พักอาหารคลีนมากินของชวนอ้วนกันหน่อย แจกสูตรเมนูชีส ปะทะ เบคอน อร่อยสองต่อ หยุดไม่ไหวแน่นอน
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นฝีมือการทำอาหารขั้นเทพแต่แฝงไปด้วยความง่ายดายที่รวบรวมมาจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เจอแบบนี้คอคนรักชีสและเบคอนคงต้องยอมสยบแล้วล่ะ
1. พิชซ่าเบคอน
แค่เริ่มต้นก็ฟินแล้วกับพิซซ่าเบคอนที่ไม่มีแป้งพิซซ่าเลยสักนิด แต่ใช้เบคอนล้วน ! ด้วยการนำเบคอนที่เป็นเส้น ๆ ไปสานให้เป็นแผ่น ๆ แล้ววางทับด้วยหอมใหญ่และมันฝรั่ง แล้วโรยชีสลงไปให้หนาแน่น นำไปอบจนสุก ไม่ฟินก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
สิ่งที่ต้องเตรียม
• เบคอน
• มอสซาเราล่าชีส
• หอมใหญ่หั่นแว่น
• มันฝรั่งทั้งเปลือก ฝานเป็นชิ้นบาง ๆ
วิธีทำ
1. สานเบคอนเข้าด้วยกันเป็นแผ่น ๆ แล้วนำไปอบอุณภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 13-15 นาที หรือจนกรอบแบบที่ชอบ (เผื่อไว้อีก 10 นาทีตอนอบ รอบ 2 ด้วย)
2. นำเบคอนที่อบกรอบระดับหนึ่งแล้วออกจนเตาอบมาโรยด้วยหอมใหญ่และมันฝรั่งฝานแว่น สุดท้ายโรยมอสซาเรล่าชีสลงไปพูน ๆ ตามชอบ
3. นำเข้าอบอีกครั้งที่อุณภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที หรือจนชีสเป็นสีเหลืองสวยตามต้องการ
หมายเหตุ : ใครชอบอะไรก็ใส่วัตถุดิบตามที่ชอบนะคะ วันที่ทำเมนูนี้คือ ในตู้เย็นไม่เหลืออะไรเลยค่ะ เลยใส่ไปแค่นั้น แต่ก็อร่อยเข้ากันสุด ๆ ไปเลย
++++++++++++++++
2. สเต๊กหมูพันเบคอน
สเต๊กหมูบดกริลล์หอม ๆ ว่าเด็ดดวงพอแล้ว นำเบคอนไปพันไว้รอบ ๆ เพิ่มความกรอบความฟินเข้าไปอีก ราดน้ำเกรวี่เข้มข้น ได้ขนมปังชีสกรอบอีกสักหน่อย หน้าตาคล้ายกับสเต๊กร้านหรูเลยนะเนี่ย
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
• หมูบด 100 กรัม
• กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมใหญ่สับ 2 ช้อนโต๊ะ
• รากผักชีสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• ไข่แดง (ใช้เบอร์เล็กที่สุด) 1 ฟอง หรือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
• เบคอน 1 ชิ้น (สำหรับพันสเต๊ก)
• หน่อไม้ฝรั่งลวกสุด
• เนยสด เล็กน้อย
• ผักสลัด
• เลมอน
• ขนมปังชีสกรอบ
หมายเหตุ : เครื่องเคียงใส่ตามชอบนะ สำหรับอ้อ คือ แล้วแต่ว่าในตู้เย็นช่วงนั้นจะมีอะไรจ้า
ส่วนผสม น้ำเกรวี่
• เนยสด เล็กน้อย
• เกลือป่น เล็กน้อย
• หอมใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนชา
• พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
• ออริกาโน่ 1 ช้อนชา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ (หรือตามความชอบ ใส่น้อยก็ยิ่งข้น)
วิธีทำสเต๊ก
1. ผสมหมูบด กระเทียมสับ หอมใหญ่สับ รากผักชีสับ ไข่แดง น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และพริกไทยเข้าด้วยกัน คลุกเคล้าแล้วปั้นก้อน ๆ จากนั้นนำเบคอนมาพันให้รอบ พักไว้
2. ใส่เนยสดลงในกระทะแล้วนำหมูบดปั้นก้อน (โดยแปะเบคอนที่หน้าสเต๊ก 1 ด้าน) ลงกริลล์ในกระทะด้านละประมาณ 10 นาที หรือจนหมูสุก (ใช้ช้อนกดที่ตัวหมู ถ้าสุกแล้วเวลากดลงไปจะแข็งไม่นิ่มยวบ) ตักใส่จาน เตรียมไว้
วิธีทำน้ำเกรวี่
1. ใช้กระทะใบเดิมที่กริลล์สเต๊กเมื่อสักครู่ ใส่เนยสดเพิ่มลงไปเล็กน้อย ตามด้วยเกลือ หอมใหญ่สับ พริกไทยดำออริกาโน่ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และน้ำเปล่า ผัดผสมให้เข้ากัน
2. ตักนำเกรวี่ราดบนสเต๊ก เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งลวก ผักสลัด เลมอน และขนมปังชีสกรอบ
++++++++++++++++++++
3. ขนมปังชีสกรอบ
ในเมื่อมีสเต๊กแล้วจะไม่มีขนมปังชีสกรอบได้อย่างไรกัน หลายคนน่าจะเคยเห็นและเคยกินขนมปังชีสกรอบในร้านสเต๊กชื่อดัง แต่วันนี้ลองมาทำกินเองดีกว่า หน้าตาออกมาเหมือนเป๊ะอย่างกับแกะเลยทีเดียว แล้วรู้หรือเปล่าว่า วิธีทำและส่วนผสมของขนมปังชีสกรอบทำง่ายมาก ง่านจนคิดไม่ถึงเลยล่ะ
ส่วนผสม
• พาร์มีซานชีสขูดฝอย
• ขนมปังแบบหนา
วิธีทำขนมปังชีสกรอบ
2. โรยพาร์มีซานชีสขูดฝอยลงบนกระทะ รอให้ชีสละลายเล็กน้อยแล้วนำขนมปังวางลงไป (สูตรนี้ใช้ Parmesan Cheese แบบขูดเป็นฝอยเล็ก ๆ มาแล้ว หอมอร่อยมาก)
3. ให้สังเกตชีสในกระทะ ถ้าเหลืองทองแล้วแสดงว่าใช้ได้ ให้กลับด้านขนมปังขึ้นได้เลย
4. พลิกด้านกริลล์ขนมปังอีกด้านหนึ่งให้กรอบนิดหน่อย ประมาณ 1-2 นาที ตักใส่จานเสิร์ฟ
หมายเหตุ : ควรทานร้อน ๆ หากทานคู่กับสเต๊ก แนะนำให้ทำขนมปังทีหลังสุดเพราะใช้เวลาน้อย และอร่อยมากจ้า
+++++++++++++++++++++
4. มันฝรั่งอบชีสเบคอน
หลายคนน่าจะเคยกินมันฝรั่งอบชีสกันมาบ้างแล้ว แต่สูตรนี้ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะจะเติมเบคอนทอดกรอบลงไปด้วย เสริมความอร่อยเป็นสองต่อ ให้มีแต่ฟินกับฟิน !
