ไหน ๆ จะลองทำขนมปราบเซียนอย่างมาการองทั้งที จะให้เป็นชิ้นกลม ๆ ก็คงธรรมดาเกินไป ลองมาดูวิธีทำมาการองรูปหมีริลัคคุมะชิ้นนี้ดีกว่า วัดฝีมือให้รู้ ๆ กันไปเลย
ลองจินตนาการเวลาเรากินมาการองสีสันสดใสรสชาติหวาน ๆ จิบกับน้ำชายามบ่ายดูสิ ช่างเข้ากั๊นเข้ากันเหลือเกิน แล้วอยากจะลองทำเองไหมล่ะคุณขา แต่ถ้าจะให้ลงมือทำเองทั้งที คงต้องไม่ใช่มาการองธรรมดาทั่ว ๆ ไป เราต้องทำต่างจากคนอื่นสักหน่อย นั่นแน่… แอบสนใจอยากลองทำมาการองไอเดียเก๋อย่าง มาการองริลัคคุมะ ดูคิวต์ ๆ แบบนี้กันแล้วใช่ไหม เอาไว้ไปอวดชาวบ้านทางโซเชียลมีเดียให้คนอื่นเขาอิจฉากันหน่อย เห็นแบบนี้ใครว่าทำยาก…ขอฟันธงเลยค่ะว่าไม่ยากเลยถ้าตั้งใจและสูตรเป๊ะ ! วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีทำมาการองริลัคคุมะน่ารัก ๆ สูตรจาก คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เหมาะสำหรับคนที่ชอบมาการองเข้าเส้น รับรองว่าทำเสร็จแล้วจะฟินเว่อร์ ปลื้มปริ่มไปกับฝีมือตัวเองไปอีกนานเลยล่ะ
มาการองริลัคคุมะ ที่ใคร ๆ เขาก็ว่าทำยากระดับเทพ ! โดย คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
"มาการอง" ขนมปราบเซียน ที่ใคร ๆ ก็ว่ายาก ตอนแรกได้ยินอย่างนั้นแล้วไม่อยากทำ กลัวเจ๊ง กลัวเสียของ เพราะใครก็ว่ายาก ผัดวันประกันพรุ่ง ทำเมนูอื่นไปเรื่อย ๆ แต่แล้ว... ก็มีความคิดนี้เกิดขึ้น "ถ้าไม่ลงมือทำสักที มันจะสำเร็จไหมล่ะ..." ด้วยประการฉะนั้น ดิฉันจึงลงมือทำ และแล้ว... มันก็พลาดค่ะ สมคำร่ำลือตามคัมภีร์ใบลานนะคะ ฮ่า ๆ ๆ ก็ผิดเป็นครูนี่เนอะเลยเป็นครูถึง 6 ครั้งติดเลยทีเดียวเชียว
หลังจากที่เราทำพลาดในครั้งแรก เราก็พยายามศึกษาข้อมูลตามกระทู้ เว็บไซต์ หนังสือ และคลิปสอนทำขนมต่าง ๆ มากมาย จำได้ว่าสัปดาห์นั้นหายใจเข้าหายใจออกเป็นมาการองเลยทีเดียว อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนบ้า ชอบเอาชนะความล้มเหลวโดยการทำให้มันสำเร็จ ในที่สุด ครั้งที่ 7 ผลมันก็ออกมาเป็นแบบนี้
