตาลและเกลือป่นลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน ตักเนื้อมะม่วงปั่นบางส่วนใส่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วเทกลับไปในถ้วยมะม่วงปั่น คนให้เข้ากัน
     2. วางแก้วให้เอียง 45 องศา เทมะม่วงลงไปครึ่งแก้ว นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวประมาณ 2-3 ชั่วโมง
     3. พอชั้นมะม่วงเซตตัวแล้ว มาเริ่มทำชั้นครีม เริ่มต้นเทนมใส่หม้อ ผสมเจลาตินลงไป พักไว้ 10 นาที (ยังไม่ต้องต้ม) ต้มไฟอ่อน ๆ เติมน้ำตาลกับเกลือป่นเล็กน้อย (อย่าให้เดือดนะคะ) พอทุกอย่างละลายเข้ากันหมดก็ดับเตา เติมวิปปิ้งครีมกับกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน และพักให้เย็นลง
     4. พอมะม่วงเซตตัวก็เทครีมลงไปให้เต็มแก้ว นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวอีก 2-3 ชั่วโมง พอเซตตัวแล้วก่อนเสิร์ฟตกแต่งด้วยมะม่วง

ดูวิธีทำ พานาคอตต้ามะม่วง เพิ่มเติมคลิก

4. บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้

          เมนูน้ำแข็งไสเกาหลีหรือบิงซูก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมคลายร้อน ยกตัวอย่างบิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้ จับนมสดกับนมข้นแช่เย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แต่งด้วยมะม่วงและโปะไอศกรีม

ส่วนผสม บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้

  • นมสดจืด 450 มิลลิลิตร (หรือ 1 ขวด)
  • นมข้นหวาน 1/4 ถ้วย
  • มะม่วงน้ำดอกไม้ 1-2 ลูก (ตามชอบเลย)
  • นมข้นสำหรับราด
     

วิธีทำบิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้

     1. ผสมนมสดกับนมข้นหวานให้เข้ากัน เทใส่ถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซ 3 ชั่วโมง หรือจนแข็ง
     2. พอใกล้ถึงเวลานำส่วนผสมนมออกจากฟรีซ โดยคนให้กลายเป็นเกล็ด แต่ถ้าแข็งเกินไปก็ใช้ของแข็งทุบเอา แล้วก็นำมาใส่ลงในถ้วย ตกแต่งด้วยมะม่วงหั่นชิ้น โปะด้วยไอศกรีม และราดด้วยนมข้น

ดูวิธีทำ บิงซูมะม่วงน้ำดอกไม้ เพิ่มเติมคลิก

5. ไอศกรีมมะม่วง

          ใครจะไปรู้ว่าเมนูไอศกรีมมะม่วงสูตรนี้ทำง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องทำไอศกรีม บอกเลยว่าเนื้อเนียนมากและแซมมะม่วงสุกลงไปด้วย กินกับฮันนี่โทสต์หรือข้าวเหนียวมูนรับประกันความฟิน

ส่วนผสม ไอศกรีมมะม่วง

  • เนื้อมะม่วงปั่น 400 กรัม
  • เจลาติน 1 ช้อนชา
  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  • ไอซิ่ง 50 กรัม
  • นมข้นหวาน 30 กรัม
  • สีผสมอาหารสีเหลือง (ใส่หรือไม่ก็ได้)
  • เนื้อมะม่วงสุก

วิธีทำไอศกรีมมะม่วง

  1. ผสมเจลาตินกับน้ำคนให้เข้ากัน พักไว้ 10 นาที พอครบเวลาก็นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 10-20 วินาที แล้วก็นำไปผสมกับเนื้อมะม่วงปั่น อาจจะตักเนื้อมะม่วงปั่นมาผสมในถ้วยเจลาตินก่อน คนให้เข้ากัน แล้วค่อยนำไปเทรวมกันอีกทีจะได้คนเข้ากันง่าย ๆ

    หมายเหตุ : สามารถนำมะม่วงหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแล้วแช่ช่องฟรีซให้แข็งก่อนแล้วมาปั่นก่อนทำไอศกรีมมะม่วง (จะทำให้ไอศกรีมเซตตัวเร็วและเกล็ดน้ำแข็งเล็กด้วย)
     
