1. กากหมูเจียวกระเทียมกรอบ (สำหรับกินกับก๋วยเตี๋ยว)
กากหมูเจียวกระเทียมกรอบสูตรนี้ทำง่าย ๆ จะกินเปล่า ๆ หรือทำไว้กินกับก๋วยเตี๋ยว ข้าวคลุกกะปิ หรือใส่ในผัดต่าง ๆ ก็อร่อย ลองทำดูเลยจ้า
ส่วนผสม กากหมูเจียวกระเทียม
• มันหมูแข็ง 600 กรัม (หรือหมูสามชั้นแบบไม่ติดหนัง)
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• กระเทียมจีน (ปอกเปลือกตำพอแหลก) 100 กรัม (หรือใช้กระเทียมไทยก็ได้ และจะปอกเปลือกเกลี้ยงหรือติดนิดหน่อยก็ได้)
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ กากหมูเจียวกระเทียม
1. หั่นมันหมูเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่มันหมูลงในกระทะ เทน้ำเปล่าลงไปแล้วเปิดไฟแรง (น้ำมันจะไม่กระเด็นค่ะ)
เคล็ดลับ : ใส่น้ำเปล่าเพื่อให้การเจียวเร็วขึ้นและน้ำมันที่ได้จะใสสวยงาม
3. รอจนน้ำเดือด (จะเห็นน้ำเป็นสีขาวขุ่น แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นคือเหตุการณ์ปกติ สักพักเค้าจะค่อย ๆ ใสขึ้นทีละน้อย)
4. พอน้ำมันเดือดและใสขึ้น เบาไฟเป็นไฟกลางแล้วเจียวต่อจนกากหมูเป็นสีเหลือง 80%
5. นำกระเทียมตำใส่ลงไปเจียวกับหมูเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันทันที
6. พอสะเด็ดน้ำมันด้วยความร้อนที่ยังเหลืออยู่หมูจะกรอบและเกรียมขึ้นอีกนิด ส่วนกระเทียมจะเหลืองทองกรอบพอดีค่ะ (หากใครเจียวกระเทียมบ่อย ๆ จะเข้าใจเนอะ) ลองฝึกดูนะคะครั้งแรกถ้ายังไม่ได้ให้ลองฝึกใหม่ค่ะ ทักษะจะเกิดได้เพราะประสบการณ์
เคล็ดลับ :
• ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเจียวจนเสร็จประมาณ 10 นาที ทั้งนี้ขึ้นกับระดับความแรงของไฟแต่ละบ้านด้วยนะจ๊ะ
• เมื่อสะเด็ดน้ำมันจนเค้าแห้งและเย็นแล้ว โรยเกลือป่นลงไปคลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อลดความชื้นอีกนิด (และอร่อยขึ้นด้วยค่ะ) เก็บในภาชนะสุญญากาศจะกรอบอยู่ได้หลายวันค่ะ
• ส่วนน้ำมันที่เหลือจากการเจียวจะใสกิ๊งเลยค่ะ ได้น้ำมันประมาณ 1 ถ้วยตวงค่ะ (อ้อจะปล่อยให้เย็นและเก็บใส่ขวดแช่เย็น เก็บไว้ทำกับข้าวต่อได้ค่ะ) แช่เย็นเค้าจะเป็นไขนะคะเพราะเป็นไขมันสัตว์จ้า
++++++++++++++++++++
2. ทอดมันหมูสมุนไพร
มาเปลี่ยนลุคทอดมันแบบเดิม ๆ ให้เป็นทอดมันสไตล์ easycooking กันค่ะ ปกติทอดมันหมูเราไม่ค่อยได้มีโอกาสทำ เพราะการที่จะสับหมูให้เนียนนั้นก็จะได้กล้ามแขนมาเป็นของแถม ไม่ไหวค่ะ 55 จะปั่นก็ขี้เกียจล้างแม่ครัวบ้านนี้ไม่ไหวเลยเนอะ ก็เพราะอ้อมีทางลัดค่ะ พอดีไปเจอเจ้าสิ่งนี้ค่ะ หมูบะช่อทรงเครื่องของซีพีที่บดเนียนมาให้แล้วเรียบร้อย ทำได้หลายเมนูเลย มาดูกันค่า
ส่วนผสม
• หมูบะช่อทรงเครื่อง 500 กรัม
• ตะไคร้ซอย 1 ถ้วย
• ใบมะกรูดซอย 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• พริกแกงเผ็ด 4 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบนะคะ)
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นวดผสมทุกอย่างผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ปั้นส่วนผสมทอดมันเป็นก้อน ๆ นำลงทอดในน้ำมันร้อนไฟกลาง จนสุกเหลืองน่ารับประทาน
วิธีรับประทาน : เมนูนี้ไม่ต้องมีน้ำจิ้มค่ะ ลองทานดูหมูจะนุ่มเด้งเบา ๆ เป็นธรรมชาติหอมเครื่องแกงเผ็ด และโดดเด่นที่กลิ่นตระไคร้และใบมะกรูด กัดเข้าไปน้ำลายแตกฟอง หอมมาก ๆ ลองทำกันดูค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
3. สามชั้นผัดกะปิ
เมนูนี้ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ นะ หืม ๆ ๆ อิอิ
ส่วนผสม หมูผัดกะปิ
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• สามชั้นแล่บาง ๆ หั่นสี่เหลี่ยมตามชอบ ประมาณ 100 กรัม
• กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่เต็มช้อน กะปิมีคนเอามาให้ค่อนข้างหวานอ้อเลยไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยนะคะ)
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ตะไคร้ซอย 4-5 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
• รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูแห้งหรือสดตามชอบ
• ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ หมูผัดกะปิ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อย ใส่กระเทียมเจียวพอหอม ตามด้วยหมูสามชั้นลงไป เจียวต่อ เพื่อรีดน้ำมันออกจากสามชั้นอีกนิด
2. ใส่กะปิลงไป ยี ๆ ให้กระจายทั่ว (หรือละลายน้ำก่อนก็ได้จ้า) ผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำมันหอย
4. ผัดไปสักพักน้ำมันจะเริ่มออกมาเยอะ ให้เทน้ำมันออกแล้วผัดต่อให้แห้ง จากนั้นใส่หัวหอมซอย รากผักชีซอย ตะไคร้ซอย และใบมะกรูดซอยลงไปคั่วต่อนิดหน่อยให้เครื่องเทศหอมและกรอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
4. ซาลาเปาผักไส้หมูสับ
ขอเพิ่มเมนูไม่อ้วนแต่ฮิตสุด ๆ 1 เมนูค่า
ส่วนผสม
• ผักกาดขาวหัวย่อม ๆ 1 หัว
• หมูสับ หรือไก่สับ 150 กรัม (วันนี้อ้อใช้ผสมกันเลยค่ะ เหตุเพราะเหลืออย่างละนิดหน่อย)
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• รากผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
• งาขาวคั่ว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำผักกาดขาวมาฉีกเป็นใบ ๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดให้ใบนิ่ม
2. ผสมหมูสับ ไก่สับ กระเทียม รากผักชี น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว พักไว้
3. นำผักกาดขาวประมาณ 3 ใบ มาเรียงใส่ชามลักษณะครึ่งวงกลม เสร็จแล้วนำหมูหมักมาใส่เกลี่ยทับให้ทั่ว
4. ปิดทับอีกชั้นด้วยใบผักกาดขาวแล้วตักหมูใส่หมูลงไป เกลี่ยให้ทั่ว ทำซ้ำประมาณ 3-4 ชั้น ตามชอบ
5. ชั้นสุดท้ายปิดทับด้วยใบผักกาดขาว 2 ใบ กดให้แน่น และนำไปนึ่งประมาณ 20 นาทีหรือจนสุก
6. พอสุกแล้วใช้ช้อนกด ๆ จะมีน้ำผักอยู่พอสมควรตักออกมาพักไว้ใช้เป็นน้ำซุป
7. คว่ำซาลาเปาผักใส่จาน และผ่าสี่ส่วน โรยงาขาวคั่ว
8. ตักน้ำซุปที่ตักออกมาเมื่อครู่ ใส่ลงไปในจานเสิร์ฟนิดหน่อย แล้วเหยาะซีอิ๊วขาวเพิ่มสีสันและรสชาติ พร้อมเสิร์ฟ
5. มินิพิซซ่าแฮมชีส มื้อเช้าทำง่ายใน 3 นาที
