ในวันนี้เราก็มีเมนูชีสเค้กมาฝากอีกหนึ่งเมนู นั่นก็คือ ช็อกโกแลตชีสเค้ก (Chocolate Cheese Cake) สูตรจากคุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับชีสเค้กด้วยดาร์กช็อกโกแลต แต่งด้วยช็อกโกแลตบอล หรือแยมบลูเบอร์รี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน ส่วนใครที่ชอบกินช็อกโกแลตห้ามพลาด อย่างนั้นเรามาดูวิธีทำ ช็อกโกแลตชีสเค้กกันทางนี้เลยจ้า
ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก (ครัสท์ Crust)
• แครกเกอร์ หรือคุกกี้บดละเอียด 150 กรัม
• เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
• ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ฐานชีสเค้ก
• อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่าง วางถาดใส่น้ำในเตาอบด้วย เตรียมไว้
• บดคุกกี้หรือแครกเกอร์ให้ละเอียดผสมกับเนยละลายแล้วนำมากรุลงในพิมพ์ แล้วนำแช่เย็นเพื่อให้อยู่ตัว หรือใส่ในเตาอบประมาณ 10 นาที นำออกมาพักให้เย็น
• นำช็อกโกแลตไปละลายด้วยไมโครเวฟ หรือใช้วิธีตุ๋นบนไอน้ำ
ส่วนผสม ครีมชีสช็อกโกแลต
• ครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) 500 กรัม
• น้ำตาลทราย (ชนิดละเอียด) 1 ถ้วย
• แป้งข้าวโพด หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ (ขนาดใหญ่) 3 ฟอง
• วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
• กลิ่นวานิลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ดาร์กช็อกโกแลต (ความเข้มข้น 75%) 250 กรัม
วิธีทำ ครีมชีสช็อกโกแลต
• หั่นครีมชีสเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในโถผสมแล้วใช้ตระกร้อตีให้ขึ้นฟู
• พอได้ครีมชีสสีอ่อน ๆ ทะยอยใส่น้ำตาลทรายป่น ตามด้วยใส่แป้ง ตีต่อจนส่วนผสมเนียน
• ใส่ไข่ไก่ที่ละฟองจนครบ ใส่กลิ่นวานิลา ใส่วิปปิ้งครีม หรือซาวด์ครีม ตีผสมให้เข้ากันจนเนียนดี
• ขั้นตอนสุดท้ายใส่ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนผสมด้วยพายยางแบบเบามือ อย่าลืมปาดก้นอ่างขึ้นมาด้วยนะคะ
• การตีครีมชีสให้เนียนค่อนข้างยากทีเดียว ดังนั้นต้องหมั่นปาดรอบ ๆ อ่างด้วย ถ้าเป็นครีมชีสสูตรใส่น้ำมะนาว ควรตีให้เนียนก่อนแล้วค่อยใส่น้ำมะนาว ไม่เช่นนั้นจะทำให้ครีมชีสจับตัวเป็นก้อนทรายเล็ก ๆ ทำให้ละลายตัวยาก
• การตักใส่พิมพ์ควรตักใส่ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ อย่าให้น้อยเกินไป ในขณะที่อบไม่ต้องตกใจหากครีมชีสฟูขึ้นมามาก หรือปริ่ม ๆ ขอบพิมพ์ เพราะเวลาสุกและเย็นตัวแล้วครีมชีสจะยุบตัวลงอีกเยอะ จะไม่สวย
• นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว สำหรับชีสเค้กทุกชนิด อย่าลืมถาดใส่น้ำวางไว้ในเตาอบด้วยนะคะ