  2. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจนตั้งยอดอ่อน เติมนมข้นหวานลงไป ตีจนเข้ากัน แล้วเทเนื้อมะม่วงปั่นที่ผสมเจลาตินไว้แล้วลงไปตีผสมด้วย ถ้าอยากได้สีเหลืองสวย ๆ ก็สามารถเติมสีเหลืองเพิ่มได้ ตีจนเข้ากันแล้วใส่เนื้อมะม่วงลงไปตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จะใส่เนื้อมะม่วงลงไปอีกก็ได้ จากนั้นแช่ไอศกรีมในช่องแช่แข็งประมาณ 10 ชั่วโมง (คือแช่ช่องฟรีซทิ้งไว้ค้างคืนไปเลย)

    หมายเหตุ : ถ้าไม่มีตีเครื่องมือถือ สามารถใช้เครื่องปั่น ปั่นรวมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันได้
     
  3. หลังจากที่เซตตัว ตักออกมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าก็ได้ ต้องรีบทำหน่อย อย่าให้ไอศกรีมละลาย เดี๋ยวจะกลับไปเป็นเกล็ดเหมือนเดิม นำมาปั่นจนละเอียดขึ้น ถ้ามีเครื่องปั่นกำลังสูงหน่อยจะดีมาก เพราะไอศกรีมจะค่อนข้างหนืด ทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ พอปั่นแล้วก็นำไปแช่ช่องฟรีซอีก 5-8 ชั่วโมง หรือจนไอศกรีมเซตตัวแข็งขึ้น ทำแบบนี้อีกสัก 1-2 รอบ หรือจนเกล็ดน้ำแข็งเล็กลงและเนื้อไอศกรีมเนียนขึ้น ตักเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ ไอศกรีมมะม่วง เพิ่มเติมคลิก

6. ชีสเค้กมะม่วง

           ชีสเค้กทุเรียนก็ทำบ่อยแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนมาทำชีสเค้กมะม่วงบ้างดีกว่า ฐานทำจากขนมปังกรอบ ตัวเค้กทำจากมะม่วงผสมครีมชีส ส่วนท็อปทำจากเนื้อมะม่วงผสมเจลาติน รสชาติอร่อยแค่ไหนมาลองเลยค่ะ

ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก

  • บิสกิต แครกเกอร์ หรือขนมปังกรอบ 180 กรัม
  • เนยจืดละลาย 80 กรัม

ส่วนผสม ชีสเค้กมะม่วง

  • ครีมชีส 250 กรัม หรือ 1 กล่อง
  • เนื้อมะม่วงปั่น 150 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม

ส่วนผสม หน้ามูสมะม่วง

  • เจลาติน 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำร้อน (ผสมกับเจลาติน) 2 ช้อนโต๊ะ
  • เนื้อมะม่วงปั่น 200 กรัม
  • น้ำเปล่า 50 กรัม (ผสมตอนต้มเนื้อมะม่วง)
  • น้ำตาลทราย 30 กรัม
  • น้ำเลมอน 1 ช้อนชา

วิธีทำชีสเค้กมะม่วง

     1. ทำฐานเค้ก โดยบดบิสกิตหรือนำไปปั่น เติมเนยละลายลงไป คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ แล้วปรับให้เรียบเพื่อให้เป็นฐานเค้ก แล้วนำไปแช่เย็นสัก 15 นาทีหรือจนเซตตัว
     2. ทำชีสเค้ก โดยตีครีมชีสที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาลไอซิ่งจนเข้ากัน แต่อย่านานมากเดี๋ยวครีมจะแตกตัว เติมเนื้อมะม่วงปั่นลงไปแล้วคนจนเข้ากันอีกครั้ง
     3. ตีวิปครีมจนตั้งยอด นำมาใส่ครีมชีสแล้วตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่รองฐานด้วยบิสกิต ปรับให้หน้าเรียบ แช่ในตู้เย็นให้ชีสเค้กเซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
     4. ทำหน้ามูสมะม่วง โดยผสมเจลาตินกับน้ำร้อนพักไว้ 10 นาที กวนเนื้อมะม่วงปั่น น้ำเปล่า และน้ำตาลทรายจนเดือด ปิดเตา ใส่เจลาตินที่พักไว้ คนจนเข้ากัน ใส่น้ำเลมอน คนจนเข้ากัน คนให้อุ่นสักหน่อย แล้วเทราดหน้าลงบนชีสเค้ก
     5. นำไปแช่ตู้เย็นรอให้หน้าชีสเค้กเซตตัวสัก 1 ชั่วโมง เอาออกมาคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร หน้าเค้กจะได้ไม่แห้ง และเอากลับไปแช่ตู้เย็นพักไว้ 1 คืน ก่อนนำออกจากพิมพ์ใช้มีดปลายแหลมแซะขอบพิมพ์ก่อน ค่อย ๆ นำเค้กออกมา หั่นชิ้นจัดเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ ชีสเค้กมะม่วง เพิ่มเติมคลิก

