11 เมนูช็อกโกแลตง่าย ๆ สำหรับ คนพิเศษ

     1. ทำแป้งทาร์ตโดยนำเนยใส่ในชามทนความร้อนและตั้งใส่ลงในหม้อที่มีน้ำร้อน รอให้เนยละลาย
     2. นำบิสกิตมาบดให้ละเอียด ใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน นำไปกรุในพิมพ์ทาร์ตถอดก้นได้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เซนติเมตร กรุบิสกิตให้แน่นแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที
     3. ทำครีมดาร์กช็อกโกแลตโดยนำเนยและวิปปิ้งครีมใส่หม้อ แล้วนำไปตั้งไฟกลางค่อนไปทางอ่อน รอให้เนยละลาย และวิปปิ้งครีมร้อน เทใส่ในอ่างผสมที่มีดาร์กช็อกโกแลตอยู่ คนให้ทุกอย่างเข้ากัน เทส่วนผสมของดาร์กช็อกโกแลตลงไปในตัวฐานทาร์ตที่เตรียมไว้แล้วเกลี่ยให้ทั่ว และนำไปแช่ในตู้เย็นให้เซตตัวอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป แกะออกจากพิมพ์
     4. ทำส่วนผสมสำหรับแต่งโดยตีครีมและน้ำตาลไอซิ่งให้ตั้งยอด แล้วนำไปใส่ในถุงบีบ นำครีม สตรอว์เบอร์รี และยอดอ่อนใบกะเพรา มาตกแต่งตัวทาร์ตก่อนจัดเสิร์ฟ
 

     1. นำนมข้นหวานเข้าไมโครเวฟ กำลังไฟ 800 วัตต์ ประมาณ 30 วินาที เพื่อที่ผงช็อกโกแลตจะได้ละลายง่าย ๆ
     2. ร่อนผงช็อกโกแลตลงในนมข้นหวาน ใช้วิธีค่อย ๆ ร่อน และแบ่งการร่อนสลับกับการคนให้เข้ากัน ประมาณ 3-4 รอบ เพราะจะหนืดมาก หลังจากที่ช็อกโกแลตเริ่มหนืดให้สวมถุงมือ และคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันเพราะใบพายเริ่มคนไม่ไปแล้ว ปั้นเป็นทรงสี่เหลี่ยมเพื่อรอตัดภายหลังโดยใช้พลาสติกรองและคลุมทับ เอาไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
เคล็ดไม่ลับคือ พยายามใช้อุ้งมือกับหลังมือนวด ไม่เช่นนั้นช็อกโกแลตจะติดนิ้วหนึบ ๆ ได้อีก
     3. พอครบเวลาเอาช็อกโกแลตมาวางบนผงโกโก้ในจานที่เตรียมไว้ และโรยด้านบนจะได้ไม่ติดมือเรา ตัดแบ่งเป็นชิ้น ขนาดตามต้องการ เสร็จแล้วมาปั้นเป็นก้อนกลม หรือรูปทรงตามต้องการ จากนั้นก็ไปคลุกกับผงโกโก้ต่อ น้ำหนักอยู่ที่ 19 กรัมต่อชิ้น ได้ทั้งหมด 16 ชิ้น ถ้าทำขายแนะนำให้อยู่ที่ประมาณ 15 กรัม เสร็จแล้วเก็บในภาชนะมิดชิด นำไปแช่ในตู้เย็นเก็บได้ประมาณ 1 อาทิตย์
 

     1. ทาเนยละลายที่ถ้วยฟอยล์บาง ๆ ให้ทั่ว และโรยแป้งอเนกประสงค์บาง ๆ เตรียมไว้
     2. นำเนยกับดาร์กช็อกโกแลตใส่ในชามทนความร้อนแล้วตั้งบนหม้อที่มีน้ำร้อน คนจนเนยกับช็อกโกแลตละลาย เตรียมไว้
     3. นำไข่แดง ไข่ไก่ และน้ำตาลทราย ใส่ในอ่างผสม ตีให้เข้ากันจนไข่ไก่เป็นสีนวล เทส่วนผสมเนยช็อกโกแลตที่ละลายแล้วลงไป คนผสมให้เข้ากัน ร่อนแป้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่ถุงบีบ บีบใส่ถ้วยฟอยล์ที่เตรียมไว้
     4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 8-9 นาที นำออกจากเตาแล้วจัดเสิร์ฟได้
 

