เทศกาลกินเจ หรือประเพณีถือศีลกินผัก จะเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) ของทุกปี โดยเทศกาลกินเจจะเป็นเทศกาลที่คนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยจะงดรับประทานเนื้อสัตว์และหันมาทานผักเพื่อเป็นการทำบุญในรอบปี สำหรับในปี 2561 จะตรงกับวันที่ 9-17 ตุลาคม 2561
ประโยชน์ของกะหล่ำปลี คือ ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างภูมิคุ้มโรคให้แข็งแรงป้องกันหวัด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ และยังช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอักเสบของแผลในลำไส้ และยังช่วยบำรุงลำไส้อีกด้วย
เมนูอาหารจากกะหล่ำปลี : ต้มจับฉ่ายเจ
ส่วนผสม ต้มจับฉ่ายเจ
• กะหล่ำปลี 1 หัว
• คะน้า 1 ถ้วย
• ชุนฉ่าย 1 ถ้วย
• ผักกวางตุ้ง 1 ถ้วย
• หัวไช้เท้า 1 หัว
• เห็ดหอม 1 ถ้วย
• เต้าหู้ทอด 2 ก้อน
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
• งาคั่วโขลก 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 2 ช้อนชา
• ซีอิ๊ว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำต้มจับฉ่ายเจ
1. เตรียมผัก โดยผ่ากะหล่ำปลีออกเป็น 8 ซีก และหั่นผักทุกชนิดเป็นชิ้นใหญ่ เตรียมไว้
2. เจียวงาขาวคั่วกับน้ำมันพืชจนหอม ใส่ต้นชุนฉ่ายลงผัด ตามด้วยผักชนิดอื่น ๆ จากนั้นใส่น้ำ ใส่เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ และซอสถั่วเหลือง
3. ตักผัดผักที่ได้ลงหม้อ ใส่เห็ดและเต้าหู้ที่ทอดไว้เรียบร้อยแล้ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ และเติมน้ำเคี่ยวจนเปื่อยแค่นี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะ
++++++++++++++++
ประโยชน์ของผักกวางตุ้ง คือ ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งกล้ามเนื้อเสื่อม
เมนูอาหารจากผักกวางตุ้ง : แกงส้มผักรวมเจ
ส่วนผสม แกงส้มผักรวมเจ
• ผักกวางตุ้ง (หั่นเป็นท่อน) 1/2 ถ้วย
• หัวไช้เท้า (ปอกเปลือก หั่นเป็นท่อน) 1/2 ถ้วย
• กะหล่ำปลี 1/2 หัว
• ถั่วฝักยาว (หั่นเป็นท่อน) 1 ถ้วย
• ดอกแค 2 ถ้วย
• น้ำพริกแกงส้มเจ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
• เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแกงส้มผักรวมเจ
1. ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. นำน้ำพริกแกงส้มละลายกับน้ำเปล่า เทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่หัวไชเท้า กะหล่ำปลี ผักกวางตุ้ง และดอกแคลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้งจึงใส่ถั่วฝักยาว ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
3. ผักกาดขาว
ประโยชน์ของผักกาดขาว คือ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยให้เจริญอาหาร รับประทานอาหารได้มากขึ้น ลดความดันโลหิตสูง เสริมสร้างความแข็งแรงให้ผนังหลอดเลือด ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ
เมนูอาหารจากผักกาดขาว : ผัดโป๊ยเซียนเจ
ส่วนผสม ผัดโป๊ยเซียนเจ
• หมี่กึง 1/2 ถ้วย
• เต้าหู้ขาว 1/2 ถ้วย
• ผักกาดขาว 1/2 ถ้วย
• ผักบุ้ง 1/2 ถ้วย
• แครอทหั่นแว่นบาง 1/2 ถ้วย
• ข้าวโพดอ่อน 1/2 ถ้วย
• เห็ดฟาง 1/2 ถ้วย
• ถั่วงอก 1/2 ถ้วย
• วุ้นเส้น 1/2 ถ้วย
• ซอสเห็ดหอมเจ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำผัดโป๊ยเซียนเจ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช พอร้อน ใส่หมี่กึงและเต้าหู้ขาวลงไปผัด จากนั้นใส่ผักต่าง ๆ (ยกเว้นถั่วงอก) และเห็ดฟางที่เตรียมไว้ลงไปผัด พอสุก
2. ใส่วุ้นเส้นลงไปผัดให้นิ่ม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสเห็ดหอมเจ และน้ำตาลทราย จากนั้นนำถั่วงอกลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++++++
ประโยชน์ของคะน้า คือ ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกได้ถึง 29% ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังช่วยป้องกันการเสื่อมของศูนย์จอตา ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ชะลอปัญหาความจำเสื่อม ช่วยป้องกันยับยั้งการเจริญของเนื้องอก และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านมอีกด้วย
เมนูอาหารจากผักคะน้า : คะน้าผัดน้ำมันหอยเจ