7. ไอศกรีมมูสมะม่วง

          มาต่อกันที่อีกวิธีทำไอศกรีมมะม่วง สูตรนี้ใส่ครีมสดกับไข่แดง เพิ่มความหอมมันจากเนยจืด ที่ขาดไม่ได้เลยคือมะม่วงสุก เสิร์ฟกับท็อปปิ้งตามชอบ

ส่วนผสม ไอศกรีมมูสมะม่วง

  • เนื้อมะม่วงสุก 335 กรัม (เลือกพันธุ์ได้ตามชอบ)
  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • เนยจืด 100 กรัม
  • ไข่แดง 80 กรัม
  • ครีมสด 200 กรัม

วิธีทำไอศกรีมมูสมะม่วง

     1. หั่นเนื้อมะม่วงสุกเป็นชิ้นเล็ก นำไปปั่นให้ละเอียด (ไม่ต้องกรองเนื้อออก)
     2. ใส่มะม่วงปั่น น้ำตาลทราย เนย และไข่แดงลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนจนข้นเป็นคัสตาร์ด พักไว้ 2 ชั่วโมง
     3. ตีครีมสดให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือ
     4. ผสมครีมและคัสตาร์ด คนให้เข้ากันด้วยพายยางอย่างช้า ๆ เทใส่ถาด แช่เย็นในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส นาน 2 ชั่วโมง ถ้าแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นปกติต้องแช่นาน 4-6 ชั่วโมง สามารถเก็บในช่องฟรีซได้นาน 1 เดือน

ดูวิธีทำ ไอศกรีมมูสมะม่วง เพิ่มเติมคลิก

8. มูสมะม่วงกล้วยหอม

          สำหรับสาว ๆ ที่อยากกินขนมหวานแต่กลัวอ้วน ขอนำเสนอมูสมะม่วงกล้วยหอม สูตรนี้ใช้ความหวานจากกล้วยหอม ไม่ต้องใส่น้ำตาลทรายเพิ่ม แต่งด้วยมะม่วงสุก

ส่วนผสม มูสมะม่วงกล้วยหอม

  • มะม่วงสุก 1 ลูก
  • กล้วยหอมสุก 1 ลูก
  • วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร (ถ้าใช้แบบผงให้ผสมน้ำอัตราส่วน วิปปิ้งครีมผง 100 กรัม : น้ำเย็นจัด 100 มิลลิลิตร)
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงเจลาติน 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแช่ผงเจลาติน)

ส่วนผสม ท็อปปิ้ง

  • มะม่วงหั่นเต๋า
  • มะม่วงบด หรือ มะม่วงผสมกล้วยหอมบด

วิธีทำเจลาติน

  • ผสมน้ำเย็นกับผงเจลาตินให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนเจลาตินดูดน้ำจนอืด นำเข้าไมโครเวฟ 10 วินาที หรือจนเจลาตินละลายเป็นน้ำ

วิธีทำมูสมะม่วงกล้วยหอม

     1. ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอดแข็ง ใส่มะม่วงผสมกล้วยที่บดแล้วลงไป ตีต่อจนเข้ากัน
     2. ใส่เจลาตินที่ละลายเรียบร้อยลงไป ค่อย ๆ ใส่ทีละนิด สลับกับตีส่วนผสม จนเจลาตินหมด
     3. ตักใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็นจนเซตตัว ตกแต่งด้วยท็อปปิ้ง

ดูวิธีทำ มูสมะม่วงกล้วยหอม เพิ่มเติมคลิก

9. พานาคอตต้ามะม่วง

          อีกหนึ่งเมนูมะม่วงคลายร้อนสุดฮิต กับพานาคอตต้ามะม่วง สูตรนี้ใส่เนื้อขนมเติมกลิ่นวานิลลา ส่วนซอสมะม่วงไม่ใส่น้ำตาลทรายเพราะใช้ความหวานของเนื้อผลไม้