มื้อเช้าที่หลาย ๆ คนไม่อยากยุ่งยากเสียเวลา เพราะต้องรีบออกไปทำงาน อ้อขอแนะนำ เมนูสุดเก๋ มินิพิซซ่าแฮมชีส ที่ทำง่าย อร่อย ได้ใน 3 นาทีกันค่ะ
ส่วนผสม
• ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
• ซอสมะเขือเทศ
• มะเขือเทศ (เฉพาะเปลือก) หั่นเป็นเส้น ๆ
• สับประรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
• แฮมหั่นเต๋า
• มอสซาเรลลาชีส
• พาร์สลีย์สดสับ
• เกลือป่น
• ออริกาโน่
วิธีทำ
1. ทาซอสมะเขือเทศลงบนขนมปัง วางมะเขือเทศลงไป ตามด้วยแฮม และสับประรด
2. โรยมอสซาเรลลาชีสและพาร์สลีย์สดสับ
3. นำเข้าอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 3 นาที (หรือจนชีสเหลืองสวยงามตามชอบ)
4. นำมาเป็นชิ้นหั่นสี่เหลี่ยม โรยเกลือและออริกาโน่ พร้อมเสิร์ฟ
เพียงเท่านี้เราก็จะได้อาหารเช้าจานด่วน ที่เสิร์ฟร้อนอร่อยทันใจ ใคร ๆ ก็ชอบเนอะ เมนูนี้ใช้เครื่องทอดไม่ใช้น้ำมันฟิลิปส์หรือใครมีหม้ออบลมร้อน หรือเตาอบก็ใช้ได้จ้า แต่สังเกตความร้อนด้วยนะคะ ให้ชีสเหลืองสวยงามก็พอจ้า
6. กุ้งแม่น้ำคั่วเกลือ สูตรโบราณ
แถมอีกแล้ว เมนูนี้ไม่อ้วนแต่กระเป๋าผอมไปเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ เมนูนี้มีลุงคนนึงเคยบอกไว้นานละค่ะ ว่าเป็นสูตรเก่าแก่แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ อ้อเองก็ทำกินบ่อย ๆ ค่ะทำง่ายและอร่อยมาก ๆ สามารถทำได้กับกุ้งทุกชนิด มาดูวิธีทำกันค่ะ
ส่วนผสม
• กุ้งแม่น้ำ (หรือกุ้งชนิดไหนก็ได้ตามชอบ)
• เกลือป่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำ
1. ตัดหนวดกุ้งและส่วนที่แหลม ๆ ออก ไม่ต้องปอกเปลือกค่ะ ล้างและสะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. ตั้งกระทะเปิดไฟกลาง ใส่กุ้งลงไป โรยเกลือป่นให้ทั่ว
3. คั่วในกระทะไปสักพักน้ำกุ้งจะออกมา ให้คั่วต่อจนน้ำเกือบแห้ง และกุ้งจะเริ่มเกรียมนิดหน่อย
4. โรยน้ำตาลทรายลงไปให้ทั่วไม่ต้องมาก คั่วต่อให้เข้ากัน สักพักจะมีกลิ่นไหม้อ่อน ๆ ของน้ำตาลกับเกลือ จะหอมมาก ๆ เลยค่ะ คั่วต่อจนแห้งแบบที่พอใจ ปิดไฟ
เมนูนี้กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือจะจิ้มด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากันสุด ๆ ค่า
7. กุ้งเทมปุระ
เมนูนี้ทำไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปค่ะ เมนูนี้ค่อนข้างต้องทำอย่างรวดเร็วมาก อ้อทำด้วยถ่ายรูปด้วย ทุลักทุกเลมาก แต่ก็มีภาพมาให้เพื่อน ๆ เห็นจนได้ค่ะ ทำเสร็จบ้านเลอะเทอะสุด ๆ ไปเลย 555 มาดูวิธีการทำกันเลยค่า
ส่วนผสม กุ้งเทมปุระ
• แป้งสำเร็จรูปเทมปุระ (อังเคิลบาร์นส์) 1 ถ้วย
• น้ำเย็นจัด 1 1/2 ถ้วย
• กุ้งสด
• น้ำมัน (สำหรับทอด)
วิธีทำ
1. แกะเปลือกกุ้งออก ใช้เฉพาะส่วนเนื้อและหาง นำเส้นกลางดำออก บั้งตรงท้องกุ้ง 3-4 จุด แต่ไม่ให้ขาด เพื่อให้กุ้งยืดตัวได้ตรง นำไปคลุกแป้งเทมปุระบาง ๆ พักไว้
2. นำแป้งเทมปุระผสมกับน้ำเย็นจัดคนให้แป้งละลาย เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะให้น้ำมันร้อน (ทดสอบโดยการหยอดน้ำแป้งลงไปนิดหน่อย ถ้าฟู่ก็แสดงว่าใช้ได้ค่ะ)
4. คนผสมแป้งที่ผสมน้ำเย็นอีกครั้งให้แป้งกระจายตัว จากนั้นใช้มือชุบน้ำแป้งแล้วสะบัดนิ้วใส่ไปบนผิวน้ำมันให้เป็นจุดเล็ก ๆ ทั่ว ๆ จนเต็มกระทะ (ไม่ต้องกลัวน้ำมันกระเด็นค่ะ ทำเมนูนี้ต้องทำใจนะ ก็อาจจะมีบ้างแต่กุ้งเทมปุระนี่ อ้อทำครั้งแรกเลยค่ะ ก็ไม่มีกระเด็นใส่มือหรือแขนนะคะ)
5. นำกุ้งที่เราคลุกแป้งแห้งลงคลุกไปในน้ำแป้งที่ผสมน้ำเย็น แล้วนำไปวางบนแป้งที่เราสะบัดโรยไว้ในตอนแรก แป้งที่โรยเอาไว้จะเกาะตัวกุ้งด้านหนึ่งและฟูสวย โดยให้วางกุ้งห่างกันนิดหน่อยนะคะ
6. พอแป้งเหลืองให้กลับกุ้ง ทอดพอสุกเหลืองสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จะได้กุ้งเทมปุระสวยงาม และจะได้แป้งส่วนเกินที่กรอบเป็นฝอย ๆ
7. จัดเสิร์ฟ แล้วนำแป้งส่วนเกินที่กรอบ ๆ โรยไปกับกุ้งเทมปุระด้วย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเทมปุระ
แต่หากใครต้องการทำน้ำจิ้มเองก็ตามสูตรด้านล่างจ้ะ
ส่วนผสม น้ำจิ้มเทมปุระ
• น้ำซุปปลาโอแห้ง 1/2 ถ้วย (สัดส่วนตามชอบค่ะ)
• โชยุ 1/4 ถ้วย
• เหล้าสาเก 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• ไชเท้าขูดละเอียด 2 ช้อนชา
วิธีทำ
• นำส่วนผสมข้อ 1-4 ผสมกันตั้งไฟให้เดือด พักให้เย็นแล้วใส่ไช้เท้าขูดละเอียด พร้อมเสิร์ฟ
8. หมูทอดปลาเค็มหอม
เมนูนี้ใครชอบความหอมของปลาเค็มต้องไม่พลาดค่ะ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นก็ยังคงความหอมอร่อย มาดูวิธีทำกันจ้า
ส่วนผสม
• หมูบะช่อทรงเครื่อง 500 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วย
• พริกไทยดำป่น 1-2 ช้อนชา (ตามชอบ)
• กระเทียม 1/2 ถ้วย
• รากผักชี 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ปลาอินทรีเค็มทอด ประมาณ 1 ชิ้นบาง ๆ (ยีเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาก้างออก ลองนึกถึงที่ขายพร้อมเครื่องยำตามตลาดอะค่ะ)
เคล็ดลับ : หากต้องการความจัดจ้านจากสูตรนี้ลองเพิ่มเครื่องแกงเผ็ดไป 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. โขลกกระเทียมกับรากผักชีเข้าด้วยกันแล้วนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากัน
2. ปั้นเป็นก้อนกลม นำลงทอดในน้ำมันร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลืองน่ารับประทาน
3. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
วิธีรับประทาน : เสิร์ฟคู่กับกับข้าวชนิดอื่นเป็นของแนมได้ดีมาก แกงส้ม แกงเผ็ด หรือแค่มีข้าวสวยร้อน ๆ ข้าวเหนียมนุ่ม ๆ สักจาน ส้มตำแซ่บ ๆ เข้ากันได้หมด ลองทำดูนะคะ
9. สามชั้นต้มซีอิ๊ว
เมนูนี้นี้ไม่ยากแต่ใช้เวลาหน่อยจะอร่อยมากขึ้น ใครได้ลิ้มรสจะติดใจลืมอ้วนทุกคน 555 มาดูวิธีทำกันจ้า
ส่วนผสม
• หอมแดงสับละเอียด 2 ถ้วย
• กระเทียมสับละเอียด 1/2 ถ้วย
• รากผักชีสับละเอียด 1/2 ถ้วย (รากและส่วนต้น 2-3 นิ้ว)
• สามชั้นหั่นสีเหลี่ยม 1 กิโลกรัม (ใช้มีดจิ้มเนื้อหมูให้พรุน เครื่องปรุงจะได้เข้าเนื้อได้ดียิ่งขึ้น)
• เหล้าจีน 1 ถ้วย
• เต้าเจี้ยว 1/2 ถ้วย
• ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
• พริกไทยดำป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ (อ้อใช้น้ำมันหมูเลยค่ะ หอมมาก)
