"มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ ใฝ่ฝันหา" กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาว-หวานบทนี้คงจะเป็นที่คุ้นหูคนไทยมารุ่นต่อรุ่นที่ปรากฏอยู่ในตำราเรียนวิชาภาษาไทย คุณรู้ไหมคะว่า แกงมัสมั่นถ้วยนี้เองเคยได้รับยกย่องให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ก็คงจะด้วยเหตุผลที่ว่า แกงมัสมั่นมีกลิ่นเครื่องเทศที่หอมคละคลุ้ง และปรุงผสมจนได้รสชาติที่กลมกล่อม มีรสชาติที่เป็นกลางไม่เผ็ดจนเกินไป สามารถรับประทานได้ทุกวัย และทุกชนชาติอีกด้วย
แกงมัสมั่นตำรับดั้งเดิมนั้นเป็นของชาวอินเดียเจ้าแห่งเครื่องเทศนั่นเอง นิยมใช้เนื้อวัวในการปรุง และใส่เครื่องเทศอย่างเต็มที่ แกงมัสมั่นของชาวอินเดียจึงมีรสชาติที่เผ็ดร้อน หวาน เค็ม และมัน แต่เมื่อชาวอินเดียย้ายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ก็ไม่ลืมที่จะนำแกงมัสมั่นเข้าไปยังประเทศนั้นๆ ด้วย แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนสูตรให้ถูกกับลิ้นของประเทศนั้น ๆ เช่น การเปลี่ยนเนื้อสัตว์ และการเพิ่ม-ลดเครื่องเทศ เป็นต้น
มีข้อมูลกล่าวไว้ว่ามัสมั่นในประเทศไทยนั้นมีมาตั้งแต่ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นำเข้ามาโดยแขกเปอร์เซีย หรือชาวอิหร่าน จึงถือได้ว่าเมนูมัสมั่นนี้เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางอาหารระหว่างไทยกับเปอร์เซีย และเข้ามาอยู่ในทำทำเนียบอาหารไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 2 หรือประมาณ 230 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งแกงมัสมั่นตำรับชาวไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู มีหลายสูตรให้เลือกรับประทาน มีวิธีการทำที่ต่างกัน
• แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมทางภาคใต้ คือ ใช้ผงเครื่องแกงที่ตำเตรียมไว้ (ตำผสมลูกผักชี ยี่หร่า พริกป่นอินเดีย และพริกไทยป่น) แล้วค่อยนำไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมไว้
• แกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา คือ ใส่กานพลูกับอบเชย และหอมแดงลงไปผัดกับน้ำมันจนหอม เติมพริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น และพริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีน และหน่อไม้จีนอีกด้วย
• แกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลาง คือ ใช้น้ำพริกแกงมัสมั่นที่เตรียม เอาไว้ลงไปผัด (โดยผ่านการลดเครื่องแกง และเครื่องเทศลงแล้ว) ปรุงรสชาติให้มี 3 รสหลัก คือ เปรี้ยว เค็ม หวาน ซึ่งเป็นรสหลักของคนไทย ถ้าเป็นชาวไทยมุสลิมจะเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น จะออกรสเค็ม และมัน
ใช่ว่าแกงมัสมั่นจะมีดีที่รสชาติอร่อยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เอกลักษณ์ของแกงมัสมั่นนั้นอยู่ที่เครื่องเทศต่าง ๆ ที่ตำรวมอยู่ในน้ำพริกแกง ถ้าอย่างนั้นเราลองไปดูกันว่า คุณประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการรับประทานแกงมัสมั่น 1 ถ้วยนั้นมีอะไรบ้าง
1. อบเชย แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ บรรเทาอาการคลื่นไส้ และอาเจียน
2. หัวหอมแขก ช่วยบรรเทาอาการหวัด และอาการคัดจมูก
3. น้ำมะขามเปียก สามารถเป็นยาระบายอ่อน ๆ ได้ดี
4. ยี่หร่า ช่วยขับลม และขับเสมหะ
5. กานพลู แก้อาการปวดท้อง จุกเสียด และลดอาการท้องอืด
6. พริกไทย ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยขับลม ขับเหงื่อ และลดระดับความร้อนในร่างกาย
7. ขิง สามารถลดไขมันในเลือด แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการไอ และขับเสมหะ
8. ลูกจันทร์ แก้ไข้ บำรุงตับ ปอด และลดไขมันในเลือด
9. ลูกกระวาน แก้อาการท้องอืด และอาหารไม่ย่อย
ไม่แปลกเลยใช่ไหมคะว่า ทำไมแกงมัสมั่นถึงเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดอันดับหนึ่งของโลก ก็เพราะเสน่ห์ของกลิ่นเครื่องเทศที่หอมรัญจวนบอกกับรสชาติที่กลมกล่อมนั่นเอง จะรอช้าอยู่ทำไมล่ะคะ รีบไปร้านข้าวราดแกง แกงราดข้าวกันเลยดีกกว่าค่ะ เพื่อพิสูจน์ความอร่อยของแกงมัสมั่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกว่าสมคำร่ำลือหรือไม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
hq.prd.go.th