ส่วนผสม พานาคอตต้ามะม่วง

  • มะม่วงสุก 2 ถ้วย
  • ผงเจลาติน 2 ซอง (1 ซอง = 1 ช้อนโต๊ะ)
  • น้ำมะม่วง หรือน้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • นมสด 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ครีม หรือวิปปิ้งครีมเข้มข้น 2 ถ้วย

วิธีทำพานาคอตต้ามะม่วง

     1. นำมะม่วงสุกมาปั่น ในสูตรนี้ไม่ใส่น้ำตาลเป็นส่วนผสมในมะม่วงเลย เพราะฉะนั้นหากใครมีมะม่วงสุกที่หวานอยู่แล้วก็ปั่นได้เลย หากใครคิดว่ามะม่วงสุกมีรสหวานน้อยไป เติมน้ำตาลทรายในขั้นตอนที่จะผสมก่อนไปแช่ตู้เย็น เทมะม่วงที่ปั่นไว้ลงในอ่างผสมรอไว้ก่อน
     2. มาผสมเจลาติน หากมีน้ำมะม่วงก็นำมาใช้ในขั้นตอนนี้ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำเปล่า (แต่รสชาติของมะม่วงจะเจือจางลงเล็กน้อย อาจจะต้องใส่น้ำตาลทรายเพิ่ม) ใส่ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ (1 ซอง) ลงในน้ำมะม่วงแล้วคนผสมให้เข้ากัน นำไปใส่ในไมโครเวฟ 1 นาที หลังจากเข้าในไมโครเวฟ 1 นาทีแล้วเอาออกมา เทลงในมะม่วงปั่นที่พักไว้ในอ่างผสม คนให้เข้ากันดี
     3. นำแก้วที่เราต้องการจะใส่ขนมมาเตรียมไว้ หากต้องการทำขนมที่มีลักษณะเฉียงก็ให้หาถาดที่มีหลุม จัดแก้วให้เอียง 45 องศา และหาผ้ามารองก้นแก้วจะได้ไม่เลื่อน จัดการเทส่วนผสมซอสมะม่วงลงในแก้วให้ถึงขอบ หรือจะหาแก้วสวย ๆ มาแล้วเทส่วนผสมซอสมะม่วงในลักษณะครึ่งแก้วก็ได้
     4. นำเข้าตู้เย็น แช่ไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง จนกว่าจะเซตตัว แล้วค่อยมาทำในส่วนที่เป็นครีมนมด้านบน
     5. ครีมนมด้านบนจะทำหลังจากที่ตัวซอสมะม่วงเซตตัวเรียบร้อยแล้ว โดยการนำนมสดใส่ในหม้อเล็ก เทผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ (1 ซอง) ลงในนม แล้วคนให้เข้ากันดี ไม่ต้องตั้งไฟ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที พอครบเวลาเราจะใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน เปิดเตาไฟอ่อน ๆ คนให้น้ำตาลละลายดี ไม่ต้องให้เดือด เติมกลิ่นวานิลลาและเกลือลงไปคนให้เข้ากันดี ปิดเตา ยกลง
     6. นำครีมหรือวิปปิ้งครีม เทลงในอ่างผสม จากนั้นเรานำครีมนมที่เพิ่งยกลงมาจากเตา เทผสมลงไปและคนให้เข้ากันจากนั้นจะนำแก้วหรือภาชนะที่ใส่ส่วนผสมแรกที่เป็นมะม่วงออกจากตู้เย็น จะเห็นว่ามะม่วงเซตตัวแล้ว ไม่แข็งเหมือนวุ้น จะยังคงความนิ่มหยุ่น ๆ เด้ง ๆ เทส่วนผสมที่สองที่เป็นครีมลงในถ้วยให้เต็ม จะได้พานาคอตต้า 7 แก้วนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะเซตตัว
     7. ระหว่างรอก็มาจัดการกับมะม่วงที่จะตกแต่งด้านบน จะหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือจะหาช้อนกลม ๆ มาทำเป็นครึ่งวงกลมก็ตามชอบ หาใบสะระแหน่มาไว้ตกแต่งด้วย จะได้ดูสวยงามน่ากินยิ่งขึ้น
     8. หลังจากทุกอย่างเซตตัว ตกแต่งด้วยมะม่วงกับใบสะระแหน่

