เที่ยงแล้วรับอะไรดี ชวนทำเมนูแกงใต้ สูตรอาหารรสเผ็ดโดนใจ ทำกินเองอร่อยแรงแน่นอน จะพกไปกินที่ทำงานก็ได้เช่นกัน
ใครชอบกินอาหารไทยรสเผ็ดคงไม่เหมาะกับแกงไทยสไตล์ภาคกลาง ถ้างั้นลองมาทำแกงใต้กันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำแกงใต้ เช่น แกงปูใบชะพลู แกงเหลืองหน่อไม้ดอง แกงเหลืองมะละกอ แกงไตปลา เป็นต้น เลือกจิ้มสูตรตามชอบได้เลยจ้า ตบท้ายด้วยขนมไทยตัดรสเผ็ดยิ่งเยี่ยม
1. แกงปูใบชะพลู
แกงปูใบชะพลู เมนูแกงใต้สุดโปรด แต่เพราะซื้อกินไม่จุใจและรสชาติไม่ถูกปาก ขอลองทำกินเองเลยแล้วกันเนอะ สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงใต้ ใส่ทั้งปูนิ่มกับเนื้อปู กินกับเส้นหมี่ ขนมจีน หรือข้าวสวยก็ตามสะดวกเลยค่ะ
ส่วนผสม แกงปูใบชะพลู
- ปูนิ่ม 1 ตัว
- แป้งสาลี (สำหรับทอดกรอบ) 1/4 ถ้วย
- เส้นหมี่ (แช่น้ำพอนุ่ม) 50 กรัม
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ 4 ถ้วย
- หางกะทิ 1+1/2 ถ้วย
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อปู 120 กรัม
- ใบชะพลู (หั่นหยาบ) 1/2 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
ส่วนผสม น้ำพริกแกงใต้
- พริกขี้หนูสด 25-30 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด
- ผิวมะกรูด 2 ช้อนชา
- ตะไคร้ (หั่นฝอย) 2 ช้อนโต๊ะ
- กระชาย (หั่นฝอย) 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงไทย 1/4 ถ้วย
- ข่าหั่นฝอย 2 ช้อนชา
- กระเทียมไทย 1/4 ถ้วย
- ขมิ้นสด (ขูดผิวแล้วหั่น) 1 ช้อนชา
- กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา
- เกลือไทย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำน้ำพริกแกงใต้
- โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด
- ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกต่อจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีทำแกงปูใบชะพลู
- ล้างปูนิ่มให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำมาคลุกกับแป้งสาลีให้ทั่ว จากนั้นนำไปทอดให้กรอบ พักไว้
- ลวกเส้นหมี่ในน้ำเดือด ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ โรยกระเทียมเจียว เตรียมไว้
- ผัดน้ำพริกแกงกับหัวกะทิให้แตกมันและมีกลิ่นหอม ค่อย ๆ ใส่หางกะทิทีละนิดจนหมด ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว ใส่ใบชะพลู เนื้อปู และใบมะกรูด ชิมรสให้เค็มนำหวานตามเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ลวกและปูนิ่มทอดกรอบ
2. แกงพริกหอยแครงใบยี่หร่า
ใครกำลังตามหาวิธีทำแกงหอย นี่เลยมาทำแกงพริกหอยแครงใบยี่หร่ากัน ใส่เนื้อหอยแครงล้วน ๆ ไม่มีเปลือกเคี่ยวกับแกงกะทิพริกแกงเผ็ดใต้ เพิ่มความเผ็ดร้อนจากใบยี่หร่า
ส่วนผสม แกงพริกหอยแครงใบยี่หร่า
- น้ำซุป 4 ถ้วย
- น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ 150 กรัม
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อหอยแครง
- น้ำปลา
- ใบยี่หร่า
วิธีทำแกงพริกหอยแครงใบยี่หร่า
- ใส่น้ำซุป 4 ถ้วยลงในหม้อ ใส่พริกแกงเผ็ดใต้ลงไปพร้อมกับกะปิ คนผสมให้เข้ากัน พอเดือดแล้วใส่เนื้อหอยแครงลงไป
