วิธีเลือกสับปะรดปัตตาเวีย เลือกยังไงให้สุกพร้อมกิน รวมทั้งวิธีปอกสับปะรดง่าย ๆ ถ้าปอกแล้วจะเก็บยังไงให้นาน ทำยังไงให้สับปะรดกรอบหรือหวานขึ้นกว่าเดิม และเมนูจากสับปะรด
สับปะรด ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยและขับถ่าย หลายคนเลือกซื้อกินแบบปอกเสร็จแต่สำหรับใครที่อยากซื้อมาปอกกินเอง วันนี้เราขอแนะนำวิธีปอกสับปะรดปัตตาเวีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ยอดนิยมมีขายตามท้องตลาด รวมทั้งวิธีเก็บสับปะรดที่ปอกแล้ว และเมนูอาหารง่าย ๆ จากสับปะรด
สับปะรดปัตตาเวีย ลักษณะ
สับปะรดปัตตาเวียเป็นสายพันธุ์หนึ่งของสับปะรด มีชื่อเรียกที่ต่างกันไป เช่น สับปะรดศรีราชา สับปะรดปราณบุรี สับปะรดห้วยมุ่น สับปะรดปัตตาเวียพันธุ์น้ำผึ้ง เป็นต้น ลักษณะผลมีขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัมขึ้นไป ก้านผลสั้น เปลือกหนา ผลดิบเปลือกสีเขียว ผลสุกเปลือกสีเขียวอมเหลืองหรืออมส้ม รูปทรงกระบอก เนื้อด้านในสีเหลือง รสหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม
วิธีเก็บสับปะรดปอกแล้ว
- แช่น้ำเกลือก่อนนำเข้าตู้เย็น ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ทาเกลือให้ทั่วชิ้นสับปะรด ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วล้างด้วยน้ำเปล่า ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เก็บใส่ภาชนะมีฝาปิดได้นานประมาณ 5-7 วัน
วิธีทำให้สับปะรดกรอบ
นำสับปะรดแช่น้ำปูนใส ประมาณ 2 นาที ซึ่งน้ำปูนใสทำมาจากปูนแดงผสมน้ำสะอาด แล้วปล่อยให้ปูนตกตะกอน เหลือแต่น้ำใส ๆ ด้านบนจึงเรียกว่าน้ำปูนใส
วิธีทำให้สับปะรดหวาน
โรยเกลือให้ทั่วสับปะรดและบีบมะนาวลงไป นำไปแช่เย็นหรือพักไว้ประมาณ 30 นาที เมื่อครบเวลาก็นำไปล้างด้วยน้ำเปล่า
วิธีเลือกสับปะรดปัตตาเวีย
- สีเปลือก
ถ้าต้องการสับปะรดสุกแบบปอกกินเลยให้เลือกเปลือกสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองปานกลางแซมสีเขียวเล็กน้อย แต่ถ้าเปลือกสีเหลืองเข้มหรือส้มแสดงว่าสุกมาก ต้องการเก็บไว้กินวันอื่นให้เลือกเปลือกสีเขียวเข้มทั้งหมด
- นิ้วดีด
ถ้าต้องการสับปะรดฉ่ำให้เอานิ้วดีด ถ้าเสียงนุ่มเนื้อจะฉ่ำหวาน จะเรียกว่า เนื้อหนึ่ง แต่ถ้าดีดแล้วเสียงออกแน่น ๆ จะไม่ฉ่ำมาก แต่อาจจะหวานหรือเปรี้ยว เรียกว่า เนื้อสอง
- ดมกลิ่น
ถ้าดมแล้วมีกลิ่นหอมออกมา แสดงว่าสุกแล้ว ยิ่งหอมมากคือยิ่งสุกมาก ถ้าต้องการเก็บไว้กินวันอื่นควรเลือกกลิ่นอ่อนหรือไม่มีกลิ่นเลย
- บีบเปลือก
สับปะรดที่สุกกำลังดีบีบแวจะมีความนิ่มเล็กน้อย หากบีบแล้วรู้สึกแข็งมากแสดงว่ายังไม่สุก แต่ถ้าบีบแล้วยุบตัวลงมากเกินไปหรือบุ๋ม แสดงว่าอาจสุกเกินไป
- น้ำหนัก
เมื่อยกขึ้นแล้วมีน้ำหนัก แสดงว่าสับปะรดมีน้ำเยอะฉ่ำ มีความหวาน ไม่จำเป็นต้องลูกใหญ่ ขอให้มีน้ำหนักก็ถือว่าเป็นสับปะรดที่มีคุณภาพแล้ว
วิธีปอกสับปะรด
วิธีปอกสับปะรดแบบเป็นชิ้น
- ตัดหัวออกเพื่อใช้เป็นฐานแล้ววางบนเขียง เหลือด้านก้านไว้สำหรับจับเวลาปอก ใช้มีดปอกเปลือกเป็นแนวตั้งให้ทั่วทั้งลูก ปาดเปลือกสีเขียวตรงหัวกับก้านออกให้หมด
- ใช้มีดเฉือนตาสับปะรดออก โดยทำมุมประมาณ 45 องศา ค่อย ๆ ไล่ปาดจนหมด
- ตัดก้านออก ผ่าครึ่ง หั่นแกนกลางออก ผ่าครึ่ง จากนั้นผ่าอีกครั้ง จะได้ข้างละ 4 ชิ้นใหญ่ จากนั้นหั่นชิ้นเล็กขนาดตามชอบ
วิธีปอกสับปะรดแบบไม่ต้องปอกเปลือก คว้านตา
- ล้างสับปะรดให้สะอาด
- ตัดส่วนหัวและส่วนท้ายออก ผ่าครึ่ง นำมีดตัดตามร่องตาสับปะรด จากนั้นหยิบสับปะรดออกมากินได้เลย
วิธีปอกสับปะรดแบบเรือ ไม่ต้องปอกเปลือก คว้านตา
- ล้างสับปะรดให้สะอาด
