เปิดประวัติที่น่าสนใจของ "พิซซ่า" อาหารฝรั่งสุดฮิตที่ใคร ๆ ก็เคยกิน แต่อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า ที่มาที่ไปน่าสนใจขนาดไหน
จะว่าไปคนไทยเราก็กินง่ายอยู่ง่ายไม่เบาเลยนะคะ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้น ๆ อย่างไข่เจียว ไข่ดาว น้ำพริก ส้มตำ ไปจนถึงอาหารเหลาหรือเบเกอรี่ก็กินได้หมด ยิ่งสมัยนี้เป็นยุคของความเร่งรีบ อาหารประเภทเบเกอรี่และฟาสต์ฟู้ดทั้งหลายก็เริ่มเข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตของคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะ พิซซ่า ที่กินง่าย สะดวก อร่อย แถมยังสั่งได้ทันใจ ก็ดูจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เวลาที่นึกอยากจะกินอาหารฟาสต์ฟู้ดขึ้นมา วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยอาสานำประวัติพิซซ่ามาฝาก แต่ก่อนจะโทร. สั่งพิซซ่า เรามาดูความเป็นมาของพิซซ่ากันก่อนดีกว่าจ้า
ประวัติของพิซซ่า
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พิซซ่าน่าจะมีกำเนิดมากว่าร้อยล้านปีที่แล้ว เนื่องจากปี ค.ศ. 97 ภูเขาไฟวิสุเวียสเกิดระเบิดขึ้น ทลายเมืองปอมเปอีแห่งอาณาจักรโรมันทั้งเมือง จากนั้นเมื่อปี ค.ศ. 640 แกตาโน ฟิโอเรลลี่ ได้ค้นพบเตาฟืนโบราณจำนวนมากในซากปรักหักพังของเมืองปอมเปอีที่ถูกลาวาถล่ม หนึ่งในจำนวนเตาทั้งหมดนั้นพบว่ามีเถ้าถ่านขนมปังติดอยู่ในเตาถึง 7 กิโลกรัม ซึ่งเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าทหารโรมันในช่วงก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิดนั้น พวกเขาน่าจะกินขนมปังที่อบด้วยเตาฟืนกันถ้วนหน้า
ต่อมาในปี ค.ศ. 1700 ชาวเมืองนาโปลีก็ได้นำมาประยุกต์ใส่มะเขือเทศ ใบโหระพา ชีสมอสซาเรลล่า ใบออริกาโน่ เนื้อปลาแอนโชวี และกระเทียม ลงในแผ่นแป้ง แล้วนำไปอบด้วยเตาฟืนโบราณด้วยความร้อน 340 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นพิซซ่าสูตรเฉพาะของเมืองนาโปลีเลยก็ว่าได้ และก็เป็นจุดเริ่มต้นของมารีนาราพิซซ่า รวมทั้งร้านพิซซ่าร้านแรกในนาโปลีที่มีชื่อว่า พิซเซอเรีย ซึ่งเปิดขายในปี ค.ศ. 1830 เป็นต้นมา
ต่อมาในปี ค.ศ. 1700 ชาวเมืองนาโปลีก็ได้นำมาประยุกต์ใส่มะเขือเทศ ใบโหระพา ชีสมอสซาเรลล่า ใบออริกาโน่ เนื้อปลาแอนโชวี และกระเทียม ลงในแผ่นแป้ง แล้วนำไปอบด้วยเตาฟืนโบราณด้วยความร้อน 340 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นพิซซ่าสูตรเฉพาะของเมืองนาโปลีเลยก็ว่าได้ และก็เป็นจุดเริ่มต้นของมารีนาราพิซซ่า รวมทั้งร้านพิซซ่าร้านแรกในนาโปลีที่มีชื่อว่า พิซเซอเรีย ซึ่งเปิดขายในปี ค.ศ. 1830 เป็นต้นมา
และประมาณปี ค.ศ. 1850 พิซซ่ามาร์การิต้าก็ได้เกิดขึ้นจากฝีมือของราฟาเอล เอสโปสิโต แห่งเมืองเนเปิลส์ ซึ่งเขาได้ทำพิซซ่าถวายสมเด็จพระราชาธิบดีอุมแบร์โตที่ 1 และสมเด็จพระราชินีมาเกอริต้า ในคราวที่พระองค์เสด็จฯ เยือนเมืองเนเปิลส์ ราฟาเอลใช้สีบนหน้าพิซซ่าแทนสัญลักษณ์ของธงชาติอิตาลี โดยใช้เบซิล หรือโหระพา แทนสีเขียว ใช้มอสซาเรลล่าชีสแทนสีขาว และมะเขือเทศแทนสีแดง อีกทั้งยังตั้งชื่อพิซซ่าว่า มาเกอริต้า เพื่อเป็นเกียรติแด่พระราชินี ซึ่งพิซซ่าดังกล่าวกลายเป็นมาตรฐานของพิซซ่าในปัจจุบันที่ดัดแปลงมาจากมารีนาราพิซซ่า และมาร์การิต้านั่นเอง
พิซซ่าเริ่มแพร่กระจายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะคนอเมริกันได้หัดทำพิซซ่าและดัดแปลงไปเรื่อย ๆ จนได้สูตรอเมริกันมา จากนั้นเมื่อเข้าสู่ยุคสงครามเวียดนามในปี ค.ศ. 1960 บรรดาทหารอเมริกันที่มาตั้งฐานทัพในไทยก็นำพาวัฒนธรรมการกินพิซซ่าเข้ามาด้วย แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะหากินได้ตามโรงแรม หรือห้องอาหารอิตาเลียนเท่านั้น กระทั่งพิซซ่าฮัทมาเปิดตลาดไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2513 ทำให้คนไทยมีโอกาสได้กินพิซซ่ากันง่ายขึ้น จนเดี๋ยวนี้ต้องบอกว่าเป็นฟาสต์ฟู้ดที่โทร. สั่งปุ๊บก็ได้กินภายในครึ่งชั่วโมง สะดวกสุด ๆ เลยเนอะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
vcharkarn.com
พิซซ่าเริ่มแพร่กระจายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะคนอเมริกันได้หัดทำพิซซ่าและดัดแปลงไปเรื่อย ๆ จนได้สูตรอเมริกันมา จากนั้นเมื่อเข้าสู่ยุคสงครามเวียดนามในปี ค.ศ. 1960 บรรดาทหารอเมริกันที่มาตั้งฐานทัพในไทยก็นำพาวัฒนธรรมการกินพิซซ่าเข้ามาด้วย แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะหากินได้ตามโรงแรม หรือห้องอาหารอิตาเลียนเท่านั้น กระทั่งพิซซ่าฮัทมาเปิดตลาดไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2513 ทำให้คนไทยมีโอกาสได้กินพิซซ่ากันง่ายขึ้น จนเดี๋ยวนี้ต้องบอกว่าเป็นฟาสต์ฟู้ดที่โทร. สั่งปุ๊บก็ได้กินภายในครึ่งชั่วโมง สะดวกสุด ๆ เลยเนอะ
vcharkarn.com