เปิดลิสต์น้ำมันมะกอกสำหรับผัด เลือกให้ถูกประเภท ทำอาหารอร่อย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำเมนูอาหารได้หลากหลาย ที่ควรมีไว้ติดครัว
ในปี 2022 นี้ เทรนด์การดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ใคร ๆ ก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันทั้งนั้น หลายคนก็มุ่งเน้นไปที่เรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีการนำเอาน้ำมันมะกอกมาใช้ในการปรุงอาหารเมนูต่าง ๆ มากมาย ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและคุณประโยชน์ที่ดีต่อหัวใจ หลอดเลือด และสุขภาพ ทำให้น้ำมันชนิดนี้กลายมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงสำคัญในมื้ออาหารสุขภาพ อีกทั้งมีให้เลือกหลายประเภททั้งน้ำมันมะกอกสำหรับผัด สำหรับทอด หรือแม้แต่กินสด ๆ ทำเป็นน้ำซอสหรือน้ำสลัด และในวันนี้กระปุกดอทคอมจะขอเอาใจคนชอบเมนูผัดทั้งหลาย ด้วยการแนะนำน้ำมันมะกอกสำหรับผัดยี่ห้อต่าง ๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
น้ำมันมะกอก คืออะไร มีกี่ประเภท
น้ำมันมะกอก (Olive Oil) คือ น้ำมันที่สกัดจากผลมะกอก นิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารที่หลากหลายได้ทั้งเมนูผัด ทอด หรือทำน้ำสลัด และยังนำไปทำเครื่องสำอาง เป็นสกินแคร์ดูแลผิวพรรณ ทำเป็นยา หรือสบู่ รวมถึงทำเป็นเชื้อเพลิงสำหรับใช้กับตะเกียงน้ำมันแบบดั้งเดิมได้อีกด้วย
ทั้งนี้ องค์ประกอบของน้ำมันมะกอก จะแตกต่างกันไปตามแต่พันธุ์และความสูงของต้นมะกอก เวลาเก็บเกี่ยว และกระบวนการสกัด โดยส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วยกรดโอเลอิก ประมาณ 83% และกรดไขมันอื่น ๆ เช่น กรดไลโนเลอิก และกรดปาลมิติก ซึ่งน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษจำเป็นต้องมีความเป็นกรดอิสระไม่เกิน 0.8% และถือว่ามีลักษณะรสชาติที่ดี
การเลือกใช้น้ำมันมะกอกให้ถูกต้องกับการทำอาหารแต่ละประเภทเป็นสิ่งสำคัญ โดยน้ำมันมะกอกที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด แบ่งเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. Extra-Virgin Olive Oil
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ผลิตโดยวิธีสกัดเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้วิตามินจากธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง มีความเป็นกรดที่ต่ำรักษารสชาติและกลิ่นหอมตามธรรมชาติไว้ครบถ้วน สามารถปรุงอาหารได้สด ๆ โดยไม่ต้องผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เหมาะทำเป็นน้ำซอสหรือน้ำสลัดต่าง ๆ และไม่ควรนำไปทอด ผัด หรือผ่านกรรมวิธีที่มีความร้อน เพราะอาจจะทำให้เสียคุณค่าทางโภชนาการไป
2. Virgin Olive Oil
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สกัดเย็นแต่ไม่ผ่านการกลั่น ให้กลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นธรรมชาติมากกว่า มีความเป็นกรดสูงอยู่ในช่วง 1-4% ทนต่ออุณหภูมิความร้อนได้ดี รสชาติจะอ่อน เหมาะสำหรับการปรุงโดยใช้ความร้อนต่ำ เช่น ทำเป็นน้ำซอสหรือน้ำสลัด
3. Refined Olive Oil
น้ำมันมะกอกสกัดจากผลมะกอกดำสุก คุณภาพปานกลาง ทนต่อความร้อนได้ดี เหมาะปรุงอาหารประเภทที่มีอุณหภูมิสูงอย่างเมนูทอด
4. Pure Olive Oil
น้ำมันมะกอกที่เกิดจากการผสมน้ำมันบริสุทธิ์หรือน้ำมันบริสุทธิ์กับน้ำมันที่ผ่านการกลั่นแล้ว อุดมไปด้วยวิตามินอี เหมาะสำหรับปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนไม่นานมาก เช่น เมนูผัด
5. Olive Pomace Oil
น้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพไม่สูงนัก สกัดมาจากน้ำมันและกากที่ตกค้างอยู่ และผสมกับน้ำมันบริสุทธิ์เล็กน้อยเพื่อปรับปรุงคุณภาพ จึงทำให้มีราคาถูก และเหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่มีมีความร้อนสูงอย่างเมนูทอด
ภาพจาก Sorbis / Shutterstock.com
น้ำมันมะกอก ถือเป็นน้ำมันบริโภคที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในระดับสูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ เช่น
-
ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ป้องกันการอักเสบ ช่วยลดการเกิดออกซิเดชันของ LDL (ไขมันเลว) และปรับปรุงการทำงานของเยื่อบุชั้นในของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้
