เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อนที่จะทำอาหารชนิดใดก็ตามเป็นสิ่งที่จะช่วยให้การทำอาหารของคุณราบรื่นขึ้น ลดอุปสรรคในการทำ ทั้งยังช่วยย่นระยะเวลาการทำให้สั้นขึ้นอีกด้วย วันนี้กระปุกคุกกิ้งมีเทคนิคในการเตรียมผัก และผลไม้ก่อนปรุงอาหารมาฝากกัน
ปอกเปลือกมะเขือเทศง๊ายง่าย
เมนูอาหารหลายอย่างโดยเฉพาะอาหารตะวันตกมักมีมะเขือเทศปอกเปลือกเป็นส่วนผสม อย่างในซอสสปาเก็ตตี้ เป็นต้น แต่ครั้นจะให้ใช้มีดปอกเปลือกมะเขือเทศก็คงจะเสียเวลาแถมยังกินเข้าไปในเนื้ออีกด้วย วิธีปอกเปลือกมะเขือเทศให้หลุดร่อนออกมาได้ง่าย ๆ ก็แค่ใช้มีดเจาะแกนมะเขือเทศออก แล้วบั้งที่ก้นมะเขือเทศเป็นเครื่องหมายกากบาท จากนั้นใส่มะเขือเทศลงไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 20 วินาที ตักขึ้นใส่ในน้ำเย็นจัดเพื่อหยุดความร้อน จากนั้นรอสักครู่เปลือกมะเขือเทศจะค่อย ๆ หลุดออกมาแล้วก็ใช้มีดค่อย ๆ ดึงลอกเปลือกออก เพียงเท่านี้ก็จะได้เนื้อมะเขือเทศไร้เปลือก ผิวสวย ไว้ประกอบอาหารต่อไปแล้วค่ะ
ถนอมอะโวคาโดไว้ใช้คราวต่อไป
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาประกอบอาหารจำพวกสลัดต่าง ๆ โดยมีเม็ดขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางลูก ซึ่งวิธีการเตรียมอะโวคาโดมาใช้ประกอบอาหารก็คือ ให้ใช้มีดผ่าลงไปตรงกลางลูกจนถึงเม็ด ค่อย ๆ กลิ้งผลอะโวคาโดเบา ๆ จนหลุดออกจากกัน จากนั้นนำเม็ดออกด้วยการสับมีดลงไปที่เม็ดแล้วบิดออกเบา ๆ ถ้าต้องการใช้เพียงครึ่งเดียวให้เลือกใช้ด้านที่ไม่มีเม็ดก่อนแล้วนำอะโวคาโดที่เหลือใส่ไว้ในกล่องสุญญากาศ จากนั้นให้ใส่หอมแดงผ่าครึ่งเข้าไปแล้วก็ปิดฝาให้มิดชิด ก๊าซจากหอมแดงจะช่วยทำให้อะโวคาโดมีสีที่ไม่คล้ำนั่นเอง
จบปัญหาผิวหมองคล้ำให้แอปเปิล
ผลไม้แสนอร่อยอย่างแอปเปิล สาลี่ ฝรั่ง หรือชมพู่ เมื่อปอกทิ้งไว้นาน ๆ ผิวก็จะหมองคล้ำดำลงอย่างรวดเร็ว เทคนิคการคืนสีผิวกระจ่างใสให้กับแอปเปิลง่าย ๆ แค่นำแอปเปิลที่ปอกไว้แล้วแช่ลงในน้ำเปล่าที่ผสมเกลือ และน้ำมะนาวอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อนำผลไม้ขึ้นมาจัดใส่จานก็จะหมดปัญหาผิวแอปเปิ้ลหมองคล้ำแล้ว
ต้มฟักทองอย่างไรให้นุ่มกำลังดี
