ส่วนผสม ของแห้ง
◆ แป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) 1/2 ถ้วย
◆ ผงฟู 1/2 ช้อนชา
◆ ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
◆ เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
◆ น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 1/4 ถ้วย
หมายเหตุ : สูตรนี้ใช้ผงชาเขียว (ตามรูป) จากเชียงราย
ส่วนผสม ไข่แดง
◆ ไข่แดง 2 ฟอง
◆ น้ำมันเมล็ดชา 2 ช้อนโต๊ะ (หรือใช้น้ำมันพืชแทนได้)
◆ น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไข่ขาว
◆ ไข่ขาว 2 ฟอง
◆ น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 1/3 ถ้วย
◆ สีผสมอาหารสีเขียว เล็กน้อย (เพื่อเพิ่มสีสัน แต่ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรค่ะ)
◆ ครีมสด (สำหรับแต่งหน้าเค้ก) สามารถเข้าไปดูเคล็ดลับวิธีตีครีมสดได้ที่ เฟซบุ๊ก Baking Glory
วิธีทำเค้กชาเขียว
◆ แบ่งส่วนผสมเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของแห้ง ส่วนไข่แดง และส่วนไข่ขาว
◆ ร่อนแป้งเค้ก (ที่ร่อนแล้ว) กับผงฟู ผงชาเขียว และเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ลงไป เตรียมไว้
◆ ผสมไข่แดง น้ำมัน และน้ำเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
เคล็ดลับ : ภาชนะตีไข่ขาวต้องแห้งและสะอาด เพราะถ้าไม่แห้งไข่ขาวจะตีไม่ขึ้นฟูแน่นอนค่ะ
◆ คนผสมให้เข้ากันจนเนียน และชาเขียวไม่เป็นเม็ด ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปเล็กน้อย
◆ จากนั้นนำไปผสมกับไข่ขาวที่ตีไว้ คนผสมพอเข้ากัน (จะได้เนื้อเค้กตามรูป)
◆ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นานประมาณ 30 นาที
เคล็ดลับ : เวลาอบขึ้นอยู่กับไซส์ถาดด้วยค่ะ ถ้าถาดเล็กจิ๋วแบบถ้วยก็ประมาณ 20 นาที ต้องคอยดู และจิ้มเช็กดูเนื้อค่ะ ใช้ไม้จิ้มฟันลองจิ้มดู ถ้าเนื้อไม่ติดไม้ก็โอค่ะ อย่าอบนานไปเพราะเนื้อจะแห้งนะคะ
เคล็ดลับ : โดยส่วนตัวหน้าเค้กอาจต้องเติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยนะคะ เพราะจะได้มีความหอมหวานขึ้นมา ลำพังแต่กลิ่นชาเขียวอย่างเดียว เราว่าจะกลิ่นค่อนข้างเขียว ๆ อยู่ คือพอให้ได้กลิ่นชาเขียวจากเนื้อเค้ก และกลิ่นวานิลลาเบา ๆ ที่ครีม จะเอาป๊อกกี้รสชาเขียวมาแต่งที่หน้า โรยผงชาเขียวที่หน้า ขอบอกว่า โรยชาเขียวตอนก่อนทานค่ะจะดีมากค่ะ เพราะผงชาเขียวจะได้สีสวยอยู่ ถ้าโรยก่อนสีชาเขียวจะเข้ม เพราะโดนความชื้น
เท่านี้ก็ได้เค้กชาเขียวหน้าตาดีพร้อมเสิร์ฟให้คนรู้ใจแล้ว ใครอยากตกแต่งให้สวยตามสไตล์ที่ตัวเองชอบแบบไหนก็จัดไปให้ไป หรือถ้าใครสนใจสูตรขนมหน้าตาอื่น ๆ อีกละก็ สามารถเข้าไปชมเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Baking Glory ได้เลย ยังมีอีกมากมายรอให้หยิบยกไปลองทำกันดู
เฟซบุ๊ก Baking Glory