หากพูดถึง "นมถั่วเหลือง" คงไม่มีใครไม่นึกถึง "น้ำเต้าหู้" แต่ถ้าหากพูดถึง "น้ำเต้าหู้" หลายคนก็คงจะคิดถึง "นมถั่วเหลือง" ขึ้นมาใช่ม้า... (อิอิ) เอาล่ะ!! ว่าแล้วก็เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เรื่อง "น้ำเต้าหู้" มาฝากเพื่อนๆ กันด้วย สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ พลาดไม่ได้เด็ดขาด...
"น้ำเต้าหู้" หรือ "นมถั่วเหลือง" แหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ หรือสำหรับคนที่บริโภคเนื้อสัตว์ ก็สามารถดื่มน้ำเต้าหู้เป็นอาหารเสริมได้ เพราะถั่วเหลืองที่นำมาทำน้ำเต้าหู้นั้นมีโปรตีนสูง และมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายของเราก็จะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้ (ว้าว... วิเศษสุดๆ)
นอกจากนี้ ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B, B1, B2, B6, B12 ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E และในเมล็ดถั่วเหลืองยังมี "เลซิทิน" อันเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมัน และลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การดื่มน้ำเต้าหู้จะได้รับประโยชน์กว่าเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าเทียบกับนมธรรมดาแล้ว น้ำเต้าหู้จะมีข้อดีกว่า แต่บางอย่างก็จะสู้นมธรรมดาไม่ได้ โดยน้ำเต้าหู้ให้โปรตีนเกือบเท่านมธรรมดาทั่วไป มีไขมันที่ดีกว่าคือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่า และช่วยลดคอเลสเตอรอล สำหรับข้อเสีย คือ น้ำเต้าหู้จะให้แคลเซียมได้น้อยมาก ดังนั้น จึงควรรับประทานอาหารอื่นที่มีแคลเซียมควบคู่กันไปด้วย เช่น ปลาทอดกรอบ ผักคะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีวิธีการทำน้ำเต้าหู้มาแนะนำ เผื่อว่าเพื่อนๆ คนไหนอยากลองทำดื่มเองกันบ้าง...
ส่วนผสม
ถั่วเหลืองเลาะเปลือกแยกกากและเศษผงออก 1 ถ้วย
น้ำสะอาด 7 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ล้างทำความสะอาดถั่วให้สะอาดแล้วแช่น้ำไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
2. โม่หรือบดถั่วให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบางแยกน้ำออก หากมีเครื่องแยกกากก็ใช้เครื่องแยกกากก็ได้ค่ะ
3. นำขึ้นตั้งไฟ ตอนใกล้ๆ เดือดต้องคอยคนอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ไหม้
4. ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายแล้วปิดไฟ อาจแยกบางส่วนไม่ใส่น้ำตาลทรายเลยก็ได้ แล้วแต่ชอบ
ทั้งนี้ จุดสำคัญของการทำน้ำเต้าหู้อยู่ที่ขั้นตอนการทำ ต้องหมั่นคน มิฉะนั้นจะมีกลิ่นไหม้ค่ะ
วิธีทำเครี่องน้ำเต้าหู้
"ลูกเดือย" นำลูกเดือยมาแช่น้ำประมาณ 1 ชั่วโมง นำลงต้มในน้ำจนเดือด จากนั้นลดไฟลงและเคี่ยวต่อจนเปื่อย ใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อลูกเดือย ส่วนที่เป็นน้ำเททิ้งไป
"วุ้น" นำน้ำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ระหว่างนั้นนำผงวุ้นละลายในน้ำธรรมดา พักไว้ เทน้ำที่ต้มไว้แล้วลงในถาดโลหะอาจเป็นถาดอลูมิเนียมหรือถาดสแตนเลสก็ได้ นำผงวุ้นที่ละลายน้ำไว้แล้วเทลงในถาดใช้ช้อนคนให้ทั่วทั้งถาด... รอให้เย็นวุ้นก็จะแข็งเป็นก้อน เมื่อแข็งเป็นก้อนแล้วจึงใช้มีดตัดออกเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 3 คูณ 3 เซนติเมตร และซอยออกเป็นเส้นเล็กๆ อีกครั้งหนึ่ง
"สาคู" นำน้ำขึ้นตั้งไฟให้เดือด เทสาคูลงไป ต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟปล่อยไว้ให้เย็นแล้วเทน้ำทิ้งไป ทำเช่นนี้สองครั้งก็จะได้สาคูที่นุ่มลิ้นและอร่อยแล้วค่ะ
