ท่ามกลางความโศกเศร้าคนไทยยังมีน้ำใจให้กันเสมอ ใครอยากทำขนมแจกแก่พี่น้องชาวไทยที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 20 สูตรขนมทำแจกฟรีที่สนามหลวง ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้รักชาติ เค้กชิฟฟ่อน โดนัทอบ และสูตรขนมอื่น ๆ อีกเพียบ ทำเสร็จแพ็กให้เรียบร้อยแล้วเดินทางมาทำดีเพื่อพ่อด้วยกันเลยค่ะ
1. คุกกี้รักชาติ
ขอปรบมือรัว ๆ ให้กับคุกกี้รักชาติที่มีไอเดียเก๋มาก น่าทำแจกสุด ๆ สูตรจาก คุณ gugugun สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับคุกกี้ใส่สีสลับชั้นเหมือนลายธงชาติ กลิ่นหอมเนยมากเลยจ้า
ส่วนผสม คุกกี้รักชาติ
• ผงอัลมอนด์ 130 กรัม
• แป้งเค้ก 185 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 185 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• นมผง 40 กรัม
• เนยเค็ม 240 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายป่น 175 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• กลิ่นเนยนม 1 ช้อนชา
• สีผสมอาหารแบบผง ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน และสีขาว
วิธีทำคุกกี้รักชาติ
• 1. อบผงอัลมอนด์แล้วพักให้เย็น เตรียมไว้
• 2. ร่อนแป้งเค้ก แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และนมผงเข้าด้วยกัน จากนั้นนำผงอัลมอนด์มาผสมให้เข้ากัน
• 3. ตีเนยกับเกลือจนเนยขึ้นฟูแล้วค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายป่นลงไปตีจนส่วนผสมขึ้นฟูขาว
• 4. ตีไข่ไก่กับกลิ่นเนยนมให้เข้ากันแล้วค่อย ๆ เทลงไปในส่วนผสมเนยตีให้เข้ากันอีกครั้ง
• 5. ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ตีให้เข้ากัน แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน เพื่อใส่สีผสมอาหารสีแดง สีน้ำเงิน และสีขาวลงไป สำหรับสีน้ำเงินให้ใส่แป้งปริมาณเป็น 2 เท่าของสีแดงและสีขาว นวดให้เข้ากัน
• 6. ตักแป้งแต่ละสีใส่ถุงพลาสติก รีดให้เป็นแผ่นแล้วนำแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที
• 7. นำแป้งแต่ละสีออกจากตู้เย็น ตัดถุงด้านข้าง นำแป้งที่รีดไว้มาวางทับสลับสีกันให้เป็นสีธงชาติ แล้วห่อด้วยถุงพลาสติกกดให้แบน ๆ ให้แต่ละเลเยอร์ติดกัน แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็นอีก 30 นาที
• 8. ใช้มีดหั่นตัดให้เป็นชิ้น ๆ แล้ววางลงในถาดอบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 20-25 นาที นำคุกกี้ออกมาผึ่งบนตะแกรงให้เย็น เก็บใส่ภาชนะที่ปิดสนิท
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คุกกี้รักชาติ สูตรการทำคุกกี้ลายธงชาติ ส่งคำขอบคุณแด่ทหารชายแดน
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
2. กราโนลาทาร์ต
อยากได้ขนมชิ้นเล็กพอดีคำไปแจกที่สนามหลวง ขอแนะนำกราโนลาทาร์ต สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine ทาร์ตชิ้นพอดีคำอัดแน่นไปด้วยกราโนลาเพิ่มความหอมหวานจากเนยถั่ว
ส่วนผสม แป้งพาย (สำหรับ 8 ชิ้น)
• แป้งเค้ก 170 กรัม
• เนยสดชนิดเค็ม หั่นเต๋าเล็ก แช่เย็น 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 22 กรัม
• เกลือป่น 0.5 กรัม
• นมข้นจืด 36 กรัม
ส่วนผสม ครีมเนยถั่ว
• ครีมชีส 126 กรัม
• เนยจืด 26 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 78 กรัม
• น้ำมะนาว 38 กรัม
• เนยถั่ว 116 กรัม
ส่วนผสม กราโนลา
• มูสลี่ 134 กรัม
• กล้วยน้ำว้าตากแห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก 84 กรัม
• เมล็ดฟักทอง กะเทาะเปลือกอบ 50 กรัม
• แครนเบอร์รีอบแห้ง 50 กรัม
• น้ำผึ้ง 50 กรัม
• เนยเค็ม 34 กรัม
วิธีทำกราโนลาทาร์ต
• 1. ทำแป้งพาย โดยผสมนมข้นจืด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้ละลาย พักให้เย็น
• 2. ผสมแป้งกับเนยให้เข้ากันจนมีลักษณะคล้ายเม็ดทราย จากนั้นเทส่วนผสมในข้อ 1 ลงไปแล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ 10 นาที กรุใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที
• 3. ทำครีมเนยถั่ว โดยใช้หัวตีใบไม้ตีครีมชีส และเนยให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลไอซิ่ง น้ำมะนาว และเนยถั่ว ตีต่อให้เข้ากันดี พักไว้
• 4. ทำกราโนลา โดยละลายเนยแล้วเติมน้ำผึ้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน พักให้เย็น ใส่มูสลี่ กล้วยน้ำว้าตากแห้ง เมล็ดฟักทอง และแครนเบอร์รีอบแห้ง คนผสมให้เข้ากัน
• 5. บีบครีมเนยถั่วลงไปให้ได้ครึ่งหนึ่งของทาร์ตแล้วตักส่วนผสมกราโนลาทับจนเต็ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กราโนลาทาร์ต เมนูธัญพืชกรุบกรอบหอมหวานมีประโยชน์
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
3. โดรายากิไส้ถั่วดำ
ลองเปลี่ยนมาทำขนมสไตล์ญี่ปุ่นเอาใจเด็ก ๆ กันบ้าง ยกตัวอย่างโดรายากิไส้ถั่วดำ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แป้งนุ่ม ๆ สอดไส้ถั่วดำกวน แพ็กใส่ถุงพร้อมแจกกันเลยจ้า
ส่วนผสม แป้งโดรายากิ
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนกินข้าว
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนกินข้าว
• แป้งเค้ก 100 กรัม (ร่อนผสมกับผงฟูเล็กน้อย)
• น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
ส่วนผสม ไส้ถั่วดำกวน
• ถั่วดำ 120 กรัม (แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน)
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• เนยสด
วิธีทำโดรายากิ
• 1. แช่ถั่วดำในน้ำทิ้งไว้ 1 คืน นำถั่วดำไปต้มจนนุ่มเสร็จแล้วใส่โถปั่น เติมน้ำลงไปพอท่วม ปั่นจนถั่วดำเนื้อเนียน เทใส่ภาชนะ