ดูวิธีทำ พานาคอตต้ามะม่วง เพิ่มเติมคลิก

10. มะม่วงเบาแช่อิ่ม

เมนูมะม่วงคลายร้อน

          ใครซื้อมะม่วงเบาตุนไว้เยอแยะ ลองแบ่งมาทำมะม่วงเบาแช่อิ่มกันดีไหม วิธีทำไม่ยุ่งยาก รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ และที่สำคัญเก็บไว้กินได้นานอีกด้วยค่ะ

ส่วนผสม มะม่วงเบาแช่อิ่ม

  • มะม่วงเบาดิบ
  • น้ำปูนใส (สำหรับแช่มะม่วง)
  • เกลือเม็ด
  • น้ำตาลทรายแดง 500 กรัม
  • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร

วิธีทำมะม่วงเบาแช่อิ่ม

     1. ปอกเปลือกมะม่วงเบา ผ่าครึ่งแล้วเอาเม็ดออก (หรือผ่าซีก) นำไปล้างให้สะอาด ใส่อ่างผสมเตรียมไว้
     2. นำมะม่วงไปแช่ลงในน้ำปูนใส 1 คืน เพื่อให้มะม่วงกรอบ จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด
     3. นำมะม่วงที่แช่น้ำปูนใสแล้วไปดองในน้ำเกลือ (นำถุงใส่น้ำวางทับลงไปด้านบนด้วยเพื่อให้มะม่วงไม่ลอบขึ้นมาและโดนน้ำเกลือทั่วทุกชิ้น) แช่ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปล้างน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
     4. ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายและเหนียวข้นเป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็น
     5. นำมะม่วงเบาลงไปแช่ในน้ำเชื่อม ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด ทิ้งไว้ 2 คืน จากนั้นนำไปแช่เย็น พร้อมเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ มะม่วงเบาแช่อิ่ม เพิ่มเติมคลิก

11. บิงซูมะม่วงง่าย ๆ

          เอาใจคนอยู่หอหรือคอนโดกับเมนูบิงซูสุดง่าย สูตรนี้ใส่โยเกิร์ตกับนมเปรี้ยวทำเป็นเกล็ดน้ำแข็ง เติมนมข้นหวานหน่อย ท็อปด้วยมะม่วงสุก

ส่วนผสม บิงซูมะม่วง

  • นมเปรี้ยว
  • โยเกิร์ต 2 ถ้วย
  • มะม่วงน้ำดอกไม้
  • เยลลี่
  • นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่ก็ได้ หรือราดน้ำผึ้งตามชอบ)

วิธีทำบิงซูมะม่วง

     1. นำนมเปรี้ยวใส่ถ้วย ตามด้วยโยเกิร์ต นมข้น ผสมทุกสิ่งให้เข้ากัน เทใส่ลงถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซในตู้เย็น 1 คืน
     2. หั่นมะม่วงเป็นลูกเต๋า ใครจะใช้สตรอว์เบอร์รี หรือกีวีก็ได้
     3. นำนมแช่แข็งออกมา ใช้ช้อนค่อย ๆ ขูดเป็นเกล็ด ถ้าบ้านใครมีเครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็นำไปปั่นได้ ตักใส่ภาชนะ แต่งด้วยเยลลี่กับมะม่วง สุดท้ายราดนมข้น

ดูวิธีทำ บิงซูมะม่วง เพิ่มเติมคลิก

12. น้ำมะม่วงเลมอนเนด (Mango Lemonade)

          เติมความสดชื่นกับน้ำมะม่วงเลมอนเนด ทีเด็ดคือใส่น้ำมะนาวตัดเลี่ยน ถ้าใครไม่ชอบรสหวานก็ไม่ต้องเติมน้ำตาลนะคะ แต่งด้วยใบสะระแหน่

ส่วนผสม น้ำมะม่วงเลมอนเนด

  • มะม่วงสุกปอกเปลือกหั่นชิ้น 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
  • น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำแข็ง
  • ใบสะระแหน่ สำหรับแต่ง

วิธีทำน้ำมะม่วงเลมอนเนด

     1. ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในชาม นำเข้าไมโครเวฟจนน้ำตาลละลาย พักไว้ให้เย็น
     2. ใส่มะม่วง น้ำเชื่อม และน้ำมะนาวลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ น้ำมะม่วงเลมอนเนด เพิ่มเติมคลิก