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา จากนั้นใส่ใบยี่หร่า คนผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ
3. แกงส้มไข่ปู ไข่ปลา
แกงส้มมะละกอใคร ๆ ก็ทำกินกัน ลองมาทำแกงส้มไข่ปู ไข่ปลา ใส่เครื่องแกงส้มใต้กันเถอะ ไม่ต้องใส่ผงชูรสก็อร่อยแซ่บจริง ๆ ขอข้าวสวยด่วน ๆ เลยค่ะ
ส่วนผสม แกงส้มไข่ปู ไข่ปลา
- ไข่ปู
- ไข่ปลาริวกิว
- พริกสด
- กระเทียม
- ขมิ้น
- เกลือ
- กะปิ
- น้ำเปล่า
- น้ำปลา
- ผงปรุงรส (รสดี) ปลายช้อนกินข้าว
- น้ำตาลทราย
- น้ำมะนาว 1 ช้อนกินข้าว
วิธีทำแกงส้มไข่ปู ไข่ปลา
- เอาปูน็อกน้ำเย็นจัดแล้วสับครึ่ง ส่วนก้ามก็ทุบพอเปลือกแตก และเอาไข่ปลาริวกิว หรือปลาม่อหยองในภาษาใต้ จับมาต้มในน้ำเดือดก่อนราว 3 นาที แล้วแกะออกจากพวง เหลือเป็นเม็ด ๆ ไว้
- ตำพริกสด กระเทียม และขมิ้นพอหยาบหรือจะโขลกละเอียดตามใจชอบ แต่แกงส้มในภาคกลางมักจะสอนให้โขลกจนละเอียด คล้ายกับฝึกความอดทน มีความละเมียดละไม แต่ในภาคใต้แล้วแต่ความชอบ ใส่เกลือกับกะปิ แล้วตั้งน้ำจนเดือด เอาพริกแกงไปละลาย น้ำแกงไม่ควรมาก จะดูโหรงเหรง
- พอน้ำแกงเดือดแล้วรออีกราว 5 นาที ปล่อยให้เครื่องแกงรับความร้อนเต็มที่ จนส่งกลิ่นหอมโชยก่อนค่อยใส่ปูลงไป
- หลังจากใส่ปูลงไปให้เริ่มจับเวลา ไม่เกิน 10 นาที เริ่มจากการใส่ปูแล้วนับเวลา 5 นาที หลังจากนั้นใส่ไข่ปลาที่ผ่านการลวกแล้ว ใส่ลงไปให้สุกแบบยางมะตูมข้น ๆ ใช้เวลาอีก 3 นาที รวมทั้งหมด 8 นาที เพราะไม่ต้องการให้ไข่ปูแข็ง และไข่ปลาสุกมาก เพราะจะแข็งกินไม่อร่อย จึงต้องจำกัดเวลาปรุง ปรุงรสด้วยน้ำปลา รสดีปลายช้อน ตักน้ำตาลช้อนหนึ่ง แล้วใส่มะนาว ปิดไฟ ชิมรสเปรี้ยวจัด ๆ เค็มเบา ๆ เผ็ดตามหลัง ตักใส่ถ้วย
4. ต้มส้มปลา
ใครหาน้ำส้มโหนดได้อยากให้มาทำเมนูต้มส้มปลาสูตรนี้กัน น้ำซุปมีความเปรี้ยว เผ็ด และหอมเครื่องสมุนไพร เข้ากันดีกับเนื้อปลากระบอกหนานุ่ม ถ้าได้ลองกินแล้วจะติดใจค่ะ
ส่วนผสม ต้มส้มปลา
- ปลากระบอก หรือปลาตามชอบ
- น้ำส้มโหนด
- หอมแดง
- กระเทียม
- ตะไคร้
- ขมิ้น
- พริกสด
- เกลือหรือน้ำปลา
วิธีทำต้มส้มปลา
- โขลกหอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ขมิ้น และกระเทียม เตรียมไว้
- นำน้ำส้มโหนดผสมน้ำ แล้วเคี่ยวจนได้ความหอม เมื่อเคี่ยวได้ที่แล้วก็ใส่เครื่องโขลกลงไป ตามด้วยปลา ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา ใส่พริกสดบุบตามความชอบ
5. แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา
แค่เห็นภาพเมนูแกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลาก็น้ำลายสอ จะใส่ปลานิล ปลากะพง ปลาสวาย หรือปลากดก็ได้ รวมทั้งใส่กุ้งก็ได้ด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือหน่อไม้ดอง
ส่วนผสม แกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา
- ปลา
- หน่อไม้ดอง
- น้ำพริกแกงเหลือง
- น้ำปลา
- น้ำมะนาว
- น้ำตาลทราย
วิธีทำแกงเหลืองหน่อไม้ดองใส่ปลา
- ตั้งหม้อเติมน้ำเปล่า ใส่น้ำพริกแกงเหลือง ต้มจนเดือด ปิดไฟ
- ต้มหน่อไม้ดองในน้ำสักพัก เสร็จแล้วใส่ในหม้อต้มแกงเหลือง ตั้งจนเดือดอีกสักครั้ง ใส่ปลา เติมรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย พอเดือดจัดเสิร์ฟ