- ตัดส่วนหัวและส่วนท้ายออก ผ่าครึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน จากนั้นนำส่วนที่ผ่าครึ่งมาแบ่งเป็น 2 ส่วนอีกครั้ง
- ตัดแกนสับปะรดออก นำมีดปาดเปลือกออกเป็นทรงเรือ จากนั้นหั่นชิ้นขนาดตามชอบ หรือถ้าไม่หั่นชิ้นก็จับเสียบไม้ได้เช่นกัน
วิธีปอกสับปะรดแบบโรงแรม
- ล้างสับปะรดให้สะอาด
- ตัดส่วนหัวและส่วนท้ายออก แล้วใช้มีดปอกเปลือกเป็นแนวตั้งให้ทั่วทั้งลูก โดยปอกให้ลึกถึงตาสับปะรด
- ผ่าครึ่งแยกเป็น 2 ส่วน แล้วกรีดร่องแกนกลางออกให้ลึกและชัดเป็นริ้วสวยงาม จากนั้นกรีดร่องด้านข้างแกนกลางทั้ง 2 ฝั่งให้ลึกเป็นริ้วสวยงามเช่นกัน
- จากนั้นพลิกอีกด้านขึ้นมา กรีดร่องให้เป็นริ้วและชัดสวยงาม เริ่มจากตรงกลางก่อน แล้วค่อยกรีดด้านข้าง กะระยะห่างให้สวยงาม จะได้ประมาณ 5 ริ้ว
- ตัดตามขวางกะขนาดชิ้นให้สวยงาม จะออกมาเป็นรูปทรงผีเสื้อ จัดเสิร์ฟในแนวเดียวกัน
เมนูสับปะรด
1. ผัดเปรี้ยวหวาน
ผัดเปรี้ยวหวาน ใส่ปลาหมึกและผักผลไม้ต่าง ๆ ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย และเกลือ ผัดจนผักนิ่มตามชอบ
ส่วนผสม ผัดเปรี้ยวหวาน
- กระเทียมไทยสับ 10 กลีบ
- ปลาหมึก (หั่นแว่น) 200 กรัม
- สับปะรด (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย
- แตงกวา (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย
- หอมใหญ่ (หั่นเสี้ยว) 1 หัว
- ต้นหอม (หั่นท่อน) 1 ต้น
- มะเขือเทศ 2 ลูกใหญ่ (หั่น 4 ส่วน)
- ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่นเล็กน้อย (ปรุงรส) **ถ้าต้องการความหอมให้ใส่น้ำปลาแทนได้
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำผัดเปรี้ยวหวาน
- เจียวกระเทียมสับในน้ำมันพืชจนหอม ใส่เนื้อปลาหมึกลงไปผัดจนเกือบสุก
- ใส่สับปะรด แตงกวา หอมใหญ่ ต้นหอม และมะเขือเทศลงไปผัดจนสุกนิ่ม
- ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย และเกลือป่น ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
2. ข้าวผัดสับปะรด
ข้าวผัดสับปะรด จับข้าวผัดกับสับปะรด ใส่กุ้งและเครื่องเคราต่าง ๆ ปรุงรสเค็มตามชอบ เพิ่มสีสันและความหอมจากผงกะหรี่
ส่วนผสม ข้าวผัดสับปะรด
- ไข่ไก่ 1-2 ฟอง
- น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
- กระเทียมสับ
- กุ้งสด
- ข้าวสวย
- หอมใหญ่
- ถั่วลันเตา
- แครอต
- เนื้อสับปะรดหั่นเป็นชิ้น
- ซอสปรุงรส
- ผงกะหรี่
- ลูกเกด
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก
- ต้นหอมและผักชีซอย
- แตงกวา
วิธีทำข้าวผัดสับปะรด
- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตามด้วยกระเทียม เจียวพอหอมใส่ไข่ลงไปตีพอแตก ตามด้วยกุ้ง ผัดจนกุ้งเริ่มสุกและเปลี่ยนสี
- ใส่ข้าว หอมใหญ่ ผงกระหรี่ ถั่ว แครอต และสับปะรด ใช้ไฟแรงผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- ปรุงรสตามชอบ ใส่ลูกเกดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ ตักใส่ภาชนะ โรยด้วยต้นหอมซอย ผักชีซอย และแตงกวา
3. แยมสับปะรด
แยมสับปะรด จับเนื้อสับปะรดเคี่ยวกับน้ำตาลทรายจนข้นเหนียว เสร็จแล้วพักไว้จนเย็นเก็บใส่ภาชนะ
ส่วนผสม แยมสับปะรด
- สับปะรดกระป๋องสับ 250 กรัม (หรือสับปะรดสดสับ)
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
วิธีทำแยมสับปะรด
- ตั้งกระทะใส่เนื้อสับปะรดสับกับน้ำสับปะรดลงไป เติมน้ำตาลทราย รอจนเดือดแล้วเคี่ยวต่ออีกประมาณ 20 นาที หรือจนส่วนผสมเหนียวข้น
- รอจนเย็นแล้วตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิด
หลังจากรู้วิธีเลือกสับปะรดปัตตาเวียแล้ว เพื่อน ๆ จะได้เลือกซื้อแบบสุกหรือไม่สุกตามต้องการ อีกทั้งยังมีเมนูสับปะรดเผื่อเบื่อ ๆ กินสับปะรดสดด้วย