• 2. ทำถั่วดำกวน โดยใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำตาลทรายลงไป นำขึ้นตั้งไฟ พอกวนถั่วดำไปได้สักพัก ใส่เนยลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากันจนได้ลักษณะเหลวแต่ข้นหน่อย
• 3. ทำแป้งโดรายากิ โดยผสมไข่กับน้ำตาลทราย ตีให้ฟู ใส่กลิ่นวานิลลา น้ำผึ้ง แป้งเค้กร่อนแล้วกับผงฟู ตีพอส่วนผสมเข้ากันดี เติมน้ำเปล่า นำไปแช่ตู้เย็นไว้ 30 นาที
• 4. พอครบเวลาตักแป้งหยอดเป็นแผ่นวงกลมแบบแพนเค้กลงในกระทะ พอแป้งเริ่มมีฟองอากาศคือเริ่มสุกก็ให้พลิกกลับอีกด้าน ทอดจนแป้งสุกทั้งสองด้าน ตักใส่ภาชนะ
• 5. บีบไส้ถั่วดำกวนให้มีลักษณะนูน ๆ ลงไปตรงกลางแผ่นแป้งโดรายากิ แล้วก็เอาแป้งอีกแผ่นประกบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โดรายากิไส้ถั่วดำ ไส้แน่นแป้งนุ่มหวานน้อยอร่อยเต็มคำ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
4. โดรายากิไส้ถั่วแดง
เมื่อวานเพิ่งแจกโดรายากิไส้ถั่วดำ วันนี้ก็ลองเปลี่ยนเป็นไส้ถั่วแดงบ้างดีไหม ถ้าหากอยากประหยัดเวลาก็ใช้แป้งแพนเค้กสำเร็จรูปแทนก็ได้ค่ะ สูตรนี้ถั่วแดงหวานน้อยด้วยล่ะ
ส่วนผสม แป้งโดรายากิ
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
• น้ำผึ้ง 1/2 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
• น้ำ 50 มิลลิลิตร
• แป้งเค้ก 130 กรัม
• เนยสดสำหรับทากระทะ
ส่วนผสม ไส้ถั่วแดงกวน
• ถั่วแดงหลวง 250 กรัม
• น้ำต้มสุก 1 ลิตร
• น้ำตาลทราย 120 กรัม
วิธีทำไส้ถั่วแดงกวน
• 1. แช่ถั่วแดงในน้ำต้มสุกอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง หรือจนถั่วแดงนิ่ม
• 2. นำถั่วแดงพร้อมน้ำใส่ลงในหม้อ ต้มจนถัวแดงสุกนิ่ม พักไว้สักครู่จนอุ่น
• 3. เทถั่วแดงต้มสุกลงโถปั่น ปั่นจนละเอียด จากนั้นใส่น้ำตาลทราย ปั่นจนเข้ากัน
• 4. นำส่วนผสมถั่วแดงใส่ในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ กวนจนเหนียว ตักขึ้น พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้สำหรับทำเป็นไส้โดรายากิ
วิธีทำโดรายากิไส้ถั่วแดง
• 1. ทำแป้งโดรายากิ โดยตอกไข่ไก่ลงในอ่างผสม ตีไข่ไก่พอแตก เติมน้ำตาลทรายแดงและน้ำผึ้ง ตีผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมเนียนเข้ากัน และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน
• 2. ผสมน้ำกับเบกกิ้งโซดา คนให้เข้ากัน จากนั้นเทลงในส่วนผสมไข่ ตีผสมให้เข้ากัน
• 3. ร่อนแป้งเค้กลงในส่วนผสมไข่ คนผสมด้วยตะกร้อมือจนเป็นเนื้อเดียวกัน
• 4. ปิดอ่างผสมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นเปิดพลาสติกออก คนผสมด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันอีกครั้ง
• 5. ตั้งกระทะจนร้อน ทากระทะด้วยเนยบาง ๆ ตักส่วนผสมแป้งหยอดลงบนกระทะเป็นแผ่นวงกลม รอจนสุกทั้งสองด้าน ด้านละประมาณ 20 วินาที หรือจนแป้งเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นพักไว้
• 6. ตักไส้ถั่วแดงกวนวางลงตรงกลางของแผ่นแป้ง ประกบด้วยแป้งอีกแผ่น กดแป้งให้แน่นติดกัน จัดใส่จาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โดรายากิไส้ถั่วแดง ขนมหวานสุดโปรดของโดราเอมอน
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
5. เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
ในเมื่อมีขนมสำหรับเด็กแล้วลองมาทำขนมสำหรับผู้ใหญ่กันบ้างดีไหม ขอแนะนำเค้กชิฟฟ่อนกาแฟ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กัดไปได้กลิ่นกาแฟหอม ๆ นี่ถ้าได้กาแฟอีกแก้วฟินเลย
ส่วนผสม เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
• แป้งเค้ก 110 กรัม
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• เนสกาแฟ 3 in 1 จำนวน 2 ซอง
• น้ำตาลทราย 150 กรัม
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• นมสด 50 มิลลิลิตร (หรือน้ำเปล่า)
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• กลิ่นกาแฟ 1 ช้อนชา
• เนยละลาย 50 มิลลิลิตร
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
• พิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ (รองกระดาษ)
• อัลมอนด์สไลซ์
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
• 1. ผสมแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นเทผงกาแฟลงไป (หรือน้ำกาแฟ) เตรียมไว้
• 2. แยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน
• 3. ใส่น้ำตาลทรายครึ่งหนึ่งลงไปในชามไข่แดง คนผสมพอเข้ากัน เทนมสดลงไปคนผสมให้เข้ากัน
• 4. ใส่กลิ่นวานิลลาและกลิ่นกาแฟลงไป ตามด้วยเนยละลาย ตีผสมให้เข้ากัน
• 5. ร่อนส่วนผสมแป้งลงไป คนผสมแค่พอเข้ากัน เตรียมไว้
• 6. ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงในไข่ขาว เปิดเครื่องตีแป้ง ตามด้วยน้ำตาลทรายอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ตีจนไข่ขาวตั้งยอด
• 7. แบ่งส่วนผสมไข่ขาวเป็น 2 ส่วน ตักใส่ส่วนผสมแป้งแล้วคนผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน เทใส่ลงในพิมพ์ โรยด้วยอัลมอนด์สไลซ์แล้วหมุนพิมพ์ประมาณ 3-4 รอบ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ประมาณ 32 นาที
• 8. นำขนมออกจากเตาอบ ใช้มีดแซะข้าง ๆ พิมพ์แล้วคว่ำขนมออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษออก วางพักไว้บนตะแกรง ตัดเค้กเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรเค้กชิฟฟ่อน เค้กเนื้อฟูนุ่มรสชาติเทพทำเองได้
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
6. เค้กชิฟฟ่อนชาเขียว
เอาล่ะ… มาถึงขนมแสนอร่อยกินได้ทุกวัยกันเลย นี่ไงเค้กชิฟฟ่อนชาเขียว สูตรจาก เฟซบุ๊ก ห้องชา A Tea Room สูตรนี้ไม่ต้องทำบัตเตอร์ครีม ได้ลิ้มรสเนื้อเค้กชาเขียวเต็ม ๆ
ส่วนผสม เค้กชิฟฟ่อนชาเขียว (สำหรับ 8 ถ้วยมัฟฟิน ขนาด 7 ซม.)