13. ลาสซี่มะม่วง (Mango Lassi)

          เกิดมาก็อยากให้ลองเมนูลาสซี่มะม่วงสักครั้ง สูตรนี้อร่อยตรงที่จับโยเกิร์ตไปปั่นกับมะม่วงสุก เติมนมสดเพิ่มความกลมกล่อม

ส่วนผสม ลาสซี่มะม่วง

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ออนซ์
  • เนื้อมะม่วงสุก 4 ออนซ์
  • ซอสมะม่วงเข้มข้น (ในสูตรนี้ใช้ Kesar Mango Pulp แบบกระป๋องจากประเทศอินเดีย)
  • นมสด 1/4 ถ้วย (หรือฮาฟแอนด์ฮาฟครีม)
  • น้ำแข็ง 1 ถ้วย
  • น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ (หรือน้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ)

      หมายเหตุ : ซอสมะม่วงเข้มข้นชนิดกระป๋อง หรือ Kesar Mango Pulp สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้

วิธีทำลาสซี่มะม่วง

     1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (เวลาในการปั่นขึ้นอยู่กับเครื่องปั่นแต่ละเครื่อง)
     2. ตกแต่งแก้ว โดยเทซอสมะม่วงลงในไปในแก้วก่อนแล้วเอียงแก้วไปมาให้สวยงามตามชอบ จากนั้นเทลาสซี่ที่ปั่นไว้ลงไป ราดทับด้วยซอสมะม่วงอีกครั้ง แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ (หรือจะโรยถั่วพิสตาชิโอลงไปก็ได้ตามชอบ)

ดูวิธีทำ ลาสซี่มะม่วง เพิ่มเติมคลิก

14. น้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก

           สายสุขภาพต้องโดนกับเมนูน้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก จับน้ำแร่หมักกับมะม่วงและเบอร์รี

ส่วนผสม น้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก

  • มะม่วงสุก หั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ แช่แข็ง 1 ถ้วยตวง
  • มิกซ์เบอร์รีแช่แข็ง 1/2 ถ้วยตวง
  • เลมอนสไลซ์ 1 ผล
  • น้ำแร่ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำน้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก

  1. นำมะม่วงสุก มิกซ์เบอร์รี และเลมอนใส่ในกระบอกแก้วหรือขวดโหล ใช้ช้อนกดผลไม้ให้พอมี น้ำซึมออกมา
  2. ใส่น้ำแร่ลงไปจนเต็มปิดฝาให้แน่น
  3. นำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน ใช้ดื่มในช่วงเช้าหรือระหว่างวัน

 

ดูวิธีทำ น้ำหมักผลไม้มะม่วงสุก เพิ่มเติมคลิก

15. สมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด

          จากที่เคยทำสมูทตี้มะม่วงเพียว ๆ ลองเติมอะโวคาโดหวานมันลงไปหน่อยดีไหม เพิ่มโยเกิร์ตกับนมสดลงไปด้วย แต่งด้วยอัลมอนด์สไลซ์

ส่วนผสม สมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด

  • อะโวคาโด 1/2 ถ้วยตวง
  • เนื้อมะม่วงสุกแช่แข็ง 1 ถ้วยตวง
  • นมสด 1 ถ้วยตวง
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • อัลมอนด์สไลซ์ (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำสมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด

     ​​◆ นำส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นอัลมอนด์) ปั่นจนละเอียด รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยอัลมอนด์สไลซ์ พร้อมดื่ม

ดูวิธีทำ สมูทตี้มะม่วงกับอะโวคาโด เพิ่มเติมคลิก

          ว้าว ! เมนูมะม่วงคลายร้อนช่วยให้สดชื่นได้ตั้งหลายเมนู ที่สำคัญไม่ต้องทิ้งมะม่วงสุกให้เสียดายของด้วย เอาล่ะ… ขอทำไอศกรีมมะม่วงของโปรดก่อนนะคะ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 เมนูมะม่วงคลายร้อน สูตรอร่อยหลากสไตล์หวานฉ่ำรับซัมเมอร์ อัปเดตล่าสุด 28 มีนาคม 2565 เวลา 10:12:47 29,429 อ่าน
TOP
x close