เปิดประวัติข้าวแช่ อาหารไทยโบราณตำรับชาววังที่เราคุ้นเคยกัน เมนูอาหารประจำวันสงกรานต์ชุดนี้มีที่มาน่าสนใจ ทำไมถึงต้องเรียก ข้าวแช่เสวย เรามีคำตอบ
ข้าวแช่เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวมอญ ชาวมอญถือเอาข้าวแช่เป็นอาหารสำคัญในประเพณีวันสงกรานต์ โดยในวันที่ 13 เมษายนของทุก ๆ ปี หรือวันมหาสงกรานต์จะต้องจัดข้าวแช่ครบชุดไปถวายพระ และถวายแด่เทพีสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเมื่อชาวมอญอพยพเข้ามายังประเทศไทย ประเพณีข้าวแช่ในวันสงกรานต์จึงตามติดชาวมอญมายังประเทศไทยด้วย ทำให้ชาวไทยเริ่มรู้จักข้าวแช่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ข้าวแช่ที่เราคุ้นเคยกันดี ก็คือ ข้าวแช่เสวย อาหารชาววังที่ถูกจัดถวายให้กับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ก็ทรงโปรดเมนูข้าวแช่เสวยมาก แต่ในช่วงนั้นข้าวแช่ยังเป็นอาหารชาววังที่ชาวบ้านยังไม่รู้จักกันนัก แต่ไม่นานนักข้าวแช่ชาววังจึงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในสังคมทุกชนชั้น
ส่วนกระบวนการทำข้าวแช่ สูตรชาววังก็ไม่ได้ทำกันง่าย ๆ นะคะ เพราะต้องเลือกสรรพันธุ์ข้าวสารที่ดีที่สุด นำไปซาวล้างถึง 7 ครั้งให้สะอาดบริสุทธิ์ จากนั้นจึงนำมาแช่กับน้ำเย็นลอยดอกไม้ให้กลิ่นหอม หลายคนก็คงสงสัยว่า อ้าว ในเม่อสมัยก่อนไม่มีตู้เย็น ไม่มีน้ำแข็ง แต่ทำไมน้ำข้าวแช่ถึงเย็นได้ คำตอบก็คือ คนไทยจะนำน้ำลอยดอกไม้ไปใส่ไว้ในหม้อดิน แล้วค่อยตักมาใช้ หรือไม่ก็จัดข้าวแช่ใส่สำรับกระเบื้องเคลือบไปเลย วิธีนี้จะทำให้น้ำเย็นชื่นใจนั่นเองค่ะ ส่วนกับข้าวที่กินเคียงกับข้าวแช่ ก็จะมีลูกกะปิทอด พริกหยวกสอด ปลายี่สนผัดหวาน เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน หัวหอมสอดไส้ ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน หมูสับกับปลากุเลา และเครื่องเคียงที่นิยมรับประทานแกล้มกับข้าวแช่ ก็คือผักสดแกะสลักอย่างสวยงามนั่นเอง
แม้ว่าข้าวแช่จะมีขั้นตอนการทำที่ซับซ้อนนิดหน่อย แต่ปัจจุบันก็ยังพอเห็นเมนูข้าวแช่ตามร้านอาหารไทยอยู่บ้าง และสำหรับใครที่ไม่เคยชิมข้าวแช่ ก็ลองรับประทานกันดูนะคะ จะได้รู้ว่าอาหารโบราณสูตรชาววังนั้นเลิศรสแค่ไหน