     1. นำเนย น้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายแดง ใส่ลงในอ่างผสม ตีผสมจนละลายเข้ากัน
     2. ใส่ไข่ไก่กับกลิ่นวานิลลาลงไป ตีให้เข้ากัน
     3. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือ ลงไปตีผสมให้เข้ากัน
     4. ใส่ดาร์กช็อกโกแลตชิพกับวอลนัทลงไปผสมในส่วนของเนย คนผสมให้เข้ากัน ตัก 1/4 ถ้วยของแป้งคุกกี้ ต่อคุกกี้ 1 ชิ้น เสร็จแล้วปั้นให้คุกกี้เกือบกลม จะได้ประมาณ 8 ชิ้น แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที เป็นอย่างต่ำก่อนเข้าอบ
     5. พอครบเวลานำแป้งคุกกี้ไปอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-18 นาที นำออกมาพักไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนเสิร์ฟ
 

     1. ทาเนยบาง ๆ ที่พิมพ์เค้กทรงกลมขนาด 8 นิ้ว หลังจากนั้นโรยน้ำตาลทรายบาง ๆ ให้ทั่วพิมพ์เค้ก เคาะน้ำตาลส่วนเกินออก แล้วนำกระดาษรองอบมารองที่ก้นพิมพ์เค้ก เตรียมไว้
     2. นำช็อกโกแลต เนย และน้ำมันพืช ใส่ในอ่างผสมทนความร้อน แล้วนำไปวางบนหม้อที่มีน้ำร้อนเพื่อละลายช็อกโกแลตและเนย เตรียมไว้
     3. ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง โดยแยกไข่แดงใส่ถ้วยผสมเล็กและแยกไข่ขาวใส่อ่างผสมใหญ่ แล้วตอกไข่ไก่ที่เหลือ 1 ฟองลงไปในถ้วยไข่แดง
     4. ร่อนผงโกโก้ใส่ในส่วนของไข่แดง ตีผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
     5. ตีผสมเนยช็อกโกแลตที่ละลายแล้วจนเข้ากัน เทส่วนผสมไข่แดงลงไป ตีให้เข้ากัน เตรียมไว้
     6. ตีผสมไข่ขาว 2 ฟองที่แยกไว้จนขึ้นฟู เติมน้ำตาลทราย โดยแยกน้ำตาลเทใส่ 3 ครั้ง ใช้ความเร็วที่ระดับ 1 ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ตักส่วนของไข่ขาวประมาณ 2 ครั้งลงไปผสมกับส่วนผสมช็อกโกแลตละลาย ผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์เค้กที่เตรียมไว้
     7. นำไปอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที หรือจนเค้กสุก พักให้เย็นแล้วนำออกจากพิมพ์ หั่นเป็นชิ้น จัดเสิร์ฟด้วยวิปปิ้งครีมหรือไอศกรีมจะอร่อยมากขึ้น
 