• ไข่แดง 3 ฟอง
• น้ำตาลทราย (1) 30 กรัม
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 40 มิลลิลิตร
• แป้งเค้ก 70 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• ผงชาเขียวมัทฉะ 2 ช้อนชา
• ไข่ขาว 3 ฟอง
• น้ำตาลทราย (2) 40 กรัม
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนชาเขียว
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
• 2. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลทราย (1) ตีด้วยตะกร้อมือจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไปคนผสมจนเข้ากัน ตามด้วยน้ำเปล่า คนผสมต่อให้เข้ากัน
• 3. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และผงชาเขียวลงไป คนผสมจนเนียนเข้ากัน พักไว้
• 4. ตีไข่ขาวจนฟูขึ้นเล็กน้อย แบ่งน้ำตาลทราย (2) ใส่เป็น 2 ครั้ง แล้วตีต่อจนตั้งยอดแข็งเป็นเมอเเรงค์
• 5. ตักเมอแรงค์ประมาณ 1/3 ส่วนใส่ลงลงไปในส่วนผสมแป้งชาเขียว คนด้วยไม้พายจนเข้ากันดี แล้วใส่เมอแรงค์ไข่ขาวอีก 1/3 ส่วนลงไปคนผสมพอประมาณให้กลายเป็นลายหินอ่อน
เคล็ดลับ : การแบ่งใส่เมอแรงค์ไข่ขาว 1/3 ส่วนลงไปก่อนเพราะว่าส่วนไข่แดงมันข้นกว่าเมอแรงค์ จะได้ปรับให้เนื้อมันฟูขึ้นแล้วจะผสมกันได้ดีกว่าใส่ไปครั้งเดียว
• 6. จากนั้นเทส่วนผสมเมอแรงค์ชาเขียวกลับลงไปในส่วนผสมเมอแรงค์ที่เหลือ คนผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ตักใส่พิมพ์ นำเข้าอบประมาณ 20 นาที
• 7. นำเค้กออกจากเตาแล้วคว่ำเค้กลงบนตะแกรง (เค้กจะได้ไม่ยุบลง) พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรเค้กชิฟฟ่อน เค้กเนื้อฟูนุ่มรสชาติเทพทำเองได้
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
7. เค้กชิฟฟ่อนใบเตย
ถ้ากลัวคนรับแจกเบื่อเค้กชิฟฟ่อนชาเขียวก็มีอีกตัวเลือกนั่นคือ เค้กชิฟฟ่อนใบเตย สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน เนื้อเค้กสีเขียวหอมกลิ่นใบเตย ปาดบัตเตอร์ครีมตามชอบ ทำเป็นชิ้นสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้นะคะ
ส่วนผสม เค้กชิฟฟ่อนใบเตย
• แป้งเค้ก 275 กรัม
• แป้งข้าวโพด 15 กรัม
• ผงฟู 2+1/2 ช้อนชา
• ไข่แดง 11 ฟอง
• น้ำตาลทราย (1) 140 กรัม
• น้ำเปล่า 80 กรัม
• น้ำใบเตย 100 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 130 กรัม
• เกลือป่นละเอียด 1 ช้อนชา
• ไข่ขาว 12 ฟอง
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย (2) 220 กรัม
• สีผสมอาหารสีเขียว
• บัตเตอร์ครีม (วิธีทำบัตเตอร์ครีม)
• กระดาษสำหรับห่อเค้ก
• ถาดอบขนาด 11x15x2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนใบเตย
• 1. ทาถาดด้วยเนยขาว แล้วรองด้วยกระดาษไข ทาเนยขาวอีกครั้งจนทั่ว พักไว้
• 2. ร่อนแป้งเค้ก แป้งข้าวโพด และผงฟูเข้าด้วยกันลงในอ่างผสม เตรียมไว้
• 3. ผสมไข่แดง น้ำตาลทราย (1) น้ำเปล่า น้ำใบเตย กลิ่นวานิลลา น้ำมันพืช และเกลือป่น ผสมจนส่วนผสมละลายดี เทลงในส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ คนด้วยตะกร้อมือจนเข้ากัน พักไว้
• 4. ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ด้วยหัวตีตะกร้อโดยใช้ความเร็วสูงสุดของเครื่องพอขึ้นฟู ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทราย (2) ทีละน้อยจนหมด ตีต่อจนส่วนผสมตั้งยอดอ่อน ค่อย ๆ นำส่วนผสมไข่ขาวแบ่งลงผสมกับส่วนผสมในข้อที่ 3 จนหมด เติมสีผสมอาหารสีเขียวลงไป ตะล่อมเบา ๆ ด้วยตะกร้อมือและพายยางจนเข้ากันดี
• 5. เทใส่ถาดอบที่เตรียมไว้เท่า ๆ กัน นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30-40 นาทีหรือจนสุก นำออกจากเตาอบแซะออกจากถาดพักขนมบนตะแกรงจนเย็นสนิท
• 6. ปาดบัตเตอร์ครีมลงบนเนื้อเค้กจนทั่ว ประกบด้วยเค้กอีกชิ้นตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยม แล้วห่อด้วยกระดาษ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรเค้กชิฟฟ่อน เค้กเนื้อฟูนุ่มรสชาติเทพทำเองได้
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
8. เค้กชิฟฟ่อนช็อกโกแลต
เชื่อว่าหลายคนคงต้องชอบแน่นอน โดยเฉพาะเด็ก ๆ สำหรับเค้กชิฟฟ่อนช็อกโกแลต สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน กัดไปคำแรกกลิ่นช็อกโกแลตก็หอมอวลไปทั่วปาก กินอร่อยลื่นคอ
ส่วนผสม เค้กชิฟฟ่อนช็อกโกแลต
• แป้งเค้ก 260 กรัม
• ผงโกโก้ 20 กรัม
• ผงฟู 2+1/2 ช้อนชา
• ไข่แดง 11 ฟอง
• น้ำตาลทราย (1) 150 กรัม
• น้ำเปล่า 100 กรัม
• นมข้นจืด 90 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 125 กรัม
• เกลือป่นละเอียด 1 ช้อนชา
• ไข่ขาว 11 ฟอง
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย (2) 210 กรัม
• บัตเตอร์ครีม (วิธีทำบัตเตอร์ครีม)
• กระดาษสำหรับห่อเค้ก
• ถาดอบขนาด 11x15x2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนช็อกโกแลต
• 1. ทาถาดอบด้วยเนยขาว แล้วรองด้วยกระดาษไข ทาเนยขาวอีกครั้งจนทั่ว พักไว้
• 2. ร่อนแป้งเค้ก ผงโกโก้ และผงฟูเข้าด้วยกันลงในอ่างผสม เตรียมไว้
• 3. ผสมไข่แดง น้ำตาลทราย (1) น้ำเปล่า นมข้นจืด กลิ่นวานิลลา น้ำมันพืช และเกลือป่น ผสมจนส่วนผสมละลายดี เทลงในส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ คนด้วยตะกร้อมือจนเข้ากัน พักไว้
• 4. ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ด้วยหัวตีตะกร้อโดยใช้ความเร็วสูงสุดของเครื่องพอขึ้นฟู ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทราย (2) ทีละน้อยจนหมด ตีต่อจนส่วนผสมตั้งยอดอ่อน ค่อย ๆ นำส่วนผสมไข่ขาวแบ่งลงผสมกับส่วนผสมในข้อที่ 3 จนหมดตะล่อมเบา ๆ ด้วยตะกร้อมือและพายยางจนเข้ากันดี