เย้ !!! เราทำสำเร็จ เราชอบทำขนมหน้าตาแบ๊ว ๆ ที่ขัดกับบุคลิกตัวเอง 555 มันน่ารักดี หลังจากประสบปัญหามาหลากหลาย ทั้งขาไม่งอก หน้าแตก ก้นแฉะ มาการองแบนเป็นจาน UFO เราก็มาเจอกับสูตรนี้ และวิธีทำที่คิดว่าแบบนี้แหละเหมาะสำหรับเราจริง ๆ
เราได้ทดลองทำสูตรนี้ซ้ำ ปรากฏว่าผลสัมฤทธิ์ออกมาประสบผลสำเร็จเหมือนเดิม จึงคิดว่าสูตรนี้แหละที่จะเอามาแบ่งปันเพื่อน ๆ เรามาเริ่มกันเลย สูตรนี้แคทดัดแปลงมาจากหนังสือ Macaron by Chef Gio นะคะ กราบขอบพระคุณงาม ๆ สำหรับสูตรดี ๆ
ใครนึกภาพตามไม่ออก ถนัดชมแบบคลิป เชิญจิ้มที่นี่นะคะ
ส่วนผสม ฝามาการอง (สูตรนี้หารสามนะคะ ถ้าทำแบบเต็มสูตรมันเยอะเกินไป)
• อัลมอนด์ป่น 100 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
• ไข่ขาว (1) 36 กรัม
• ไข่ขาว (2) 36 กรัม
• ผงโกโก้ 10 กรัม
• น้ำตาลทรายขาว 75 กรัม
• น้ำเปล่า 25 กรัม
• สีผสมอาหารสีเหลืองชนิดผง (ใครมีเจลก็ใช้แบบเจลก็ได้)
ส่วนผสม ไส้มาการอง
• ช็อกโกแลตนม 40 กรัม
• วิปครีม 20 กรัม (จากสูตรต้นฉบับคือ 40 กรัม แคทลดให้เหลือ 20 กรัม เพราะลองแล้วมันเหลวไป (ดูจากในคลิปข้างล่าง) ตอนทำเป็นช่วงอากาศร้อนพีคสุด ๆ ของวัน หยิบไส้ออกมาจากตู้เย็นปุ๊บ เหลวเป็นน้ำเลย
วิธีทำไส้มาการอง
• นำวิปครีมไปละลายอุ่นให้ร้อนในไมโครเวฟประมาณ 15 วินาที
• เทใส่ในถ้วยช็อกโกแลต คนทั้งสองอย่างให้ละลายรวมกัน พักไว้ให้หายร้อน และนำไปแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
• นำไส้ออกมาจากตู้เย็น ใส่ถุงบีบ บีบใส่ฝามาการอง
วิธีทำฝามาการอง
นำอัลมอนด์ป่นกับน้ำตาลไอซิ่งไปปั่นรวมกันจนละเอียด (ในภาพนั้นเราปั่นเรียบร้อยแล้ว)
เทออกมาจะเห็นว่าส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อน ๆ นั่นเพราะว่ามันมีความชื้นอยู่ค่ะ
เมื่ออบเสร็จแล้วนำออกมาผึ่งให้เย็น เมื่อเย็นตัวดีแล้ว เราก็นำมาร่อนเพื่อกรองเอาผงอัลมอนด์ที่เป็นเม็ดใหญ่ ๆ ออก (การร่อนจะทำให้ได้มาการองเนื้อเนียนสวย)
จากนั้นทำอิตาเลียนเมอแรงค์ (ลืมบอก สูตรนี้เป็นสูตรมาการองแบบอิตาเลียนนะคะ) เทน้ำตาลทรายลงในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า
ไม่ต้องคนค่ะ ปล่อยให้น้ำแทรกเข้าไปในเม็ดน้ำตาล เพราะถ้าคนตอนที่ต้ม น้ำตาลจะตกผลึก จากนั้นนำขึ้นตั้งเตาไฟเลยค่ะ
ระหว่างที่นำน้ำตาลทรายขึ้นตั้งหม้อต้มให้ได้อุณหภูมิ 117 องศาเซลเซียส เรามาตีไข่ขาวส่วนที่ 1 ค่ะ ให้พอแตกตัวเป็นฟอง ๆ แบบในภาพ
นำน้ำตาลขึ้นตั้งหม้อต้มให้ได้อุณหภูมิ 117 องศาเซลเซียส แล้วปิดเตาไฟเลยค่ะ (สูตรอิตาเลียนเมอแรงค์ การใช้เทอร์โมมิเตอร์มีความจำเป็นมาก เพราะก่อนหน้านี้ที่แคททำพลาดก็เพราะต้มน้ำตาลไม่ถึงจุดเดือดที่ต้องการ หรือบางทีก็ต้มนานเกินไปจนกลายเป็นทอฟฟี่)
ตีไข่ขาวต่อด้วยความเร็วปานกลาง ค่อย ๆ เทน้ำเชื่อมที่ต้มร้อน ๆ ลงไปผสมในชามไข่ขาว ค่อย ๆ เทลงไปเป็นสายช้า ๆ จนหมด ตีต่อไปเรื่อย ๆ จนตั้งยอดแบบในภาพ
ในหนังสือเขาบอกว่า ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส ก็สามารถนำไปใช้ได้แล้ว (จับเทอร์โมมิเตอร์มาวัด ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส เป็นอันว่าใช้ได้)
ผสมไข่ขาวส่วนที่ 2 ลงไปในผงอัลมอนด์และน้ำตาลไอซิ่งที่ร่อนไว้ คนให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้มันจะหนืดมาก ๆ
แบ่งส่วนผสมเมื่อครู่ออกมาเล็กน้อย (เพื่อเอามาทำเป็นส่วนสีขาวของหน้าหมี)
ในชามผสมใบใหญ่ให้ร่อนผงโกโก้ใส่ลงไปจนหมด จากนั้นคนให้เข้ากัน ส่วนผสมมันจะเหนียวและหนืดสุด ๆ (คนไปกล้ามจะขึ้นค่ะ 555)
แบ่งอิตาเลียนเมอแรงค์มาใส่ 2 รอบ รอบแรก (ภาพเล็ก) คนให้เขาเข้ากัน (สังเกตว่าส่วนผสมจะไม่เหนียวข้นมากเหมือนตอนแรก) รอบสอง แบ่งใส่ชามเล็กปริมาณเล็กน้อย (กะเอานะคะ ตักใส่สัก 1 ช้อนโต๊ะนี่แหละ) ที่เหลือก็เอาใส่ชามใหญ่ให้หมดเลยค่ะ
จุดจุดนี้ต้องระวังค่อนข้างมาก ใช้วิธีตะล่อมบ้าง กดลงแรง ๆ บ้าง ตัวส่วนผสมที่ใช้ได้จะไหลย้อยจากพายลงมาเป็นรูปวีเชป (V)
ส่วนผสมสีขาวชามเล็กเมื่อสักครู่ แบ่งออกมาเล็กน้อย ใส่สีผสมอาหารชนิดผงสีเหลืองลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
ป.ล. ตอนผสมเมอแรงค์เข้ากับตัวอัลมอนล์มีล (อัลมอนด์ป่น) ยังไม่ต้องคนเข้ากันนะคะ คนหยาบ ๆ ก็พอ เพราะถ้าคนให้ได้ระดับที่เหลวแล้ว นำมาผสมสีเหลืองอีก ตัวเบทเทอร์มันจะเหลวไป
นำส่วนผสมทั้ง 3 สีมาบรรจุถุงให้เรียบร้อย โดยใช้หัวบีบดังนี้...
เบทเทอร์สีน้ำตาล แคทใช้หัวบีบเบอร์ 11 นะคะ (หัวบีบจะทำให้ทำรูปหน้าหมีออกมาได้เป๊ะขึ้น แต่ถ้าใครไม่ใช้หัวบีบก็ได้นะ ความเป๊ะลดลงตามนั้น เคยลองแล้วค่ะ) และใช้หัวบีบเบอร์ 8 เพื่อบีบหูหมีทั้งสองข้าง
เบทเทอร์สีเหลืองกับสีขาว ใส่ถุงแกงตามปกติได้ (เราขี้เกียจล้างหัวบีบใหม่ แหะ ๆ)
เราพรินต์แบบน้องหมีริลัคคุมะมารอง จะได้วาดง่าย ๆ
ขั้นตอนวาดน้องหมี ขั้นตอนแรก (จังหวะวาดหน้าน้องหมี วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส รอไว้เลย) วาดหน้าให้เสร็จทั้งหมด (ใช้หัวบีบเบอร์ 11) แล้ววกกลับมาวาดหูทั้งสองข้าง (ใช้หัวบีบเบอร์ 8)
วาดจมูกหมี บีบส่วนผสมลงไปนิดเดียวนะ เดี๋ยวเขาจะแผ่ออกเป็นวงกว้างเอง
บีบส่วนผสมหูทั้งสองข้างลงไปเท่าหัวไม้ขีด จากนั้นนำมือเคาะพิมพ์จากด้านล่างถาด เคาะเพื่อไล่ฟองอากาศใหญ่ออกไป
พักหน้าไว้แค่ 10 นาทีก็พอ พักเสร็จแล้วเตาที่เราวอร์มไว้ก็ได้ที่พอดี ขั้นตอนนี้สำคัญนะ ****ลดอุณหภูมิจาก 160 องศาเซลเซียส ลงมาที่ 140 องศาเซลเซียส**** จับถาดยัดใส่เตาได้เลย วางไว้ตรงช่องกลางเตาอบเป็นเวลา 16 นาที ขั้นตอนนี้เวลาอาจเพิ่ม-ลดได้ตามขนาดของมาการองของแต่ละคน
วิธีสังเกตว่าฝามาการองของเราสุกหรือยัง ให้ลองเปิดเตาและนำมือไปโยกฝาดู ถ้าขาเขายังโยกและขยับอยู่แสดงว่ายังไม่สุก แต่ถ้าโยกขาแล้วไม่ขยับไปไหนแสดงว่าสุกแล้ว
เมื่อสุกแล้วนำออกมาจากเตา ดึงแผ่นรองออกมาพักบนตะแกรง ระวังอย่าให้ตัวมาการองโดนขยับมาก (วิธีของเราคือ วางถาดกับตะแกรงในระนาบเดียวกัน จากนั้นก็ใช้มือดึงแผ่นรองให้มันย้ายตัวมาอยู่บนตะแกรง) รอให้เย็นค่อยแกะเอามาประกบคู่กัน
อบฝามาการองเซตที่สองต่อไปเลย ใช้เวลาอบเท่าเดิมค่ะ
อบเสร็จแล้ว ขามาการองงอก หน้าไม่แตก เนียนสวยสมใจ สูตรนี้ทำได้ 25 คู่
หันมาดูทางฝาด้านในเสียหน่อย สวยงามตามท้องเรื่อง
มาวาดตากับจมูกหมีกัน ใช้ผงสีผสมอาหารสีดำผสมกับน้ำ 4-5 หยด ใช้พู่กันจิ้มแล้ววาดโลด ใครมีปากกาที่ทำจากสีผสมอาหารก็ใช้ได้นะ (ราคาปากกาหมึกกินได้มันแพงอะ เราไม่มีงบ เลยใช้แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน 555)
เสร็จแล้วค่ะ
เรายังไม่อยากทานค่ะ ก็เลยตั้งใจจะทำฝาเก็บใส่ช่องแช่แข็งไว้ก่อน เห็นว่าสูตรอิตาเลียนเมอแรงค์เก็บได้นานเป็นเดือน
จบแล้วสำหรับการรีวิวในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ นะคะ สุดท้ายแล้ว ใครที่อยากเข้าไปพูดคุยเรื่องทำขนมกับเรา หรือว่าอยากหาสูตรทำขนมอื่น ๆ สามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก Kat Bake Club ขอบคุณที่รับชมค่ะ
สาวกมาการองเลิฟเว่อร์ต้องชื่นชอบมาการองริลัคคุมะเมนูนี้แน่นอน มาการองหมีสีน้ำตาลสุดชิค ทำเสร็จแล้วอย่าลืมเอามาอวดกันบ้างนะคะ