• น้ำเปล่า 3 ถ้วย
เคล็ดลับ : หากใครชอบกลิ่นขิงให้ใส่ขิงสับละเอียด 1/3 ถ้วยนะคะ จะช่วยให้ยิ่งหอมมาก ๆ เลยค่ะ แต่พอดีวันนี้ขิงหมดเลยอดใส่
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันลงในหม้อ พอร้อนใส่หอมแดง กระเทียม และรากผักชีลงไปเจียวให้หอม
2. ใส่สามชั้นลงไปผัดพอให้รอบนอกสุก
3. ปรุงกลิ่นและรสด้วยเหล้าจีน พริกไทยดำ และเต้าเจี้ยว เพิ่มสีสันด้วยซีอิ๊วดำหวาน คนให้เข้ากัน
4. เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมหมู เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 90 นาที ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับ : ใส่น้ำเปล่าเพื่อให้การเจียวเร็วขึ้นและน้ำมันที่ได้จะใสสวยงาม
3. รอจนน้ำเดือด (จะเห็นน้ำเป็นสีขาวขุ่น แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นคือเหตุการณ์ปกติ สักพักเค้าจะค่อย ๆ ใสขึ้นทีละน้อย)
4. พอน้ำมันเดือดและใสขึ้น เบาไฟเป็นไฟกลางแล้วเจียวต่อจนกากหมูเป็นสีเหลือง 80%
5. นำกระเทียมตำใส่ลงไปเจียวกับหมูเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันทันที
6. พอสะเด็ดน้ำมันด้วยความร้อนที่ยังเหลืออยู่หมูจะกรอบและเกรียมขึ้นอีกนิด ส่วนกระเทียมจะเหลืองทองกรอบพอดีค่ะ (หากใครเจียวกระเทียมบ่อย ๆ จะเข้าใจเนอะ) ลองฝึกดูนะคะครั้งแรกถ้ายังไม่ได้ให้ลองฝึกใหม่ค่ะ ทักษะจะเกิดได้เพราะประสบการณ์
เคล็ดลับ :
• ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเจียวจนเสร็จประมาณ 10 นาที ทั้งนี้ขึ้นกับระดับความแรงของไฟแต่ละบ้านด้วยนะจ๊ะ
• เมื่อสะเด็ดน้ำมันจนเค้าแห้งและเย็นแล้ว โรยเกลือป่นลงไปคลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อลดความชื้นอีกนิด (และอร่อยขึ้นด้วยค่ะ) เก็บในภาชนะสุญญากาศจะกรอบอยู่ได้หลายวันค่ะ
• ส่วนน้ำมันที่เหลือจากการเจียวจะใสกิ๊งเลยค่ะ ได้น้ำมันประมาณ 1 ถ้วยตวงค่ะ (อ้อจะปล่อยให้เย็นและเก็บใส่ขวดแช่เย็น เก็บไว้ทำกับข้าวต่อได้ค่ะ) แช่เย็นเค้าจะเป็นไขนะคะเพราะเป็นไขมันสัตว์จ้า
++++++++++++++++++++
2. ทอดมันหมูสมุนไพร
มาเปลี่ยนลุคทอดมันแบบเดิม ๆ ให้เป็นทอดมันสไตล์ easycooking กันค่ะ ปกติทอดมันหมูเราไม่ค่อยได้มีโอกาสทำ เพราะการที่จะสับหมูให้เนียนนั้นก็จะได้กล้ามแขนมาเป็นของแถม ไม่ไหวค่ะ 55 จะปั่นก็ขี้เกียจล้างแม่ครัวบ้านนี้ไม่ไหวเลยเนอะ ก็เพราะอ้อมีทางลัดค่ะ พอดีไปเจอเจ้าสิ่งนี้ค่ะ หมูบะช่อทรงเครื่องของซีพีที่บดเนียนมาให้แล้วเรียบร้อย ทำได้หลายเมนูเลย มาดูกันค่า
ส่วนผสม
• หมูบะช่อทรงเครื่อง 500 กรัม
• ตะไคร้ซอย 1 ถ้วย
• ใบมะกรูดซอย 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• พริกแกงเผ็ด 4 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบนะคะ)
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นวดผสมทุกอย่างผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ปั้นส่วนผสมทอดมันเป็นก้อน ๆ นำลงทอดในน้ำมันร้อนไฟกลาง จนสุกเหลืองน่ารับประทาน
วิธีรับประทาน : เมนูนี้ไม่ต้องมีน้ำจิ้มค่ะ ลองทานดูหมูจะนุ่มเด้งเบา ๆ เป็นธรรมชาติหอมเครื่องแกงเผ็ด และโดดเด่นที่กลิ่นตระไคร้และใบมะกรูด กัดเข้าไปน้ำลายแตกฟอง หอมมาก ๆ ลองทำกันดูค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
++++++++++++++++++++
3. สามชั้นผัดกะปิ
เมนูนี้ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ นะ หืม ๆ ๆ อิอิ
ส่วนผสม หมูผัดกะปิ
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• สามชั้นแล่บาง ๆ หั่นสี่เหลี่ยมตามชอบ ประมาณ 100 กรัม
• กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่เต็มช้อน กะปิมีคนเอามาให้ค่อนข้างหวานอ้อเลยไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยนะคะ)
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ตะไคร้ซอย 4-5 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
• รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูแห้งหรือสดตามชอบ
• ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ หมูผัดกะปิ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อย ใส่กระเทียมเจียวพอหอม ตามด้วยหมูสามชั้นลงไป เจียวต่อ เพื่อรีดน้ำมันออกจากสามชั้นอีกนิด
2. ใส่กะปิลงไป ยี ๆ ให้กระจายทั่ว (หรือละลายน้ำก่อนก็ได้จ้า) ผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำมันหอย
4. ผัดไปสักพักน้ำมันจะเริ่มออกมาเยอะ ให้เทน้ำมันออกแล้วผัดต่อให้แห้ง จากนั้นใส่หัวหอมซอย รากผักชีซอย ตะไคร้ซอย และใบมะกรูดซอยลงไปคั่วต่อนิดหน่อยให้เครื่องเทศหอมและกรอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
4. ซาลาเปาผักไส้หมูสับ
ขอเพิ่มเมนูไม่อ้วนแต่ฮิตสุด ๆ 1 เมนูค่า
ส่วนผสม
• ผักกาดขาวหัวย่อม ๆ 1 หัว
• หมูสับ หรือไก่สับ 150 กรัม (วันนี้อ้อใช้ผสมกันเลยค่ะ เหตุเพราะเหลืออย่างละนิดหน่อย)
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• รากผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
• งาขาวคั่ว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำผักกาดขาวมาฉีกเป็นใบ ๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดให้ใบนิ่ม
2. ผสมหมูสับ ไก่สับ กระเทียม รากผักชี น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว พักไว้
3. นำผักกาดขาวประมาณ 3 ใบ มาเรียงใส่ชามลักษณะครึ่งวงกลม เสร็จแล้วนำหมูหมักมาใส่เกลี่ยทับให้ทั่ว
4. ปิดทับอีกชั้นด้วยใบผักกาดขาวแล้วตักหมูใส่หมูลงไป เกลี่ยให้ทั่ว ทำซ้ำประมาณ 3-4 ชั้น ตามชอบ
5. ชั้นสุดท้ายปิดทับด้วยใบผักกาดขาว 2 ใบ กดให้แน่น และนำไปนึ่งประมาณ 20 นาทีหรือจนสุก
6. พอสุกแล้วใช้ช้อนกด ๆ จะมีน้ำผักอยู่พอสมควรตักออกมาพักไว้ใช้เป็นน้ำซุป
7. คว่ำซาลาเปาผักใส่จาน และผ่าสี่ส่วน โรยงาขาวคั่ว
8. ตักน้ำซุปที่ตักออกมาเมื่อครู่ ใส่ลงไปในจานเสิร์ฟนิดหน่อย แล้วเหยาะซีอิ๊วขาวเพิ่มสีสันและรสชาติ พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
5. มินิพิซซ่าแฮมชีส มื้อเช้าทำง่ายใน 3 นาที