• 5. เทใส่ถาดอบที่เตรียมไว้เท่า ๆ กัน นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30-40 นาทีหรือจนสุก นำออกจากเตาอบแซะออกจากถาดพักขนมบนตะแกรงจนเย็นสนิท
• 6. ปาดบัตเตอร์ครีมลงบนเนื้อเค้กจนทั่ว ประกบด้วยเค้กอีกชิ้น ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมตามต้องการ แล้วห่อด้วยกระดาษ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรเค้กชิฟฟ่อน เค้กเนื้อฟูนุ่มรสชาติเทพทำเองได้
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
9. เค้กชิฟฟ่อนฝอยทอง เค้กชิฟฟ่อนทองหยอด
ใครอยากได้เมนูเค้กชิฟฟ่อนทำแจกฟรีไม่ซ้ำใคร ขอแนะนำเค้กชิฟฟ่อนฝอยทอง เค้กชิฟฟ่อนทองหยอด สูตรจาก คุณ todzz28 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จะทำหน้าฝอยทองอัน หน้าทองหยอดอัน หรือจะทำผสมกันในชิ้นเดียวก็ได้นะคะ
ส่วนผสม ชิฟฟ่อนฝอยทอง ชิฟฟ่อนทองหยอด
• แป้งเค้ก 60 กรัม
• นมผง 3/4 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 45 กรัม
• ผงฟู 3/4 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 30 กรัม
• ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 2 ฟอง (แยกไข่แดงกับไข่ขาว)
• นมข้นจืด 45 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 45 กรัม
• ฝอยทอง
• ทองหยอด
วิธีทำเค้กชิฟฟ่อนฝอยทอง
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เตรียมไว้
• 2. ใส่ทองหยอดและฝอยทอง (คลี่เป็นเส้นไม่ให้ติดกัน) ลงในพิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์ กดให้ฝอยทองเรียบและแน่นเล็กน้อย เตรียมไว้
• 3. ร่อนแป้งเค้ก นมผง เกลือ น้ำตาลทราย และผงฟู ใส่ลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนผสมให้เข้ากัน ทำเป็นหลุมตรงกลาง เตรียมไว้
• 4. ผสมน้ำมันพืช ไข่แดง นมข้นจืด และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน เทลงในหลุมส่วนผสมของแห้ง ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากันจนเนียน
• 5. ตีไข่ขาวด้วยตะกร้อมือให้เป็นฟองหยาบ ๆ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่อจนเป็นฟองละเอียด เติมน้ำตาลทรายลงไปครึ่งหนึ่งแล้วตีต่อจนตั้งยอด คนเบา ๆ ต่ออีกประมาณ 1 นาที เพื่อตัดฟองอากาศ
• 6. แบ่งส่วนผสมไข่ขาวใส่ในส่วนผสมแป้ง ใช้ตะกร้อมือตะล่อมเบา ๆ แบ่งประมาณ 3 ครั้ง คนจนส่วนผสมเนียนเข้ากัน
• 7. ตักใส่พิมพ์ วางลงในถาดสำหรับอบที่รองด้วยน้ำ (เพื่อไม่ให้ฝอยทองไหม้) จากนั้นนำเข้าอบประมาณ 30 นาที พอสุกนำออกจากเตา แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 9 สูตรเค้กชิฟฟ่อน เค้กเนื้อฟูนุ่มรสชาติเทพทำเองได้
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
10. โดนัทอบไส้แยมสตรอว์เบอร์รี
เคยทำคุกกี้กับเค้กไปแจกฟรีจนคนทำก็เอียน ส่วนคนรับก็อาจเบื่อกันบ้างล่ะ ลองเปลี่ยนมาทำโดนัทดีกว่า ขอนำเสนอโดนัทอบไส้แยมสตรอว์เบอร์รี สูตรจาก คุณหอมกาแฟ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้การอบแทนการทอด จะใส่ไส้แยมตามชอบหรือไส้นูเทลลาก็ได้นะคะ
ส่วนผสม โดนัทอบไส้แยมสตรอว์เบอร์รี
• แป้งอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง (57 กรัม)
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• ยีสต์ผง 1 ซอง (7 กรัม)
• นมอุ่น 2/3 ถ้วยตวง
• น้ำมันคาโนล่า 3 ช้อนโต๊ะ
• ไข่แดง 2 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ (สำหรับเติมและโรยตอนนวด) 1/2 ถ้วยตวง (66 กรัม)
• แยมสตรอว์เบอร์รี (หรือแยมอื่น ๆ) 1 ถ้วยตวง
• เนยสด หรือเนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง
วิธีทำโดนัทอบไส้แยมสตรอว์เบอร์รี
• 1. ผสมแป้งอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วยตวง กับน้ำตาลทราย เกลือ และยีสต์เข้าด้วยกันในโถผสม คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
• 2. ผสมนมอุ่น น้ำมันคาโนล่า ไข่แดง และกลิ่นวานิลลา คนผสมเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
• 3. เทส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมของแห้ง คนผสมเล็กน้อยแล้วใช้หัวตีตะขอ ตีส่วนผสมด้วยความเร็วสูงสุด นาน 2 นาที ถ้าแป้งยังเหลวอยู่ให้เติมแป้งลงไปอีก 1/4 ถ้วย นวดจนแป้งเริ่มไม่ติดมือ
• 4. โรยแป้งลงบนโต๊ะที่จะนวดแป้งเล็กน้อย นำแป้งออกจากโถแล้วนวดด้วยมือต่อ นวดไปอีกประมาณ 50 ครั้ง (หากแป้งติดมือให้โรยแป้งเพิ่ม)
• 5. พักแป้งไว้ 10 นาที จากนั้นเตรียมถาดสำหรับอบ รองด้วยแผ่นซิลิโคน หรือกระดาษรองอบ โรยแป้งลงไปเล็กน้อยเพื่อกันติด
• 6. พอพักแป้งครบ 10 นาที แป้งจะฟูขึ้นบ้างแล้ว โรยแป้งลงบนโต๊ะอีกครั้ง นวดแล้วแผ่แป้งออกให้หนาประมาณ 1/2 นิ้ว
• 7. ใช้พิมพ์ตัดแป้งวงกลมขนาด 3 นิ้ว ตัดแป้งออกแล้ววางเรียงไว้บนถาดที่เตรียมไว้ จากนั้นคลุมแป้งด้วยผ้า พักไว้อีก 45 นาที พอพักแป้งครบ 30 นาที (15 นาทีสุดท้าย) ให้เตรียมเปิดเตาอบรอไว้เลย ใช้ไฟบน 180 องศาเซลเซียส และใช้ไฟล่างที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส (แล้วแต่เตาอบด้วยนะไฟอาจไม่เท่ากัน)
• 8. เมื่อพักแป้งจนครบเวลาแล้วจะเห็นว่าแป้งขึ้นฟูสวยงาม พร้อมเข้าอบแล้ว จากนั้นนำเข้าอบประมาณ 12 นาที และเตรียมแยมสตรอว์เบอร์รีใส่ถุงบีบให้พร้อม
