กลิ่นหอมฟุ้งทั่วบ้านกับหลากสูตรอาหารใส่น้ำปลา จะเอาไปทอดน้ำปลา ผัดน้ำปลา แช่น้ำปลา ต้มน้ำปลา หรือจิ้มน้ำปลาก็อร่อย พ่วงวิธีทำน้ำปลาพริกรสจัดจ้าน
เอ่ยถึงเมนูหอมน้ำปลา เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องนึกถึงเมนูหมูทอดน้ำปลาเป็นอันดับต้น ๆ สูตรนี้ใช้หมูสามชั้นหมักกับน้ำปลาและเครื่องปรุงรส คลุกกับแป้งทอดกรอบ แค่นี้ก็อร่อยแล้วค่ะ
ส่วนผสม หมูทอดน้ำปลา
• หมูสามชั้น 500 กรัม
• น้ำปลาอย่างดี 3-4 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น (เล็กน้อย)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ผงปรุงรส (เล็กน้อย)
• แป้งชุบทอด 5-7 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเย็น
• น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
• น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น (เล็กน้อย)
วิธีทำหมูทอดน้ำปลา
1. ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูให้ทั่ว หมักหมูกับน้ำปลา พริกไทยป่น และผงปรุงรสหมู เติมแป้งชุบทอด และไข่ไก่ลงไปนวดให้เข้ากัน ระหว่างนวดหมูให้ค่อย ๆ เติมน้ำเย็นลงไปนวดด้วย หมักทิ้งไว้ 30 นาที
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ (กะให้ท่วมชิ้นหมู) ใส่น้ำส้มสายชู และเกลือเล็กน้อยลงในน้ำมันพืช (เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันกระเด็นและไม่ให้หมูติดกระทะขณะทอด)
3. เปิดไฟแรง พอน้ำมันร้อนให้นำเนื้อหมูลงทอดทีละด้านจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูทอดน้ำปลา สูตรหมูทอดสุดฟิน ทำง่ายสมชื่อเมนูหมู
+++++++++++++++++
2. ปีกไก่ทอดน้ำปลา
หลังจากกินหมูทอดน้ำปลาไปเมื่อเช้า ตอนเที่ยงลองเปลี่ยนมาทำเมนูปีกไก่ทอดน้ำปลาดีไหม เริ่มจากหมักปีกไก่กับน้ำปลา พอครบเวลาก็เอาไปทอดจนสุก
ส่วนผสม ปีกไก่ทอดน้ำปลา
• ปีกไก่ 500 กรัม
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช สำหรับทอด
วิธีทำปีกไก่ทอดน้ำปลา
1. หั่นครึ่งปีกไก่เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ ใส่ชามผสม เตรียมไว้
2. หมักไก่กับน้ำปลาแล้วเคล้าผสมให้เข้ากันจนทั่วชิ้นไก่ หมักทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟแรง รอจนน้ำมันร้อนจัด จากนั้นนำไก่ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ปีกไก่ทอดน้ำปลา เมนูไก่ทอดง่าย ๆ ในราคาประหยัด
+++++++++++++++++
3. สันคอหมูทอดน้ำปลา
ใครไม่กลัวอ้วนก็เปลี่ยนจากใช้หมูเนื้อแดงทอดน้ำปลาเป็นเมนูสันคอหมูทอดน้ำปลา สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อหมูแซมมันหน่อย ๆ หอมกลิ่นน้ำปลา เคี้ยวนุ่มกินเพลินหนักมาก
ส่วนผสม สันคอหมูทอดน้ำปลา
• สันคอหมูสามชั้น (ล้างและหั่นเป็นชิ้นหนาตามต้องการ) 500 กรัม
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำสันคอหมูทอดน้ำปลา
1. จิ้มหมูให้ทั่วทั้งชิ้นเพื่อให้น้ำปลาเข้าถึงเนื้อหมูได้เร็วขึ้น ใส่น้ำปลาคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ 15 นาที
2. เอาหมูลงไปทอดให้สุกเหลือง จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สันคอหมูทอดน้ำปลา เมนูหมูทอดกลิ่นหอมอร่อยแบบไม่สิ้นคิด