มื้อเช้าที่หลาย ๆ คนไม่อยากยุ่งยากเสียเวลา เพราะต้องรีบออกไปทำงาน อ้อขอแนะนำ เมนูสุดเก๋ มินิพิซซ่าแฮมชีส ที่ทำง่าย อร่อย ได้ใน 3 นาทีกันค่ะ
ส่วนผสม
• ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
• ซอสมะเขือเทศ
• มะเขือเทศ (เฉพาะเปลือก) หั่นเป็นเส้น ๆ
• สับประรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
• แฮมหั่นเต๋า
• มอสซาเรลลาชีส
• พาร์สลีย์สดสับ
• เกลือป่น
• ออริกาโน่
วิธีทำ
1. ทาซอสมะเขือเทศลงบนขนมปัง วางมะเขือเทศลงไป ตามด้วยแฮม และสับประรด
2. โรยมอสซาเรลลาชีสและพาร์สลีย์สดสับ
3. นำเข้าอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 3 นาที (หรือจนชีสเหลืองสวยงามตามชอบ)
4. นำมาเป็นชิ้นหั่นสี่เหลี่ยม โรยเกลือและออริกาโน่ พร้อมเสิร์ฟ
เพียงเท่านี้เราก็จะได้อาหารเช้าจานด่วน ที่เสิร์ฟร้อนอร่อยทันใจ ใคร ๆ ก็ชอบเนอะ เมนูนี้ใช้เครื่องทอดไม่ใช้น้ำมันฟิลิปส์หรือใครมีหม้ออบลมร้อน หรือเตาอบก็ใช้ได้จ้า แต่สังเกตความร้อนด้วยนะคะ ให้ชีสเหลืองสวยงามก็พอจ้า
++++++++++++++++++++
6. กุ้งแม่น้ำคั่วเกลือ สูตรโบราณ
แถมอีกแล้ว เมนูนี้ไม่อ้วนแต่กระเป๋าผอมไปเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ เมนูนี้มีลุงคนนึงเคยบอกไว้นานละค่ะ ว่าเป็นสูตรเก่าแก่แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ อ้อเองก็ทำกินบ่อย ๆ ค่ะทำง่ายและอร่อยมาก ๆ สามารถทำได้กับกุ้งทุกชนิด มาดูวิธีทำกันค่ะ
ส่วนผสม
• กุ้งแม่น้ำ (หรือกุ้งชนิดไหนก็ได้ตามชอบ)
• เกลือป่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำ
1. ตัดหนวดกุ้งและส่วนที่แหลม ๆ ออก ไม่ต้องปอกเปลือกค่ะ ล้างและสะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. ตั้งกระทะเปิดไฟกลาง ใส่กุ้งลงไป โรยเกลือป่นให้ทั่ว
3. คั่วในกระทะไปสักพักน้ำกุ้งจะออกมา ให้คั่วต่อจนน้ำเกือบแห้ง และกุ้งจะเริ่มเกรียมนิดหน่อย
4. โรยน้ำตาลทรายลงไปให้ทั่วไม่ต้องมาก คั่วต่อให้เข้ากัน สักพักจะมีกลิ่นไหม้อ่อน ๆ ของน้ำตาลกับเกลือ จะหอมมาก ๆ เลยค่ะ คั่วต่อจนแห้งแบบที่พอใจ ปิดไฟ
เมนูนี้กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือจะจิ้มด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากันสุด ๆ ค่า
++++++++++++++++++++
7. กุ้งเทมปุระ
เมนูนี้ทำไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปค่ะ เมนูนี้ค่อนข้างต้องทำอย่างรวดเร็วมาก อ้อทำด้วยถ่ายรูปด้วย ทุลักทุกเลมาก แต่ก็มีภาพมาให้เพื่อน ๆ เห็นจนได้ค่ะ ทำเสร็จบ้านเลอะเทอะสุด ๆ ไปเลย 555 มาดูวิธีการทำกันเลยค่า
ส่วนผสม กุ้งเทมปุระ
• แป้งสำเร็จรูปเทมปุระ (อังเคิลบาร์นส์) 1 ถ้วย
• น้ำเย็นจัด 1 1/2 ถ้วย
• กุ้งสด
• น้ำมัน (สำหรับทอด)
วิธีทำ
1. แกะเปลือกกุ้งออก ใช้เฉพาะส่วนเนื้อและหาง นำเส้นกลางดำออก บั้งตรงท้องกุ้ง 3-4 จุด แต่ไม่ให้ขาด เพื่อให้กุ้งยืดตัวได้ตรง นำไปคลุกแป้งเทมปุระบาง ๆ พักไว้
2. นำแป้งเทมปุระผสมกับน้ำเย็นจัดคนให้แป้งละลาย เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะให้น้ำมันร้อน (ทดสอบโดยการหยอดน้ำแป้งลงไปนิดหน่อย ถ้าฟู่ก็แสดงว่าใช้ได้ค่ะ)
4. คนผสมแป้งที่ผสมน้ำเย็นอีกครั้งให้แป้งกระจายตัว จากนั้นใช้มือชุบน้ำแป้งแล้วสะบัดนิ้วใส่ไปบนผิวน้ำมันให้เป็นจุดเล็ก ๆ ทั่ว ๆ จนเต็มกระทะ (ไม่ต้องกลัวน้ำมันกระเด็นค่ะ ทำเมนูนี้ต้องทำใจนะ ก็อาจจะมีบ้างแต่กุ้งเทมปุระนี่ อ้อทำครั้งแรกเลยค่ะ ก็ไม่มีกระเด็นใส่มือหรือแขนนะคะ)
5. นำกุ้งที่เราคลุกแป้งแห้งลงคลุกไปในน้ำแป้งที่ผสมน้ำเย็น แล้วนำไปวางบนแป้งที่เราสะบัดโรยไว้ในตอนแรก แป้งที่โรยเอาไว้จะเกาะตัวกุ้งด้านหนึ่งและฟูสวย โดยให้วางกุ้งห่างกันนิดหน่อยนะคะ
6. พอแป้งเหลืองให้กลับกุ้ง ทอดพอสุกเหลืองสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จะได้กุ้งเทมปุระสวยงาม และจะได้แป้งส่วนเกินที่กรอบเป็นฝอย ๆ
7. จัดเสิร์ฟ แล้วนำแป้งส่วนเกินที่กรอบ ๆ โรยไปกับกุ้งเทมปุระด้วย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเทมปุระ
แต่หากใครต้องการทำน้ำจิ้มเองก็ตามสูตรด้านล่างจ้ะ
ส่วนผสม น้ำจิ้มเทมปุระ
• น้ำซุปปลาโอแห้ง 1/2 ถ้วย (สัดส่วนตามชอบค่ะ)
• โชยุ 1/4 ถ้วย
• เหล้าสาเก 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• ไชเท้าขูดละเอียด 2 ช้อนชา
วิธีทำ
• นำส่วนผสมข้อ 1-4 ผสมกันตั้งไฟให้เดือด พักให้เย็นแล้วใส่ไช้เท้าขูดละเอียด พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
8. หมูทอดปลาเค็มหอม
เมนูนี้ใครชอบความหอมของปลาเค็มต้องไม่พลาดค่ะ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นก็ยังคงความหอมอร่อย มาดูวิธีทำกันจ้า
ส่วนผสม
• หมูบะช่อทรงเครื่อง 500 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วย
• พริกไทยดำป่น 1-2 ช้อนชา (ตามชอบ)
• กระเทียม 1/2 ถ้วย
• รากผักชี 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ปลาอินทรีเค็มทอด ประมาณ 1 ชิ้นบาง ๆ (ยีเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาก้างออก ลองนึกถึงที่ขายพร้อมเครื่องยำตามตลาดอะค่ะ)
เคล็ดลับ : หากต้องการความจัดจ้านจากสูตรนี้ลองเพิ่มเครื่องแกงเผ็ดไป 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. โขลกกระเทียมกับรากผักชีเข้าด้วยกันแล้วนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากัน
2. ปั้นเป็นก้อนกลม นำลงทอดในน้ำมันร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลืองน่ารับประทาน
3. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
วิธีรับประทาน : เสิร์ฟคู่กับกับข้าวชนิดอื่นเป็นของแนมได้ดีมาก แกงส้ม แกงเผ็ด หรือแค่มีข้าวสวยร้อน ๆ ข้าวเหนียมนุ่ม ๆ สักจาน ส้มตำแซ่บ ๆ เข้ากันได้หมด ลองทำดูนะคะ
++++++++++++++++++++
9. สามชั้นต้มซีอิ๊ว
เมนูนี้นี้ไม่ยากแต่ใช้เวลาหน่อยจะอร่อยมากขึ้น ใครได้ลิ้มรสจะติดใจลืมอ้วนทุกคน 555 มาดูวิธีทำกันจ้า
ส่วนผสม
• หอมแดงสับละเอียด 2 ถ้วย
• กระเทียมสับละเอียด 1/2 ถ้วย
• รากผักชีสับละเอียด 1/2 ถ้วย (รากและส่วนต้น 2-3 นิ้ว)
• สามชั้นหั่นสีเหลี่ยม 1 กิโลกรัม (ใช้มีดจิ้มเนื้อหมูให้พรุน เครื่องปรุงจะได้เข้าเนื้อได้ดียิ่งขึ้น)
• เหล้าจีน 1 ถ้วย