สิ่งที่ต้องเตรียม
• มันฝรั่งต้มสุก
• เนยจืด
• เกลือป่น
• พริกไทยป่น
• เบคอนทอด
• มอสซาเรล่าชีส
• พาสเลย์ สับละเอียด
หมายเหตุ : ถ้าใช้เนยเค็มไม่ต้องใส่เกลือ
วิธีทำ
1. ใช้ส้อมยีมันฝรั่งต้มสุกกับเนยให้เข้ากัน โดยยีไม่ต้องให้เละมาก (ยีพอให้เป็นชิ้น ๆ บ้างได้เคี้ยวบ้าง อ้อว่ามันอร่อยกว่า อันนี้ตามชอบนะคะ)
2. ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่นเล็กน้อย โรยเบคอนทอดกรอบลงไป คนผสมให้เข้ากันดี
3. นำไปอบที่อุณภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 20-25 นาที หรือจนชีสเหลืองสวยตามชอบ พออบเสร็จแล้วนำออกมาโรยพาสเลย์สับละเอียด เสิร์ฟขณะร้อน ๆ
+++++++++++++++++++
5. ขนมปังอะโวคาโคอบชีส
เลอค่าจนไม่มีคำพูดใดให้กับเมนูขนมปังอะโวคาโคอบชีส เมนูที่ทำง่าย แต่ดูดีเกินวิธีทำ แถมยังได้ประโยชน์ครบถ้วน เหมาะจะเป็นมื้อเช้าอย่างมาก
สิ่งที่ต้องเตรียม
• อะโวคาโด
• ขนมปัง
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• เกลือป่น เล็กน้อย
• พริกไทยป่น เล็กน้อย
• มอสซาเรล่าชีส
• พาร์เมซานชีส (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ
1. ยีเนื้ออะโวคาโดสุกให้เละ (เพื่อใช้แทนเนย)
2. นำก้นของแก้วน้ำกดลงไปตรงกลางของขนมปังให้เป็นหลุมแล้วนำอะโวคาโวที่ยีไว้มาทาที่ขอบขนมปังให้รอบ ๆ หลุมที่กดไว้
3. ตอกไข่ใส่ลงไป โรยเกลือและพริกไทยป่นเล็กน้อย ตามด้วยชีสให้ทั่ว นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 12-15 นาที หรือจนชีสเหลืองกรอบแบบที่ชอบ นำออกจากเตา พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++++
6. ไข่เจียวชีส
เมนูไข่ ๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า จับไข่เจียวธรรมดามาใส่เบคอน ทีเด็ดอยู่ที่ชีสเยิ้ม ๆ ตัดออกมาแล้วชีสไหลทะลัก ส่วนวิธีทำก็เช่นเคย ง้ายง่าย ยอมอ้วนเลยเจอแบบนี้
สิ่งที่ต้องเตรียม
• ไข่ไก่
• เบคอนกรอบ
• มอสซาเรล่าชีส
• หอมใหญ่สับละเอียด **หากใครไม่ชอบหอมใหญ่สดให้นำไปผัดก่อนค่ะ**
วิธีทำ
1. ตีไข่ให้แตกแล้วนำไปกรอกในกระทะเป็นแผ่น ๆ ให้ทั่ว
2. พอไข่ใกล้สุกให้ใส่เบคอนกรอบ ชีส และหอมใหญ่สับลงไป
3. จากนั้นพับไข่ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ : ทิ้งไว้สักครู่เมื่อชีสโดนความร้อนจะยืดน่ารับประทาน
+++++++++++++++++++++++
7. Sunflowers of Cheese
อีกหนึ่งเมนูอาหารเช้าที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งด้วยประการทั้งปวง จากที่เราเคยเห็นไข่ดาวอยู่ในขนมปัง แต่ต่อไปนี้จะมีทั้งไข่ดาว เบคอน และชีสกระจายอยู่อยู่ในนั้นด้วย เช้า ๆ ลองได้เมนูแบบนี้สักหน่อย พร้อมรับมือสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างวันได้สบาย ๆ เลยล่ะ
ส่วนผสม
• ขนมปังแบบหนา 2 แผ่น
• เนยสด เล็กน้อย
• เชดดาร์ชีสแผ่น 2 แผ่น
• เบคอนแบบยาว 4 เส้น
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• ต้นหอมซอย
วิธีทำ
1. ใช้มีดกรีดเบา ๆ ลงบนขนมปังเป็นช่องสี่เหลี่ยม (ตามรูป) จากนั้นใช้ช้อนกดขนมปังลงไปให้เป็นช่องตรงกลางให้ส่วนที่ตัดยุบลงไปจะได้ช่องบุ๋มลงไป
2. หั่นเนยสดเป็นชิ้น ๆ แล้ววางลงไปในช่องขนมปัง
3. นำเบคอน 2 เส้นมาพันเกลียว ๆ แล้วนำไปวางรอบ ๆ ช่องขนมปัง (วางซ้อนกันนิดหน่อยไม่เป็นไร) จากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ลงไปตรงกลาง
4. นำชีสมาตัดเป็นเส้นยาว ๆ วางเรียงเป็นแฉก ๆ ด้านบนเบคอนให้เหมือนดอกทานตะวัน
5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 8-10 นาที หรือตามที่ชอบ (อุณหภูมิของเตาอบแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน ให้หมั่นสังเกตขณะอบด้วย) เมื่อชีสเหลืองสวยและไข่สุกในแบบที่ชอบ นำออกมาโรยต้นหอมซอย พร้อมรับประทาน