+++++++++++++++++
4. หมูสามชั้นทอดน้ำปลา
อ้วนก็ยอมขอนำเสนอเมนูหมูสามชั้นทอดน้ำปลา สูตรจาก อาหารง่าย ๆ สไตล์ Rita สูตรนี้หมักหมูกับน้ำปลา เพิ่มความกรอบจากแป้งทอดกรอบ พอทอดเสร็จหั่นชิ้นกินกับข้าวสวยอิ่มท้อง
ส่วนผสม หมูสามชั้นทอดน้ำปลา
• หมูสามชั้น 1/2 กิโลกรัม
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• แป้งทอดกรอบ หรือแป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันหมู 1 ถ้วยตวง
วิธีทำหมูสามชั้นทอดน้ำปลา
1. เทน้ำปลาลงในเนื้อหมู คลุกเคล้าให้เข้ากันจนกว่าน้ำปลาจะซึมเข้าไปในเนื้อหมูจนหมด แล้วหมักไว้เป็นเวลา 30 นาที
2. พอหมักหมูได้ที่แล้วก็นำออกมาคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่ว
3. เทน้ำมันลงหม้อแล้วเปิดไฟแรงสุด พอใส่เนื้อหมูหมดก็ปรับเป็นไฟกลาง พลิกไปมาจนกว่าเนื้อหมูจะสุก
4. พอเนื้อหมูสุกได้ที่แล้ว ให้พลิกเอาด้านที่เป็นหนังลงทอด เพื่อให้หนังมีความกรอบมากขึ้น หั่นชิ้น จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือซอสพริก จะนำไปใส่ในเมนูผัดผัก หรือผัดกะเพราก็อร่อย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูสามชั้นทอดน้ำปลา สูตรไม่อมน้ำมัน รับประกันความกรอบ
+++++++++++++++++
5. ปลาอินทรีทอดน้ำปลา
เอาใจคนชอบกินปลากับเมนูหอมน้ำปลาจานเพื่อสุขภาพ ขอนำเสนอเมนูปลาอินทรีทอดน้ำปลา สูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับปลาหมักกับน้ำปลาและเครื่องปรุงอื่น ๆ ก่อนเอาไปทอดคลุกแป้งมันกันติดกระทะ สุดท้ายราดน้ำปลาอีกรอบ
ส่วนผสม ปลาอินทรีทอดน้ำปลา
• ปลาอินทรี
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
• พริกไทย
• เกลือป่น
• แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลาอย่างดี
• น้ำตาลปี๊บ
วิธีทำปลาอินทรีทอดน้ำปลา
1. หมักปลาอินทรีกับน้ำปลา น้ำตาลทราย พริกไทย และเกลือป่นเล็กน้อย ใช้ส้อมหรืออุปกรณ์จิ้มเนื้อ จิ้มเนื้อปลาให้ทั่ว (เพื่อให้เครื่องเทศซึมเข้าเนื้อปลา) หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
2. นำปลามาคลุกแป้งมันให้ทั่วชิ้น (ที่ใช้แป้งมันเพื่อไม่ให้เนื้อปลาติดกระทะเวลาทอด ถ้าไม่มีแป้งมันก็ไม่ต้อง แต่ระวังไม่ให้ปลาติดกระทะ)
3. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปลาลงทอดแล้วเบาลงเป็นไฟปานกลาง ทอดจนปลาลอยขึ้นมาแล้วพลิกอีกด้านลงไปทอดให้เหลืองสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
4. ผสมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน คนผสมจนละลาย ชิมรสตามชอบ (เค็มนำหวานตาม)
5. ตักน้ำมันที่เหลือจากการทอดปลาเมื่อครู่ออกให้เหลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พอกระทะร้อน ใส่น้ำปลาที่ผสมลงไปแล้วนำปลาใส่ลงไปในกระทะ พลิกกลับด้านซ้าย-ขวาเล็กน้อย ตักเนื้อปลาใส่จาน เสิร์ฟพร้อมมะนาวและผักสลัด
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ปลาอินทรีทอดน้ำปลา เมนูปลาเลอค่าที่พลาดไม่ได้
+++++++++++++++++
และแล้วก็มาถึงเมนูเอาใจคนชอบกินเนื้อนั่นคือ เมนูเนื้อทอดน้ำปลา สูตรจาก คุณ swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับเนื้อวัวหมักกับน้ำปลาและพริกไทย เสร็จแล้วเอาไปทอดจนสุกหอม
ส่วนผสม เนื้อทอดน้ำปลา
• เนื้อวัว 500 กรัม
• น้ำปลาอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทย
• น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำเนื้อทอดน้ำปลา
1. หั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นยาว ๆ (สูตรนี้ใช้เนื้อวัวที่หั่นไว้แล้วสำหรับนำไปทำหมูแดดเดียว)
2. หมักเนื้อวัวกับน้ำปลาและพริกไทย เคล้าผสมให้เข้ากัน (ระวังอย่าใส่น้ำปลาเยอะไม่อย่างนั้นรสชาติจะออกมาเค็มมาก แนะนำให้ลองชิมน้ำปลาก่อน เพราะน้ำปลาแต่ละยี่ห้อความเค็มแตกต่างกัน)
3. หมักเนื้อทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง (เนื้อเริ่มจะแห้งเพราะในตู้เย็นมีความชื้นต่ำ ถ้าเอาไปตากแดดก็จะได้เป็นเนื้อแดดเดียว)
4. ใส่น้ำมันลงในกระทะให้เยอะพอสมควร นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไปทอดทีละครึ่งหนึ่ง
5. ทอดประมาณ 9 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนื้อทอดน้ำปลา ร้อน ๆ หอมอร่อยกับส่วนผสม 3 อย่าง
+++++++++++++++++
7. ปลากะพงทอดน้ำปลา
อิ่มทั้งครอบครัวแน่นอนถ้าได้กินเมนูปลากะพงทอดน้ำปลา สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine ปลากะพงทอดราดน้ำปลาหอม ๆ เสิร์ฟกับเครื่องเคียงแน่น ๆ ใครอยากลองทำตามจัดเลยค่ะ
ส่วนผสม ปลากะพงทอด
• ปลากะพง (ควรใช้ปลากะพงตัวขนาดกลาง หรือหนักประมาณ 750 กรัม)
• น้ำมันพืช สำหรับทอด
ส่วนผสม น้ำสำหรับราดปลา
• น้ำปลาอย่างดี 1 ส่วน
• น้ำตาลทราย 1 ส่วน
• น้ำเปล่า 1 ส่วน
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด
• รากผักชี 1/2 ถ้วย
• กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1/2 ถ้วย
• พริกขี้หนูสวน (ไม่เด็ดก้าน) 25 เม็ด
• ใบสะระแหน่ 20 ใบ
• น้ำปลา 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
• น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
ส่วนผสม ยำส้มโอ
• ส้มโอยีให้เป็นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
• พริกขี้หนูสวน 3 เม็ด
• พริกจินดาแดง 3 เม็ด
• กระเทียมไทย 3 กลีบ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ
• มะเขือเทศราชินี 2 ลูก
• ถั่วฝักยาว (หั่นฝอย) 5 กรัม
ส่วนผสม ยำมะม่วง
• มะม่วงเปรี้ยวหั่นฝอย 100 กรัม
• หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• แครอทหั่นฝอย 10 กรัม
• ผักชี 10 กรัม
• ใบสะระแหน่ 10 กรัม
• พริกจินดาแดงซอย 2 เม็ด
• น้ำจิ้มซีฟู้ด 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ยำมะเขือยาว
• มะเขือยาวเผา ลอกเปลือก 100 กรัม
• หอมแดงซอย 10 กรัม
• ตะไคร้ซอย 5 กรัม
• ต้นหอมซอย 5 กรัม
• ผักชีฝรั่งซอย 3 กรัม
• ผักชีเด็ดใบ 15 ใบ
• ใบสะระแหน่ 15 ใบ
• พริกขี้หนูสวนซอย 3 เม็ด
• กุ้ง 2 ตัว
• หมึกกล้วยลวก 1 ตัว
• น้ำจิ้มซีฟู้ด 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ผัดมะเขือยาว
• มะเขือยาวหั่นชิ้นเล็ก ทอดน้ำมัน 100 กรัม
• เต้าเจี้ยว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทย 1 ช้อนชา
• ใบโหระพา 5 กรัม