• 9. เมื่อโดนัทอบสุกแล้ว นำออกจากเตามาทาเนย แล้วคลุกน้ำตาลทรายตอนที่กำลังร้อน วางพักบนตะแกรง เจาะรูขนมด้วยไม้เสียบลูกชิ้น แล้วบีบไส้แยมที่เตรียมไว้ใส่เข้าไปในโดนัท จัดเสิร์ฟ
หมายเหตุ : ในสูตรใช้หัวบีบขนาด 8 มิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ไป ใครมีเบอร์ 5 มิลลิเมตร ก็น่าจะพอดี
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำโดนัท แบบไม่ทอด ไส้แยมสตรอว์เบอร์รี เนื้อนุ่มฟู
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
11. โดนัทอบลูกกลม
โดนัทชิ้นใหญ่ก็เคยทำแจกมาแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนเป็นโดนัทอบลูกกลม สูตรจาก เฟซบุ๊ก แม่พลอยซานฟราน สูตรโดนัทอบทำง่ายลูกกลม เคลือบน้ำตาลซินนามอน
ส่วนผสม โดนัทอบ
• แอปเปิลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
• นมไร้ไขมัน หรือนมสด 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• ลูกจันทน์ป่น 3/4 ช้อนชา (หรือ 1 ช้อนชา)
• แอปริคอตแห้ง (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ) 1/3 ถ้วย
• น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทรายขาวป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ (ปรับเพิ่ม-ลดได้)
ส่วนผสม น้ำตาลซินนามอน
• เนยจืดละลาย 1/4 ถ้วย
• เกลือ เล็กน้อย
• น้ำตาลทรายขาวป่นละเอียด 1/2 ถ้วย
• ผงซินนามอน 1 ช้อนชา
หมายเหตุ :
- น้ำตาลทรายขาวป่น : ถ้าน้ำตาลทรายที่มีอยู่ไม่ละเอียด ให้นำไปปั่นสักครู่ก่อน
- แป้ง : จะใช้เป็นแป้งโฮลวีทก็ได้ แต่ขอให้ร่อนแป้งก่อนให้ละเอียด ๆ และโดนัทที่ได้จะแห้งกว่าใช้แป้งสาลีปกตินิดหน่อย และอย่าอบนานเกินไป (เอาแค่แป้งสุกก็ยกออกจากเตาเลย)
- ถ้าอยากให้เฮลธ์ตี้มากขึ้น อาจผสมเนยกับน้ำมันครึ่งต่อครึ่ง หรือเนยมากกว่านิดหนึ่ง แต่ความหอมอร่อยจะลดน้อยลงไป
วิธีทำโดนัทอบ
• 1. ทำบัตเตอร์มิลค์ โดยผสมแอปเปิลไซเดอร์หรือน้ำส้มสายชูลงไปในนม คนให้เข้ากันสักครู่ พอนมข้นขึ้น พักไว้
• 2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ (หรือ 190 องศาเซลเซียส) นำถาดมัฟฟินมาทาน้ำมันหรือเนยบาง ๆ เพื่อกันโดนัทติดถาด พักรอไว้
• 3. ทำส่วนผสมของแห้ง โดยเตรียมชามผสม ใส่แป้ง ผงฟู และลูกจันทน์ป่น คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แอปริคอตลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน พยายามให้แอปริคอตกระจายออกจากกัน อย่าให้ติดกันเป็นก้อน ๆ (ใช้มือก็ได้) แล้วพักไว้
• 4. ทำส่วนผสมของเหลว โดยผสมบัตเตอร์มิลค์ (นมควรข้นขึ้นหลังผสมน้ำส้มสายชู) ลงไปในชามน้ำมันพืช ตามด้วยกลิ่นวานิลลาและน้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
• 5. เทส่วนผสมของแห้งลงในชามส่วนผสมของเหลว (ทีละครึ่ง) แล้วคนพอเข้ากัน (อย่าคนจนเพลินเชียวเพราะจะได้โดนัทเนื้อหนักแทนเนื้อนุ่ม) ส่วนผสมแป้งโดนัท (Batter) ที่ได้จะเหนียวข้น หนืดกว่าส่วนผสมแป้งเค้ก (Batter) มาก
• 6. ใช้ที่ตักไอศกรีมขนาดเล็ก ตักส่วนผสมแป้งโดนัท (Batter) ใส่ถาดมัฟฟิน ถ้าอยากได้ลูกกลม ๆ สวยงามอาจใช้ปลายช้อนช่วยเกลี่ยแป้งหลังตักใส่พิมพ์
• 7. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 190 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 15-17 นาที (สังเกตความสุกโดยใช้ปลายมีดจิ้ม ถ้าดึงออกมาปลายมีดสะอาดแสดงว่าสุกแล้ว) อย่าอบนานเกินไป โดยเฉพาะถ้าใช้แป้งโฮลวีทและถ้าแอบลดน้ำมันเพราะจะได้โดนัทจะแห้งเกินไป
• 8. ทำน้ำตาลซินนามอน โดยละลายเนยในถ้วยน้ำจิ้ม แล้วใส่เกลือลงไปนิดเดียว พักไว้ อีกถ้วยหนึ่ง ผสมน้ำตาลทรายกับผงซินนามอน คนให้เข้ากัน
• 9. พอโดนัทสุก ก็นำโดนัทมาจุ่มเนย และตามด้วยจุ่มน้ำตาล จะจุ่มแบบทั้งลูกหรือครึ่งลูกก็แล้วแต่ (เคาะ ๆ โดนัท หลังจุ่มเนย และจุ่มน้ำตาลด้วย น้ำตาลจะได้ไม่มากเกินไป) ถ้าเกล็ดน้ำตาลไม่ป่นจะไม่ติดโดนัท พอทำเสร็จก็วางบนตะแกรงรอให้เย็น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โดนัทอบ สูตรขนมอ้วนน้อย ลูกเล็กพอดีคำหม่ำอร่อย
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
12. เนยถั่วช็อกโกแลตบอล
ใครไม่มีเตาอบก็อย่าเพิ่งน้อยใจ แค่มีตู้เย็นก็พอแล้วค่ะ ชวนทำเนยถั่วช็อกโกแลตบอล สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine เต็มอิ่มกับเนยถั่วและธัญพืชหลากชนิด ใส่ช็อกโกแลตชิพเพิ่มความฟิน แช่เย็นยิ่งอร่อยเลยจ้า
ส่วนผสม เนยถั่วช็อกโกแลตบอล (สำหรับ 5-6 ที่)
• เนยถั่ว 1 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
• น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• ข้าวโอ๊ต 1+1/4 ถ้วย
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสับ 1/2 ถ้วย
• เมล็ดทานตะวัน 1/4 ถ้วย
• ถั่วลิสงอบสับ 1/4 ถ้วย
• ช็อกโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
วิธีทำเนยถั่วช็อกโกแลตบอล
• 1. ผสมเนยถั่ว น้ำผึ้ง และน้ำมันมะพร้าว ตั้งไฟอ่อน คนให้เข้ากันจนส่วนผสมข้นเหนียว ใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน นำไปแช่ตู้เย็นให้ส่วนผสมเย็นตัว
• 2. พอส่วนผสมเนยถั่วเย็นแล้วใส่ข้าวโอ๊ต เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน และถั่วลิสง คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว ใส่ช็อกโกแลตชิพ คลุกให้ทั่ว
• 3. ปั้นเป็นก้อนกลมเท่าผลมะนาว (ผลเล็ก) เรียงใส่กล่อง ปิดฝา แช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนยถั่วช็อกโกแลตบอล ขนมไม่ต้องอบ ทำกินเล่นง่าย ๆ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
