แกงคั่วกะทิเห็ดตับเต่า ใส่ปลาสลิดย่าง
ซุปเห็ดตับเต่า
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อของ “เห็ดตับเต่า” จากเนื้อหาในบทเพลงมนต์รักลูกทุ่งท่อนหนึ่งที่ร้องว่า “เห็ดตับเต่า ขึ้นอยู่ริมเถาย่านาง” กันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่เคยเห็นว่าลักษณะของเจ้าเห็ดที่ว่านั้นเป็นอย่างไร รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง (ออกอากาศวันที่ 17 มิถุนายน ทางช่อง Thai PBS) จึงจะมาคลายสงสัยพาไปรู้จักกับเห็ดตับเต่ากันจ้า ..
คุณป้าจันทร์เพ็ญ สังหล่อ และ คุณป้าสำเภา สังหล่อ สองพี่น้องผู้มีอาชีพเก็บเห็ดตับเต่าใน ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา คือผู้ที่จะมาให้ความรู้เรื่องเห็ดตับเต่ากัน โดยป้าจันทร์เพ็ญและป้าสำเภา ยืนยันให้ฟังว่า เจ้าเห็ดตับเต่านั้นมักขึ้นอยู่ตามโคนต้นย่านางจริงดั่งที่เพลงเขาว่าไว้ แต่ต้นย่านางของคุณป้าทั้งสองได้ตายไปเสียแล้ว ทุกวันนี้คุณป้าทั้งสองจึงต้องเก็บเห็ดตับเต่าที่ขึ้นอยู่บริเวณโคนต้นโสนแทน ซึ่งก็ได้ราคาดีถึงกิโลกรัมละ 80 บาท
สำหรับรสชาติของเห็ดตับเต่า จะออกกรุบ ๆ หอมอร่อย และที่ได้ชื่อว่าเห็ดตับเต่านั้นนักวิชาการได้ให้คำอธิบายไว้ว่า เป็นเพราะสีของเจ้าเห็ดชนิดนี้เหมือนกับสีของตับเต่าจริง ๆ ทำให้เรียกขานกันว่าเห็ดตับเต่านั่นเอง โดยสายพันธุ์เห็ดนั้นจัดเป็นประเภทเชื้อราที่ออกดอกได้ บางชนิดมีพิษ บางชนิดไม่มีพิษ แตกต่างกันออกไป เห็ดตับเต่าเป็นเห็ดชนิดไม่มีพิษที่นอกจากจะรับประทานให้อร่อยได้แล้ว ยังมีคุณประโยชน์ในการบำรุงร่างกาย กระจายโลหิตให้เลือดลมดี และช่วยดับพิษร้อนภายในร่างกายอีกด้วย จึงถูกยกย่องให้เป็น เชื้อราชั้นสูง นั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่เห็ดมักจะขึ้นอยู่ตามโคนต้นไม้ ก็เนื่องมาจากว่าเห็ดจะพึ่งพาซึมซับอาหารจากของเหลวที่ออกมาจากต้นไม้ เพราะเห็ดไม่สามารถสังเคราะห์แสงด้วยตัวเองได้ แต่ก็แลกเปลี่ยนกันด้วยการย่อยสารอินทรีย์ให้กลายเป็นแร่ธาตุไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ รวมทั้งทำให้ต้นไม้ทนต่อความแห้งแล้งได้มากขึ้นด้วย
เมื่อรู้จักเห็ดตับเต่ากันไปแล้ว คงต้องไปดูของจริงกันสักหน่อย ซึ่งคุณป้าทั้งสองก็ยินดีพาเข้าไปชมให้เห็นดงเห็ดตับเต่ากันกับตา แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเดินลงรอยเท้าตามคุณป้าเท่านั้น ห้ามออกนอกรอยเท้าของคุณป้าเด็ดขาด เนื่องจากเจ้าเห็ดตับเต่าที่ยังไม่โตดีนั้นจะขึ้นอยู่ตามรายทางมีขนาดประมาณเม็ดถั่วเขียว ทำให้อาจมองไม่เห็นและเดินเหยียบได้ คุณป้าทั้งสองยอมไม่ได้จริง ๆ เพราะรักเจ้าเห็ดตับเต่ามาก เนื่องจากให้แต่คุณประโยชน์กับชีวิต ที่สำคัญห้ามคนที่ฉีดน้ำหอมเข้าไปใกล้เห็ดตับเต่าเด็ดขาด เพราะหากเห็ดได้กลิ่นน้ำหอมแล้วจะหยุดการเจริญเติบโตและเหี่ยวลงทันที
หากอยากลองปลูกเห็ดตับเต่าให้ลองปลูกที่อุณหภูมิประมาณ 26-33 องศาเซลเซียส มีความชื้นสัมพัทธ์ในดิน 65-70% จะเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนการให้น้ำก็ต้องใช้น้ำคลองหรือน้ำจากธรรมชาติแทนน้ำประปา เพราะน้ำประปามีคลอรีนซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เห็ดจึงไม่สามารถเจริญเติบโตได้
นอกจากนี้ คุณป้าจันทร์เพ็ญและคุณป้าสำเภา ก็แอบบอกเคล็ดลับการเก็บเห็ดให้อยู่ทนอยู่นาน ว่าต้องนำกระดาษมาปูรองในถุงพลาสติกเสียก่อน เพื่อให้กระดาษได้ดูดซับน้ำที่คายออกมาจากเห็ดเอาไว้ จากนั้นจึงใส่เห็ดตับเต่าลงไป แล้วค่อยนำไปแช่ในน้ำแข็ง จะทำให้เก็บไว้ได้นานหลายอาทิตย์เลยล่ะ
แน่นอนว่าแวะไปเยี่ยมชมดงเห็ดตับเต่าทั้งที คงพลาดไม่ได้ที่จะมีเมนูเด็ด ๆ ที่ทำจากเห็ดตับเต่ามาฝากกัน ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้างต้องไปดูกันเลย..
แกงคั่วกะทิเห็ดตับเต่า ใส่ปลาสลิดย่าง
ส่วนประกอบ
เห็ดตับเต่า
ปลาสลิด
กะทิ
พริกหนุ่ม
ใบโหระพา
ใบมะกรูด
มะขามเปียก
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา
ปูนแดง
พริกแห้งเม็ดใหญ่
กระเทียม
หอมแดง
ผิวมะกรูด
ตะไคร้
ข่า
กระชาย
เกลือป่น
กะปิ
ปลาสลิด
กะทิ
พริกหนุ่ม
ใบโหระพา
ใบมะกรูด
มะขามเปียก
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา
ปูนแดง
พริกแห้งเม็ดใหญ่
กระเทียม
หอมแดง
ผิวมะกรูด
ตะไคร้
ข่า
กระชาย
เกลือป่น
กะปิ
วิธีทำ
1. ปอกหัวหอม กระเทียม ย่างปลาสลิด และผสมปูนแดงกับน้ำเปล่า
2. หั่นเห็ดตับเต่าลงไปแช่ในน้ำปูนแดง จากนั้นนำขึ้นแช่ในน้ำเปล่าอีกครั้ง
3. ตักเห็ดตับเต่าที่แช่แล้วลงใส่หม้อต้ม
4. นำ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และกระชาย ลงตำเข้าด้วยกัน ตามด้วยหัวหอมซอย กระเทียม และพริกแห้งที่แช่น้ำไว้แล้ว
5. นำน้ำเย็นใส่ลงไปในหม้อต้มเห็ดตับเต่าที่เดือดแล้ว เพื่อให้คงความกรอบ
6. จากนั้นตั้งหม้อใส่น้ำกะทิและพริกแกงที่ตำไว้ลงไป คนให้เข้ากันจากนั้นเติมน้ำกะทิและรอให้เดือด
7. ใส่ปลาสลิดลงไปในหม้อแกงที่เดือดแล้ว เติมน้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา ตามด้วยเห็ดตับเต่า ทิ้งไว้ให้เดือด จากนั้นใส่พริกกับใบมะกรูดตามลงไปในหม้อเป็นอันเสร็จสิ้น
ซุปเห็ดตับเต่า
ส่วนประกอบ
เห็ดตับเต่า
แมงดา
ปลาร้า
หอมแดง
กระเทียม
พริกหนุ่ม
พริกขี้หนู
ต้นหอม
ผักชีฝรั่ง
น้ำปลา
เกลือป่น
ปูนแดง
แมงดา
ปลาร้า
หอมแดง
กระเทียม
พริกหนุ่ม
พริกขี้หนู
ต้นหอม
ผักชีฝรั่ง
น้ำปลา
เกลือป่น
ปูนแดง
วิธีทำ
1. หั่นเห็ดตับเต่า และเสียบหอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู และแมงดานา ใส่ไม้ เตรียมย่าง
2. ผสมน้ำปูนแดงนำเห็ดตับเต่าที่หั่นแล้วลงจุ่มบาง ๆ ให้ทั่ว แล้วนำไปย่างบนเตา
3. ย่างหอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู และแมงดานา ให้สุกเกรียม จากนั้นนำมาปอกเปลือก
4. ต้มปลาร้าให้เดือด
5. นำแมงดา พริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู ลงตำให้เข้ากัน จากนั้นใส่เห็ดตับเต่าตามลงไปตำ จากนั้นใส่ปลาร้าตามด้วยผักชีฝรั่งลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสิ้น
ครบถ้วนเรื่องราวของเห็ดตับเต่าที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย คงพลาดไม่ได้ที่ต้องลองลิ้มชิมรสดูสักครั้งว่าจะอร่อยเด็ดและสรรพคุณดีสมคำร่ำลือขนาดไหน ใครเคยรับประทานแล้วถูกใจหรือเปล่าอย่าลืมบอกกล่าวกันบ้างนะจ๊ะ