ส่วนผสม คะน้าผัดน้ำมันหอยเจ
• คะน้า
• เห็ดหอมสด ตัดก้านกลางออก
• ซอสเห็ดหอมเจ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำคะน้าผัดน้ำมันหอยเจ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่เห็ดหอมสดลงผัดให้สุก จากนั้นใส่ผักคะน้าลงผัดให้สุกแล้วจัดใส่จาน เตรียมไว้
2. ใส่ซอสเห็ดหอมเจ ซอสปรุงรสสูตรเจ น้ำตาลทราย และน้ำสะอาดผสมให้เข้ากัน เทใส่กระทะนำขึ้นตั้งไฟให้เดือดแล้วปิดไฟ ตักน้ำซอสราดบนจานผักคะน้าที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++++++++
5. ถั่วงอก
ประโยชน์ของถั่วงอก คือ มีส่วนช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ผิวนุ่ม เปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล การรับประทานถั่วงอกเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้วิตามินซีจากถั่วงอกจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงประสาทและสมอง และช่วยในการทำงานของสมอง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย และหากรับประทานถั่วงอกเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้อีก ด้วย
เมนูอาหารจากผักกาดขาว : ถั่วงอกผัดเต้าหู้
ส่วนผสม ถั่วงอกผัดเต้าหู้
• ถั่วงอก 200 กรัม
• เต้าหู้เหลือง หั่นเต๋า 1 แผ่น
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม สำหรับปรุงรส
• น้ำตาลเล็กน้อย สำหรับปรุงรส
• ผงปรุงรสผักเจ
วิธีทำถั่วงอกผัดเต้าหู้
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่เต้าหู้ลงไปทอดจนเหลือง
2. ใส่ถั่วงอกลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเห็ดหอม น้ำตาลทราย ผงปรุงรสผักเจ ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++++++++
6. ผักบุ้ง
ประโยชน์ของผักบุ้ง คือ ช่วยบำรุงสายตา รักษาอาการตาต้อ ตาฝ้าฟาง ตาแดง สายตาสั้น ใช้เป็นยาดับร้อน แก้อาการร้อนใน บำรุงโลหิต ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในด้านความจำและการเรียนรู้ให้ดีขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้อาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และป้องกันการเกิดโรคเบาหวานอีกด้วย
เมนูอาหารจากผักบุ้ง : ผัดผักบุ้งเจ
ส่วนผสม ผัดผักบุ้ง
• ผักบุ้ง เด็ดเป็นท่อนสั้น
• เห็ดหอม
• ซอสปรุงรสเจ
• น้ำตาลทราย
• พริกขี้หนู หรือพริกชี้ฟ้าทุบ ตามชอบ
วิธีทำผัดผักบุ้ง
1. ใส่ผักบุ้งและเห็ดหอมลงในจาน ตามด้วยเครื่องปรุงรส และพริกขี้หนู เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย พอร้อนใส่ผักบุ้งลงไปผัดจนสุก ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
7. เห็ดหอม
ประโยชน์ของเห็ดหอม คือ ช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง โรคหวัด ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงปอดและหลอดลม ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว และลดไขมันในเส้นเลือด
เมนูอาหารจากเห็ดหอม : เห็ดหอมน้ำแดง
ส่วนผสม เห็ดหอมน้ำแดง
• เห็ดหอมสด ตัดก้านกลางออก
• งาขาวคั่วบดหยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำ 1 ถ้วย
• แป้งมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ (ละลายน้ำ)
• ผงพะโล้ 1/4 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• เกลือป่น1/2 ช้อนชา
• พริกไทย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำเห็ดหอมน้ำแดง
1. เตรียมเห็ดหอมโดยตัดก้านกลางเห็ดหอม ใช้มีดบาก 2-3 รอย จากนั้นทุบเห็ดหอมให้แบน เตรียมไว้
2. เจียวงาขาวกับน้ำมันพอหอม แล้วใส่เห็ดหอมลงไปผัด เติมน้ำลงไปเคี่ยวจนสุกแล้วใส่แป้งละลายน้ำลงไป เคี่ยวให้เดือด ปรุงรสตามชอบ
+++++++++++++++
8. ฟักเขียว
ประโยชน์ของฟักเขียว คือ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยสารสกัดจากเมล็ดฟักเขียวสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและมะเร็งได้ เนื่องจากสารสกัดจากเมล็ดมีสารต้านออกซิเดชั่นของกรดไลโนเลอิก ช่วยลดอัตราการออกซิเดชั่นของไขมันเลว และยังช่วยยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์สร้างแอนจิโอเทนซิน นอกจากนี้สารสกัดจากเมล็ดยังสามารถช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดลมอักเสบ แก้โลหิตเป็นพิษ ช่วยรักษาวัณโรค อีกทั้งยังช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ และแก้ไอได้อีกด้วย