เอาล่ะ ได้เวลาที่คนรักสุขภาพอย่างพวกเราไปทำ "น้ำเต้าหู้" ดื่มกันแล้ว... เย้ ๆๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thairunning.com
"น้ำเต้าหู้" หรือ "นมถั่วเหลือง" แหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ หรือสำหรับคนที่บริโภคเนื้อสัตว์ ก็สามารถดื่มน้ำเต้าหู้เป็นอาหารเสริมได้ เพราะถั่วเหลืองที่นำมาทำน้ำเต้าหู้นั้นมีโปรตีนสูง และมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายของเราก็จะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้ (ว้าว... วิเศษสุดๆ)
นอกจากนี้ ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B, B1, B2, B6, B12 ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E และในเมล็ดถั่วเหลืองยังมี "เลซิทิน" อันเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมัน และลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การดื่มน้ำเต้าหู้จะได้รับประโยชน์กว่าเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าเทียบกับนมธรรมดาแล้ว น้ำเต้าหู้จะมีข้อดีกว่า แต่บางอย่างก็จะสู้นมธรรมดาไม่ได้ โดยน้ำเต้าหู้ให้โปรตีนเกือบเท่านมธรรมดาทั่วไป มีไขมันที่ดีกว่าคือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่า และช่วยลดคอเลสเตอรอล สำหรับข้อเสีย คือ น้ำเต้าหู้จะให้แคลเซียมได้น้อยมาก ดังนั้น จึงควรรับประทานอาหารอื่นที่มีแคลเซียมควบคู่กันไปด้วย เช่น ปลาทอดกรอบ ผักคะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีวิธีการทำน้ำเต้าหู้มาแนะนำ เผื่อว่าเพื่อนๆ คนไหนอยากลองทำดื่มเองกันบ้าง...
ส่วนผสม
ถั่วเหลืองเลาะเปลือกแยกกากและเศษผงออก 1 ถ้วย
น้ำสะอาด 7 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ล้างทำความสะอาดถั่วให้สะอาดแล้วแช่น้ำไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
2. โม่หรือบดถั่วให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบางแยกน้ำออก หากมีเครื่องแยกกากก็ใช้เครื่องแยกกากก็ได้ค่ะ
3. นำขึ้นตั้งไฟ ตอนใกล้ๆ เดือดต้องคอยคนอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ไหม้
4. ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายแล้วปิดไฟ อาจแยกบางส่วนไม่ใส่น้ำตาลทรายเลยก็ได้ แล้วแต่ชอบ
ทั้งนี้ จุดสำคัญของการทำน้ำเต้าหู้อยู่ที่ขั้นตอนการทำ ต้องหมั่นคน มิฉะนั้นจะมีกลิ่นไหม้ค่ะ
วิธีทำเครี่องน้ำเต้าหู้
"ลูกเดือย" นำลูกเดือยมาแช่น้ำประมาณ 1 ชั่วโมง นำลงต้มในน้ำจนเดือด จากนั้นลดไฟลงและเคี่ยวต่อจนเปื่อย ใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อลูกเดือย ส่วนที่เป็นน้ำเททิ้งไป
"วุ้น" นำน้ำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ระหว่างนั้นนำผงวุ้นละลายในน้ำธรรมดา พักไว้ เทน้ำที่ต้มไว้แล้วลงในถาดโลหะอาจเป็นถาดอลูมิเนียมหรือถาดสแตนเลสก็ได้ นำผงวุ้นที่ละลายน้ำไว้แล้วเทลงในถาดใช้ช้อนคนให้ทั่วทั้งถาด... รอให้เย็นวุ้นก็จะแข็งเป็นก้อน เมื่อแข็งเป็นก้อนแล้วจึงใช้มีดตัดออกเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 3 คูณ 3 เซนติเมตร และซอยออกเป็นเส้นเล็กๆ อีกครั้งหนึ่ง
"สาคู" นำน้ำขึ้นตั้งไฟให้เดือด เทสาคูลงไป ต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟปล่อยไว้ให้เย็นแล้วเทน้ำทิ้งไป ทำเช่นนี้สองครั้งก็จะได้สาคูที่นุ่มลิ้นและอร่อยแล้วค่ะ
เอาล่ะ ได้เวลาที่คนรักสุขภาพอย่างพวกเราไปทำ "น้ำเต้าหู้" ดื่มกันแล้ว... เย้ ๆๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thairunning.com