+++++++++++++++++++++
8. มินิพิซซ่าแฮมชีส
หรือใครอยากกินพิซซ่าเป็นอาหารเช้า แต่จะมานั่งอบแบบครบเครื่องให้หรูเริดอลังการคงจะไปทำงานไม่ทัน ก็ลองมาดูวิธีทำมินิพิซซ่าแฮมชีสสูตรนี้เลย เพราะทำง่ายใน 3 นาทีเท่านั้นเอง
ส่วนผสม
• ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
• ซอสมะเขือเทศ
• มะเขือเทศ (เฉพาะเปลือก) หั่นเป็นเส้น ๆ
• แฮมหั่นเต๋า
• สับประรด หั่นเป็นชิ้น ๆ
• มอสซาเลร่าชีส
• พาสเลย์สับ
• เกลือ
• ออริกาโน่
วิธีทำ
1. ทาซอสมะเขือเทศลงบนขนมปัง จากนั้นวางมะเขือเทศลงไป ตามด้วยแฮมและสับปะรด
2. โปะทับด้วยมอสซาเลร่าชีส โรยหน้าด้วยพาสเลย์สับ
3. นำเข้าอบที่อุณภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 3 นาที (หรือจนชีสเหลืองสวยงามตามชอบ)
4. นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม โรยเกลือและออริกาโน่ พร้อมเสิร์ฟ
เพียงเท่านี้เราก็จะได้อาหารเช้าจานด่วนที่เสิร์ฟร้อนอร่อยทันใจ ใคร ๆ ก็ชอบแล้ว และเมนูนี้ใช้เครื่องทอดไม่ใช้น้ำมันฟิลิปส์หรือใครมีหม้ออบลมร้อน หรือเตาอบก็ใช้ได้จ้า แต่สังเกตความร้อนด้วยนะคะ ให้ชีสเหลืองสวยงามก็พอจ้า
++++++++++
9. หอยแมลงภู่อบชีส
มีเมนูอบชีสทั้งทีจะไม่มีเมนูหอยแมลงภู่อบชีสก็คงไม่ได้ เห็นแล้วน้ำลายไหล อยากจะไปตลาดซื้อหอยแมลงภู่แล้วรีบครัวเสียเดี๋ยวนี้เลย
ส่วนผสม
• หอยแมลงภู่ชิลี 100 กรัม
• เนยสด (วางไว้ในอุณหภูมิห้องจนนิ่ม) 3 ช้อนโต๊ะ (ใช้ชนิดจืดหรือเค็มก็ได้ตามความชอบ)
• พาสเลย์สด สับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น (เล็กน้อย) ประมาณ 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เนยเค็มไม่ต้องใส่เกลือ)
• มอสซาเรล่าชีสขูดฝอย 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. ผสมเนยสด พาสเลย์สับ กระเทียมสับ และเกลือป่นเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. นำหอยแมลงภู่วางลงในจานกระเบื้อง ตักส่วนผสมข้อ 1 โปะลงบนหอยแมลงภู่ เกลี่ยให้ทั่ว
3. โรยมอสซาเรล่าชีสขูดฝอยทับไปอีกชั้น
4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที หรือจนชีสเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง (คอยสังเกตด้วยนะเดี๋ยวเกรียมเกิน) ทานคู่กับผัดสลัดหรือน้ำจิ้มซีฟู้ดตามความชอบ
+++++++++++++++
10. ขนมปังหน้าชีส (ฉบับสื่อรักวาเลนไทน์)
ใครมีแฟนมีคู่ก็ต้องลองเมนูนี้เลย ขนมปังหน้ากุ้งโปะชีสเน้น ๆ ทำเป็นรูปหัวใจ แต่ระวังอย่าเผลอไปทำให้แฟนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่นะคะ ประเดี๋ยวจะโดนเหวี่ยงเอาได้
ส่วนผสม
• ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• มะเขือเทศ 1 ลูก (ผ่าครึ่งแล้วควักไส้ออก)
• ชีส 4 แผ่น (หั่นเต๋า)
• กุ้งขาว 2 ตัว (ปอกเปลือก)
• ต้นหอมซอย
วิธีทำ
1. ใช้ปากแก้วกดขนมปัง 1 แผ่น ให้เป็นหลุมกลวงตรงกลาง จากนั้นนำไปวางทับบนขนมปังอีกแผ่น เตรียมไว้สำหรับใส่ไข่
2. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป โรยชีสหั่นเต๋ารอบ ๆ ไข่ไก่
3. วางกุ้งเข้าหากันเป็นรูปหัวใจรอบ ๆ ไข่แดง
4. ใส่ชีสเข้าไปในมะเขือเทศให้เต็ม
5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส นาน 10-12 นาที (หรือจนกระทั่งไข่ไก่และกุ้งสุก ชีสเกรียมสวยในระดับที่ต้องการ) นำออกจากเตา โรยต้มหอมซอย จัดเสิร์ฟ
+++++++++++
11. ชีสทอดเบคอนกรอบ (Bacon Roll Stuffed)
เมนูนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย แค่จับเบคอนไปห่อชีสแล้วทอด แค่นี้ก็ได้ความฟินพร้อมเสิร์ฟแล้ว นึกภาพตามเวลากัดเบคอนกรอบ ๆ เกรียม ๆ หอม ๆ ลงไปแล้วชีสยืดตามออกมา... แข็งใจไว้หน่อย แล้วพรุ่งนี้จัดไปเลย
