ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทยสูตรโบราณที่หากินได้ยาก วันนี้เรามีเมนูสุขภาพประเภทเครื่องจิ้มมาฝากกันค่ะ โดยเมนูที่ว่านี้มีชื่อเรียกหลากหลาย ทั้ง กะปิคั่ว กะปิหลน หลนกะปิ และคั่วเคย แต่จะชื่อไหนก็ล้วนเป็นเมนูเดียวกัน สูตรเด็ดจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกห้องก้นครัว เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่นำสูตรกะปิหลนตำรับโบราณมาประยุกต์เพิ่มเติมตามความชอบ ซึ่งรับรองว่าอร่อยเด็ดไปอีกแบบไม่แพ้ต้นตำรับเลยจ้า
ส่วนใครที่กำลังกังวลว่า สาเหตุที่เมนูอาหารไทยโบราณชนิดนี้หารับประทานได้ยาก เนื่องจากต้องใช้เครื่องปรุงเยอะ หรือมีวิธีการทำยุ่งยากหรือเปล่านั้น คุณบ่งบ๊งยืนยันว่า เมนูนี้ทำไม่ยาก และอาจจะง่ายกว่าการทำอาหารไทยบางชนิด เช่น แกงส้ม หรือแกงพะแนง ...เอ้า มาลองพิสูจน์กันเลยจ้า
ส่วนผสม กะปิหลน
◆ ปลาย่าง แกะเอาแต่เนื้อ 1/2 ถ้วย
◆ หัวกะทิ 1 ถ้วย
◆ หางกะทิ 1+1/2 ถ้วย
◆ พริกแห้งเม็ดใหญ่ (แช่น้ำจนนุ่ม) 3 เม็ด
◆ ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
◆ กระชายหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
◆ หัวหอมซอย 1/4 ถ้วยตวง
◆ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
◆ กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
◆ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
◆ น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
◆ พริกชี้ฟ้าเขียว, แดง และเหลือง (หั่นท่อน) 2-5 เม็ด
วิธีทำ
1. นำเครื่องปรุงสมุนไพรต่าง ๆ ไป คั่ว หรือย่าง ให้พอสุก
2. เมื่อสมุนไพรทั้งหมดสุกได้ที่แล้ว ก็นำมาโขลกในครกหิน หากโขลกแล้วยังไม่ละเอียด สามารถใส่ลงไปในเครื่องผสมอาหาร (Food Processor) แล้วปั่นให้ละเอียดอีกรอบ
3. โขลกพริกแห้งและกะปิให้ละเอียด เติมตะไคร้ กระชาย หัวหอม กระเทียม ใส่ปลาย่างลงไปโขลกให้เข้ากัน ซึ่งในขั้นตอนนี้ นอกเหนือจากเครื่องปรุงในสูตรแล้ว คุณบ่งบ๊ง ได้เพิ่มกุ้งแห้งป่น กับมะพร้าวคั่วโขลกละเอียดลงไปด้วย
4. เคี่ยวหัวกะทิในกระทะด้วยไฟกลางให้กะทิแตกมัน จากนั้นใส่น้ำพริกที่โขลกแล้วลงไปผัดให้หอม
5. ตามสูตรให้ใส่หมูสับลงไป แต่คุณบ่งบ๊งขอใส่เป็นกุ้งสับแทน จากนั้นผัดน้ำพริกให้เข้ากัน
6. ใส่หางกะทิ และเคี่ยวพอข้น เริ่มปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา
7. ใส่พริกชี้ฟ้าสามสีหั่นท่อนสั้น ๆ เนื่องจากคุณบ่งบ๊งชอบรับประทานพริกแบบสุก ๆ นิ่ม ๆ ดังนั้นจึงใส่พริกตั้งแต่ตอนแรกก่อนก่อนเคี่ยวส่วนผสม เพราะเมื่อปรุงเสร็จพริกที่ใส่ไปก็จะนิ่มและสุกพอดี
8. ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความหอมของน้ำพริก
เพียงเท่านี้เมนูเครื่องจิ้ม กะปิคั่ว-กะปิหลน ก็เสร็จพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ แต่เพื่อความสมบูรณ์แบบของอาหารมื้อนี้ ควรจะมีเครื่องเคียง ทั้งปลาทอด เช่น ปลาทู หรือปลาอินทรีย์ และผักสด หรือผักลวกชนิดต่าง ๆ เตรียมไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น หัวปลีสด มะเขือเปราะ แตงกวา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ขมิ้นขาว สะตอ แครอท ฯลฯ จากนั้นก็เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ แค่นี้ก็เริ่มลิ้มรสความอร่อยกันได้แล้วล่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเมนูเครื่องจิ้มโบราณชนิดนี้ ส่วนประกอบก็หาได้ง่าย แถมวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด หากมีโอกาสก็อย่าลืมลองนำเมนูนี้ไปลองทำรับประทานกันดูนะคะ รับลองว่าอร่อยถูกปาก แถมยังทำให้สุขภาพดีได้อย่างง่าย ๆ ด้วยจ้า