13. เค้กเนยสด
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบกินเค้กเนยสดอยู่แล้วก็มาทำแจกด้วยเลยสิคะ ขอแนะนำเค้กเนยสด สูตรจาก คุณหอมกาแฟ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อแน่นกลิ่นหอมยั่วน้ำย่อยจริงเชียว
ส่วนผสม เค้กเนยสด
• แป้งเค้ก 330 กรัม
• นมผง 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงฟู 1/4 ช้อนชา
• ผงวานิลลา 1 ช้อนชา (ถ้าใช้แบบน้ำให้ใส่รวมไปกับส่วนผสมของเหลว)
• น้ำตาลทรายป่น 210 กรัม
• ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 6 ฟอง
• น้ำเปล่า 45 กรัม
• เอสพี (SP) 30 กรัม
• น้ำเชื่อม 90 กรัม
• เนยสดชนิดเค็มละลาย 360 กรัม
• พิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์ (ฟอยล์เบอร์ 4572 จำนวน 3 พิมพ์ กับเบอร์ 4618 จำนวน 2 พิมพ์)
ส่วนผสม น้ำเชื่อม
• น้ำตาลทราย 500 กรัม
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำเค้กเนยสด
• 1. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และครีมออฟทาร์ทาร์ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ (ไม่ต้องคน) พอเริ่มเดือด ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น เตรียมไว้ (ถ้าเหลือก็ใส่ขวดเก็บในตู้เย็นไว้ใช้คราวหน้าได้ค่ะ)
• 2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เตรียมไว้
• 3. ร่อนแป้งเค้ก นมผง ผงฟู ผงวานิลลา และน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน ร่อนทั้งหมด 3 ครั้ง เตรียมไว้
• 4. ตีผสมไข่ไก่ น้ำเปล่า และเอสพีในโถผสมให้เข้ากันแล้วใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมข้น ฟู และขาว
• 5. ลดเป็นความเร็วต่ำแล้วใส่น้ำเชื่อมลงไป
• 6. ค่อย ๆ เทเนยละลายอุ่น ๆ ลงไปตีต่อและปาดอ่างเป็นระยะ ๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี ปิดเครื่อง
• 7. เทส่วนผสมใส่พิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์ (ใส่พิมพ์เบอร์ 4572 ได้ 3 พิมพ์ เหลืออีกเล็กน้อยเทใส่พิมพ์เบอร์ 4618 ได้ 2 พิมพ์)
• 8. นำเข้าเตาอบ โดยพิมพ์เล็กใช้เวลาประมาณ 18 นาที ส่วนพิมพ์ใหญ่ใช้เวลาประมาณ 35 นาที อบจนสุก
• 9. นำออกจากเตา วางพักทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเนื้อจะแน่นขึ้น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 สูตรบัตเตอร์เค้ก วิธีทำเค้กเนยสดหลากสไตล์ เมนูนี้พี่ยอมอ้วน
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
14. บราวนี่หน้ากรอบ
จะซื้อบราวนี่หน้ากรอบไปแจกก็หายากเหลือเกิน ทำเองเลยดีกว่า สูตรจาก คุณ cake_de_cake สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม บราวนี่เนื้อหนึบเข้มข้น อบจนหน้ากรอบสวย รสหวานน้อยกำลังดีเชียว
ส่วนผสม บราวนี่หน้ากรอบ
• เนยขาวละลาย (สำหรับทาถาดอบ)
• เนยสดชนิดเค็ม 170 กรัม
• น้ำตาลทราย 280 กรัม
• ช็อกโกแลตสูตรหวานน้อย (Semi-Sweet Chocolate) 340 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• ผงโกโก้ 1/4 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ (เบอร์ 1) จำนวน 4 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำบราวนี่หน้ากรอบ
• 1. เตรียมถาดสำหรับอบขนาด 9x13 นิ้ว ปูด้วยกระดาษไข และเพื่อป้องกันไม่ให้กระดาษไขเลื่อนให้ติดสกอตเทปตรงปลายกระดาษไขกับถาดอบเอาไว้ นำแปรงจุ่มเนยขาวที่ละลายแล้ว ทาบนกระดาษไขบริเวณพื้นถาด ไม่ต้องทาด้านข้าง
• 2. นำเนยสดผสมกับน้ำตาลทราย นำเข้าไมโครเวฟให้เนยละลาย ใช้เวลาประมาณ 2 นาที นำออกมาใช้ตะกร้อมือคนเพื่อให้น้ำตาลทรายละลายให้ได้มากที่สุด
• 3. ใส่ช็อกโกแลตลงไปแล้วนำเข้าไมโครเวฟเพื่อละลาย ใช้เวลาประมาณ 2 นาที นำออกมาใช้ตะกร้อมือคนให้ช็อกโกแลตละลายเข้ากับส่วนผสมเนย พักให้เย็น
• 4. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และผงโกโก้เข้าด้วยกัน 2 รอบ
• 5. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เปิดพัดลม เตรียมไว้
• 6. ตอกไข่ไก่ใส่อ่างผสม ใส่กลิ่นวานิลลาและผงกาแฟ ตีให้เข้ากันจนไข่ขึ้นเป็นฟอง (สามารถใช้ตะกร้อมือได้)
• 7. ใส่ส่วนผสมช็อกโกแลตที่เย็นแล้วลงไป ตีผสมด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมช็อกโกแลตมีสีอ่อนลงเล็กน้อย หรือจนกว่าน้ำตาลทรายจะละลายได้พอสมควร (สูตรนี้จะยังคงเหลือน้ำตาลเป็นเกล็ด ๆ ไม่ละลายทั้งหมด)
• 8. แบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใส่ลงไปตีผสมด้วยความเร็วต่ำ หรืออาจใช้ตะกร้อมือตะล่อมจนส่วนผสมเข้ากันดี
• 9. ต่อมาจึงใส่แป้งส่วนที่ 2 ลงไปตีให้เข้ากัน เทลงในถาดอบแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าเค้กจะสุก นำออกจากเตามาผึ่งบนตะแกรงให้เย็น ตัดเป็นชิ้น ๆ ตามต้องการ วิธีตัดก็ให้นำบราวนี่ไปแช่เย็นเพื่อให้แข็งตัวก่อน แล้วนำออกมาตัดจะง่ายกว่าเดิม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 8 สูตรบราวนี่ ขนมสุดคลาสสิก หวานเข้มทุกสัมผัส
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
15. บราวนี่ชาเขียว
มาต่อกันที่อีกสูตรบราวนี่ทำแจกฟรีกันค่ะ ขอแนะนำบราวนี่ชาเขียว สูตรจาก คุณ little foggy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษอยู่ที่โรยหน้าด้วยมะพร้าวอบแห้งเเละไวท์ช็อกโกแลต หอมอร่อยจริง ๆ
ส่วนผสม บราวนี่ชาเขียว
• เนยละลาย 50 กรัม
• น้ำตาลทรายเเดง 1/3 ถ้วยตวง
• เกลือป่น เล็กน้อย
