เที่ยงแล้วรับอะไรดี ชวนทำเมนูแกงใต้ สูตรอาหารรสเผ็ดโดนใจ ทำกินเองอร่อยแรงแน่นอน จะพกไปกินที่ทำงานก็ได้เช่นกัน ใครชอบกินอาหารไทยรสเผ็ดคงไม่เหมาะกับแกงไทยสไตล์ภาคกลาง ถ้างั้นลองมาทำแกงใต้กันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำแกงใต้ เช่น แกงปูใบชะพลู แกงเหลืองหน่อไม้ดอง แกงเหลืองมะละกอ แกงไตปลา เป็นต้น เลือกจิ้มสูตรตามชอบได้เลยจ้า ตบท้ายด้วยขนมไทยตัดรสเผ็ดยิ่งเยี่ยม แกงปูใบชะพลู เมนูแกงใต้สุดโปรด แต่เพราะซื้อกินไม่จุใจและรสชาติไม่ถูกปาก ขอลองทำกินเองเลยแล้วกันเนอะ สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงใต้ ใส่ทั้งปูนิ่มกับเนื้อปู กินกับเส้นหมี่ ขนมจีน หรือข้าวสวยก็ตามสะดวกเลยค่ะ ปูนิ่ม 1 ตัว แป้งสาลี (สำหรับทอดกรอบ) 1/4 ถ้วย เส้นหมี่ (แช่น้ำพอนุ่ม) 50 กรัม กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ หัวกะทิ 4 ถ้วย หางกะทิ 1+1/2 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อปู 120 กรัม ใบชะพลู (หั่นหยาบ) 1/2 ถ้วย ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ พริกขี้หนูสด 25-30 เม็ด พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด ผิวมะกรูด 2 ช้อนชา ตะไคร้ (หั่นฝอย) 2 ช้อนโต๊ะ กระชาย (หั่นฝอย) 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงไทย 1/4 ถ้วย ข่าหั่นฝอย 2 ช้อนชา กระเทียมไทย 1/4 ถ้วย ขมิ้นสด (ขูดผิวแล้วหั่น) 1 ช้อนชา กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา เกลือไทย 1/2 ช้อนชา โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกต่อจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ล้างปูนิ่มให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำมาคลุกกับแป้งสาลีให้ทั่ว จากนั้นนำไปทอดให้กรอบ พักไว้ ลวกเส้นหมี่ในน้ำเดือด ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ โรยกระเทียมเจียว เตรียมไว้ ผัดน้ำพริกแกงกับหัวกะทิให้แตกมันและมีกลิ่นหอม ค่อย ๆ ใส่หางกะทิทีละนิดจนหมด ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว ใส่ใบชะพลู เนื้อปู และใบมะกรูด ชิมรสให้เค็มนำหวานตามเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ลวกและปูนิ่มทอดกรอบ ใครกำลังตามหาวิธีทำแกงหอย นี่เลยมาทำแกงพริกหอยแครงใบยี่หร่ากัน ใส่เนื้อหอยแครงล้วน ๆ ไม่มีเปลือกเคี่ยวกับแกงกะทิพริกแกงเผ็ดใต้ เพิ่มความเผ็ดร้อนจากใบยี่หร่า น้ำซุป 4 ถ้วย น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ 150 กรัม กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อหอยแครง น้ำปลา ใบยี่หร่า ใส่น้ำซุป 4 ถ้วยลงในหม้อ ใส่พริกแกงเผ็ดใต้ลงไปพร้อมกับกะปิ คนผสมให้เข้ากัน พอเดือดแล้วใส่เนื้อหอยแครงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา จากนั้นใส่ใบยี่หร่า คนผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ แกงส้มมะละกอใคร ๆ ก็ทำกินกัน ลองมาทำแกงส้มไข่ปู ไข่ปลา ใส่เครื่องแกงส้มใต้กันเถอะ ไม่ต้องใส่ผงชูรสก็อร่อยแซ่บจริง ๆ ขอข้าวสวยด่วน ๆ เลยค่ะ ไข่ปู ไข่ปลาริวกิว พริกสด กระเทียม ขมิ้น เกลือ กะปิ น้ำเปล่า น้ำปลา ผงปรุงรส (รสดี) ปลายช้อนกินข้าว น้ำตาลทราย น้ำมะนาว 1 ช้อนกินข้าว เอาปูน็อกน้ำเย็นจัดแล้วสับครึ่ง ส่วนก้ามก็ทุบพอเปลือกแตก และเอาไข่ปลาริวกิว หรือปลาม่อหยองในภาษาใต้ จับมาต้มในน้ำเดือดก่อนราว 3 นาที แล้วแกะออกจากพวง เหลือเป็นเม็ด ๆ ไว้ ตำพริกสด กระเทียม และขมิ้นพอหยาบหรือจะโขลกละเอียดตามใจชอบ แต่แกงส้มในภาคกลางมักจะสอนให้โขลกจนละเอียด คล้ายกับฝึกความอดทน มีความละเมียดละไม แต่ในภาคใต้แล้วแต่ความชอบ ใส่เกลือกับกะปิ แล้วตั้งน้ำจนเดือด เอาพริกแกงไปละลาย น้ำแกงไม่ควรมาก จะดูโหรงเหรง พอน้ำแกงเดือดแล้วรออีกราว 5 นาที ปล่อยให้เครื่องแกงรับความร้อนเต็มที่ จนส่งกลิ่นหอมโชยก่อนค่อยใส่ปูลงไป หลังจากใส่ปูลงไปให้เริ่มจับเวลา ไม่เกิน 10 นาที เริ่มจากการใส่ปูแล้วนับเวลา 5 นาที หลังจากนั้นใส่ไข่ปลาที่ผ่านการลวกแล้ว ใส่ลงไปให้สุกแบบยางมะตูมข้น ๆ ใช้เวลาอีก 3 นาที รวมทั้งหมด 8 นาที เพราะไม่ต้องการให้ไข่ปูแข็ง และไข่ปลาสุกมาก เพราะจะแข็งกินไม่อร่อย จึงต้องจำกัดเวลาปรุง ปรุงรสด้วยน้ำปลา รสดีปลายช้อน ตักน้ำตาลช้อนหนึ่ง แล้วใส่มะนาว ปิดไฟ ชิมรสเปรี้ยวจัด ๆ เค็มเบา ๆ เผ็ดตามหลัง ตักใส่ถ้วย ใครหาน้ำส้มโหนดได้อยากให้มาทำเมนูต้มส้มปลาสูตรนี้กัน น้ำซุปมีความเปรี้ยว เผ็ด และหอมเครื่องสมุนไพร เข้ากันดีกับเนื้อปลากระบอกหนานุ่ม ถ้าได้ลองกินแล้วจะติดใจค่ะ ปลากระบอก หรือปลาตามชอบ น้ำส้มโหนด หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ขมิ้น พริกสด เกลือหรือน้ำปลา โขลกหอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ขมิ้น และกระเทียม เตรียมไว้ นำน้ำส้มโหนดผสมน้ำ แล้วเคี่ยวจนได้ความหอม เมื่อเคี่ยวได้ที่แล้วก็ใส่เครื่องโขลกลงไป ตามด้วยปลา ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา ใส่พริกสดบุบตามความชอบ แค่เห็นภาพเมนูแกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลาก็น้ำลายสอ จะใส่ปลานิล ปลากะพง ปลาสวาย หรือปลากดก็ได้ รวมทั้งใส่กุ้งก็ได้ด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือหน่อไม้ดอง ปลา หน่อไม้ดอง น้ำพริกแกงเหลือง น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ตั้งหม้อเติมน้ำเปล่า ใส่น้ำพริกแกงเหลือง ต้มจนเดือด ปิดไฟ ต้มหน่อไม้ดองในน้ำสักพัก เสร็จแล้วใส่ในหม้อต้มแกงเหลือง ตั้งจนเดือดอีกสักครั้ง ใส่ปลา เติมรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย พอเดือดจัดเสิร์ฟ มาต่อกันที่เมนูแกงส้มปลากระบอก