วิธีทำปลากะพงทอดน้ำปลา 5 เครื่องเคียง
1. วิธีทำน้ำปลาสำหรับราดปลา โดยนำส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน ต้มให้น้ำตาลละลาย พักไว้
2. วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด โดยตำรากผักชี กระเทียม พริกขี้หนู และใบสะระแหน่ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ คนให้เข้ากัน
3. วิธีทำยำส้มโอ โดยคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
4. วิธีทำยำมะม่วง โดยคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
5. วิธีทำยำมะเขือยาว โดยคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
6. วิธีทำผัดมะเขือยาว โดยตั้งกระทะให้ร้อน ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
7. วิธีทำปลากะพงทอดน้ำปลา โดยตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วมตัวปลา (ควรใช้ปลากะพงตัวขนาดกลาง หรือหนักประมาณ 750 กรัม) รอจนน้ำมันร้อนใส่ปลาลงทอด หรี่ไฟลงปานกลาง ทอดจนหนังปลาเหลืองกรอบเป็นสีทอง ตักขึ้นแล้วดัดตัวปลาให้งอบนตะแกรง พักไว้ จัดปลาใส่จาน ราดน้ำปลาที่เตรียมไว้บนตัวปลาให้ทั่ว เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงทั้ง 5 อย่าง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ปลากะพงทอดน้ำปลา กับเครื่องเคียง 5 อย่าง จัดเซตอร่อยคุ้มดูหรูหรา
+++++++++++++++++
8. ปลาช่อนทอดน้ำปลา
มาต่อกันที่อีกเมนูหอมน้ำปลาย่อยง่ายนั่นคือ ปลาช่อนทอดน้ำปลา จับปลาหมักกับซอสหอยนางรมและซอสปรุงรส เอาไปทอดจนสุก ราดน้ำปลาตบท้าย
ส่วนผสม ปลาช่อนทอดน้ำปลา
• ปลาช่อน 1 ตัว
• ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช (สำหรับทอดปลา)
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
• มะม่วงเปรี้ยวสับ หรือขูด (โรยหน้า)
• ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน)
• ถั่วลิสงคั่ว (โรยหน้า)
ส่วนผสม น้ำยำ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูทุบพอแตก (ตามชอบ)
• มะเขือเทศ (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 1/2 ลูก
• หอมแดงซอยบาง 1 หัว
• กระเทียม (ฝานบาง) 1 ช้อนโต๊ะ
• ผักชี (โรยหน้า)
วิธีทำน้ำยำ
ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลทรายละลาย โรยหน้าด้วยผักชี ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
วิธีทำปลาช่อนน้ำปลา
1. ทำความสะอาดปลาช่อน ผ่าครึ่งจากด้านบนตัวปลา (โดยให้ท้องติดกัน) เตรียมไว้
2. ผสมซอสหอยนางรม และซอสปรุงรสเข้าด้วยกัน นำปลาลงคลุกให้ทั่ว จากนั้นนำไปคลุกในแป้งข้าวโพดให้ทั่ว เตรียมไว้
3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ (ให้ท่วมตัวปลา) ใช้ไฟแรงรอจนน้ำมันร้อนจัด ใส่ปลาช่อนลงทอดจนด้านนอกเหลืองกรอบ (อย่านานเกินไปอาจจะไหม้ได้) ลดไฟเบาลง ทอดต่อจนเนื้อปลาสุก และกรอบทั่วทั้งตัว ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เตรียมไว้
4. ใส่น้ำมันเล็กน้อยลงในกระทะ ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา คนผสมให้เข้ากันจนเดือด ตักราดลงบนตัวปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่กับน้ำยำ โรยด้วยมะม่วงเปรี้ยว ขึ้นฉ่าย และถั่วลิสง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ปลาช่อนทอดน้ำปลา เมนูปลาทอดกลิ่นหอมเตะจมูกพ่วงสูตรน้ำยำแซ่บ