     1. เอาสตรอว์เบอร์รีมาล้างให้สะอาด หั่นตามยาว แต่อย่าหั่นบางมาก เพราะพออบแล้วน้ำออกหมด ถ้าบางไปจะแกะไม่ออก นำไปอบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ประมาณ 60-90 นาที ผลไม้อื่นก็อบแบบนี้เหมือนกัน ใครมีผลไม้อบแห้งสำเร็จรูปแล้วก็ใช้ได้ หรือว่าไม่อยากใช้ผลไม้ก็ข้ามข้อนี้ไปเลย
     2. หั่นช็อกโกแลตให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อง่ายต่อการละลาย ใครมีช็อกโกแลตแบบเม็ดก็ใช้แบบนั้นได้เลย ไม่ต้องหั่น เสร็จแล้วละลายช็อกโกแลตบนอ่างน้ำร้อน ห้ามตั้งบนหม้อแล้วละลายกับเตาแก๊สตรง ๆ เพราะช็อกโกแลตจะไหม้และเสียได้ ให้ต้มน้ำร้อนแทน แล้วเอาช็อกโกแลตใส่ภาชนะทนร้อน ซ้อนบนอ่างน้ำร้อนอีกรอบหนึ่ง คนจนช็อกโกแลตละลายเป็นเนื้อเดียวกันให้หมด เทลงพิมพ์ขนาดตามต้องการ โดยให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ถ้าบางไปเวลาตัดอาจจะแตกได้ เทแล้วพยายามเกลี่ยช็อกโกแลตเข้ามุมของพิมพ์ โดยพยายามให้มีความหนาเท่ากันทุกด้าน เขย่าเล็กน้อยให้หน้าขนมเรียบ
     3. ตกแต่งตามต้องการ ใครอยากใส่อะไรใส่ลงไปเลยจ้า เมื่อแต่งเรียบร้อยแล้วนำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา รอจนช็อกโกแลตแข็ง เมื่อช็อกโกแลตแข็งแล้ว นำมาตัดตามขนาดที่ต้องการ โดยต้องจุ่มมีดในน้ำร้อน และเช็ดก่อนตัดทุกครั้ง จะทำให้ตัดได้ง่าย และได้รอยที่สวยงาม ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยไวท์ช็อกโกแลต อยากเขียนข้อความหรือวาดรูปอะไรก็สามารถทำได้เลย
 

     1. นำช็อกโกแลตเทใส่ในชามอะลูมิเนียมหรือชามกระเบื้อง นำไปวางบนหม้อต้มน้ำร้อน เปิดไฟปานกลางรอ 3-5 นาที คนจนช็อกโกแลตละลายเป็นเนื้อเดียว
     2. ยกชามใส่ช็อกโกแลตลงมาวางบนโต๊ะ คนต่อไปเรื่อย ๆ จนช็อกโกแลตละลายหมด ถ้ายังมีช็อกโกแลตที่เป็นก้อนให้นำชามกลับไปวางบนหม้อน้ำร้อนใหม่
     3. ตักช็อกโกแลตที่คนจนหายร้อนแล้วหยอดลงบนแผ่นซิลิโคนครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ พยายามหยอดให้เป็นทรงกลมเรียงจนเต็มแผ่นซิลิโคน
     4. โรยหน้าช็อกโกแลตด้วยถั่วและผลไม้แห้งตามชอบ นำไปแช่เย็นอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
 

     1. ตวงเนยถั่ว น้ำผึ้ง และเนยเค็ม ใส่ลงในหม้อขนาดเล็ก ตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเข้ากัน
     2. เทช็อกโกแลตลงไปผสมกับส่วนผสมเนยถั่ว คนไปเรื่อย ๆ จนช็อกโกแลตละลายและส่วนผสมเข้ากัน ยกลงจากเตา
     3. ตวงซีเรียลผสมกับผลไม้แห้งและถั่วตามชอบ เทลงไปผสมกับส่วนผสมช็อกโกแลตคนให้เข้ากัน
     4. ตักส่วนผสมใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ สามารถตกแต่งด้านบนเพิ่มด้วยช็อกโกแลตชิพหรือถั่วต่าง ๆ ตามชอบ นำไปแช่เย็นไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดของช็อกโกแลต)
 