ฟักทองสีเหลืองนวลที่นิยมนำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน แต่หลายคนอาจจะประสบปัญหาการต้มฟักทองออกมาแข็งไปบ้างไม่ก็ออกมาเละบ้างหาจุดพอดีไม่เจอเสียที เทคนิคง่าย ๆ ในการต้มฟักทองให้ออกมาพอดี และมีสารอาหารที่ครบถ้วนคือ หั่นฟักทองเป็นชิ้นขนาดปานกลาง นำไปต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ในขณะที่น้ำกำลังเดือด ไม่ควรใส่น้ำมากเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อฟักทองแข็ง และที่สำคัญให้ใส่ใบชาลงไปต้มด้วยเล็กน้อยจะช่วยให้ฟักทองหอม และนุ่มขึ้นนั่นเอง
เลือกสับปะรดอย่างไรให้หวานฉ่ำ
หากต้องการซื้อสับปะรดทั้งลูกให้หวานฉ่ำ ง่าย ๆ เพียงขอแม่ค้าดีดนิ้วลงไปที่ลูกสับปะรดแล้วฟังเสียงดู หากดัง "แปะ" และมีกลิ่นหอมก็ถือว่าใช้ได้ แต่หากเสียงฟังดูแน่น ๆ และไม่มีกลิ่นหอมแสดงว่าไม่ควรซื้อเพราะอาจจะได้สับปะรดที่เปรี้ยวจี๊ดมาแทน
มะม่วงสุกทันใจทำอย่างไรดี
หากคุณเกิดอยากจะรับประทานมะม่วงสุก แต่ที่บ้านดันมีแต่มะม่วงดิบลูกเขียว ๆ เคล็ดลับที่ทำให้ได้มะม่วงสุกมารับประทานคือ นำมะม่วงไปล้างยางที่ผิวออกให้หมดแล้วเช็ดให้แห้ง จากนั้นนำมะม่วงไปวางเรียงในตะกร้าที่รองด้วยผ้า อย่าวางซ้อนทับกัน แล้วนำไปไว้ในที่มืดประมาณ 2 คืน เพราะความมืดจะทำให้มะม่วงสุกเร็วขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะได้มะม่วงสุกไว้รับประทานแล้ว
ต้มข้าวโพดให้หวานอร่อย
หลายคนคิดจะซื้อข้าวโพดมาต้มรับประทานเองที่บ้านแต่พอลองต้มแล้วดันมีรสชาติที่จืดไม่เหมือนซื้อมา และเนื้อแข็งอีกต่างหาก เทคนิคดี ๆ อยู่ที่เวลาต้มให้เติมนมสดลงไปในน้ำที่ต้มข้าวโพดที่กำลังเดือด เพราะนมสดจะทำให้เนื้อข้าวโพดนุ่ม จากนั้นให้เติมน้ำตาลลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวโพดต้มแสนหวานไว้รับประทานแล้ว
เติมความนุ่มนวลให้มะระแสนขม
บางคนชอบรับประทานมะระแต่ก็ไม่ปลื้มนักหากมะระมีรสที่ขมเกินไป ถึงจะคิดเข้าข้างมะระว่าหวานเป็นลมขมเป็นยาก็ตามที วิธีการเตรียมมะระไม่ให้ขมก่อนนำมาทำอาหารคือ เลือกมะระที่มีสีเขียวอ่อน ไม่มีสีเหลือง หรือสีขาว ผิวตึงใส จากนั้นนำไส้ออก นำไปแช่น้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที นำขึ้นมาแช่น้ำเปล่าอีก 10 นาที แล้วนำมาประกอบอาหาร ส่วนเวลาต้มให้ปิดฝาให้สนิท ห้ามเปิดฝาหม้อเวลาต้ม ตุ๋นจนมะระเปื่อย เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มจืดมะระสุดปลื้มแล้วค่ะ
หลากหลายเทคนิคที่กระปุกคุกกิ้งนำมาฝากคงจะช่วยตัดปัญหาการเตรียมวัตถุดิบอันแสนยุ่งยาก และช่วยย่นระยะเวลาในขั้นตอนการทำอาหารไปได้มากเลยทีเดียวใช่ไหมคะ แถมยังทำให้อาหารของคุณออกมาอร่อย และชวนรับประทานอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 37 ฉบับที่ 527 เมษายน 2556