+++++++++++++++++
9. หมูสามชั้นอบน้ำปลา
จากที่เคยทำหมูสามชั้นทอดน้ำปลาแม้จะอร่อยแต่ดูเหมือนอมน้ำมันนะเนี่ย ลองเปลี่ยนมาทำเมนูหมูสามชั้นอบน้ำปลา สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน จับหมูหมักกับน้ำปลาแล้วคลุกแป้งทอดกรอบ สุดท้ายเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม หมูสามชั้นอบน้ำปลา
• เนื้อหมูสามชั้น (เลือกแบบที่มีมันน้อยที่สุด)
• น้ำปลา สำหรับหมักพอประมาณ
• แป้งทอดกรอบ เล็กน้อย
วิธีทำหมูสามชั้นอบน้ำปลา
1. นำหมูสามชั้นไปหมักกับน้ำปลา ทิ้งไว้ 20 นาที
2. พอครบเวลาแล้วใส่แป้งทอดกรอบลงไปคลุกกับเนื้อหมูเล็กน้อย
3. จากนั้นนำไปอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที
ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว (สูตรน้ำมะขาม)
• น้ำมะขามเปียก
• น้ำตาลปิ๊บ
• ซีอิ๊วขาว
• พริกป่น
• ข้าวคั่ว
• ตะไคร้ซอย
• ผักชีฝรั่งซอย
วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว
1. ใส่น้ำมะขามลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลปี๊บและซีอิ๊วขาวลงไป เคี่ยวให้เดือด ชิมรสตามใจชอบ ยกลงจากเตา ปิดไฟ รอจนส่วนผสมเย็น
2. เติมพริกป่น ข้าวคั่ว ตะไคร้ซอย และผักชีฝรั่งซอยลงไป พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูสามชั้นอบน้ำปลา น้ำจิ้มแจ่ว เมนูอ้วนน้อย ๆ อร่อยล้ำ
+++++++++++++++++
เมนูผัดน้ำปลา
10. กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
ใครอยากกินผักเพิ่มวิตามิน ลองมาทำเมนูกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ใส่กระเทียมเพิ่มกลิ่นหอม ผัดพอผักสุกหรือจนผักนิ่มตามชอบ ทำง่ายไม่ยุ่งยากบอกเลย
ส่วนผสม กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา
• กะหล่ำปลี 1 หัว
• กระเทียม 2 หัว
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช เล็กน้อย (สำหรับผัด)
วิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา
1. หั่นกะหล่ำปลีเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วดึงแยกออกจากกัน นำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม
3. ใส่กะหล่ำปลีลงไปในกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) ให้ทิ้งไว้ 10 วินาทีก่อน จากนั้นค่อย ๆ ผัดให้กะหล่ำปลีโดนความร้อนทั่ว ๆ แต่ยังไม่ต้องสุกมาก
4. ราดน้ำปลาลงไปรอบ ๆ ขอบกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) รอจนมีกลิ่นน้ำปลาหอม ๆ ลอยขึ้นมาก่อน แล้วค่อยผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน พอผัดจนกะหล่ำปลีสุกแล้ว ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา อาหารไทยสุดง่าย อร่อยได้ไม่ยุ่งยาก
+++++++++++++++++
11. กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
มาต่ออีกเมนูกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา สูตรจาก คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ผัดกะหล่ำปลีทั้งใบไม่ต้องหั่น รับรองว่าถ้าทำตามจะได้กลิ่นหอมมาก กินข้าวหมดหม้อก็คราวนี้