• เต้าเจี้ยว 1/2 ถ้วย
• ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
• พริกไทยดำป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ (อ้อใช้น้ำมันหมูเลยค่ะ หอมมาก)
• น้ำเปล่า 3 ถ้วย
เคล็ดลับ : หากใครชอบกลิ่นขิงให้ใส่ขิงสับละเอียด 1/3 ถ้วยนะคะ จะช่วยให้ยิ่งหอมมาก ๆ เลยค่ะ แต่พอดีวันนี้ขิงหมดเลยอดใส่
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันลงในหม้อ พอร้อนใส่หอมแดง กระเทียม และรากผักชีลงไปเจียวให้หอม
2. ใส่สามชั้นลงไปผัดพอให้รอบนอกสุก
3. ปรุงกลิ่นและรสด้วยเหล้าจีน พริกไทยดำ และเต้าเจี้ยว เพิ่มสีสันด้วยซีอิ๊วดำหวาน คนให้เข้ากัน
4. เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมหมู เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 90 นาที ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
น้ำจะเข้มข้นหอมหวานโดยไม่ต้องใส่น้ำตาล เนื้อหมูหอมหนังหมูนุ่มเข้าเนื้อ กินกับผักลวกหรือข้าวสวยร้อน ๆ กินกันได้ทั้งครอบครัว
++++++++++++++++++++
10. หมูกรอบ แบบง่าย
ลองทำครั้งที่ 2 ค่ะ พบว่า ทำออกมาใช้ได้เลยเอามาแชร์ให้เพื่อน ๆ เพื่อเป็นไอเดียในการทำหมูกรอบค่ะ
ส่วนผสม
• สามชั้นหั่นสี่เหลี่ยมขนาดตามชอบ
• เหล้าจีน (ไม่มีไม่ต้องใส่ค่ะ แต่ใส่แล้วจะหอมมาก โดยความร้อนจะทำให้แอลกอฮอล์ระเหยหมดเหลือแต่กลิ่นหอม ๆ ค่ะ)
• น้ำมันหอย ตามชอบ
• พริกไทย ตามชอบ
• เกลือป่น
• น้ำส้มสายชู
• กระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์
• หม้ออบลมร้อน
เคล็ดลับ : เลือกสามชั้นหนังหนา ๆ แต่อ้อได้มาบางซะงั้น แม่ค้าเข้าใจว่ามันหนา ๆ T__T แต่ไม่เป็นไรทำต่อไป หากเพื่อน ๆ เลือกมาทำให้หาสามชั้นที่หนังหนา ๆ นิ่ม ๆ นะคะ มันน้อย ๆ เนื้อเยอะ ๆ ค่ะ ^^
วิธีทำ
1. ใช้มีดกรีดหนังหมูให้เป็นลายตารางเล็ก ๆ แล้วจิ้มให้พรุนเลย จากนั้นหมักด้วยเหล้าจีน น้ำมันหอย และพริกไทยตามชอบ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 15-30 นาที
2. นำสามชั้นหมักออกมาห่อด้วยกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์ (ตามรูป) แล้วทาด้วยน้ำส้มสายชูให้ทั่วบริเวณหนัง จากนั้นโรยเกลือทับให้หนา ๆ (เพื่อไล่ความชื้นและทำหนังหมูตึง)
3. นำหมูเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที
หมายเหตุ : หากใครมีเกลือแกงเม็ดใหญ่ ๆ ให้ใช้แบบนั้นแล้วนำมาตำหยาบ ๆ จะดีกว่าค่ะ ความเค็มจะไม่เข้าไปในหมูมากนัก แต่หากใช้เกลือป่นแบบอ้อ ระวังเรื่องความเค็มด้วยนะคะ ตอนนำออกจากเตา ให้เอาน้ำล้างออกหน่อยก็ดีแล้วผึ่งให้แห้งก่อนเข้าอบอีกครั้ง เพราะของอ้อเค็มเกินไปค่ะ
4. นำหมูที่อบแล้วมากะเทาะเกลือออก จากนั้นนำกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์ออก (ขั้นตอนนี้อ้อยังมีแอบจิ้มหนังหมูอีกนิดด้วยค่ะกลัวไม่กรอบ 55) แล้วนำไปอบต่อ 15-20 นาที จนกว่าจะฟูกรอบตามชอบ
หมายเหตุ : คอยสังเกตอยู่ใกล้ ๆ ขณะทำด้วยนะคะ เพราะระดับความแรงของไฟเตาอบหม้ออบแต่ละบ้าน อ้อว่าไม่เท่ากัน (ตามสภาพใหม่เก่าและความคงที่ของอุณหภูมิที่อาจไม่เท่ากัน) หมั่นสังเกตจะดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเสียของเนอะ ^^
ของอ้อตอนเสร็จแล้วหนังพองฟูพอสมควร กรอบใช้ได้เลยค่ะ แต่ไม่ได้ดังใจเท่าไร เพราะหนังหมูที่อ้อได้มาบางเกินไป เลยพองไม่เต็มที่ หากใครทดลองทำเลือกหนังหมูหนา ๆ นุ่ม ๆ นะคะ ^^
11. สามชั้นหมักงาขาว
หมูสามชั้น สามารถนำมาสร้างเมนูได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ค่ะ และวันนี้อ้อมีเมนูง่าย ๆ มานำเสนออีกแล้ว มาดูวิธีทำกันค่ะ
ส่วนผสม
• สามชั้นหั่นบาง ๆ 500 กรัม
• น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หมักส่วนผสมทั้งหมดทิ้งไว้ 10-15 นาที
2. นำไปอบในหม้ออบลมร้อนประมาณ 12 นาที ที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส หรือจนกรอบในแบบที่ชอบ หรือจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนไฟกลาง ทอดจนสุกเหลืองกรอบ
กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือข้าวเหนียวนุ่ม ๆ เข้ากันดีเชียวค่ะ
12. ไก่ทอดน้ำปลา
วันนี้อ้อทดลองแป้งทอดกรอบที่ได้มาใหม่ค่ะ กรอบใช้ได้เลย ที่สำคัญสูตรนี้ไม่จำเป็นต้องหมักค่ะ คลุก ๆ แล้วลงทอด อร่อยเข้าเนื้อไม่เชื่อลองค่ะ ^^
ส่วนผสม
• ปีกกลางไก่ 500 กรัม (ผ่าครึ่ง)
• น้ำปลาแท้หอม ๆ 3 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา (หรือตามชอบ)
• แป้งทอดกรอบ (อังเคิลบาร์นส์) 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเย็นจัด 4 ช้อนโต๊ะ
หมายเหตุ : จากสูตรนี้ทำให้เป็นไก่ทอดน้ำปลาไฮโซด้วยการใส่งาขาวเพิ่มไป 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำปีกไก่ที่ผ่าครึ่งแล้วไปคลุกเคล้ากับน้ำปลา พริกไทยขาวป่น และแป้งทอดกรอบ ตามด้วยน้ำเย็นจัด และงาขาว
2. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนใส่ไก่ลงไปทอดจนเหลืองกรอบน่ารับประทาน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันสักครู่ จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวหรือกินเล่น
เมนูไก่ทอดควรกินทันทีจะได้ความอร่อยอย่างที่สุด แต่หากตั้งทิ้งไว้แล้วนิ่มเหนียวให้นำกลับไปทอดใหม่อีกครั้งจะกรอบใกล้เคียงกับทอดมาใหม่ ๆ เลยค่า
13. สปาเกตตีฉู่ฉี่กุ้งอบ
ส่วนผสม
• หัวกะทิ
• เครื่องแกงฉู่ฉี่
• หางกะทิ
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• เส้นสปาเกตตีต้มสุก
• พริกชีฟ้าแดง
• ใบมะกรูด
• ใบโหระพา
• กุ้งกุลา
วิธีทำ
1. ใส่หัวกะทิเล็กน้อยลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน พอร้อนใส่เครื่องแกงฉู่ฉี่ลงไปผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน
2. ค่อย ๆ ใส่หางกะทิลงไปทีละน้อยจนได้ปริมาณน้ำแกงที่ต้องการ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ (ชิมให้รสชาติกลมกล่อมหวานมันเค็ม) ตักแบ่งน้ำแกงส่วนหนึ่งไปทาที่ตัวกุ้ง จากนั้นเคี่ยวต่อให้กะทิแตกมันสวยงาม
3. นำเส้นสปาเกตตีที่ต้มสุกแล้วลงไปคลุกในน้ำแกงฉูฉี่ โรยใบมะกรูดซอย ใบโหระพาซอย และพริกชี้ฟ้าแดงเล็กน้อย ตักใส่จานเสิร์ฟ เตรียมไว้
4. ผ่าหลังกุ้งกุลาแบบผีเสื้อ (ตามรูป) นำเส้นกลางดำและขี้กุ้งออก นำเครื่องแกงที่เราผัดไว้มาทาที่เนื้อกุ้ง และนำไปย่างด้วยเตาถ่าน หรือเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 10-13 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดกุ้ง)
5. พอกุ้งสุกนำมาวางในจานคู่กับเส้นสปาเกตตีที่คลุกน้ำแกงฉู่ฉี่ไว้ ตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอย ใบโหรพาซอย และพริกชีฟ้าแดงซอย พร้อมรับประทาน
14. ลูกชิ้นโปรตีนเกษตรทอดกรอบ
ช่วงกินเจแช่แข็งลูกชิ้นโปรตีนเกษตรเอาไว้ เพราะกินไม่หมด ซึ่งตอนนี้ทำการเคลียร์ตู้โดยการนำมาทำเป็นของกินเล่น เด็ก ๆ ชอบ ผู้ใหญ่ก็เคี้ยวเพลินค่า อร่อยเหาะกันไป วิธีการทำก็ง่าย ๆ ค่ะ
ส่วนผสม ลูกชิ้น
• ลูกชิ้นเจโปรตีนเกษตรแบบนิ่ม
• แป้งครัวครบรส
• น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. นำแป้งคลุกเคล้ากับลูกชิ้นให้ทั่ว ขยำ ๆ แป้งให้ติดที่ผิวลูกชิ้นแบบชื้น ๆ เตรียมไว้
2. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำลูกชิ้นลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน กินคู่กับน้ำจิ้ม
พอทอดเสร็จแล้วด้านนอกจะกรอบอร่อยเค็มนิด ๆ ส่วนด้านในจะหนึบ ๆ อร่อยดีค่า
ส่วนผสม น้ำจิ้ม (สัดส่วนโดยประมาณนะคะ เพื่อน ๆ ลองทำชิมรสแบบที่ชอบนะคะ)
• น้ำมะขามเปียก 50 กรัม
• น้ำตาลปิ๊บ 50 กรัม
• พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำ 1 ถ้วย
• อัลมอนด์สไลด์อบ
• เกลือนิดหน่อย
วิธีทำ
1. นำมะขามเปียกขยำกับน้ำแล้วกรองเอากากออก จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือลงไป
2. นำไปตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด แล้วลดไฟลง เคี่ยวจนเหนียวข้นในแบบที่ต้องการ ปิดไฟ สุดท้ายก็เติมอัลมอนด์และพริกป่นลงไปตามชอบ
15. เห็ดเข็มทองทอดกับซอสมะขาม
ส่วนผสม
• เห็ดเข็มทอง
• แป้งทอดกรอบ (อังเคิลบาร์นส์) 1/2 ถ้วย
• น้ำเย็น 1/2 ถ้วย
• น้ำมะขาม
• น้ำตาลปี๊บ
• ซีอิ๊วขาว
วิธีทำ
1. นำเห็ดเข็มทองตัดโคนออกให้เหลือความยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ยีเป็นเส้น ๆ
2. ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นเข้าด้วยกัน
3. ตั้งกระทะน้ำมันร้อนไฟกลาง นำเห็ดเข็มทองทีละน้อยชุบแป้ง บีบน้ำแป้งออกหมาด ๆ แล้วนำลงทอด จนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้ (ต้องบีบแป้งออกให้เห็ดหมาด ๆ จึงลงทอดนะคะ ไม่เช่นนั้นแป้งจะเยอะเกินไป เห็ดจะไม่กรอบค่ะ)
4. ทำซอสมะขามโดยนำมะขามผสมกับน้ำต้มสุก น้ำตาลปี๊บ และซีอิ๊วขาว ให้ได้รสเปรี้ยวเค็มหวาน กินคู่กันเป็นของทานเล่นอร่อยมาก ๆ ค่ะ หรือจะกินกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยก็อร่อยสุด ๆ
16. ยำสมุนไพรเต้าหู้ฟู
ส่วนผสม เต้าหู้ฟู
• เต้าหู้ถั่วเหลือง 1 ก้อน
• เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย
• แป้งทอดกรอบ 1/3 ถ้วย
• งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
• นำมันพืชสำหรับทอด
ส่วนผสม น้ำยำสมุนไพร
• ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
• ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูหรือพริกป่นตามชอบ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำเต้าหู้มายีให้เละแล้วนำไปคลุกเคล้าเกล็ดขนมปัง แป้งทอดกรอบ เกลือป่น งาขาว และน้ำมันพืชลงไป เคล้าผสมให้ทั่ว (ใส่น้ำมันพืชในส่วนผสมจะช่วยให้ฟูกรอบได้ง่าย)
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนนำส่วนผสมลงทอดจนกรอบเหลืองสีสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันให้แห้ง
3. ผสมเครื่องน้ำยำสมุนไพรทั้งหมดเข้าด้วยกัน เสิร์ฟพร้อมเต้าหู้ฟูที่เตรียมไว้
17. ไข่ยัดไส้ใส่ชีส
เมนูนี้เด็ก ๆ ชอบค่ะ หลาย ๆ ท่านขอเมนูเด็ก ๆ มาเยอะ จัดให้แล้วนะจ๊ะ
ส่วนผสม
• หอมใหญ่สับ
• ไก่สับ 50 กรัม
• มะเขือเทศหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวโพดหวานฝานเมล็ด 3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา
• แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
• มอสซาเรลาชีสผสมเชดดาร์ชีส สับละเอียด
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำมันพืช
• พาร์สลีย์สำหรับแต่ง
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่หอมใหญ่ลงไปเจียวให้หอม ตามด้วยไก่สับ มะเขือเทศ ข้าวโพด และซอสมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทยดำ ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่แตงกวาลงไปทีหลังสุด (เพราะต้องการความกรอบของแตงกวาค่ะ) จากนั้นใส่ชีสสับละเอียดลงไป เคล้าให้เข้ากันจนชีสละลาย ปิดไฟ พักไว้
3. ตีไข่เบา ๆ ในชามอย่าให้เกิดฟองมาก (เวลานำไปกลอกในกระทะจะเป็นรูฟองอากาศไม่สวยค่ะ) จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง พอร้อนใส่น้ำมันลงไปพอเคลือบที่ผิวกระทะ ใส่ไข่ลงไปกลอกให้ทั่วให้บางสม่ำเสมอกัน
4. ทอดจนไข่สุกได้ที่ นำเครื่องที่ผัดไว้มาใส่แล้วพับเป็นสีเหลี่ยม วางคว่ำกระทะลงบนจานเสิร์ฟ (หากต้องการให้ชีสเยิ้ม ๆ ให้นำไปใส่ไมโครเวฟหรือเตาอบสักนิดหน่อย ก่อนเสิร์ฟ) แต่งหน้าด้วยพาร์สลีย์
18. หมี่ผัดผักกระเฉด
วันนี้ในตู้ไม่มีอะไรเหลือเลย เจอหมูสามชั้นทอดกินไม่หมดเก็บในตู้เย็น (ลืมไปเลยนานแล้ว 55) กับผักกระเฉดที่เกือบเหี่ยว เลยจับมาทำหมี่ผัดผักกระเฉด อร่อยดีทำง่ายด้วยค่ะ
ส่วนผสม
• พริกแห้งสับ
• กระเทียมสับ
• สามชั้นทอดหั่นเป็นชิ้นพอคำ
• เส้นหมี่ไวไว แช่น้ำจนนิ่ม (ตัดสั้นประมาณ 1 คืบ)
• ผักกระเฉดเด็ดเป็นท่อน
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำตาลทราย
• น้ำมันหอย
• น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำ
1. นำกระเทียมและพริกแห้งสับเจียวกับน้ำมันให้หอม ใส่หมูสามชั้นทอดลงไปผัด ตามด้วยเส้นหมี่ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
2. พอเส้นหมี่เริ่มสุก ใส่ผักกระเฉดลงไป ผัดให้เข้ากันจนผักสลด ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ
เป็นเมนูง่าย ๆ และอร่อยมาก ๆ เลยค่า ลองทำกันดูนะคะ ^__^
19. เมนูนี้อ้วนบ้างไม่อ้วนบ้าง
20. ทับทิมกรอบ