6. แกงส้มปลากระบอก
มาต่อกันที่เมนูแกงส้มปลากระบอก สูตรนี้เด็ดตรงที่ใส่ออดิบผักพื้นบ้าน รสสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ปรุงรสด้วยกะปิ น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย
ส่วนผสม แกงส้มปลากระบอก
- พริกสด 80 เม็ด
- เกลือ หรือน้ำปลา
- กะปิ
- กระเทียม
- ขมิ้นสด
- น้ำมะนาว
- น้ำตาลทราย
- ออดิบ
วิธีทำแกงส้มปลากระบอก
- ทำน้ำพริกแกงใต้โดยเอาพริก กะปิ กระเทียม และขมิ้นสด มาปั่นหรือตำตามสะดวก แต่การตำจะทำให้หอมและอร่อยกว่าปั่น ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่านำขึ้นตั้งไฟ
- พอน้ำแกงเดือดใส่ปลาลงไป ใส่เกลือหรือน้ำปลาตามชอบเบา ๆ ไว้ก่อน เพราะกะปิอาจมีความเค็ม ค่อย ๆ ชิมให้เค็มเบาไว้ก่อน ปลาสุกใช้เวลาไม่นานราว 8-9 นาทีก็ใช้ได้ เติมน้ำมะนาวเพื่อปรุงให้รสชาติเปรี้ยว และได้ความหอมต่างจากมะขามเปียก ใส่ออดิบลงไป เร่งไฟจนเดือดแล้วปิดไฟ ปิดฝาทิ้งไว้ไม่ต้องคน ต้องการกินแบบกรอบนอกนุ่มใน
- ใส่น้ำตาลทรายเพื่อตัดรสให้กลมกล่อม แค่ช้อนเดียวก็ช่วยได้ รสชาติน้ำแกงจะดีขึ้น ไม่เปรี้ยวแหลมเกินไป ชิมน้ำแกงมีรสเปรี้ยวนำ มีความเผ็ดแซ่บตามหลัง ตักใส่ถ้วย
7. ขนมจีนน้ำยาใต้
ใครชอบกินผักมาทำเมนูขนมจีนน้ำยาใต้กินกันเลยจ้า สูตรนี้น้ำยากะทิใส่ปลาโขลกด้วย และเพิ่มรสเปรี้ยวจากส้มแขก เพิ่มความหอมจากใบมะกรูด
ส่วนผสม ขนมจีนน้ำยาใต้
- หัวกะทิและหางกะทิ
- น้ำพริกแกงใต้
- ปลาน้ำดอกไม้นึ่ง (หรือปลาอื่นก็ได้) แกะเนื้อโขลกละเอียด
- ขนมจีน
- เกลือ
- น้ำตาลปี๊บ
- ส้มแขก มีรสเปรี้ยว (ไม่ใส่ก็ได้)
- ใบมะกรูด
- พริกทอด
- พริกสดตำละเอียด
- ผักดอง
- ผักสดตามชอบ
วิธีทำขนมจีนน้ำยาใต้
- ผัดหัวกะทิให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดให้หอม ใส่หางกะทิลงไปต้มให้เดือด
- ใส่ปลาลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลปี๊บ และส้มแขก ตามชอบ ใส่ใบมะกรูดลงไป ปล่อยให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ เสิร์ฟกับผักซอยตามชอบ ผักดองตามสไตล์ พริกทอด พริกตำ และไข่ต้มยางมะตูม
8. แกงเหลืองสับปะรด
ใครอยู่หอหรือคอนโดแต่อุปกรณ์ครัวไม่พร้อม อยากให้ลองทำเมนูแกงเหลืองสับปะรด สูตรไมโครเวฟ ใส่เนื้อปลา ปรุงรสด้วยกะปิกับพริกแกงส้มใต้ เพิ่มความหวานจากน้ำตาลมะพร้าว
ส่วนผสม แกงเหลืองสับปะรด
- สับปะรด 500 กรัม
- น้ำพริกแกงส้ม (ใต้) 50-100 กรัม
- กะปิ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
- เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
- ส้มแขก ตามชอบ
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
- ปลา 350 กรัม
วิธีทำแกงเหลืองสับปะรด
- นำสับปะรด พริกแกงส้มใต้ กะปิ น้ำตาลมะพร้าว เกลือ ส้มแขก และน้ำเปล่า ใส่ลงไป ปิดฝาแล้วนำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ เป็นเวลา 15 นาที
- ใส่เนื้อปลาลงไป คนให้กระจายเล็กน้อย ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ อีก 5-10 นาที
9. แกงเหลืองมะละกอกุ้ง
อื้อหือ ! ต้นเดือนจัดเลยดีไหม กับเมนูแกงเหลืองมะละกอกุ้ง สูตรนี้ใส่กุ้งแม่น้ำ รับรองกินอร่อยเต็มปากเต็มคำเลยล่ะ ปรุงรสเปรี้ยวเผ็ดตามชอบ
ส่วนผสม แกงเหลืองมะละกอกุ้ง
- น้ำพริกแกงใต้ 100 กรัม
- น้ำเปล่า
- มะละกอดิบ หั่นเป็นชิ้น ๆ 300 กรัม
- น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส)
- น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
- กุ้งแม่น้ำ 1-2 ตัว (หรือกุ้งแชบ๊วย)
วิธีทำแกงเหลืองมะละกอกุ้ง
- ใส่น้ำพริกแกงใต้และมะละกอลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไป (กะพอให้ท่วมมะละกอ) คนให้น้ำพริกละลายแล้วเปิดไฟต้ม
- ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
- พอส่วนผสมเดือดแล้วใส่กุ้งลงไปต้มจนสุก ชิมรสอีกครั้ง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
10. แกงไตปลา
สาว ๆ ที่กำลังลดน้ำหนักอยากให้ลองทำเมนูแกงไตปลา ใส่เนื้อปลาย่างนุ่ม ๆ และพวกผักสดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ หน่อไม้ กินกับขนมจีนฟินมากเลยจ้า
ส่วนผสม แกงไตปลา
- ไตปลาอย่างดี 1 ขวด
- น้ำ 1+1/2 ลิตร
- น้ำพริกแกงเผ็ด 200 กรัม
- น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส)
- น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
- ปลาโอย่าง 1 ตัว หรือปลาทูนึ่ง 5 ตัว (แกะเอาเฉพาะเนื้อ)
- ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 10 ใบ
- ผักสดตามชอบ เช่น หน่อไม้ไร่ ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ อย่างละ 100 กรัม
วิธีทำแกงไตปลา
- ต้มไตปลาในหม้อ คนผสมจนละลาย ยกลงจากเตา กรองเอาแต่เฉพาะน้ำไตปลา เตรียมไว้
- ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไตปลาลงต้ม คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
- ใส่เนื้อปลาที่แกะเตรียมไว้ลงต้มจนเดือด ชิมรส จากนั้นใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ และใบมะกรูด ลงต้มจนสุก ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
11. ไก่ต้มขมิ้น
ใครเบื่อ ๆ แกงกะทิใต้ ลองมาทำเมนูไก่ต้มขมิ้นสีเหลืองสวยกันเถอะ จุดเด่นคือใส่เครื่องสมุนไพรแน่น ๆ และพริกสด ปรุงรสเปรี้ยวด้วยส้มแขก
ส่วนผสม ไก่ต้มขมิ้น
- น้ำสะอาด 1 ลิตร
- กระเทียมบุบพอแตก 2 กลีบ
- หอมแดงซอย 2-3 หัว
- ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 2 ต้น
- เนื้อไก่ (ปีก อก น่อง หรือเครื่องใน ใส่ได้ตามใจชอบ) 500 กรัม
- เกลือ ประมาณ 2 ช้อนชา
- ส้มแขก 4-5 ชิ้น
- ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ (ในสูตรไม่ใส่)
- ขมิ้นชันบุบพอแตก 2-3 อัน
- พริกสด 4-5 เม็ด (ไม่ต้องทุบ ไม่ต้องซอยอะไรเลย)
วิธีทำไก่ต้มขมิ้น
- ใส่น้ำลงหม้อ ตั้งไฟรอจนเดือด ใส่กระเทียม หอมแดง และตะไคร้ รอน้ำเดือดอีกรอบ ใส่เนื้อไก่ลงไป และรอให้เดือดอีกครั้ง
- ปรุงรสด้วยเกลือ และส้มแขก เมื่อได้รสชาติที่ชอบแล้ว ใส่ขมิ้นชันและพริกลงไป (อย่าลืมตักส้มแขกออกนะ เพราะยิ่งต้มจะยิ่งเปรี้ยว) ต้มจนได้สีเหลืองอ่อนก็ยกลงจากเตา พร้อมเสิร์ฟ
ใครอยากกินอาหารแซ่บ ๆ ต้องจัดเมนูแกงใต้เลยค่ะ โดยเฉพาะแกงปูใบชะพลูกับแกงหอยแครงใบยี่หร่า ยิ่งถ้าได้ไข่ต้ม น้ำพริกกะปิ และผักต้ม มากินแกล้มรับรองอิ่มฟินพุงกลมแน่นอนค่ะ