• ครั้งนี้เปิดเตาอบเพื่อเช็คความสุกนานเกินไป อุณหภูมิเปลี่ยนเลยทำให้หน้าชีสเค้กย่นเล็กน้อย
• ทุกครั้งที่เคยทำหน้าตาออกมาหน้าจะเนียนกิ๊กแบบนี้ค่ะ
• จริง ๆ แล้วตัวคนทำเองชอบทานช็อกโกแลตชีสเค้กแบบไม่ตกแต่งหน้าตาใด ๆ บางครั้งก็ราดด้วยช็อกโกแลตกานาชที่มีรสขมเล็กน้อย แบบนั้นอร่อยดีนะ แต่คนอยากกินขอให้เพิ่มหน้าบลูเบอร์รีฟิลลิ่งราดไปด้วย จำใจต้องจัดให้ พอดีมีบลูเบอร์รีแช่แข็งชนิดลูกใหญ่ในคลังแสง สามารถนำสนองได้ทันที
• หากท่านสนใจอยากลองทำแยมบลูเบอร์รี (Homemade Blueberry Filling) ลองเสิร์ชหาสูตรตำนานห้องก้นครัวของคุณ anadiar ง่ายและประหยัดมาก
• คนทำเองชอบกินแบบนี้ หน้าตาโล้น ๆ ไม่ต้องแต่งหน้าแบบใด ๆ
• แต่ส่วนใหญ่คนไทยมักติดการกินชีสเค้กแบบราดหน้าด้วยแยมรสชาติต่าง ๆ แต่งเติมท็อปปิ้งด้วยบรรดาแยมเบอร์รีต่าง ๆ จริงแล้วกินแบบนี้ได้อรรถรสกว่านะ หลานชายซื้อคิทแคทบอลแบบนี้มาฝาก นำมาตกแต่งหน้าตาให้เข้มกันนิดหน่อย
• ช็อกโกแลตสีหมองคล้ำกับแยมบลูเบอร์รีสีออกดำคล้ำ แต่งเติมด้วยสีแดงของสตรอว์เบอร์รีกันหน่อย
• หรือใช้สตรอว์เบอร์รีสดชนิดพันธุ์สีขาว
• สรุปว่า ท่านชอบกินแบบใดกันบ้างคะ หน้าตาสวยหวานแบบนี้
• หรือเรียบง่ายแต่ดูขรึม คมเข้มแบบนี้
อื้อหือ ต้องบอกเลยว่า มาถึงตรงนี้แล้วเกิดอยากจะทำกินเสียเดี๋ยวนี้เลย ใครอยากลองทำช็อกโกแลตชีสเค้ก เบเกอรี่ในดวงใจ ที่ทั้งดูดี ชวนอร่อยแบบนี้กินก็ต้องลองนะคะ ทำไปมอบเป็นของขวัญแทนความหวานให้แฟนได้แบบน่าประทับใจเลยล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก (ครัสท์ Crust)
• แครกเกอร์ หรือคุกกี้บดละเอียด 150 กรัม
• เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
• ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ฐานชีสเค้ก
• อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่าง วางถาดใส่น้ำในเตาอบด้วย เตรียมไว้
• บดคุกกี้หรือแครกเกอร์ให้ละเอียดผสมกับเนยละลายแล้วนำมากรุลงในพิมพ์ แล้วนำแช่เย็นเพื่อให้อยู่ตัว หรือใส่ในเตาอบประมาณ 10 นาที นำออกมาพักให้เย็น
• นำช็อกโกแลตไปละลายด้วยไมโครเวฟ หรือใช้วิธีตุ๋นบนไอน้ำ
ส่วนผสม ครีมชีสช็อกโกแลต
• ครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) 500 กรัม
• น้ำตาลทราย (ชนิดละเอียด) 1 ถ้วย
• แป้งข้าวโพด หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ (ขนาดใหญ่) 3 ฟอง
• วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
• กลิ่นวานิลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ดาร์กช็อกโกแลต (ความเข้มข้น 75%) 250 กรัม
วิธีทำ ครีมชีสช็อกโกแลต