ขนมอร่อยทำง่าย วันนี้วัตถุดิบหลักอ้อใช้เป็นมันแกวค่ะ ใช้สีผสมอาหารและสีของดอกอัญชันแห้ง
ส่วนผสม
• กะทิสด
• น้ำตาลทราย
• ใบเตย
• เกลือป่น
• มันแกวหรือแห้วหั่นชิ้นเล็ก ๆ ขนาด 1-1.5 เซนติเมตร
• แป้งท้าวยายม่อมหรือแป้งมัน (หมายเหตุ : บางสูตรก็ผสมกันจ้า แป้งท้าวจะมีข้อดีคือแป้งจะใสสวยงามจ้า )
• สีผสมอาหารสีแดง (ใช้สี Strawberry Red Colour)
• สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล (ใช้สี Apple Green Colour)
• สีผสมอาหารสีเหลือง (ใช้สี Lemon Yellow Colour)
• สีผสมอาหารสีน้ำเงิน (ใช้สีจากดอกอัญชันแห้ง)
วิธีทำ
1. นำกะทิสดขึ้นตั้งไฟ ใส่ใบเตย 2-3 ใบ ใส่น้ำตาลทราย และตัดรสด้วยเกลือนิดหน่อย ชิมรสตามชอบ พอเดือดปิดไฟ (พักทิ้งไว้ให้เย็น)
2. นำมันแกวหรือแห้วแช่ในน้ำสีผสมอาหารแต่ละสี ประมาณ 1/2 ชั่วโมง หรือจนสีติดในแบบที่ต้องการ
3. นำมันแก้วขึ้นสะเด็ดน้ำ ซับให้แห้งสนิท แล้วนำคลุกแป้งให้ทั่ว กรองเอาแป้งส่วนเกินออก พักไว้
4. ตั้งน้ำให้เดือดจัด ใส่มันแกวที่คลุกแป้งลงไป พอลอยขึ้นและมีลักษณะใส แสดงว่าสุกตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นเพื่อลดอุณภูมิ และไม่ให้ติดกันเป็นก้อน
5. ตักทับทิมกรอบใส่ถ้วยราดด้วยกะทิสด พร้อมเสิร์ฟ (จะใส่น้ำแข็งป่นเพื่อความสดชื่นก็ได้ค่ะ)
ครบแล้วนะคะ... ขอบคุณทุก ๆ ท่านสำหรับการติดตามค่า
คุณพระ ! อาหารแต่ละเมนูน่ากินชวนอ้วนสมชื่อจริง ๆ ทีเด็ดคือตรงที่ทำง่ายนี่แหละ เห็นแบบนี้เข้าครัวก่อนนะคะ ไปคุ้ย ๆ ของในตู้เย็นมาทำอาหารแป๊บ แล้วจะเอามาอวด อิอิ
ของอ้อตอนเสร็จแล้วหนังพองฟูพอสมควร กรอบใช้ได้เลยค่ะ แต่ไม่ได้ดังใจเท่าไร เพราะหนังหมูที่อ้อได้มาบางเกินไป เลยพองไม่เต็มที่ หากใครทดลองทำเลือกหนังหมูหนา ๆ นุ่ม ๆ นะคะ ^^
++++++++++++++++++++
11. สามชั้นหมักงาขาว
หมูสามชั้น สามารถนำมาสร้างเมนูได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ค่ะ และวันนี้อ้อมีเมนูง่าย ๆ มานำเสนออีกแล้ว มาดูวิธีทำกันค่ะ
ส่วนผสม
• สามชั้นหั่นบาง ๆ 500 กรัม
• น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หมักส่วนผสมทั้งหมดทิ้งไว้ 10-15 นาที
2. นำไปอบในหม้ออบลมร้อนประมาณ 12 นาที ที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส หรือจนกรอบในแบบที่ชอบ หรือจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนไฟกลาง ทอดจนสุกเหลืองกรอบ
กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือข้าวเหนียวนุ่ม ๆ เข้ากันดีเชียวค่ะ
++++++++++++++++++++
12. ไก่ทอดน้ำปลา
วันนี้อ้อทดลองแป้งทอดกรอบที่ได้มาใหม่ค่ะ กรอบใช้ได้เลย ที่สำคัญสูตรนี้ไม่จำเป็นต้องหมักค่ะ คลุก ๆ แล้วลงทอด อร่อยเข้าเนื้อไม่เชื่อลองค่ะ ^^
ส่วนผสม
• ปีกกลางไก่ 500 กรัม (ผ่าครึ่ง)
• น้ำปลาแท้หอม ๆ 3 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา (หรือตามชอบ)
• แป้งทอดกรอบ (อังเคิลบาร์นส์) 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเย็นจัด 4 ช้อนโต๊ะ
หมายเหตุ : จากสูตรนี้ทำให้เป็นไก่ทอดน้ำปลาไฮโซด้วยการใส่งาขาวเพิ่มไป 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำปีกไก่ที่ผ่าครึ่งแล้วไปคลุกเคล้ากับน้ำปลา พริกไทยขาวป่น และแป้งทอดกรอบ ตามด้วยน้ำเย็นจัด และงาขาว
2. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนใส่ไก่ลงไปทอดจนเหลืองกรอบน่ารับประทาน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันสักครู่ จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวหรือกินเล่น
เมนูไก่ทอดควรกินทันทีจะได้ความอร่อยอย่างที่สุด แต่หากตั้งทิ้งไว้แล้วนิ่มเหนียวให้นำกลับไปทอดใหม่อีกครั้งจะกรอบใกล้เคียงกับทอดมาใหม่ ๆ เลยค่า
++++++++++++++++++++
13. สปาเกตตีฉู่ฉี่กุ้งอบ
ส่วนผสม
• หัวกะทิ
• เครื่องแกงฉู่ฉี่
• หางกะทิ
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• เส้นสปาเกตตีต้มสุก
• พริกชีฟ้าแดง
• ใบมะกรูด
• ใบโหระพา
• กุ้งกุลา
วิธีทำ
1. ใส่หัวกะทิเล็กน้อยลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน พอร้อนใส่เครื่องแกงฉู่ฉี่ลงไปผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน
2. ค่อย ๆ ใส่หางกะทิลงไปทีละน้อยจนได้ปริมาณน้ำแกงที่ต้องการ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ (ชิมให้รสชาติกลมกล่อมหวานมันเค็ม) ตักแบ่งน้ำแกงส่วนหนึ่งไปทาที่ตัวกุ้ง จากนั้นเคี่ยวต่อให้กะทิแตกมันสวยงาม
3. นำเส้นสปาเกตตีที่ต้มสุกแล้วลงไปคลุกในน้ำแกงฉูฉี่ โรยใบมะกรูดซอย ใบโหระพาซอย และพริกชี้ฟ้าแดงเล็กน้อย ตักใส่จานเสิร์ฟ เตรียมไว้
4. ผ่าหลังกุ้งกุลาแบบผีเสื้อ (ตามรูป) นำเส้นกลางดำและขี้กุ้งออก นำเครื่องแกงที่เราผัดไว้มาทาที่เนื้อกุ้ง และนำไปย่างด้วยเตาถ่าน หรือเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 10-13 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดกุ้ง)
5. พอกุ้งสุกนำมาวางในจานคู่กับเส้นสปาเกตตีที่คลุกน้ำแกงฉู่ฉี่ไว้ ตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอย ใบโหรพาซอย และพริกชีฟ้าแดงซอย พร้อมรับประทาน
++++++++++++++++++++
14. ลูกชิ้นโปรตีนเกษตรทอดกรอบ
ช่วงกินเจแช่แข็งลูกชิ้นโปรตีนเกษตรเอาไว้ เพราะกินไม่หมด ซึ่งตอนนี้ทำการเคลียร์ตู้โดยการนำมาทำเป็นของกินเล่น เด็ก ๆ ชอบ ผู้ใหญ่ก็เคี้ยวเพลินค่า อร่อยเหาะกันไป วิธีการทำก็ง่าย ๆ ค่ะ
ส่วนผสม ลูกชิ้น
• ลูกชิ้นเจโปรตีนเกษตรแบบนิ่ม
• แป้งครัวครบรส
• น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. นำแป้งคลุกเคล้ากับลูกชิ้นให้ทั่ว ขยำ ๆ แป้งให้ติดที่ผิวลูกชิ้นแบบชื้น ๆ เตรียมไว้
2. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำลูกชิ้นลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน กินคู่กับน้ำจิ้ม
พอทอดเสร็จแล้วด้านนอกจะกรอบอร่อยเค็มนิด ๆ ส่วนด้านในจะหนึบ ๆ อร่อยดีค่า
ส่วนผสม น้ำจิ้ม (สัดส่วนโดยประมาณนะคะ เพื่อน ๆ ลองทำชิมรสแบบที่ชอบนะคะ)
• น้ำมะขามเปียก 50 กรัม
• น้ำตาลปิ๊บ 50 กรัม
• พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำ 1 ถ้วย
• อัลมอนด์สไลด์อบ
• เกลือนิดหน่อย
วิธีทำ