สูตรนี้เด็ดตรงที่ใส่ออดิบผักพื้นบ้าน รสสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ปรุงรสด้วยกะปิ น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย พริกสด 80 เม็ด เกลือ หรือน้ำปลา กะปิ กระเทียม ขมิ้นสด น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ออดิบ ทำน้ำพริกแกงใต้โดยเอาพริก กะปิ กระเทียม และขมิ้นสด มาปั่นหรือตำตามสะดวก แต่การตำจะทำให้หอมและอร่อยกว่าปั่น ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่านำขึ้นตั้งไฟ พอน้ำแกงเดือดใส่ปลาลงไป ใส่เกลือหรือน้ำปลาตามชอบเบา ๆ ไว้ก่อน เพราะกะปิอาจมีความเค็ม ค่อย ๆ ชิมให้เค็มเบาไว้ก่อน ปลาสุกใช้เวลาไม่นานราว 8-9 นาทีก็ใช้ได้ เติมน้ำมะนาวเพื่อปรุงให้รสชาติเปรี้ยว และได้ความหอมต่างจากมะขามเปียก ใส่ออดิบลงไป เร่งไฟจนเดือดแล้วปิดไฟ ปิดฝาทิ้งไว้ไม่ต้องคน ต้องการกินแบบกรอบนอกนุ่มใน ใส่น้ำตาลทรายเพื่อตัดรสให้กลมกล่อม แค่ช้อนเดียวก็ช่วยได้ รสชาติน้ำแกงจะดีขึ้น ไม่เปรี้ยวแหลมเกินไป ชิมน้ำแกงมีรสเปรี้ยวนำ มีความเผ็ดแซ่บตามหลัง ตักใส่ถ้วย ใครชอบกินผักมาทำเมนูขนมจีนน้ำยาใต้กินกันเลยจ้า สูตรนี้น้ำยากะทิใส่ปลาโขลกด้วย และเพิ่มรสเปรี้ยวจากส้มแขก เพิ่มความหอมจากใบมะกรูด หัวกะทิและหางกะทิ น้ำพริกแกงใต้ ปลาน้ำดอกไม้นึ่ง (หรือปลาอื่นก็ได้) แกะเนื้อโขลกละเอียด ขนมจีน เกลือ น้ำตาลปี๊บ ส้มแขก มีรสเปรี้ยว (ไม่ใส่ก็ได้) ใบมะกรูด พริกทอด พริกสดตำละเอียด ผักดอง ผักสดตามชอบ ผัดหัวกะทิให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดให้หอม ใส่หางกะทิลงไปต้มให้เดือด ใส่ปลาลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลปี๊บ และส้มแขก ตามชอบ ใส่ใบมะกรูดลงไป ปล่อยให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ เสิร์ฟกับผักซอยตามชอบ ผักดองตามสไตล์ พริกทอด พริกตำ และไข่ต้มยางมะตูม ใครอยู่หอหรือคอนโดแต่อุปกรณ์ครัวไม่พร้อม อยากให้ลองทำเมนูแกงเหลืองสับปะรด สูตรไมโครเวฟ ใส่เนื้อปลา ปรุงรสด้วยกะปิกับพริกแกงส้มใต้ เพิ่มความหวานจากน้ำตาลมะพร้าว สับปะรด 500 กรัม น้ำพริกแกงส้ม (ใต้) 50-100 กรัม กะปิ 2 ช้อนชา น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา เกลือ 1+1/2 ช้อนชา ส้มแขก ตามชอบ น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง ปลา 350 กรัม นำสับปะรด พริกแกงส้มใต้ กะปิ น้ำตาลมะพร้าว เกลือ ส้มแขก และน้ำเปล่า ใส่ลงไป ปิดฝาแล้วนำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ เป็นเวลา 15 นาที ใส่เนื้อปลาลงไป คนให้กระจายเล็กน้อย ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ อีก 5-10 นาที อื้อหือ ! ต้นเดือนจัดเลยดีไหม กับเมนูแกงเหลืองมะละกอกุ้ง สูตรนี้ใส่กุ้งแม่น้ำ รับรองกินอร่อยเต็มปากเต็มคำเลยล่ะ ปรุงรสเปรี้ยวเผ็ดตามชอบ น้ำพริกแกงใต้ 100 กรัม น้ำเปล่า มะละกอดิบ หั่นเป็นชิ้น ๆ 300 กรัม น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส) น้ำตาลทราย (ปรุงรส) กุ้งแม่น้ำ 1-2 ตัว (หรือกุ้งแชบ๊วย) ใส่น้ำพริกแกงใต้และมะละกอลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไป (กะพอให้ท่วมมะละกอ) คนให้น้ำพริกละลายแล้วเปิดไฟต้ม ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พอส่วนผสมเดือดแล้วใส่กุ้งลงไปต้มจนสุก ชิมรสอีกครั้ง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ สาว ๆ ที่กำลังลดน้ำหนักอยากให้ลองทำเมนูแกงไตปลา ใส่เนื้อปลาย่างนุ่ม ๆ และพวกผักสดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ หน่อไม้ กินกับขนมจีนฟินมากเลยจ้า ไตปลาอย่างดี 1 ขวด น้ำ 1+1/2 ลิตร น้ำพริกแกงเผ็ด 200 กรัม น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส) น้ำตาลทราย (ปรุงรส) ปลาโอย่าง 1 ตัว หรือปลาทูนึ่ง 5 ตัว (แกะเอาเฉพาะเนื้อ) ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 10 ใบ ผักสดตามชอบ เช่น หน่อไม้ไร่ ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ อย่างละ 100 กรัม ต้มไตปลาในหม้อ คนผสมจนละลาย ยกลงจากเตา กรองเอาแต่เฉพาะน้ำไตปลา เตรียมไว้ ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไตปลาลงต้ม คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ใส่เนื้อปลาที่แกะเตรียมไว้ลงต้มจนเดือด ชิมรส จากนั้นใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ และใบมะกรูด ลงต้มจนสุก ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ ใครเบื่อ ๆ แกงกะทิใต้ ลองมาทำเมนูไก่ต้มขมิ้นสีเหลืองสวยกันเถอะ จุดเด่นคือใส่เครื่องสมุนไพรแน่น ๆ และพริกสด ปรุงรสเปรี้ยวด้วยส้มแขก น้ำสะอาด 1 ลิตร กระเทียมบุบพอแตก 2 กลีบ หอมแดงซอย 2-3 หัว ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 2 ต้น เนื้อไก่ (ปีก อก น่อง หรือเครื่องใน ใส่ได้ตามใจชอบ) 500 กรัม เกลือ ประมาณ 2 ช้อนชา ส้มแขก 4-5 ชิ้น ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ (ในสูตรไม่ใส่) ขมิ้นชันบุบพอแตก 2-3 อัน พริกสด 4-5 เม็ด (ไม่ต้องทุบ ไม่ต้องซอยอะไรเลย) ใส่น้ำลงหม้อ ตั้งไฟรอจนเดือด ใส่กระเทียม หอมแดง และตะไคร้ รอน้ำเดือดอีกรอบ ใส่เนื้อไก่ลงไป และรอให้เดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยเกลือ และส้มแขก เมื่อได้รสชาติที่ชอบแล้ว ใส่ขมิ้นชันและพริกลงไป (อย่าลืมตักส้มแขกออกนะ เพราะยิ่งต้มจะยิ่งเปรี้ยว) ต้มจนได้สีเหลืองอ่อนก็ยกลงจากเตา พร้อมเสิร์ฟ ใครอยากกินอาหารแซ่บ ๆ ต้องจัดเมนูแกงใต้เลยค่ะ โดยเฉพาะแกงปูใบชะพลูกับแกงหอยแครงใบยี่หร่า ยิ่งถ้าได้ไข่ต้ม น้ำพริกกะปิ และผักต้ม มากินแกล้มรับรองอิ่มฟินพุงกลมแน่นอนค่ะ
แสดงความคิดเห็น