เมนูอาหารจากฟักเขียว : แกงเผ็ดฟัก
ส่วนผสม แกงเผ็ดฝัก
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำพริกแกงเผ็ดเจ 1 ช้อนโต๊ะ
• โปรตีนเกษตรแช่น้ำจนนิ่ม 1/2 ถ้วย
• นมถั่วเหลืองเจ 1 ถ้วย
• ฟักเขียว ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น ต้มสุก 1/2 ลูก
• มะเขือเปราะผ่า 4 ส่วน 2 ถ้วย
• ซีอิ๊วขาว 1/3 ถ้วย
• น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงปรุงรสผักเจ 1 ช้อนโต๊ะ
• ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
• ใบโหระพาเด็ด 1 ถ้วย
วิธีทำแกงเผ็ดฝัก
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟจนร้อนจัด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดสูตรเจลงไปผัดจนหอม ใส่โปรตีนเกษตรลงผัด เติมนมถั่วเหลืองสูตรเจลงไป ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่ฟักที่ต้มสุกแล้วลงไป เติมน้ำเล็กน้อยต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซอสเห็ดหอม และผงปรุงรสผักเจ ตามด้วยมะเขือเปราะ ใบโหระพา และใบมะกรูด คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++
9. มะระ
ประโยชน์ของมะระ คือ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคและช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของสารก่อมะเร็ง ช่วยบำบัดและรักษาโรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยฟอกเลือด ช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับพิษเสมหะ ขับเสมหะ แก้อาการบิด มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยในการย่อยอาหาร รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และสามารถรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักได้
เมนูอาหารจากมะระ : มะระผัดผักกาดดองเจ
ส่วนผสม ต้มมะระผักกาดดอง
• มะระ 1 ลูก
• ผักกาดดอง หั่นชิ้นพอดีคำ 200 กรัม
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1-2 ถ้วย
วิธีทำต้มมะระผักกาดดอง
1. ล้างมะระให้สะอาด เอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นแล้วคลุกด้วยเกลือ นำไปลวกในน้ำร้อน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. นำผักกาดดองไปผัดกับน้ำมันจนหอม (ใช้เวลาพอสมควร) ตามด้วยมะระ และเครื่องปรุงต่าง ๆ จากนั้นเติมน้ำลงไป ต้มให้เดือด พอน้ำงวดให้เบาไฟลง ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไปจากนั้นก็คนให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++
ประโยชน์ของแครอท คือ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงกระดูก ฟัน เหงือก เล็บ ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น บำรุงสายตา บำรุงผิวหนัง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย และการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ยับยั้งต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือด ลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาตและยังช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลวอีกด้วย
เมนูอาหารจากแครอท : ซุปแครอทผักกาดเขียวเจ
ส่วนผสม ซุปแครอทผักกาดเขียว
• แครอท ปอกเปลือก หั่นเป็นแว่น 1 หัว
• ผักกาดเขียว 1 ต้น
• หน่อไม้หวาน
• เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนิ่ม ตัดก้านกลางออก ผ่าครึ่ง 4 ดอก
• น้ำแกงเจ 6 ถ้วย
• เกลือสำหรับปรุงรส
วิธีทำซุปแครอทผักกาดเขียว
1. ต้มหน่อไม้ให้สุก หั่นเป็นแผ่น ๆ เตรียมไว้
2. ลวกผักกาดเขียวไปพอสุก ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัด เตรียมไว้
3. ใส่น้ำแกงเจลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ผักกาดเขียวและหน่อไม้ลงต้มจนผักสุกและนิ่ม ปรุงรสด้วยเกลือ ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เห็นไหมคะว่า การกินเจนอกจากจะเป็นการสร้างกุศลทำบุญโดยการไม่รับประทานเนื้อสัตว์แล้ว เรายังได้ร่างกายที่แข็งแรงมาจากการรับประทานผักอีกต่างหาก สำหรับใครที่ยังไม่เคยกินเจ ลองหันมากินเจให้สุขภาพแข็งแรงและอิ่มบุญไปด้วยกันนะคะ