1. นำมะขามเปียกขยำกับน้ำแล้วกรองเอากากออก จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือลงไป
2. นำไปตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด แล้วลดไฟลง เคี่ยวจนเหนียวข้นในแบบที่ต้องการ ปิดไฟ สุดท้ายก็เติมอัลมอนด์และพริกป่นลงไปตามชอบ
++++++++++++++++++++
15. เห็ดเข็มทองทอดกับซอสมะขาม
ส่วนผสม
• เห็ดเข็มทอง
• แป้งทอดกรอบ (อังเคิลบาร์นส์) 1/2 ถ้วย
• น้ำเย็น 1/2 ถ้วย
• น้ำมะขาม
• น้ำตาลปี๊บ
• ซีอิ๊วขาว
วิธีทำ
1. นำเห็ดเข็มทองตัดโคนออกให้เหลือความยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ยีเป็นเส้น ๆ
2. ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นเข้าด้วยกัน
3. ตั้งกระทะน้ำมันร้อนไฟกลาง นำเห็ดเข็มทองทีละน้อยชุบแป้ง บีบน้ำแป้งออกหมาด ๆ แล้วนำลงทอด จนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้ (ต้องบีบแป้งออกให้เห็ดหมาด ๆ จึงลงทอดนะคะ ไม่เช่นนั้นแป้งจะเยอะเกินไป เห็ดจะไม่กรอบค่ะ)
4. ทำซอสมะขามโดยนำมะขามผสมกับน้ำต้มสุก น้ำตาลปี๊บ และซีอิ๊วขาว ให้ได้รสเปรี้ยวเค็มหวาน กินคู่กันเป็นของทานเล่นอร่อยมาก ๆ ค่ะ หรือจะกินกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยก็อร่อยสุด ๆ
++++++++++++++++++++
16. ยำสมุนไพรเต้าหู้ฟู
ส่วนผสม เต้าหู้ฟู
• เต้าหู้ถั่วเหลือง 1 ก้อน
• เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย
• แป้งทอดกรอบ 1/3 ถ้วย
• งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
• นำมันพืชสำหรับทอด
ส่วนผสม น้ำยำสมุนไพร
• ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
• ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูหรือพริกป่นตามชอบ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนนำส่วนผสมลงทอดจนกรอบเหลืองสีสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันให้แห้ง
3. ผสมเครื่องน้ำยำสมุนไพรทั้งหมดเข้าด้วยกัน เสิร์ฟพร้อมเต้าหู้ฟูที่เตรียมไว้
++++++++++++++++++++
17. ไข่ยัดไส้ใส่ชีส
เมนูนี้เด็ก ๆ ชอบค่ะ หลาย ๆ ท่านขอเมนูเด็ก ๆ มาเยอะ จัดให้แล้วนะจ๊ะ
ส่วนผสม
• หอมใหญ่สับ
• ไก่สับ 50 กรัม
• มะเขือเทศหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวโพดหวานฝานเมล็ด 3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา
• แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
• มอสซาเรลาชีสผสมเชดดาร์ชีส สับละเอียด
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำมันพืช
• พาร์สลีย์สำหรับแต่ง
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่หอมใหญ่ลงไปเจียวให้หอม ตามด้วยไก่สับ มะเขือเทศ ข้าวโพด และซอสมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทยดำ ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่แตงกวาลงไปทีหลังสุด (เพราะต้องการความกรอบของแตงกวาค่ะ) จากนั้นใส่ชีสสับละเอียดลงไป เคล้าให้เข้ากันจนชีสละลาย ปิดไฟ พักไว้
3. ตีไข่เบา ๆ ในชามอย่าให้เกิดฟองมาก (เวลานำไปกลอกในกระทะจะเป็นรูฟองอากาศไม่สวยค่ะ) จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง พอร้อนใส่น้ำมันลงไปพอเคลือบที่ผิวกระทะ ใส่ไข่ลงไปกลอกให้ทั่วให้บางสม่ำเสมอกัน
4. ทอดจนไข่สุกได้ที่ นำเครื่องที่ผัดไว้มาใส่แล้วพับเป็นสีเหลี่ยม วางคว่ำกระทะลงบนจานเสิร์ฟ (หากต้องการให้ชีสเยิ้ม ๆ ให้นำไปใส่ไมโครเวฟหรือเตาอบสักนิดหน่อย ก่อนเสิร์ฟ) แต่งหน้าด้วยพาร์สลีย์
++++++++++++++++++++
18. หมี่ผัดผักกระเฉด
วันนี้ในตู้ไม่มีอะไรเหลือเลย เจอหมูสามชั้นทอดกินไม่หมดเก็บในตู้เย็น (ลืมไปเลยนานแล้ว 55) กับผักกระเฉดที่เกือบเหี่ยว เลยจับมาทำหมี่ผัดผักกระเฉด อร่อยดีทำง่ายด้วยค่ะ
ส่วนผสม
• พริกแห้งสับ
• กระเทียมสับ
• สามชั้นทอดหั่นเป็นชิ้นพอคำ
• เส้นหมี่ไวไว แช่น้ำจนนิ่ม (ตัดสั้นประมาณ 1 คืบ)
• ผักกระเฉดเด็ดเป็นท่อน
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำตาลทราย
• น้ำมันหอย
• น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำ
1. นำกระเทียมและพริกแห้งสับเจียวกับน้ำมันให้หอม ใส่หมูสามชั้นทอดลงไปผัด ตามด้วยเส้นหมี่ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
2. พอเส้นหมี่เริ่มสุก ใส่ผักกระเฉดลงไป ผัดให้เข้ากันจนผักสลด ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ
เป็นเมนูง่าย ๆ และอร่อยมาก ๆ เลยค่า ลองทำกันดูนะคะ ^__^
++++++++++++++++++++
19. เมนูนี้อ้วนบ้างไม่อ้วนบ้าง
++++++++++++++++++++
20. ทับทิมกรอบ
ขนมอร่อยทำง่าย วันนี้วัตถุดิบหลักอ้อใช้เป็นมันแกวค่ะ ใช้สีผสมอาหารและสีของดอกอัญชันแห้ง
ส่วนผสม
• กะทิสด
• น้ำตาลทราย
• ใบเตย
• เกลือป่น
• มันแกวหรือแห้วหั่นชิ้นเล็ก ๆ ขนาด 1-1.5 เซนติเมตร
• แป้งท้าวยายม่อมหรือแป้งมัน (หมายเหตุ : บางสูตรก็ผสมกันจ้า แป้งท้าวจะมีข้อดีคือแป้งจะใสสวยงามจ้า )
• สีผสมอาหารสีแดง (ใช้สี Strawberry Red Colour)
• สีผสมอาหารสีเขียวแอปเปิล (ใช้สี Apple Green Colour)
• สีผสมอาหารสีเหลือง (ใช้สี Lemon Yellow Colour)
• สีผสมอาหารสีน้ำเงิน (ใช้สีจากดอกอัญชันแห้ง)
วิธีทำ
1. นำกะทิสดขึ้นตั้งไฟ ใส่ใบเตย 2-3 ใบ ใส่น้ำตาลทราย และตัดรสด้วยเกลือนิดหน่อย ชิมรสตามชอบ พอเดือดปิดไฟ (พักทิ้งไว้ให้เย็น)
2. นำมันแกวหรือแห้วแช่ในน้ำสีผสมอาหารแต่ละสี ประมาณ 1/2 ชั่วโมง หรือจนสีติดในแบบที่ต้องการ
3. นำมันแก้วขึ้นสะเด็ดน้ำ ซับให้แห้งสนิท แล้วนำคลุกแป้งให้ทั่ว กรองเอาแป้งส่วนเกินออก พักไว้
4. ตั้งน้ำให้เดือดจัด ใส่มันแกวที่คลุกแป้งลงไป พอลอยขึ้นและมีลักษณะใส แสดงว่าสุกตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นเพื่อลดอุณภูมิ และไม่ให้ติดกันเป็นก้อน
5. ตักทับทิมกรอบใส่ถ้วยราดด้วยกะทิสด พร้อมเสิร์ฟ (จะใส่น้ำแข็งป่นเพื่อความสดชื่นก็ได้ค่ะ)
ครบแล้วนะคะ... ขอบคุณทุก ๆ ท่านสำหรับการติดตามค่า
คุณพระ ! อาหารแต่ละเมนูน่ากินชวนอ้วนสมชื่อจริง ๆ ทีเด็ดคือตรงที่ทำง่ายนี่แหละ เห็นแบบนี้เข้าครัวก่อนนะคะ ไปคุ้ย ๆ ของในตู้เย็นมาทำอาหารแป๊บ แล้วจะเอามาอวด อิอิ
คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Easy Cooking เมนูอร่อยใครว่าทำยาก