• ไวท์ช็อกโกแลตชิพ 1 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ 3 ฟอง
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
• ผงชาเขียว 4 ช้อนชา
• มะพร้าวอบแห้ง 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำบราวนี่ชาเขียว
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และปูกระดาษรองอบในถาดอบ เตรียมไว้
• 2. นำเนย น้ำตาลทรายแดง เกลือป่น และไวท์ช็อกโกแลตประมาณ 1/2 ถ้วยไปละลายเข้าด้วยกัน
• 3. ตอกไข่ไก่ลงไปตีให้เข้ากัน เตรียมไว้
• 4. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงชาเขียวลงไปในอ่างผสมคนตะล่อมให้เข้ากันแล้วเทใส่ถาดที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เสมอกัน
• 5. โรยหน้าด้วยมะพร้าวอบแห้งเเละไวท์ช็อกโกแลตที่เหลืออีก 1/2 ถ้วย นำเข้าเตาอบประมาณ 10-15 นาที พอครบเวลานำออกจากเตา พักไว้จนเย็น
• 6. พอเย็นแล้วนำเข้าเเช่ตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง (จะได้ตัดได้สวย ๆ) แล้วนำมาตัดเป็นชิ้น ๆ จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 8 สูตรบราวนี่ ขนมสุดคลาสสิก หวานเข้มทุกสัมผัส
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
16. เค้กกล้วยหอม
เคยแต่ทำเค้กกล้วยหอมกินกันในครอบครัว คราวนี้มีโอกาสเหมาะเลยอยากทำแจกฟรีด้วย สูตรจาก คุณ MaShi BBJ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อเค้กลื่นคอ หอมฉ่ำเนย ทำใส่ถ้วยเล็ก ๆ หรือจะทำใส่พิมพ์ปอนด์แล้วหั่นแบ่งก็ได้จ้า
ส่วนผสม เค้กกล้วยหอม
• กล้วยหอมสุกบด 1+1/2 ถ้วย
• นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• เนยเค็ม 250 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จะได้นิ่มเร็ว ๆ)
• น้ำตาลทรายละเอียด 1+1/2 ถ้วย (ถ้ากล้วยงอมมากลดเหลือแค่ 1 ถ้วย)
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• พิมพ์มัฟฟิน
วิธีทำเค้กกล้วยหอม
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
• 2. ผสมกล้วยหอมบดนมสด และกลิ่นวานิลลาให้เข้ากัน
• 3. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงฟูและเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
• 4. ตีเนยเค็มด้วยตะกร้อมือให้ขึ้นฟูจนเป็นสีขาวนวล ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วตีผสมให้เข้ากัน แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง
• 5. ใส่ไข่ไก่ลงไปตีทีละฟอง พอหมดลิ่มไข่ก็ใส่ใบต่อไปได้เลยจนครบ
• 6. ใส่ส่วนผสมกล้วยบดลงไปตีผสมให้เข้ากัน
• 7. ใส่ส่วนผสมแป้งลงไป ค่อย ๆ ตะล่อมเบาจนเป็นเนื้อเดียวกัน ตักใส่พิมพ์มัฟฟิน
• 8. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 15-20 นาที นำออกจากเตา วางพักทิ้งไว้ให้เย็นลง แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 7 สูตรเค้กกล้วยหอม เนื้อนุ่มหวานหอม ทำง่ายทันใจหลากสไตล์
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
17. เค้กกล้วยน้ำว้า
แอบขยี้ตา ! ตาไม่ฝาดหรอกค่ะ แม้เค้กกล้วยน้ำว้าจะไม่คุ้นหูแต่ก็อร่อยไม่แพ้เค้กกล้วยหอมนะคะ สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ลูกเกดกับถั่วลิสงด้วย อร่อยสุด ๆ ไปเลย
ส่วนผสม เค้กกล้วยน้ำว้า
• ไข่ไก่เบอร์ 0 (เฉพาะไข่แดง) จำนวน 3 ฟอง
• น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• กล้วยน้ำว้าสุกงอมบดละเอียด 350 กรัม (ผสมกลิ่นวานิลลาบัตเตอร์)
• นมสดจืด 100 กรัม
• แอปเปิลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งเค้ก 270 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• ผงเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช100 กรัม
• ลูกเกดดำ
• ถั่วลิสงคั่วบด
วิธีทำเค้กกล้วยน้ำว้า
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง และทาเนยที่พิมพ์ โรยแป้ง หรือเตรียมพิมพ์กระดาษ
• 2. ใส่ไข่แดงลงใส่ในโถผสม ตีให้ไข่แดงให้กระจายตัว ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีผสมนานประมาณ 5 นาที ใส่เกลือป่น กล้วยน้ำว้าบดละเอียด และนมสดที่ผสมแอปเปิลไซเดอร์ลงไป ค่อย ๆ รินน้ำมันพืชใส่ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ
• 3. ใส่แป้งเค้กลงไป คนผสมให้เข้ากันดี ปาดส่วนผสมที่ก้นโถขึ้นมาด้วย ใส่ลูกเกดดำกับถั่วลิสงคั่วบด คนผสมให้เข้ากัน
• 4. ตักใส่ในพิมพ์กระดาษ (ถ้าอยากให้เค้กรูปทรงสูง ๆ ตักใส่ประมาณ 3/4 ของถ้วย แต่ถ้าชอบเค้กรูปทรงแบบไม่สูง ใส่ไปประมาณครึ่งถ้วย) จากนั้นนำเข้าเตาอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างก่อนที่ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที จากนั้นปรับเป็นไฟบน-ล่างที่ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 5 นาที และปรับเป็นไฟบนอย่างเดียวตอนสุดท้ายประมาณ 5 นาที ใช้เวลาอบ 25 นาที นำออกจากเตา
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กกล้วยน้ำว้า จับกล้วยสุกงอมมาทำขนมสุดอร่อย
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
18. ซอฟท์คุกกี้
คุกกี้แบบกรอบก็ทำแจกไปแล้ว ลองเปลี่ยนสไตล์มาทำคุกกี้แบบนิ่มบ้างดีไหม ขอแนะนำซอฟท์คุกกี้ สูตรจาก คุณ primany สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อคุกกี้อัดแน่นไปด้วยแมคคาเดเมีย ทำชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ก็ตามชอบเลยจ้า
ส่วนผสม ซอฟท์คุกกี้
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/4 ถ้วย
