ส่วนผสม โอนีแปะก๊วย
• เผือก 250 กรัม
• น้ำตาลทราย 175 กรัม
• น้ำกะทิ (ไม่ได้ตวงค่ะ เพราะใส่กะทิลงไปจนกว่าเนื้อเผือกจะใสจนสามารถปั่นได้)
• แปะก้วยต้มสุก 100 กรัม
• ข้าวเหนียวมูน (ใส่มากน้อยตามชอบค่ะ สามารถดู วิธีทำข้าวเหนียว (มูนจากหม้อหุงข้าว) กะทิถั่วดำ)
• พุทราจีนเชื่อม ตามชอบ
• เนื้อมะพร้าวอ่อน (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)
ส่วนผสม น้ำเชื่อม
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย (ถ้าใครมีน้ำลอยดอกมะลิจะดีมาก)
• แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำโอนีแปะก๊วย
• ปอกเปลือกเผือกออกแล้วล้างให้สะอาด นำเผือกไปนึ่งให้สุกแล้วใช้ที่บดแครกเกอร์ยีพอหยาบ ๆ จากนั้นนำเผือกที่บดแล้วใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เติมกะทิลงไป (กะให้ส่วนผสมเหลวพอที่จะปั่นได้) แล้วปั่นเผือกให้ละเอียด
เคล็ดลับ : วิธีนี้จะทำให้เผือกมีเนื้อละเอียดเนียนสวย โดยไม่ต้องนั่งยีให้เหนื่อยเหมือนคนโบราณ อย่าบอกใครนะคะ 555
• นำกระทะทองเหลืองขึ้นตั้งไฟกลาง ใส่เผือกที่ปั่นไว้ลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย 175 กรัม กวนผสมให้เข้ากัน พอส่วนผสมเดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน หมั่นกวนตลอดเวลาจนส่วนผสมเหนียวแห้ง ยกลงจากเตา (ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานมากค่ะ จะมีช่วงนาทีทองที่เผือกกระเด็น ใครมือใหม่ต้องระวังนะคะ)
เคล็ดลับ คือ ต้องคนทั่ว ๆ เร็ว ๆ จะลดความน่าสะพรึงกลัวลงได้ กว่าจะเหนียวได้ที่น่าจะใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงได้ แต่ผลที่ออกมาคุ้มนะคะ^^
• นำหม้อขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำเปล่าลงไปต้มพอเดือดใส่แปะก๊วยลงไปต้มสักพัก ใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวให้น้ำตาลรัดแปะก๊วย (ลองชิมแปะก๊วยดูจะไม่มีรสขมอีก) ยกลงจากเตา เตรียมไว้
• ตักเผือกกวนใส่ถ้วย (ประมาณค่อนถ้วย หรือ 3/4 ถ้วย) จากนั้นใส่ข้าวเหนียวมูนตามลงไปแล้วอัดให้แน่น คว่ำลงในจานสำหรับเสิร์ฟ (ของต้อมกวนเผือกไว้ล่วงหน้า แถมตอนเอาออกจากตู้เย็นก็ไม่ได้อุ่นก่อน ทำให้เผือกดูเป็นก้อนแข็ง แต่พออุ่นให้ร้อน ๆ แล้วจะทั้งนุ่มทั้งหอมมาก ๆ เลยค่ะ)
• จากนั้นราดด้วยน้ำเชื่อม แปะก๊วย วางพุทราจีนเชื่อมลงไปจัดแต่งให้สวยงาม (สูตรนี้ต้อมหยดน้ำกะทิที่เคี่ยวกับเกลือ และใส่แป้งข้าวโพดนิดหน่อยลงไปด้วย พอดีกะทิเหลืออยู่นิดหน่อย จะทิ้งก็เสียดายเลยเอามาแต่ง อันนี้ใครไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะ)
หมายเหตุ :
1. เผือกที่กวนไว้ล่วงหน้า เวลาจะทานให้นำไปอุ่นในไมโครเวฟนะคะ จะอ่อนตัวลงหอมอร่อยมาก ๆ ค่ะ
2. หลัง ๆ มาเวลาทานโอนีแปะก๊วยแล้วรู้สึกเหมือนเผือกจะด้าน ๆ ไม่นุ่มนวลหอมอร่อยเหมือนตอนเด็ก ๆ จนลืมรสชาตินั้นไปแล้ว แต่พอมาทำเองนึกได้เลยค่ะว่า รสชาติตอนเด็ก ๆ มันต้องแบบนี้ เดาเอาเองว่า เขาคงจะแช่ฟรีซมา และเผือกก็ไม่ได้ใส่กะทิ ทำให้ด้านไม่หอมมัน เหมือนตอนเด็ก
3. อยากให้ลองทำดูนะคะ ถึงจะใช้เวลานานหน่อยแต่รับรองว่าอร่อยจริง ๆ ค่ะ
โอนีแปะก๊วยสูตรนี้ดูดีทีเดียวเชียว สำหรับคนที่ชอบกินมาก ๆ ก็ไม่ต้องรอให้มีงานมงคลสักทีถึงจะได้กิน มีสูตรและวิธีทำง่าย ๆ แบบนี้แล้วก็ลองทำกินเองเลยจ้า ไม่ยากอย่างที่เคยคิดไว้