ส่วนผสม
• ชีสแผ่น 6 แผ่น
• เบคอนแบบยาว 6 เส้น
• พริกไทยดำ
• พาสเลย์
วิธีทำ
1. แกะพลาสติกออกจากชีสแล้วตัดชีสให้เป็น 4 ส่วนแล้ววางซ้อนกัน (หรือพับชีสทบเข้าหากัน ก็ได้ตามสะดวก จะได้ 1 ชิ้น) ทำแบบนี้จนครบ 6 ชิ้น
2. แผ่เบคอนออกแล้ววางชิ้นชีสที่ซ้อนกันไว้ลงไปที่ปลายของเส้นเบคอน ม้วนเบคอนแบบเฉียง ๆ พันให้รอบชีส(ไม่จำเป็นต้องพันชีสให้มิด ปล่อยให้ชีสเลยออกมานิดหน่อยได้ไม่เป็นไร)
3. นำไปกริลล์ในกระทะเทฟลอน ไม่ต้องใส่น้ำมัน โดยวางด้านที่มีปลายของเบคอนลงไปกริลล์ก่อน กริลล์จนกระทั่งเบคอนมีสีสวยและยึดติดกันสนิทแล้วจึงกลับด้าน กริลล์ต่อจนกระทั่งอีกเบคอนอีกด้านสีสวย และชีสเริ่มอ่อนตัว จัดใส่จานเสิร์ฟ โรยพริกไทยดำ แต่งด้วยพาสเลย์
++++++++++
12. หมูทอดกอร์ดองเบลอ
หมูทอดกอร์ดองเบลอ อีกหนึ่งเมนูที่คนรักชีสคุ้นเคยกันดี หมูทอดกรอบ ๆ ที่สอดแทรกไว้ด้วยชีสเยิ้ม ๆ ด้านใน กินชิ้นเดียวไม่เคยพอจริง ๆ
ส่วนผสม
• หมูสันนอก (ชิ้นละ 100-120 กรัม) 2 ชิ้น
• แฮม 1 แผ่น
• เชดดาร์ชีส
• เกลือป่น
• พริกไทยป่น
• ไข่ไก่ 1 ฟอง (ตีพอแตก)
• แป้งสาลีอเนกประสงค์
• เกล็ดขนมปัง
• น้ำมันสำหรับทอด
• ไม้จิ้มฟัน
วิธีทำ
1. นำหมูสันนอกมาหั่นตามขวางแบบสเต๊ก หนาประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร (จะใช้ค้อนทุบสเต๊กทุบเพื่อเพิ่มความนุ่ม และเพิ่มขนาดของชิ้นหมูให้ใหญ่ขึ้นก็ได้นะคะ แต่ถ้าไม่ทุบก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะหมูสันนอกไม่แข็งอยู่แล้ว)
2. ใช้มีดคม ๆ แล่เนื้อหมูสันนอกแผ่ออกเป็นปีกผีเสื้อ (ไม่ให้ขาดออกจากกัน เตรียมไว้สำหรับสอดไส้ชีสและแฮม)
3. นำชีสและแฮมมาหั่นให้ได้ตามขนาดของชิ้นหมู วางลงไปตรงกลางแล้วพับหมูลงมาปิดให้สนิมโดยใช้ไม้จิ้มฟันกลัดหัวท้ายและตรงกลาง (เพื่อไม่ให้ชีสเยิ้มออกมาขณะทอด)
4. โรยเกลือป่นและพริกไทยป่นลงไป (นิดหน่อย) ทั้งสองด้าน
5. นำหมูไปคลุกกับแป้งสาลีอเนกประสงค์บาง ๆ ให้ทั่วชิ้น
6. นำไปชุบไข่ไก่
7. นำไปคลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่วทั้งสองด้าน
8. นำหมูไปทอดในน้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลาง ทอดจนสุกเหลืองน่ารับประทาน
9. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน **ในแนวตั้ง** พักทิ้งไว้สัก 2-3 นาที ให้ชีสเซตตัว (เวลาหั่นชีสจะได้ไม่เยิ้มออกมาเลอะไม่สวย แต่ถ้าใครชอบชีสที่กำลังละลายเยิ้ม ๆ ก็หั่นเสิร์ฟได้เลยค่ะ) จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
รับประทานคู่กับบาร์บีคิวซอส มัสตาร์ด หรือซอสมะเขือเทศก็ได้ตามชอบเลยจ้า ^^ แนมด้วยผักสลัดเพื่อเพิ่มคุณค่าวิตามินให้กับเมนูนี้สักนิด อร่อยครบเลยค่ะ
++++++++++++++++++
13. พิชซ่าไก่สูตรแป้งบาง
พิซซ่าสูตรนี้ถึงจะดูเหมือนเป็นเมนูชวนอ้วน แต่เจ้าของสูตรใจดี ลดทอนเอาแป้งพิซซ่าทิ้งไปแล้วหันมาใช้แผ่นแป้งตอติญ่าที่ทำจากข้าวโพดแทน อ้วนน้อยกว่าเดิมนิดหน่อย แถมยังได้พิซซ่าสูตรบางกรอบอีกด้วย
ส่วนผสม
• หอมใหญ่ 1/2 หัว (หั่นเต๋า)
• เนยสด (สำหรับผัดหอมใหญ่)
• อกไก่ 100 กรัม (หั่นเป็นชิ้น)
• ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย
• เกลือป่น
• พริกไทยป่น
• ออริกาโน่
• แผ่นแป้งตอติญ่า (ยี่ห้อ Danitas แบบโฮลวีต)
• พริกหวานสามสี หั่นเป็นเส้น ๆ
• มะเขือเทศราชินี หั่นครึ่ง
• มอสซาเรล่าชีสขูดฝอย
วิธีทำ
1. ผัดหอมใหม่กับเนยจนหอม ใส่ไก่ลงไปผัดจนสุก เติมซอสมะเขือเทศลงไป ตามด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น และออริกาโน่อย่าละเล็กน้อย ผสมให้เข้ากัน (ชิมรสให้เปรี้ยวหวานตามชอบ) ใส่ไก่ลงไปผัดคลุกเคล้าพอสุกประมาณ 80% (เพราะเมื่อนำไปอบจะเสียน้ำจะทำให้เนื้อสัตว์แห้งเกินไป)
2. นำเครื่องที่ผัดไว้ตักราดบนแผ่นแป้งตอติญ่า วางพริกหวาน และมะเขือเทศลงไปให้ทั่ว โรยด้วยมอสซาเรล่าชีสในปริมาณตามชอบ
3. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 6 นาที (หรือจนชีสเป็นสีเหลืองทอง) นำออกจากเตา โรยด้วยออริกาโน่ ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ : อ้อไม่ได้นำพริกหวานและมะเขือเทศลงไปผัดพร้อมไก่นะคะ เพราะอ้อชอบแบบนี้ รู้สึกว่าได้กลิ่นหอม ๆ ของพริกฝรั่งชัดเจน ได้ความหวานเปรี้ยวนิด ๆ ของมะเขือเทศ หากเพื่อน ๆ ชอบสุกเข้าเนื้อสามารถนำไปผัดกับซอสในตอนแรกได้
+++++++++++
14. ผักโขมอบชีสเบคอนกรอบ
ลำพังแค่ผักโขมอบชีสก็ฟินจะแย่แล้ว สูตรต่อไปนี้จะจับเอาเบคอนมาพันชีสและผักโขมเข้าไปด้วย นำไปอบให้กรอบ ๆ เกรียม ๆ ได้ชีสเยิ้ม ๆ ผักโขมนุ่ม ๆ หอม ๆ ใครจะไปอดใจไหวกันล่ะนี่
ส่วนผสม
• เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมใหญ่สับละเอียด 1/4 ถ้วย
• เบคอน หรือ แฮม (หั่นเต๋าเล็ก) 1/3 ถ้วย
• ผักโขมลวกสุก 1/2 ถ้วย
• พริกไทยขาวป่น
• นมสด 1/3 ถ้วย
• เบคอนชิ้นยาว
• ชีสแผ่น 4 แผ่น
วิธีทำ
1. เจียวหอมใหญ่กับเนยเค็มในกระทะ
2. ใส่เบคอนลงไปผัดจนสุก
3. ใส่ผักโขมลงไปผัด ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น
4. เติมนมสดลงไปผัดให้เข้ากันจนงวด ปิดไฟ
5. นำเบคอนมาวางเรียงซ้อนกันเป็นแผ่นยาว วางชีสแผ่นทับลงไปประมาณ 4 แผ่น จากนั้นนำเครื่องผักโขมที่ผัดตักใส่ด้านบน ม้วนให้เป็นท่อน ๆ
6. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 20-25 นาที หรือจนเบคอนเหลืองกรอบตามชอบ
15. ไข่ยัดไส้ชีส
ไข่ยัดไส้แน่นเครื่องแบบเดิม ๆ หลบไปทางซ้ายเลยค่ะ เพราะเราจะอัดชีสเข้าไปด้วย พอตัดออกมาเป็นชิ้น ๆ เจ้าชีสจะพาเพื่อน ๆ เครื่องที่ผัดไว้ล้นทะลักออกมาให้ได้ฟินกันถ้วนหน้าแบบเป็นลาวาภูเขาไฟเลยล่ะ
ส่วนผสม
• หอมใหญ่สับ
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
• ไก่สับ 50 กรัม
• มะเขือเทศ (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวโพดหวาน ฝานเมล็ด 3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา
• แตงกวาญี่ปุ่น (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
• มอสซาเรล่าชีสผสมเชดดาร์ชีส สับละเอียด
• พาสเลย์สำหรับแต่ง
วิธีทำ
1. ผัดหอมใหญ่กับน้ำมันพืชจนหอม ตามด้วยไก่สับ มะเขือเทศ เม็ดข้าวโพด และซอสมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทยดำ ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่แตงกวาลงไป (ใส่หลังสุดเพราะต้องการความกรอบของแตงกวาค่ะ) จากนั้นใส่ชีสสับละเอียดลงไป เคล้าให้เข้ากันจนชีสละลาย ปิดไฟ พักไว้
3. ตีไข่ไก่เบา ๆ พอแตก (อย่าให้เกิดฟองมาก เพราะเวลานำไปกลอกในกระทะจะเป็นรูฟองอากาศไม่สวยค่ะ) จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟกลางให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยพอเคลือบที่ผิวกระทะ พอร้อนใส่ไข่ไก่ลงไปกรอกให้บาง ๆ ทั่วกระทะ (ให้บางสม่ำเสมอกัน)
4. พอไข่สุกได้ที่นำเครื่องที่ผัดไว้ใส่ลงไปแล้วพับเป็นสีเหลี่ยม วางคว่ำกระทะลงบนจานเสิร์ฟ (หากต้องการให้ชีสเยิ้ม ๆ ให้นำไปใส่ไมโครเวฟ หรือเตาอบสักนิดหน่อย ก่อนเสิร์ฟ) แต่งหน้าด้วยพาสเล่ย์
16. พิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผา
เมนูพิซซ่าแบบลูกครึ่ง ผสมความเป็นไทยกับอิตาเลียนเข้าด้วยกัน เกิดเป็นเมนูพิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผา ฟิวชั่นกันได้อย่างลงตัวสุด ๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินหลายร้อยก็สามารถทำพิซซ่าอร่อย ๆ กินเองได้
ส่วนผสม
• น้ำพริกเผาต้มยำ (ยี่ห้อ aro ของแมคโคร) 1/2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย
• มะเขือเทศราชินี
• ใบมะกรูดฉีก
• ข่า หั่นหยาบ ๆ
• ตะไคร้ทุบพอแตก (จะใส่ตอนผัดให้ได้กลิ่นเท่านั้นจะไม่ใส่ในพิซซ่า)
• กุ้ง
• เนื้อหอยแมลงภู่
• ปลาหมึก
• แผ่นแป้งสาลีตอติญ่า (ยี่ห้อ Danitas ซื้อที่ฟู้ดแลนด์)
• มอสซาเรล่าชีสขูดฝอย
• ใบมะกรูดสับละเอียด (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ
1. ผัดน้ำพริกเผากับน้ำมันน้ำพริกเผาผัดกับหอมแดงซอย มะเขือเทศราชินี ใบมะกรูด ข่า และตะไตร้พอหอม ใส่กุ้ง หอยแมลงภู่ และปลาหมึกลงไปคลุกเคล้าพอสุกประมาณ 80% (เพราะเมื่อนำไปอบจะเสียน้ำจะทำให้เนื้อสัตว์แห้งเกินไป)
2. ตักตะไคร้กับข่าออกจากเครื่องที่ผัดไว้แล้วตักวางบนแผ่นตอติญ่า โรยมอสซาเรล่าชีสในปริมาณตามชอบ
3. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 6 นาที (หรือจนชีสเป็นสีเหลืองทองน่ารับประทาน) นำออกจากเตา โรยด้วยใบมะกรูดสับละเอียด ตัดแบ่งเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ
17. กุ้งแม่น้ำอบชีส
เมนูนี้หน้าตาดูดีเป็นอย่างมาก ทำง่าย น่าหม่ำ พร้อมกลิ่นหอม ๆ และเอาใจคนที่ชอบกินกุ้ง
ส่วนผสม
• กุ้ง 2 ตัว
• พริกไทยดำป่น
• เกลือป่น
• เนยเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ (วางไว้ในอุณหภูมิห้องให้นิ่ม)
• กระทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• พาสเลย์สับ 2 ช้อนชา
• มอสซาเรล่าชีสขูดฝอย (ปริมาณตามชอบ)
วิธีทำ
1. นำกุ้งมาผ่าหลังแบบไม่ขาด โรยเกลือป่นและพริกไทยป่นเล็กน้อยลงบนตัวกุ้ง เตรียมไว้
2. ผสมเนยสดกับกระเทียมสับ และพาสเลย์เล็กน้อยเข้าด้วยกัน ตักโปะลงบนบริเวณหลังกุ้งที่ผ่าไว้ให้ทั่ว
+++++++++
15. ไข่ยัดไส้ชีส
ไข่ยัดไส้แน่นเครื่องแบบเดิม ๆ หลบไปทางซ้ายเลยค่ะ เพราะเราจะอัดชีสเข้าไปด้วย พอตัดออกมาเป็นชิ้น ๆ เจ้าชีสจะพาเพื่อน ๆ เครื่องที่ผัดไว้ล้นทะลักออกมาให้ได้ฟินกันถ้วนหน้าแบบเป็นลาวาภูเขาไฟเลยล่ะ
ส่วนผสม
• หอมใหญ่สับ
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
• ไก่สับ 50 กรัม
• มะเขือเทศ (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวโพดหวาน ฝานเมล็ด 3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา
• แตงกวาญี่ปุ่น (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
• มอสซาเรล่าชีสผสมเชดดาร์ชีส สับละเอียด
• พาสเลย์สำหรับแต่ง
วิธีทำ
1. ผัดหอมใหญ่กับน้ำมันพืชจนหอม ตามด้วยไก่สับ มะเขือเทศ เม็ดข้าวโพด และซอสมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทยดำ ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่แตงกวาลงไป (ใส่หลังสุดเพราะต้องการความกรอบของแตงกวาค่ะ) จากนั้นใส่ชีสสับละเอียดลงไป เคล้าให้เข้ากันจนชีสละลาย ปิดไฟ พักไว้
3. ตีไข่ไก่เบา ๆ พอแตก (อย่าให้เกิดฟองมาก เพราะเวลานำไปกลอกในกระทะจะเป็นรูฟองอากาศไม่สวยค่ะ) จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟกลางให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยพอเคลือบที่ผิวกระทะ พอร้อนใส่ไข่ไก่ลงไปกรอกให้บาง ๆ ทั่วกระทะ (ให้บางสม่ำเสมอกัน)
4. พอไข่สุกได้ที่นำเครื่องที่ผัดไว้ใส่ลงไปแล้วพับเป็นสีเหลี่ยม วางคว่ำกระทะลงบนจานเสิร์ฟ (หากต้องการให้ชีสเยิ้ม ๆ ให้นำไปใส่ไมโครเวฟ หรือเตาอบสักนิดหน่อย ก่อนเสิร์ฟ) แต่งหน้าด้วยพาสเล่ย์
++++++++++++
เมนูพิซซ่าแบบลูกครึ่ง ผสมความเป็นไทยกับอิตาเลียนเข้าด้วยกัน เกิดเป็นเมนูพิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผา ฟิวชั่นกันได้อย่างลงตัวสุด ๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินหลายร้อยก็สามารถทำพิซซ่าอร่อย ๆ กินเองได้
ส่วนผสม
• น้ำพริกเผาต้มยำ (ยี่ห้อ aro ของแมคโคร) 1/2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย
• มะเขือเทศราชินี
• ใบมะกรูดฉีก
• ข่า หั่นหยาบ ๆ
• ตะไคร้ทุบพอแตก (จะใส่ตอนผัดให้ได้กลิ่นเท่านั้นจะไม่ใส่ในพิซซ่า)
• กุ้ง
• เนื้อหอยแมลงภู่
• ปลาหมึก
• แผ่นแป้งสาลีตอติญ่า (ยี่ห้อ Danitas ซื้อที่ฟู้ดแลนด์)
• มอสซาเรล่าชีสขูดฝอย
• ใบมะกรูดสับละเอียด (สำหรับโรยหน้า)
1. ผัดน้ำพริกเผากับน้ำมันน้ำพริกเผาผัดกับหอมแดงซอย มะเขือเทศราชินี ใบมะกรูด ข่า และตะไตร้พอหอม ใส่กุ้ง หอยแมลงภู่ และปลาหมึกลงไปคลุกเคล้าพอสุกประมาณ 80% (เพราะเมื่อนำไปอบจะเสียน้ำจะทำให้เนื้อสัตว์แห้งเกินไป)
2. ตักตะไคร้กับข่าออกจากเครื่องที่ผัดไว้แล้วตักวางบนแผ่นตอติญ่า โรยมอสซาเรล่าชีสในปริมาณตามชอบ
3. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 6 นาที (หรือจนชีสเป็นสีเหลืองทองน่ารับประทาน) นำออกจากเตา โรยด้วยใบมะกรูดสับละเอียด ตัดแบ่งเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++
17. กุ้งแม่น้ำอบชีส
เมนูนี้หน้าตาดูดีเป็นอย่างมาก ทำง่าย น่าหม่ำ พร้อมกลิ่นหอม ๆ และเอาใจคนที่ชอบกินกุ้ง
ส่วนผสม
• กุ้ง 2 ตัว
• พริกไทยดำป่น
• เกลือป่น
• เนยเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ (วางไว้ในอุณหภูมิห้องให้นิ่ม)
• กระทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• พาสเลย์สับ 2 ช้อนชา
• มอสซาเรล่าชีสขูดฝอย (ปริมาณตามชอบ)
วิธีทำ
1. นำกุ้งมาผ่าหลังแบบไม่ขาด โรยเกลือป่นและพริกไทยป่นเล็กน้อยลงบนตัวกุ้ง เตรียมไว้
2. ผสมเนยสดกับกระเทียมสับ และพาสเลย์เล็กน้อยเข้าด้วยกัน ตักโปะลงบนบริเวณหลังกุ้งที่ผ่าไว้ให้ทั่ว
3. โรยมอสซาเรล่าชีสขูดลงไปพูน ๆ สุดท้ายโรยด้วยพาสเลย์สับเล็กน้อย
4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 6.30-7 นาที หรือจนชีสเหลืองสวยงาม
18. ข้าวผัดแหนม (ไม่ชีสแต่แซ่บ)
ขอแถมเมนูที่ไม่มีชีสแต่แซ่บกับเมนูข้าวผัดแหนม อาหารจานเดียวแบบง่าย ๆ กินง่าย ๆ แต่ได้ความอร่อยแบบไม่ซ้ำซากจำเจ จากที่เคยทำข้าวผัดธรรมดาก็ใส่แหนมลงไปอีกสักหน่อย ทีเด็ดอยู่ที่การใส่มะนาวหรือเลมอนลงไปเพิ่มความเปรี้ยวจี๊ดเข้าไปอีก ได้ความฟินแบบไทย ๆ ที่ไม่ควรพลาด
ส่วนผสม
• กระเทียมสับ
• น้ำมันพืช
• ข้าวสวย (ปกติจะใช้ข้าวเย็น แต่สำหรับอ้อมองว่าไม่จำเป็นนะ ข้าวปากหม้อร้อน ๆ ก็ทำได้ค่ะ)
• แหนมหั่นเต๋า
• ซอสปรุงรส
• เกลือป่น
• ไข่ไก่
• มะนาวหรือเลมอนหั่นเต๋า
• ผักชีหรือต้นหอม (โรยหน้า)
หมายเหตุ : ถามว่าการปรุงรสใส่ซอสหอยนางรมได้ไหม คือ ใส่ได้ทุกอย่างตามชอบแต่อย่าเยอะเดี๋ยวข้าวจะแฉะค่ะ น้ำมันก็ใส่ไม่ต้องมาก
เคล็ดลับการทำให้ไข่เคลือบข้าว สำหรับเมนูข้าวผัดอีกวิธีหนึ่งคือ ตอกไข่ไก่ลงไปเคล้ากับข้าวก่อนลงผัด
วิธีทำ
1. เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืชให้หอม ใส่แหนมลงไปผัดพอสุก ตามด้วยข้าวสวย ผัดให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและเกลือป่น ผัดให้เข้ากัน
3. ตอกไข่ไก่ลงไปผัดให้เข้ากันกับข้าว จากนั้นเขย่ากระทะไปมาสลับกับการใช้ตะหลิวผัดจนข้าวแห้ง
4. โรยผักชี ใส่เลมอนหรือมะนาวหั่นเต๋าลงไป ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
19. ข้าวอบมันกุ้ง (ไม่ชีสแต่แซ่บ)
สุดท้ายท้ายสุดไปกับอีกหนึ่งเมนูที่ไม่มีชีสแต่แซ่บโดนใจกับข้าวอบมันกุ้งเยิ้ม ๆ มัน ๆ กินกับน้ำจิ้มแซ่บ ๆ บอกได้คำเดียวว่า ฟินสุโค่ย !
ส่วนผสม
• น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันอื่น ๆ ที่มี)
• ขิงบุบพอแตก
• กระเทียมทุบหยาบ ๆ
• รากผักชี บุบพอแตก
• มันกุ้ง
• ข้าวสารหอมมะลิ
• น้ำซุป
• เกลือป่น
• กุ้ง
หมายเหตุ : มันกุ้งหาซื้อได้ที่ตลาดสดทั่วไปค่ะ ลองถามแม่ค้าที่ขายอาหารทะเลหรือกุ้งโดยเฉพาะดู ซึ่งอาจไม่มีตลอด ต้องถามหรือสั่งกับแม่ค้าเค้าดูค่ะ ถ้าอ้อเจอจะซื้อมาแช่แข็งเอาไว้กินนาน ๆ เลยค่ะ หายากมาก ราคาถุงละ 50 บาท ประมาณ 3 ขีด )
4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 6.30-7 นาที หรือจนชีสเหลืองสวยงาม
++++++++++
18. ข้าวผัดแหนม (ไม่ชีสแต่แซ่บ)
ขอแถมเมนูที่ไม่มีชีสแต่แซ่บกับเมนูข้าวผัดแหนม อาหารจานเดียวแบบง่าย ๆ กินง่าย ๆ แต่ได้ความอร่อยแบบไม่ซ้ำซากจำเจ จากที่เคยทำข้าวผัดธรรมดาก็ใส่แหนมลงไปอีกสักหน่อย ทีเด็ดอยู่ที่การใส่มะนาวหรือเลมอนลงไปเพิ่มความเปรี้ยวจี๊ดเข้าไปอีก ได้ความฟินแบบไทย ๆ ที่ไม่ควรพลาด
ส่วนผสม
• กระเทียมสับ
• น้ำมันพืช
• ข้าวสวย (ปกติจะใช้ข้าวเย็น แต่สำหรับอ้อมองว่าไม่จำเป็นนะ ข้าวปากหม้อร้อน ๆ ก็ทำได้ค่ะ)
• แหนมหั่นเต๋า
• ซอสปรุงรส
• เกลือป่น
• ไข่ไก่
• มะนาวหรือเลมอนหั่นเต๋า
• ผักชีหรือต้นหอม (โรยหน้า)
หมายเหตุ : ถามว่าการปรุงรสใส่ซอสหอยนางรมได้ไหม คือ ใส่ได้ทุกอย่างตามชอบแต่อย่าเยอะเดี๋ยวข้าวจะแฉะค่ะ น้ำมันก็ใส่ไม่ต้องมาก
เคล็ดลับการทำให้ไข่เคลือบข้าว สำหรับเมนูข้าวผัดอีกวิธีหนึ่งคือ ตอกไข่ไก่ลงไปเคล้ากับข้าวก่อนลงผัด
วิธีทำ
1. เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืชให้หอม ใส่แหนมลงไปผัดพอสุก ตามด้วยข้าวสวย ผัดให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและเกลือป่น ผัดให้เข้ากัน
3. ตอกไข่ไก่ลงไปผัดให้เข้ากันกับข้าว จากนั้นเขย่ากระทะไปมาสลับกับการใช้ตะหลิวผัดจนข้าวแห้ง
4. โรยผักชี ใส่เลมอนหรือมะนาวหั่นเต๋าลงไป ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++
19. ข้าวอบมันกุ้ง (ไม่ชีสแต่แซ่บ)
สุดท้ายท้ายสุดไปกับอีกหนึ่งเมนูที่ไม่มีชีสแต่แซ่บโดนใจกับข้าวอบมันกุ้งเยิ้ม ๆ มัน ๆ กินกับน้ำจิ้มแซ่บ ๆ บอกได้คำเดียวว่า ฟินสุโค่ย !
ส่วนผสม
• น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันอื่น ๆ ที่มี)
• ขิงบุบพอแตก
• กระเทียมทุบหยาบ ๆ
• รากผักชี บุบพอแตก
• มันกุ้ง
• ข้าวสารหอมมะลิ
• น้ำซุป
• เกลือป่น
• กุ้ง
หมายเหตุ : มันกุ้งหาซื้อได้ที่ตลาดสดทั่วไปค่ะ ลองถามแม่ค้าที่ขายอาหารทะเลหรือกุ้งโดยเฉพาะดู ซึ่งอาจไม่มีตลอด ต้องถามหรือสั่งกับแม่ค้าเค้าดูค่ะ ถ้าอ้อเจอจะซื้อมาแช่แข็งเอาไว้กินนาน ๆ เลยค่ะ หายากมาก ราคาถุงละ 50 บาท ประมาณ 3 ขีด )
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ เจียวกระเทียม รากผักชี และขิงกับน้ำมันมะกอก พอหอมใส่มันกุ้งลงไปผัด ปรุงรสด้วยเกลือ
2. ใส่ข้าวสารตามลงไปผัด (ข้าวจะซาวน้ำก่อนก็ได้นะคะ แต่ข้าวที่อ้อใช้สะอาดปราศจากมอดจึงไม่ได้ซาวค่ะ) เติมน้ำซุปลงไปนิดหน่อย ผัดให้เข้ากันจนเมล็ดข้าวขุ่น ปิดไฟ นำใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เติมน้ำน้อยกว่าปกติเพื่อให้เมล็ดข้าวหุงสวย
3. ระหว่างรอข้าวสุก อบหรือกริลล์กุ้งให้สุกหอม สำหรับทานคู่กับข้าวมันกุ้ง
ส่วนผสมน้ำจิ้ม (แบบง่าย)
• เต้าเจี้ยว
• ซีอิ๊วขาว
• ซีอิ๊วดำหวาน
• ขิงสับละเอียด
• กระเทียมสับละเอียด
• พริกขี้หนูซอย
วิธีทำ
• ผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ (หากเข้มข้นเกินไป เติมน้ำซุปหรือน้ำต้มสุกได้เล็กน้อย)
พอให้ฟินกันถ้วนหน้าแล้วใช่ไหมคะกับเมนูชีสและเบคอน ส่วนใครที่คิดว่ายังไม่เต็มอิ่มก็สามารถเข้าไปดูเมนูอาหารง่าย ๆ แต่น่ากินมาก ๆ ได้อีกที่ เฟซบุ๊ก Easy Cooking เมนูอร่อยใครว่าทำ
เฟซบุ๊ก Easy Cooking เมนูอร่อยใครว่าทำยาก