ส่วนผสม กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
• กะหล่ำปลี
• น้ำปลา
วิธีทำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
1. แกะกะหล่ำปลีเป็นใบ ๆ แล้วฉีกหรือหั่นให้ชิ้นเล็กลงหน่อย ล้างน้ำสะอาด เตรียมไว้
2. ทุบกระเทียมสักสองหัว ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมทุบลงไปก่อน
3. ใส่กะหล่ำปลีที่เตรียมไว้ลงไป แล้วยังไม่ต้องรีบผัด ทิ้งไว้สักพัก นับ 1-10 ค่อยเริ่มผัดได้ ผัดพอให้ใบกะหล่ำโดนน้ำมัน และกระทะทั่วกัน ผัดกะหล่ำปลีรวมให้เข้ามาอยู่ตรงกลางกระทะ พักไว้นับ 1-5
4. จากนั้นใส่น้ำปลาไปที่ขอบกระทะให้รอบ ๆ กระทะ อย่าให้ถูกตัวกะหล่ำ นี่แหละเคล็ดลับที่ถูกเปิดโปง น้ำปลาจะไหลลงไปใต้กะหล่ำปลี เสียงดังฉ่า ๆ น้ำปลาจะไหม้ เสร็จแล้วอย่าเพิ่งผัด ปล่อยให้น้ำปลาสุกหอม ไหม้กระทะเล็กน้อย นับ 1-10 เอาผักกะหล่ำปลีผัดไปเช็ดคราบน้ำปลาตามขอบกระทะไปเรื่อย ๆ สักพัก ประมาณ 20 วินาที พอกลิ่นหอมมาก ๆ แล้ว ปิดเตา ตักขึ้น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เมนูเพื่อชีวิตกับเคล็ดลับที่ถูกเปิดโปง
+++++++++++++++++
เมนูแช่น้ำปลา
12. กุ้งแช่น้ำปลา
ใครกำลังมองหากับแกล้มเมนูหอมน้ำปลาอยู่ละก็ ขอนำเสนอกุ้งแช่น้ำปลา สูตรจาก คุณแม่ปันปราย สูตรนี้จับกุ้งแช่โซดาเพิ่มความกรอบเด้ง ราดพริกน้ำปลาสุดแซ่บ
ส่วนผสม กุ้งแช่น้ำปลา
• กุ้งสดตัวใหญ่ขนาดพอดีคำ ประมาณ 3 ขีด
• พริกขี้หนูหั่นเล็ก (ปริมาณตามชอบ)
• กระเทียมประมาณ 1 หัว
• มะม่วงเปรี้ยว ขูดเป็นเส้น
• ตะไคร้ซอย (ปริมาณตามชอบ)
• มะนาว
• สะระแหน่
• มะระหั่นแว่น
• โซดา 1 ขวด สำหรับแช่กุ้ง
วิธีทำกุ้งแช่น้ำปลา
1. ล้างทำความสะอาด แล้วปอกเปลือกพร้อมตัดหัวกุ้งให้เรียบร้อย ผ่าหลังดึงเส้นสีดำออก จากนั้นแผ่กุ้งออก นำกุ้งที่ผ่าเรียบร้อยไปแช่ด้วยน้ำโซดาประมาณ 2 นาที นำขึ้นมาล้างน้ำแล้วนำไปแช่ตู้เย็น
2. ทำน้ำราดกุ้งแช่น้ำปลา โดยโขลกพริกกระเทียมให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยมะนาว เกลือ น้ำปลา และน้ำตาลทรายนิดหน่อย (ใครชอบเปรี้ยวมากก็ใส่มะนาวตามชอบ)
3. จัดกุ้งวางเรียงเป็นคำ ๆ วางตะไคร้ไว้บนตัวกุ้งให้สวยงาม เสร็จแล้วก็ราดน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ลงไป
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำกุ้งแช่น้ำปลา เปรี้ยวแซ่บ อร่อยเด็ดเข็ดฟัน
+++++++++++++++++
จากที่เคยสั่งปูไข่ดองกินตามร้าน วันหยุดมาลองทำเองสักตัวดีไหม ขอนำเสนอเมนูปูไข่ดองน้ำปลา สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine จับปูดองกับน้ำปลาและเครื่องสมุนไพร แช่ในตู้เย็นคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นก็ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดจัดเสิร์ฟ
ส่วนผสม ดองปู
• ปูทะเลไข่ 1 ตัว
• ตะไคร้ (โขลกหยาบ) 1 ช้อนโต๊ะ
• ข่า (โขลกหยาบ) 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกจินดา (โขลกหยาบ) 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมไทย (โขลกหยาบ) 1 ช้อนโต๊ะ
• เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา พอให้ท่วมตัวปู
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด
• น้ำมะนาวแป้น 6 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมไทย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำปูไข่ดอง
1. ล้างปูทั้งตัวให้สะอาด ใส่ส่วนผสมดองปูลงไป คลุกให้ทั่ว แช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน
2. นำปูออกจากตู้เย็น ล้างให้สะอาดอีกครั้ง แกะกระดองออกแล้วผ่าเป็น 2 ชิ้นหรือชิ้นเล็กลงตามชอบ
3. ทำน้ำจิ้มซีฟู้ด โดยนำส่วนผสมทั้งหมดมาตำรวมกัน ราดบนตัวปูที่ผ่าไว้ให้ชุ่ม กินเคียงกับผักสดตามชอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ปูไข่ดอง สูตรดองน้ำปลาโบราณพ่วงวิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด
+++++++++++++++++
เมนูต้มน้ำปลา
14. ไก่ต้มน้ำปลา
ใครอยากได้วิธีทำไก่ต้มน้ำปลาสำหรับวันหยุด แค่เตรียมชิ้นส่วนไก่ตามชอบแล้วเอาไปต้มพอสุก จากนั้นก็เอาไปต้มกับเครื่องสมุนไพร พร้อมกับปรุงรสด้วยน้ำปลา เสิร์ฟกับน้ำจิ้มรสแซ่บ
ส่วนผสม ไก่ต้มน้ำปลา
• น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น (หรือไก่ส่วนอื่น ๆ ตามชอบ)
• รากผักชี 3 ราก
• ข่า 1/2 หัว
• ตะไคร้ 1 ต้น
• มะกรูด 3 ใบ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
• น้ำเปล่า
ส่วนผสม น้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลา
• พริกขี้หนู
• กระเทียม
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำมะนาว
• น้ำปลา
วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา
1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไก่ลงไปลวกให้พอหนังตึง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่จานพักไว้
2. ใส่รากผักชี ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงในหม้อ วางชิ้นไก่ที่ลวกไว้ทับลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำ จากนั้นเทน้ำเปล่าใส่ลงไป กะให้พอท่วมชิ้นไก่ เปิดไฟอ่อน ๆ ปิดฝาต้มทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที
3. ทำน้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลา โดยซอยพริกและกระเทียมแล้วนำไปโขลกเข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลาลงไปคนผสมให้ละลายเข้ากัน ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย เตรียมไว้
4. เมื่อต้มไก่จนสุกแล้ว ตักไก่ใส่จาน บั้งที่เนื้อไก่เล็กน้อยแล้วตักน้ำซุปราดลงไป แต่งให้สวยงาม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลาที่เตรียมไว้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไก่ต้มน้ำปลา เมนูแบบบ้าน ๆ ใครว่าทำยาก
+++++++++++++++++
เมนูจิ้มน้ำปลา
15. ยำมะนาวน้ำปลาหวาน
ขอบายเครื่องดื่มกาแฟแก้ง่วงชั่วคราว เพราะวันนี้อยากทำเมนูยำมะนาวน้ำปลาหวาน สูตรจาก คนขี้อวด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แค่ปอกเปลือกมะนาวแล้วหั่นชิ้น เอามายำกับหอมแดง ใส่พริกสดน้ำตาลทราย และน้ำปลา
ส่วนผสม ยำมะนาว
• มะนาวคลาน (มะนาวลูกใหญ่)
• พริกขี้หนู
• หอมแดง
• น้ำตาลทราย
• น้ำปลา