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• เนยสด 125 กรัม (พักทิ้งไว้จนนิ่ม)
• น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย (ปรับเพิ่ม-ลดตามชอบ)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• แมคคาเดเมีย สับหยาบ ๆ 50 กรัม
• ไวท์ช็อกโกแลตเม็ดเล็ก หรือเม็ดใหญ่สับหยาบ 50 กรัม
วิธีทำซอฟท์คุกกี้
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175-180 องศาเซลเซียส และร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงฟูเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
• 2. ตีเนยด้วยเครื่องตีแป้งจนขึ้นฟู เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป ตามด้วยไข่ไก่ ตีพอเข้ากัน (ไม่ต้องตีนาน)
• 3. ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลา ตีผสมจนเข้ากันดี จากนั้นใส่แมคคาเดเมียและไวท์ช็อกโกแลตลงไป คนผสมให้เข้ากันด้วยไม้พาย
• 4. บีบส่วนผสมคุกกี้ลงในถาดที่รองด้วยกระดาษไข นำเข้าอบประมาณ 15 นาที หรือจนคุกกี้สุก
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซอฟท์คุกกี้ สูตรคุกกี้นิ่ม เคี้ยวมัน อร่อยเพลิน
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
19. คุกกี้เนยถั่ว
ใครมีเนยถั่วเก็บไว้อย่ารอช้า เอาออกมาทำคุกกี้เนยถั่ว สูตรจาก คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพิ่มความอร่อยจากถั่วลิสงและช็อกโกแลตชิพ จะปั้นเป็นก้อนกลมอบ หรือจะกดให้แบนก็ตามชอบเลยจ้า
ส่วนผสม คุกกี้เนยถั่ว
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 190 กรัม
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• เนยเค็ม แช่เย็น 140 กรัม
• เนยถั่วชนิดละเอียด 150 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 160 กรัม
• ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 2 ฟอง
• กลิ่นวานิลลาแบบน้ำ หรือแบบผง 1 ช้อนชา
• ถั่วลิสงอบ 1 ถ้วย
• ช็อกโกแลตชิพ 200 กรัม
วิธีทำคุกกี้เนยถั่ว
• 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส และวางกระดาษรองอบที่ถาดอบ หรือทาเนยขาวบาง ๆ ที่ถาด เตรียมไว้
• 2. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือ และวานิลลาชนิดผงเข้าด้วยกัน พักไว้ (ในสูตรใช้วานิลลาแบบน้ำก็เก็บไว้ใส่พร้อมไข่)
• 3. ใช้หัวตีรูปใบไม้ตีเนยสดกับเนยถั่วให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายทั้ง 2 ชนิดลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลาง จนส่วนผสมเข้ากันดี
• 4. เติมไข่ไก่ 1 ฟอง ตีให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วค่อยใส่ไข่ไก่อีกฟอง ตีต่อให้เข้ากัน ปิดเครื่อง ใช้พายยางปาดส่วนผสมให้เข้ากัน
• 5. เปิดเครื่องใช้ความเร็วต่ำ เติมแป้งลงไปตีพอเข้ากัน ตามด้วยถั่วและช็อกโกแลตชิพ ขั้นตอนนี้ใครใช้เครื่องตีเครื่องเล็กก็ใช้พายยางผสมดีกว่า ไม่อย่างนั้นฟุ้งกระจาย
• 6. ใช้ช้อนหรือที่ตักไอศกรีม ตักคุกกี้หยอดลงบนถาดอบ วางห่างกันประมาณ 1-2 นิ้ว ใช้เวลาอบประมาณ 15 นาที จากนั้นยกออกจากเตา แซะวางบนตะแกรง รอจนอุ่นแล้วค่อยเก็บใส่กล่อง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ คุกกี้เนยถั่ว สูตรคุกกี้ หวานหอมมัน กรอบอร่อย
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
20. แอปเปิลซินนามอนโรล
อยากทำขนมปังแจกสุดแนวต้องนี่เลย แอปเปิลซินนามอนโรล สูตรจาก คุณนางสาวเซาะกราว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ขนมปังสอดไส้แอปเปิลหวานหอม อร่อยจนต้องเบิ้ลเลยล่ะ
ส่วนผสม แป้งขนมปัง
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 375 กรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• ยีสต์แห้ง 12 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• นมสด 225 กรัม
• เนย (พักทิ้งไว้จนนิ่ม) 80 กรัม
ส่วนผสม ไส้แอปเปิล
• แอปเปิลเขียว ปอกเปลือกแล้วขูดเป็นเส้น
• น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงซินนามอน (อบเชยป่น) 1 ช้อนชา
• เนย 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไส้โรยหน้าขนม
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• ผงซินนามอน 1 ช้อนโต๊ะ
• เนย สำหรับทาหน้า
• อัลมอนด์หั่นหยาบ 50 กรัม
วิธีทำไส้แอปเปิล
• ผสมทุกอย่างรวมกัน เทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ กวนพอให้เนยและน้ำตาลละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ให้เย็น
วิธีทำแอปเปิลซินนามอนโรล
• 1. ทำแป้งขนมปัง โดยเทแป้งสาลี เกลือ น้ำตาลทราย และยีสต์แห้ง ผสมรวมกันในอ่างผสม
• 2. อุ่นนมพอให้อุ่น ๆ ตอกไข่ลงไปตีผสมรวมกัน เทลงไปในแป้งที่เตรียมไว้ นวดจนพอเข้ากัน ใส่เนยลงไปนวดอีกครั้งจนแป้งไม่ติดอ่างผสม พักไว้ให้แป้งขึ้นเป็น 2 เท่า นวดให้แบน ทาเนย โรยผงซินนามอน น้ำตาลทราย ไส้แอปเปิล และโรยหน้าอัลมอนด์
• 3. ม้วนแป้งแล้วตัดเป็นชิ้นเท่า ๆ กัน เรียงลงในถาด ใช้ฝ่ามือกดเบา ๆ ให้แบน ตกแต่งให้กลมสวย พักแป้งไว้จนขึ้นอีกเท่าตัวก่อนเข้าอบ
• 4. พอแป้งขึ้นอีกรอบ ทาไข่ลงบนหน้าขนมก่อนเข้าอบ ใช้ไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 10-15 นาที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แอปเปิลซินนามอนโรล ขนมเพิ่มความหวานสุดอร่อย
ว้าว ! หลังจากตามหามานานก็เจอแล้วสูตรขนมทำแจกฟรีที่สนามหลวง อ่านไปท้องก็ร้องไป เอาล่ะ… เพื่อน ๆ มาเลือกสูตรขนมที่ชอบแล้วเข้าครัวกันเลยค่ะ รับรองอร่อยทุกสูตรเลย