     1. ทำฐานชีสเค้กโดยเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่าง วางถาดใส่น้ำในเตาอบด้วย เตรียมไว้
     2. บดคุกกี้หรือแครกเกอร์ให้ละเอียดผสมกับเนยละลายและผงโกโก้ แล้วนำมากรุลงในพิมพ์ นำแช่เย็นเพื่อให้อยู่ตัว หรือใส่ในเตาอบประมาณ 10 นาที นำออกมาพักให้เย็น
     3. ทำช็อกโกแลตตุ๋นโดยนำช็อกโกแลตไปละลายด้วยไมโครเวฟ หรือใช้วิธีตุ๋นบนไอน้ำ
     4. หั่นครีมชีสเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในโถผสมแล้วใช้ตะกร้อตีให้ขึ้นฟู พอได้ครีมชีสสีอ่อน ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายป่น ตามด้วยใส่แป้ง ตีต่อจนส่วนผสมเนียน ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนครบ ใส่กลิ่นวานิลลา ใส่วิปปิ้งครีม หรือซาวร์ครีม ตีผสมให้เข้ากันจนเนียนดี ขั้นตอนสุดท้ายใส่ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนผสมด้วยพายยางแบบเบามือ อย่าลืมปาดก้นอ่างขึ้นมาด้วย
หมายเหตุ : การตีครีมชีสให้เนียนค่อนข้างยากทีเดียว ดังนั้น ต้องหมั่นปาดรอบ ๆ อ่างด้วย ถ้าเป็นครีมชีสสูตรใส่น้ำมะนาว ควรตีให้เนียนก่อนแล้วค่อยใส่น้ำมะนาว ไม่เช่นนั้นจะทำให้ครีมชีสจับตัวเป็นก้อนทรายเล็ก ๆ ทำให้ละลายตัวยาก
     5. ตักใส่พิมพ์ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ อย่าให้น้อยเกินไป ในขณะที่อบไม่ต้องตกใจหากครีมชีสฟูขึ้นมามาก หรือปริ่ม ๆ ขอบพิมพ์ เพราะเวลาสุกและเย็นตัวแล้วครีมชีสจะยุบตัวลงอีกเยอะ จะไม่สวย
     6. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว สำหรับชีสเค้กทุกชนิด อย่าลืมถาดใส่น้ำวางไว้ในเตาอบด้วย ตกแต่งด้วยแยมเบอร์รี หรือคิทแคทบอล และแต่งด้วยสีแดงของสตรอว์เบอร์รี หรือใช้สตรอว์เบอร์รีสดชนิดพันธุ์สีขาว
 

     1. หากใครมีเครื่องปั่นก็นำทุกอย่างลงไปปั่นจนเข้ากัน หรือจะบี้และคนจนกว่าจะได้เนื้อที่เป็นครีม ๆ ก็ได้
     2. เทใส่ถ้วยที่ต้องการ ในสูตรประมาณ 3 แก้ว จากนั้นนำไปแช่เย็น พอจะกินก็ค่อยมาใส่ท็อปปิ้งที่ชอบอย่างเช่น กรีกโยเกิร์ตสูตรไขมันต่ำ และโรยด้วยกราโนลา
 

     1. ตีแป้งข้าวโอ๊ต กล้วย ไข่ไก่ ไข่ขาว และวานิลลาเข้าด้วยกัน
     2. ปั่นเสร็จแบ่ง 2 ส่วน ส่วนแรกปล่อยไว้ อีกส่วนใส่ผงโกโก้ เทแต่ละสีลงกระทะทำทาโกะยากิ สักพักใส่กราโนลาไว้ตรงกลาง แล้วก็พลิกเหมือนทำทาโกะยากิ ตกแต่งอีกนิดหน่อย เสร็จแล้ว
 

          ส่งท้ายด้วย วิธีทำเค้กช็อกโกแลต หลากหลายเมนูที่คัดสรรมาโดยเฉพาะเนื่องในโอกาสพิเศษ สำหรับ คนพิเศษ ในช่วงเวลาที่ขาดความหวานไม่ได้ กับความหลากหลายเมนูที่คุณจำเป็นต้องรู้ ต้องทำให้เป็น ใน 11 เมนูเค้ก ช็อกโกแลต สูตรขนมอร่อยเข้มข้นเหมาะกับทุกโอกาสพิเศษ << กดเข้าไปดูกันเลย