• หั่นครีมชีสเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในโถผสมแล้วใช้ตระกร้อตีให้ขึ้นฟู
• พอได้ครีมชีสสีอ่อน ๆ ทะยอยใส่น้ำตาลทรายป่น ตามด้วยใส่แป้ง ตีต่อจนส่วนผสมเนียน
• ใส่ไข่ไก่ที่ละฟองจนครบ ใส่กลิ่นวานิลา ใส่วิปปิ้งครีม หรือซาวด์ครีม ตีผสมให้เข้ากันจนเนียนดี
• ขั้นตอนสุดท้ายใส่ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนผสมด้วยพายยางแบบเบามือ อย่าลืมปาดก้นอ่างขึ้นมาด้วยนะคะ
• การตีครีมชีสให้เนียนค่อนข้างยากทีเดียว ดังนั้นต้องหมั่นปาดรอบ ๆ อ่างด้วย ถ้าเป็นครีมชีสสูตรใส่น้ำมะนาว ควรตีให้เนียนก่อนแล้วค่อยใส่น้ำมะนาว ไม่เช่นนั้นจะทำให้ครีมชีสจับตัวเป็นก้อนทรายเล็ก ๆ ทำให้ละลายตัวยาก
• การตักใส่พิมพ์ควรตักใส่ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ อย่าให้น้อยเกินไป ในขณะที่อบไม่ต้องตกใจหากครีมชีสฟูขึ้นมามาก หรือปริ่ม ๆ ขอบพิมพ์ เพราะเวลาสุกและเย็นตัวแล้วครีมชีสจะยุบตัวลงอีกเยอะ จะไม่สวย
• นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว สำหรับชีสเค้กทุกชนิด อย่าลืมถาดใส่น้ำวางไว้ในเตาอบด้วยนะคะ
• ครั้งนี้เปิดเตาอบเพื่อเช็คความสุกนานเกินไป อุณหภูมิเปลี่ยนเลยทำให้หน้าชีสเค้กย่นเล็กน้อย
• ทุกครั้งที่เคยทำหน้าตาออกมาหน้าจะเนียนกิ๊กแบบนี้ค่ะ
• จริง ๆ แล้วตัวคนทำเองชอบทานช็อกโกแลตชีสเค้กแบบไม่ตกแต่งหน้าตาใด ๆ บางครั้งก็ราดด้วยช็อกโกแลตกานาชที่มีรสขมเล็กน้อย แบบนั้นอร่อยดีนะ แต่คนอยากกินขอให้เพิ่มหน้าบลูเบอร์รีฟิลลิ่งราดไปด้วย จำใจต้องจัดให้ พอดีมีบลูเบอร์รีแช่แข็งชนิดลูกใหญ่ในคลังแสง สามารถนำสนองได้ทันที
• หากท่านสนใจอยากลองทำแยมบลูเบอร์รี (Homemade Blueberry Filling) ลองเสิร์ชหาสูตรตำนานห้องก้นครัวของคุณ anadiar ง่ายและประหยัดมาก
• คนทำเองชอบกินแบบนี้ หน้าตาโล้น ๆ ไม่ต้องแต่งหน้าแบบใด ๆ
• แต่ส่วนใหญ่คนไทยมักติดการกินชีสเค้กแบบราดหน้าด้วยแยมรสชาติต่าง ๆ แต่งเติมท็อปปิ้งด้วยบรรดาแยมเบอร์รีต่าง ๆ จริงแล้วกินแบบนี้ได้อรรถรสกว่านะ หลานชายซื้อคิทแคทบอลแบบนี้มาฝาก นำมาตกแต่งหน้าตาให้เข้มกันนิดหน่อย
• ช็อกโกแลตสีหมองคล้ำกับแยมบลูเบอร์รีสีออกดำคล้ำ แต่งเติมด้วยสีแดงของสตรอว์เบอร์รีกันหน่อย
• หรือใช้สตรอว์เบอร์รีสดชนิดพันธุ์สีขาว
• สรุปว่า ท่านชอบกินแบบใดกันบ้างคะ หน้าตาสวยหวานแบบนี้
• หรือเรียบง่ายแต่ดูขรึม คมเข้มแบบนี้
อื้อหือ ต้องบอกเลยว่า มาถึงตรงนี้แล้วเกิดอยากจะทำกินเสียเดี๋ยวนี้เลย ใครอยากลองทำช็อกโกแลตชีสเค้ก เบเกอรี่ในดวงใจ ที่ทั้งดูดี ชวนอร่อยแบบนี้กินก็ต้องลองนะคะ ทำไปมอบเป็นของขวัญแทนความหวานให้แฟนได้แบบน่าประทับใจเลยล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก