ทำง่ายเลยอยากแชร์กับเมนูมัฟฟินบลูเบอร์รี เนื้อนุ่มแน่นหอมกลิ่นเนยสด ทำง่ายสะดวกด้วยบลูเบอร์รีกระป๋อง ทำกินเองกินเยอะแค่ไหนก็ได้เนอะ
ใครชอบกินมัฟฟินบลูเบอร์รี สูตรเบเกอรี่อยู่แล้ว ถ้าจะซื้อกินราคาต่อชิ้นก็แอบแพงไปหน่อย ลองมาทำกินเองแบบง่าย ๆ กันดีไหมคะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำมัฟฟินบลูเบอร์รี สูตรจาก Easy food good health by Andy จับแป้งสาลีผสมเนยจืดกับไข่ไก่ ใส่บลูเบอร์รีสำเร็จรูปลงไป สุดท้ายตักใส่พิมพ์แล้วนำไปอบจนสุก รับรองว่าทำง่ายและอาจเป็นอีกสูตรขนมประจำบ้านไปเลยค่ะ
มัฟฟินบลูเบอร์รี แบบทำง่ายทานอร่อย โดย Easy food good health by Andy
สวัสดีค่ะ วันนี้มาชวนทำมัฟฟินบลูเบอร์รีจากบลูเบอร์รีกระป๋อง (Blueberry Filling) หลังอบตกแต่งด้วยบลูเบอร์รีกระป๋องสวยงามน่ากินขึ้นไปอีกค่ะ เพื่อน ๆ สามารถใช้แป้งเค้กแทนแป้งสาลีได้นะคะ ถ้าคนผสมแล้วเหลวไปใส่แป้งเพิ่มได้เลยค่ะ ในส่วนของเนยสามารถใช้น้ำมันพืชแทนได้เลยค่ะ
ส่วนผสม มัฟฟินบลูเบอร์รี
- เนยจืด 62 กรัม
- น้ำตาลทราย 70 กรัม (1/3 ถ้วย)
- ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง
- นมจืด 63 กรัม (1/3 ถ้วย)
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- แป้งสาลี ตราว่าว 127 กรัม (1 ถ้วย)
- บลูเบอร์รีกระป๋อง 118 กรัม (1/2 ถ้วย)
วิธีทำมัฟฟินบลูเบอร์รี
◇ ผสมเนยจืดที่อุณหภูมิห้อง ตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลทรายละลาย
◇ ใส่ไข่ไก่ลงไป ตามด้วยนมจืด คนให้เข้ากัน
◇ ร่อนแป้งและผงฟูลงไป ตะล่อมแค่พอเข้ากัน
◇ นำบลูเบอร์รีกระป๋องใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
◇ ตักใส่พิมพ์ นำเข้าเตาอบที่วอร์มไว้แล้ว อบไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที
◇ นำออกจากเตาอบ ตั้งพักไว้ให้คลายร้อน นำบลูเบอร์รีมาราดด้านบนตามชอบ
◇ กรณีแช่ตู้เย็นเก็บไว้ขนมจะแข็งตัว ให้ตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 10-15 นาที ขนมจะนุ่มเหมือนเดิมค่ะ สามารถใช้น้ำมันพืชแทนเนยได้ในอัตราส่วนประมาณ 30 มิลลิลิตร เวลาแช่ตู้เย็นจะแข็งตัวน้อยกว่าใช้เนยค่ะ แต่อาจต้องใช้กลิ่นวานิลลาหรือเนยช่วยให้กลิ่นหอมน่ากินขึ้นค่ะ
จบไปแล้วสำหรับวิธีทำมัฟฟินบลูเบอร์รี ลองทำเอาไว้กินเป็นอาหารว่างกับเครื่องดื่มแก้วโปรดกันดูนะคะ และสามารถเปลี่ยนรสชาติมัฟฟินได้ตามชอบกันเลยจ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก
Easy food good health by Andy