-
ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง น้ำมันมะกอกประกอบด้วยกรดโอเลอิกซึ่งมีความทนทานต่อการเกิดออกซิเดชันสูง ส่งผลดีต่อยีนที่เชื่อมโยงกับมะเร็ง และยังอุดมไปด้วยสารประกอบที่ช่วยต้านมะเร็งในระดับโมเลกุลด้วย
-
บรรเทาอาการปวดและการอักเสบ จากสารต้านอนุมูลอิสระชื่อ โพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบลดอาการปวดได้
-
ช่วยเพิ่มสุขภาพกระดูก เนื่องจากมีมีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและวิตามินดี และป้องกันการสลายของกระดูกได้ หากรับประทานเป็นประจำ
-
ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน จากไขมันดี ช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด จึงทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
แนะนำน้ำมันมะกอกสำหรับผัด
ยี่ห้อไหนดี ปี 2022
1. Bertolli Extra Light Olive Oil Spray
ภาพจาก bertolli.asia
น้ำมันมะกอกแบบสเปรย์จาก Bertolli ใช้งานง่าย ไม่ต้องเทกะปริมาณให้วุ่นวาย เพียงแค่ฉีดลงไปในกระทะหรือระหว่างการปรุงอาหารได้เลย สำหรับสูตรนี้เป็นน้ำมันมะกอกแบบ Extra Light เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ใช้ความร้อน เช่น ผัด ปิ้ง และย่าง ขนาด 145 มิลลิลิตร ราคา 161 บาท
2. Sabroso Extra Light Olive Oil
ภาพจาก gourmetmarketthailand.com
น้ำมันมะกอกอเนกประสงค์ ที่ผ่านกรรมวิธีทางธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถใช้แทนน้ำมันพืชทั่วไปได้เลย เพราะปรุงอาหารได้หลากหลายเมนูทั้งทอด ผัด อบ หรือประกอบอาหารที่ใช้ความร้อนสูง มี 2 ขนาดให้เลือก คือ ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 219 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 420 บาท
3. Naturel Light and Mild Olive Oil
ภาพจาก tops.co.th
น้ำมันมะกอกที่มีกลิ่นเฉพาะตัวจากมะกอกสเปน ถือว่าครบเครื่องมาก ๆ ในการเป็นวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารเมนูต่าง ๆ เพราะสามารถทำได้ทั้งน้ำสลัด ผัด ทอด และอบขนม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมก้า 3, 6 และ 9 ไม่มีกรดไขมันทรานส์ ไม่มีโคเลสเตอรอล มีกลิ่นหอมและรสชาติอ่อน ๆ ไม่ทำให้เสียรสชาติของอาหารด้วย ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 225 บาท
4. Ybarra Pure Olive Oil
ภาพจาก tops.co.th
น้ำมันมะกอกนำเข้าจากประเทศสเปน ใช้มะกอกสายพันธุ์ Arbequina และ Hojiblanca ให้ความหอมเฉพาะตัว และมีรสชาติดี ไม่เลี่ยน เหมาะสำหรับเมนูผัด มี 3 ขนาดให้เลือก คือ ขนาด 250 มิลลิลิตร ราคา 139 บาท ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 239 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 449 บาท
5. Filippo Berio Olive Oil
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Filippo Berio Thailand
น้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีธรรมชาติ นิยมนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะผัด ย่าง อบ หรือแม้แต่ใช้หมักอาหาร เพราะให้กลิ่นและรสชาติที่บางเบา อีกทั้งช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยขึ้นได้ ขนาด 500 มิลลิตร ราคา 240 บาท
6. Bertolli Olive Oil
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bertolli Thailand
น้ำมันมะกอกเบอร์ทอลลี่ สูตรธรรมดา ฝาสีส้ม สำหรับเมนูผัดหรือทอด ทนความร้อนได้ประมาณ 238 องศาเซลเซียส ไม่มีกลิ่นเจือปน ทำให้ได้รสชาติและคุณค่าทางอาหารแบบเต็ม ๆ มีให้เลือก 2 ขนาดคือ ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 242 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 461 บาท
7. Colavita Pure Olive Oil
ภาพจาก tops.co.th
น้ำมันมะกอกนำเข้าจากประเทศอิตาลี ให้กลิ่นและรสสัมผัสอ่อน ๆ แฝงด้วยความกลมกล่อมที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับปรุงอาหารกับความร้อนแบบเร็ว ๆ เช่น เมนูผัด หรืออาหารที่ไม่ใช้อุณหภูมิสูงนัก ขนาด 1 ลิตร ราคา 392 บาท
สำหรับใครที่กำลังมองหาน้ำมันมะกอก และชอบเมนูอาหารผัดหรือทอดที่ใช้ความร้อนไม่นานนัก ก็ลองดูตัวอย่างน้ำมันมะกอกสำหรับผัดที่เรานำมาฝากวันนี้เป็นตัวเลือกในการหาซื้อมาติดครัวไว้ได้เลย รับรองว่าได้ทั้งความอร่อย และดีต่อสุขภาพแน่นอนค่ะ