วิธีทำยำมะนาว
1. ปอกเปลือกมะนาวแล้วก็ฝาน (หั่น) จากนั้นก็ซอยหอมแดงแล้วโยนลงไปในกะละมังได้เลย
2. ใส่พริกซอยลงไป ตามด้วยมะนาวที่หั่นไว้ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยน้ำปลา คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำมะนาวน้ำปลาหวาน เมนูแก้ง่วงเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน
+++++++++++++++++
16. สะเดาน้ำปลาหวาน
หลังจากหาซื้อสะเดาน้ำปลาหวานไม่ได้ก็อดกินไปโดยปริยาย แต่วันนี้พอดีเจอสะเดาขายในท้องตลาดเลยขอซื้อมาทำสักครั้ง จับสะเดาไปต้มจนสุก กินกับน้ำปลาหวานรสเด็ด ถ้ามีปลาย่างด้วยยิ่งแจ่ม
ส่วนผสม สะเดาน้ำปลาหวาน
• สะเดา (ล้างให้สะอาด)
• น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
• น้ำปลา 1/4 ถ้วย
• หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
• หอมแดงเจียว (สำหรับโรยหน้า)
• พริกขี้หนูแห้งทอด (สำหรับโรยหน้า)
• ปลาดุกย่าง หรือปลาย่าง (ตามชอบ)
วิธีลวกสะเดา
วิธีที่ 1 ต้มน้ำด้วยไฟแรงจนน้ำเดือดพล่าน ใส่สะเดาลงต้ม (กดให้จมน้ำ) ประมาณ 3 นาที แล้วรีบตักขึ้นใส่ลงแช่ในน้ำเย็นจัด (น้ำใส่น้ำแข็ง) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
วิธีที่ 2 เทน้ำเดือด ๆ ลงในอ่างที่ใส่สะเดาไว้ แล้วแช่ทิ้งไว้สักครู่ เทน้ำทิ้ง สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
วิธีทำน้ำปลาหวาน
1. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาลงในหม้อหรือกระทะ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนข้นและเหนียว ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้พออุ่น
2. ใส่หอมแดงซอยลงไปคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยหอมแดงเจียว และพริกขี้หนูแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมสะเดาที่ลวกไว้ และปลาดุกย่าง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สะเดาน้ำปลาหวาน เมนูเปรี้ยวปากของวัยเก๋า
+++++++++++++++++
17. เคล็ดลับทำน้ำปลาพริก
ปิดท้ายด้วยวิธีทำน้ำปลาพริก สูตรจาก เฟซบุ๊ก Rin Silpachai สูตรนี้ใส่พริกซอย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย เพิ่มความหอมจากกระเทียม
ส่วนผสม น้ำปลาพริก
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกขี้หนูสวนซอยบาง ๆ 4-5 เม็ด
• กระเทียมสดซอย หรือ หอมแดงซอย 2-3 กลีบ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• น้ำปลา 1/4 ถ้วย
วิธีทำน้ำปลาพริก
1. ใส่น้ำตาลทรายลงในถ้วย ตามด้วยน้ำปลา บีบน้ำมะนาวตามลงไปแล้วคนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย
2. ใส่พริกขี้หนูซอยและกระเทียมซอยลงไปในน้ำมะนาวคนผสมให้เข้ากัน (เคล็ดลับ : แช่พริกทิ้งไว้ในน้ำมะนาวก่อนประมาณ 1 นาที วิธีนี้จะช่วยทำให้สีของพริกไม่คล้ำ)
3. พอครบ 1 นาทีค่อยเติมน้ำปลาลงไป คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เคล็ดลับทำน้ำปลาพริก ทำอย่างไรให้สีพริกสดใหม่อยู่เสมอ
อยากได้กลิ่นน้ำปลาหอม ๆ บ้างจัง อูย… ท้องร้องหิวแล้ว ขอตัวไปทำหมูทอดน้ำปลากินกับข้าวสวยร้อน ๆ ก่อนนะคะ ส่วนเมนูอื่น ๆ เข้าคิวรอวันต่อไปจ้า
